พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 557 อย่าหาว่าฉันใจร้ายที่ไม่ช่วยแก
ตอนที่ 557
อย่าหาว่าฉันใจร้ายที่ไม่ช่วยแก
คุณปู่ลู่ได้ยินเสียงเอ็ดตะโรดังมาจากข้างนอกจึงเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นทันที
แต่เมื่อเห็นอินอวี่โหรวเอนกายพิงแขนของลู่ซีจวี๋อยู่ เขาก็ถามอย่างเป็นกังวลว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
อินอวี่โหรวรู้สึกวิงเวียนหัวและไม่อยากพูดอะไร เธออยากจะผลักลู่ซีจวี๋ออกไปแต่เธอไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรเลย
“คุณปู่ อวี่โหรวตัวร้อนจี๋เลยครับ น่าจะเป็นไข้” ลู่ซีจวี๋ช้อนตัวอินอวี่โหรวขึ้นมาและพาเธอเข้าไปนอนพักผ่อนในห้องนอนของเขา
อินอวี่โหรวกำลังไข้ขึ้นและดวงตาของเธอก็ปิดลงอย่างแน่นหนา
คุณปู่ลู่ไม่รอช้ารีบโทรศัพท์ตามหมอประจำตระกูลมาทันที
หมอประจำตระกูลมาถึงอย่างรวดเร็ว
อินอวี่โหรวมีไข้ขึ้นสูงตามที่คาดการณ์เอาไว้
ไข้รุนแรงมากและขึ้นสูงถึงสี่สิบองศา
สุขภาพร่างกายของอินอวี่โหรวไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่แรก พอไข้ขึ้นสูง ใบหน้าของเธอก็กลายเป็นสีขาวซีดทันที ทำให้ ลู่ซีจวี๋รู้สึกวิตกกังวลมาก
คุณหมอพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “คุณผู้หญิงมีร่างกายไม่แข็งแรง ต้องนอนให้น้ำเกลือเพื่อให้ความร้อนในร่างกายบรรเทาลงก่อน จากนั้นค่อยให้เธอกินยาลดไข้ครับ”
“งั้นก็รีบจ่ายยามาสิ” ลู่ซีจวี๋พูดสั่งการอย่างเย็นชา
เขาแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว แต่อีกฝ่ายยังอ้อยอิ่งอยู่อีก
“ครับ นายน้อย” จากนั้นคุณหมอก็เริ่มจ่ายยาอย่างมืออาชีพ
ลู่ซีจวี๋พยายามป้อนยาให้อินอวี่โหรว ขณะที่คุณหมอเจาะสายน้ำเกลือเข้ากับหลังมือของอินอวี่โหรว
“ถ้าน้ำเกลือในขวดนี้หมดแล้วก็เอาขวดใหม่มาเปลี่ยนเรื่อย ๆ นะครับ รอจนน้ำเกลือหมดขวดก่อนแล้วค่อยเอาเข็มออก หมอแนะนำให้มีคนอยู่ข้าง ๆ ด้วย ไม่อย่างนั้นเกิดคุณผู้หญิงขยับตัว เลือดจะไหลย้อนกลับได้ครับ” คุณหมอพูดเตือน
“ครับ ขอบคุณมากครับ” คุณปู่ลู่พยักหน้าและเดินออกไปส่งคุณหมอประจำตระกูลเป็นการส่วนตัว
ลู่ซีจวี๋ยืนอยู่ข้างเตียงของอินอวี่โหรว
อินอวี่โหรวดูเปราะบางมาก ลู่ซีจวี๋จึงเอื้อมมือออกไปปัดปอยผมที่ติดหน้าผากของเธอออก จากนั้นก็ลูบไล้แก้มที่นุ่มนวลของเธอเบา ๆ “พระเจ้าส่งคุณมาเพื่อทรมานผมเหรอ”
ทุกครั้งที่มีเรื่องเกิดขึ้นกับอินอวี่โหรว เขามักจะกังวลจนแทบบ้า
แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าอินอวี่โหรวจะใจร้ายขึ้นทุกครั้ง และเผลอทรมานเขาโดยไม่รู้ตัว
ทำให้เขาทุกข์ทรมานมาก
“ยัยตัวแสบ หายป่วยไว ๆ นะ” ลู่ซีจวี๋โน้มตัวลงไปจูบ ริมฝีปากของอินอวี่โหรว
คุณปู่ลู่บังเอิญเดินเข้ามาเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว
เขาจึงกระแอมไออยู่หลายครั้ง
ลู่ซีจวี๋ทำเรื่องแบบนี้ในขณะที่อินอวี่โหรวหมดสติได้อย่างไร
หลังจากถูกจับได้ ลู่ซีจวี๋ไม่ได้หนีไปไหน เขารีบลุกขึ้นยืนและสบตากับคุณปู่ลู่
คุณปู่ลู่จ้องมองเขาด้วยสีหน้าพูดไม่ออก ขณะที่ลู่ซีจวี๋ยังคงแสดงสีหน้าเหมือนเดิม
“คุณปู่ มีอะไรเหรอครับ?”
“แกยังจะถามอีกเหรอ? ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก แกนี่มันหน้าไม่อายจริง ๆ ไม่รู้แต่ก่อนหมาตัวไหนมันทำท่ารังเกียจ อวี่โหรวเหลือเกิน” คุณปู่ลู่จ้องมองลู่ซีจวี๋ด้วยสายตารังเกียจ
ทีตอนนี้ล่ะจะเป็นจะตาย ไม่อยากมองดูจริง ๆ
ลู่ซีจวี๋พยายามพูดอธิบาย “คุณปู่ คุณปู่ก็พูดเองว่านั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ผมไม่เหมือนเดิมแล้วครับ”
“แกนี่มันอวดเก่งจริง ๆ เกิดถึงตอนนั้นเธอไม่อยากอยู่กับแกขึ้นมา แกจะทำยังไง?” คุณปู่ลู่ถอนหายใจ
ลู่ซีจวี๋มองดูคุณปู่ลู่แล้วรู้สึกทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ
“คุณปู่ ไม่คิดว่าผมจะดีขึ้นบ้างเลยเหรอครับ?”
“แกคิดว่าฉันไม่คาดหวังว่าแกจะดีขึ้นเหรอ? แกลืมไปแล้วหรือไงว่าใครแนะนำให้แกรู้จักกับผู้หญิงดี ๆ อย่างอวี่โหรว? ฉันพูดเกลี้ยกล่อมแกจนปากจะฉีก แต่แกก็ไม่เคยฟังฉันเลย ตอนนี้รู้ซึ้งถึงความเสียใจแล้วใช่มั้ย?” คุณปู่ลู่กลอกตามองลู่ซีจวี๋
“ครับ ผมเสียใจมาก” ลู่ซีจวี๋หันหน้ากลับมามอง อินอวี่โหรวที่นอนอยู่บนเตียงแล้วพูดตอบรับเบา ๆ
“สำนึกผิดตอนนี้ยังไม่สาย หมอบอกว่าอวี่โหรวมีไข้สูงมาก นอนให้น้ำเกลืออย่างเดียวไม่พอ ต้องขับความร้อนทางกายภาพออกด้วย ฉันแก่แล้วให้ไปทำคงไม่ไหวหรอก ฝากแกดูแลอวี่โหรวด้วยแล้วกัน และถ้าฉันรู้ว่าแกรังแกอวี่โหรวอีก ก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายที่ไม่ช่วยแกครั้งหน้าก็แล้วกัน” คุณปู่ลู่พูดตักเตือนเล็กน้อยก่อนจะเอามือไพล่หลังและเดินกลับเข้าไปพักผ่อนในห้อง
ลู่ซีจวี๋เดินเข้าไปในห้องน้ำ ชุบผ้าขนหนู บิดให้มาดแล้วนำมาโปะลงบนหน้าผากของอินอวี่โหรว
รอจนกระทั่งผ้าขนหนูซับความร้อนออกมา เขาก็เดินเข้าไปเปลี่ยนผ้าขนหนูในห้องน้ำอีกรอบ
เขาทำแบบนี้ซ้ำ ๆ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืน ลู่ซีจวี๋จึงเอื้อมมือออกไปแตะหน้าผากของอินอวี่โหรว เมื่อรับรู้ว่าอุณหภูมิบนหน้าผากลดลง เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
คืนนั้น ลู่ซีจวี๋กังวลว่าอินอวี่โหรวจะนอนพลิกตัวไปมาจึงคอยจับมือของอินอวี่โหรวเอาไว้ ต่อมาลู่ซีจวี๋เริ่มทนไม่ไหวและผล็อยหลับไปข้างเตียง
หลังจากอินอวี่โหรวตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกถึงแรงกดทับบนฝ่ามือจึงพยายามดึงมือของตัวเองออก
ลู่ซีจวี๋นอนหลับไม่สนิทเพราะมัวแต่กังวลเกี่ยวกับ อินอวี่โหรว และในไม่ช้าลู่ซีจวี๋ก็ตื่นขึ้นมา
ทำให้ทั้งสองสบตากัน
ลู่ซีจวี๋ถามด้วยความกังวลว่า “เป็นยังไงบ้าง? รู้สึกไม่สบายตรงไหนมั้ย”
อินอวี่โหรวคาดเดาว่าเธอคงจะล้มป่วย และลู่ซีจวี๋ก็น่าจะอยู่ดูแลเธอทั้งคืน
เธอสามารถแยกแยะระหว่างความรักและความเกลียดชังได้อย่างชัดเจน เธอเกลียดลู่ซีจวี๋ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ลู่ซีจวี๋เป็นคนช่วยเหลือเธอเอาไว้
“ขอบคุณนะ” อินอวี่โหรวพูดขอบคุณด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเล็กน้อย
“จะมาขอบคุณกันทำไม?” ลู่ซีจวี๋ลุกขึ้นและเดินไปเทน้ำอุ่นให้เธอหนึ่งแก้ว
อินอวี่โหรวพยายามยกมือขึ้นมารับแก้วน้ำจากลู่ซีจวี๋ แต่เธอกลับพบว่าเธอไม่มีเรี่ยวแรงเลย
ขณะที่เธอกำลังรู้สึกลำบากใจ ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ลู่ซีจวี๋ก็ยกแก้วน้ำขึ้นมาจ่อริมฝีปากของอินอวี่โหรว
อินอวี่โหรวจึงจิบน้ำที่ลู่ซีจวี๋ป้อนให้
จากนั้นอินอวี่โหรวก็พูดขอบคุณเบา ๆ
“หิวมั้ย?” ลู่ซีจวี๋ถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
เมื่อวานนี้อินอวี่โหรวป่วยนัก จึงไม่ได้กินอะไรมากนัก
พอเธอตื่นขึ้นมา ท้องของเธอจึงว่างเปล่า
ทว่าตอนนี้ลู่ซีจวี๋อยู่ตรงหน้าเธอ และเธอก็รู้สึกเขินเกินกว่าจะพูดออกไป
“โครกคราก…” จู่ ๆ เสียงท้องร้องก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงบ
อินอวี่โหรวกับลู่ซีจวี๋มองหน้ากัน จากนั้นใบหน้าของอินอวี่โหรวก็เปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ด เธออยากจะมองหารอยแตกบนพื้นและมุดตัวเข้าไปซ่อนทันที
ลู่ซีจวี๋ไม่ได้ถามอะไรต่อและเดินเข้าไปเอาโจ๊กในห้องครัว
เมื่อเช้านี้คุณปู่ลู่ตื่นนอนขึ้นมาและสั่งให้พ่อครัวเตรียมโจ๊กเอาไว้ เพื่อที่อินอวี่โหรวจะได้ตื่นขึ้นมากินมัน
โจ๊กเป็นอาหารที่ย่อยง่ายและมีกลิ่นหอม จึงทำให้ อินอวี่โหรวรู้สึกหิวกว่าเดิม
ตอนนี้โจ๊กค่อนข้างอุ่น ไม่ต้องเป่า สามารถตักใส่ปากได้เลย
อินอวี่โหรวรวบรวมกำลังพยายามเอื้อมมือออกไปรับมัน แต่ลู่ซีจวี๋หลีกเลี่ยงมือของเธอแล้วพูดว่า “เดี๋ยวผมป้อน”
เธอจะกล้าปล่อยให้ลู่ซีจวี๋ป้อนข้าวเธอได้อย่างไร เธอรีบก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “ฉัน ฉันกินเองได้”
“คุณถือแก้วน้ำไม่ไหวด้วยซ้ำ จะกินโจ๊กเองได้ยังไง?” ลู่ซีจวี๋พูดจาล้อเลียนเธอ
“ฉันไม่ได้อยากให้คุณป้อนสักหน่อย” อินอวี่โหรวขี้อายมากจนเผลอพูดให้สถานการณ์แย่ลง
“ไม่ต้องแสดงหรอก” ลู่ซีจวี๋รีบตักโจ๊กใส่ปากอินอวี่โหรวโดยไม่ปล่อยให้เธอได้ปฏิเสธ
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งอินอวี่โหรวสังเกตเห็นรอยคล้ำใต้ดวงตาของลู่ซีจวี๋ ซึ่งมันน่าจะเกิดจากการอดหลับอดนอนคอยดูแลเธอเมื่อคืนนี้
ในที่สุดอินอวี่โหรวก็ยอมกินข้าวต้ม
ผู้เฒ่าอินได้รับโทรศัพท์จากคุณปู่ลู่ โดยบอกว่า อินอวี่โหรวป่วยหนัก
เขาจึงแวะมาที่นี่ด้วยอารมณ์ขมุกขมัวตั้งแต่เช้า คิดจะให้ลู่ซีจวี๋รับผิดชอบ แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะเห็นลู่ซีจวี๋กำลังป้อนโจ๊กให้อินอวี่โหรวอยู่
ผู้เฒ่าอินจึงชะงักไปในทันที
คุณปู่ลู่มองดูเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วรีบดึงผู้เฒ่าอินออกไป “ไปกันเถอะ อย่าไปรบกวนพวกเด็ก ๆ เลย”
แม้ว่าผู้เฒ่าอินจะแสดงสีหน้าไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังจากไปพร้อมกับคุณปู่ลู่