พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 555 ฉันจะทำมันอีก
ตอนที่ 555
ฉันจะทำมันอีก
อินอวี่โหรวรู้สึกสับสนเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมลู่ซีจวี๋ถึงรู้ว่าเธออยู่ที่นี่
แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่มีความตั้งใจจะถามเจาะลึกถึงประเด็นนี้
ดังนั้นอินอวี่โหรวจึงไม่ได้ถามอะไรกับลู่ซีจวี๋อีก
เธอเหลือบมองลู่ซีจวี๋แล้วพูดอย่างใจเย็น “มาหาฉันมีธุระอะไร?”
“สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย ไม่สบายหรือเปล่า?” ลู่ซีจวี๋มองดูอินอวี่โหรวด้วยความเป็นห่วง
“เปล่า” น้ำเสียงของอินอวี่โหรวฟังดูแข็งทื่อเล็กน้อย
“ให้ผมไปหาซื้อยาแถว ๆ นี้ให้มั้ย” ลู่ซีจวี๋รู้สึกกังวลเมื่อเห็นว่าสีหน้าของอินอวี่โหรวดูผิดแปลกไปจากเดิม
อินอวี่โหรวเป็นคนอ่อนโยน แต่เมื่อไหร่ที่เธอกลายร่างเป็นคนดื้อรั้น ต่อให้เอาวัวสิบตัวมาลากก็ดึงเธอกลับไปไม่ได้
ลู่ซีจวี๋ค้นพบจิตวิทยาของอินอวี่โหรวแล้ว
อินอวี่โหรวเป็นคนที่อ่อนโยนมาก ต่อให้วันนั้นอารมณ์เสียยังไงเธอก็ยังนึกถึงคนอื่นเสมอ
มีผู้หญิงจิตใจดีหลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างไร?
เขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนเลย จนพอมาคิดดูในตอนนี้แล้ว เขาก็ตระหนักได้ว่าอินอวี่โหรวเปล่งประกายไปด้วยคุณงามความดี
“ลู่ซีจวี๋ คุณควรตระหนักถึงความสัมพันธ์ของพวกเราในตอนนี้และไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้กับฉัน มีอะไรก็รีบพูดมาซะ” ข้างนอกมีแสงแดดจ้าเล็กน้อย ประกอบกับอากาศที่หนาวเย็น ทำให้อินอวี่โหรวเริ่มเวียนหัว
เมื่อเห็นว่าเธอยังคงทำตัวห่างเหินกับเขา ลู่ซีจวี๋ก็กำหมัดแน่น
“ไม่มีอะไรหรอก แค่คุณปู่บอกว่าคิดถึงคุณ อยากให้คุณกลับไปกินข้าวเย็นด้วยกัน” ลู่ซีจวี๋พยายามปรับน้ำเสียงให้คงที่และไม่พูดจาเย็นชาออกไป
“ลู่ซีจวี๋ คุณคิดว่าเรากลายมาเป็นแบบนี้แล้ว ฉันยังจะมีหน้าไปกินข้าวที่บ้านคุณได้อีกเหรอ?” อินอวี่โหรวรู้สึกอึดอัดอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงพูดกับลู่ซีจวี๋ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีนัก
สภาพร่างกายในตอนนี้ทำให้เธอไม่สามารถไปเยี่ยมตระกูลลู่ได้
“กลายมาเป็นแบบไหน? ตอนนี้เรายังไม่หย่ากัน คุณไม่ต้องเน้นยำมากนักหรอก ผมไม่หย่า และการไปกินข้าวที่บ้านผมก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?” เมื่อตระหนักได้ว่าอินอวี่โหรวอยากจะตีตัวห่างจากเขามาโดยตลอด ลู่ซีจวี๋ก็ไม่สามารถหยุดพูดจากระโชกโฮกฮากใส่เธอได้
“ฉันไม่อยากไป คุณอยากจะทำอะไรก็ทำไป” อินอวี่โหรวรู้สึกว่าอาการเวียนหัวของเธอเริ่มแย่ลงและไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป
เมื่อเห็นว่าอินอวี่โหรวกำลังจะจากไป ลู่ซีจวี๋ก็ตระหนักได้ว่าน้ำเสียงที่เขาใช้พูดกับอินอวี่โหรวค่อนข้างรุนแรง
เขาเปิดประตูรถยนต์และเดินลงไปจับมืออินอวี่โหรว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว “ผมขอโทษ ผมไม่น่าพูดกับคุณแบบนี้เลย แต่คุณก็รู้ว่าคุณปู่สุขภาพไม่แข็งแรงมานานแล้ว ช่วงนี้เขาพูดถึงคุณอยู่บ่อย ๆ อวี่โหรว ผมรู้ว่าคุณไม่อยากเห็นหน้าผม แต่คุณช่วยเห็นแก่คุณปู่ ไปหาเขา ไปให้เขาเจอหน้าสักหน่อยได้มั้ย?”
ลู่ซีจวี๋ขับรถมาที่สนามบินเพื่อลองเสี่ยงโชค
แม้ว่าคุณปู่ลู่จะอยากเจอหน้าอินอวี่โหรว แต่เขาก็ไม่ได้จริงจังอย่างที่ลู่ซีจวี๋กล่าวถึง
ดังนั้นลู่ซีจวี๋จึงทำได้เพียงแอบขอโทษขอโพยคุณปู่ลู่ในใจเงียบ ๆ
อินอวี่โหรวจับริมฝีปากอย่างลังเล
เธอไม่อยากไปที่นั่นจริง ๆ
แต่โดยปกติแล้ว คุณปู่ลู่มักจะดูแลเธออย่างดีเสมอ
ตอนที่เธอแต่งงานเข้าตระกูลลู่ คุณปู่ลู่ก็เป็นเพียงคนเดียวที่ห่วงใยเธอมากที่สุด
ในใจของเธอ คุณปู่ลู่มีความสำคัญเท่าเทียมกับผู้เฒ่าอิน
เมื่อเห็นว่าอินอวี่โหรวเริ่มลังเล ลู่ซีจวี๋ก็พูดเกลี้ยกล่อมต่อ “อวี่โหรว ตอนนี้คุณปู่อายุเยอะมากแล้ว คงจะเจอหน้ากันได้อีกไม่นาน คุณจะไม่ไปจริง ๆ เหรอ?”
อินอวี่โหรวทำอะไรไม่ถูกและถอนหายใจเบา ๆ “คุณพูดซะเหมือนฉันเป็นคนชั่วร้ายเลย แล้วฉันจะปฏิเสธได้ยังไง?”
ดวงตาของลู่ซีจวี๋เป็นประกายทันที เขารีบเดินอ้อมรถยนต์ไปเปิดประตูให้อินอวี่โหรว
เขารู้ว่าอินอวี่โหรวอยากจะอยู่ให้ห่างจากเขา ดังนั้นเขาจึงเปิดประตูเบาะหลังให้เธอ
ด้วยเหตุนี้ อินอวี่โหรวจึงเหลือบมองเขาอีกครั้ง
อินอวี่โหรวนั่งอยู่เบาะหลัง และลู่ซีจวี๋ก็กลับเข้ามานั่งที่คนขับตามเดิม
สนามบินอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากบ้านตระกูลลู่
อินอวี่โหรวที่กำลังไม่สบายจึงรู้สึกง่วงนอนขณะนั่งอยู่ในรถยนต์
ลู่ซีจวี๋พูดขึ้นว่า “ถ้าอยากนอนก็นอนเถอะ เดี๋ยวถึงแล้วผมเรียก”
อินอวี่โหรวพยักหน้า หลับตาลง เบือนหน้าไปอีกทางและผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
อินอวี่โหรวกำลังนอนฝันไปเรื่อยเปื่อย
เธอฝันว่าลู่ซีจวี๋อ่อนโยนกับเธอมาก ไม่รู้ว่าเธอฝันลึกเกินไปหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจูบซับใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยนอยู่
อินอวี่โหรวลืมตาขึ้นมาด้วยอาการสะลึมสะลือ แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับใบหน้าที่หล่อเหล่าของลู่ซีจวี๋
ตอนที่อินอวี่โหรวลืมตาตื่น เธอยังมองเห็นภาพตรงหน้าไม่ชัดเจนนัก ในขณะที่ลู่ซีจวี๋รู้สึกอิ่มเอมหัวใจ ไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหนและโน้มตัวลงไปจูบริมฝีปากของอินอวี่โหรว
จากนั้นอินอวี่โหรวก็ตระหนักได้ว่าเธอไม่ได้ฝันอยู่ ทั้งหมดนี้กำลังเกิดขึ้นจริง
สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปและเธอผลักลู่ซีจวี๋ออกไปทันที “คุณพาฉันมาบ้านแล้วทำกับฉันแบบนี้เหรอ?”
“ขอโทษ ผมจะไม่ทำมันอีกแล้ว” ลู่ซีจวี๋พูดด้วยทัศนคติที่ไม่แยแส
และคำขอโทษที่ว่าก็หมายความว่าฉันจะทำมันอีกในอนาคต
อินอวี่โหรวไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับเขา
หลังจากที่ลู่ซีจวี๋ถอยออกไป เธอก็มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวเธอ
เธอพบว่าเธอมาถึงโรงรถของบ้านตระกูลลู่แล้ว เธอจึงมองลู่ซีจวี๋ด้วยสายตาตำหนิ “ทำไมมาถึงแล้วไม่เรียกฉัน?”
ลู่ซีจวี๋แตะจมูกแล้วไม่พูดอะไร เขาไม่รู้ว่าเขาคิดถึง อินอวี่โหรวที่เคยนอนอยู่ข้าง ๆ มานานแค่ไหนแล้ว และในเมื่อตอนนี้เขามีโอกาส ลู่ซีจวี๋จึงไม่เต็มใจจะปลุกอินอวี่โหรว
อินอวี่โหรวจ้องมองเขาแล้วเปิดประตูลงจากรถยนต์
เธอไม่รู้ว่าเธอปล่อยให้คุณปู่ลู่รอเธอนานแค่ไหนแล้ว
เธอเผลอหลับไปในโรงรถบ้านของคนอื่น พอคิดเรื่องนี้อีกครั้งเธอก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา
เมื่ออินอวี่โหรวลงจากรถยนต์ ลู่ซีจวี๋ก็ล็อครถและรีบเดินตามอินอวี่โหรวไป
จนกระทั่งมาถึงห้องนั่งเล่น อินอวี่โหรวก็เห็นว่าคนรับใช้กำลังทำความสะอาดกันอยู่
คุณปู่ลู่หันมาเห็นอินอวี่โหรวจึงยิ้มกว้างในทันที “อวี่โหรว ในที่สุดก็มา ปู่คอยหนูทุกวันเลย รอให้หนูมาหาที่นี่ทุกวัน”
เมื่อเห็นท่าทางคาดหวังของคุณปู่ลู่ อินอวี่โหรวก็รู้สึกแสบจมูกเล็กน้อย เธอรู้สึกผิดที่ปฏิเสธคำขอร้องของลู่ซีจวี๋เมื่อสักครู่นี้
“คุณปู่ ขอโทษด้วยค่ะ พอดีช่วงนี้หนูยังพักฟื้นร่างกายอยู่” อินอวี่โหรวเพียงต้องการหลีกเลี่ยงลู่ซีจวี๋ จึงพูดออกไปแบบนี้เพื่อให้ดูดีเท่านั้น
คุณปู่ลู่ไม่ได้ถามซอกแซกและยิ้มตอบรับ “หมั่นดูแลร่างกายก็ดี หนูยิ่งร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ”
“ขอบคุณค่ะคุณปู่” อินอวี่โหรวรู้ว่าคุณปู่ลู่เอ็นดูเธอเสมอ
“ว่าแต่หิวมั้ย? ปู่สั่งให้คนไปเตรียมอาหารมาให้แล้ว” เขารู้ตั้งแต่ลู่ซีจวี๋ขับรถเข้ามาในโรงรถแล้ว แต่เพราะอินอวี่โหรวอยู่ที่นี่ด้วย เขาจึงไม่ได้ถามอะไรลู่ซีจวี๋
นึกไม่ถึงว่าลู่ซีจวี๋จะไปพาอินอวี่โหรวกลับมาจริง ๆ
ในเมื่ออินอวี่โหรวเต็มใจที่จะกลับมาด้วยกัน ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าระหว่างเธอกับลู่ซีจวี๋ยังมีความเป็นไปได้อยู่
“ไม่หิวค่ะ ขอบคุณค่ะคุณปู่” อินอวี่โหรวส่ายหัว
คุณปู่มองดูอินอวี่โหรวที่กำลังก้มศีรษะลงแล้วรู้สึกพึงพอใจมาก
อินอวี่โหรวเป็นคนประพฤติตนดี เฉลียวฉลาด และมีเหตุผลมาโดยตลอด แต่ลู่ซีจวี๋กลับทำตัวน่าผิดหวังและไม่รู้จักเฝ้าทะนุถนอมเธอให้ดี