พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 48 ช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเธอ
ตอนที่ 48
ช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเธอ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเริ่มร้อนรนเมื่อถูกตั้งคำถามครั้งแล้วครั้งเล่า
เห็นได้ชัดว่าในปีนั้นมู่อวี้เฉิงไม่ได้รู้สึกผิดกับเธอด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขากลับมาแสดงความชอบธรรมด้วยการตั้งคำถามเธออย่างนั้นเหรอ?
หากเธอไม่ต้องปกป้องเสี่ยวเป่า เหตุการณ์ตรงหน้าระหว่างพวกเขาคงจะแตกต่างไปจากนี้
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคิดย้อนกลับไปจนน้ำเสียงฟังดูเย็นชาเป็นพิเศษ
“ถ้าจำไม่ผิดเขามันก็แค่ไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่แอบไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่ฉันกำลังตั้งท้องอยู่”
นอกจากนี้เขายังอนุญาตให้ผู้หญิงคนนั้นมาเหยียบถึงหน้าบ้าน เอาใบตั้งครรภ์มาแสดงและไล่เธอออกจากบ้านไป
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดประชดขณะสบตามู่อวี้เฉิงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ดวงตาของเธอปกปิดเรื่องราวที่ไม่ได้พูดออกมา
นอกจากผู้ชายตรงหน้าแล้วเธอจะเรียกใครว่าไอ้ผู้ชายเฮงซวยได้อีก
มู่อวี้เฉิงไม่เข้าใจคำพูดเสียดสีเปลือยเปล่าของเธอ เพียงแค่คิดว่าเธอเจอผู้ชายประเภทนั้นจริง ๆ
ทั้งละทิ้งภรรยาและลูกในท้องไป ปล่อยให้เธอเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ยังไง
ขณะที่เขากลายเป็นตัวตลกของทุกคน ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ทรมาน
เมื่อคิดได้เช่นนั้นมู่อวี้เฉิงก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น
เธอคงจะลำบากมาหลายปีสินะ
เขาสงบลงและถอนหายใจเบา ๆ
ขณะเดียวกันเสี่ยวเป่าที่เดินออกมาจากห้องน้ำอยู่ในชุดนอนตัวใหม่ เขาเดินออกมาและพูดกับมู่อวี้เฉิงว่า “คุณลุงสุดหล่อ เสี่ยวเป่าอาบน้ำเสร็จแล้ว คุณลุงไปอาบต่อได้เลย!”
น้ำเสียงเด็กน้อยทำให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับมามีสติอีกครั้ง เธอลดระดับสายตาลงโดยที่ไม่มองหน้ามู่อวี้เฉิงและพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อนค่ะ เดี๋ยวฉันไปเอาของมาให้”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่รีรอคำตอบจากมู่อวี้เฉิง ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้อง
จนกระทั่งเธอเดินกลับออกมา อารมณ์ของเธอดูสงบขึ้นมากแต่สายตายังคงเมินมู่อวี้เฉิงเหมือนเดิม
หลังจากส่งของในมือให้เขาแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหันหลังกลับเดินเข้าไปหาเสี่ยวเป่า
“มานี่มา หม่ามี้เป่าผมให้”
มู่อวี้เฉิงที่อยู่ข้างหลังจ้องมองเธอด้วยสีหน้ามืดมน จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนและเดินไปเข้าห้องน้ำ
เสี่ยวเป่าไม่ได้ฟังที่หม่ามี้พูดแต่กลับเงยหน้ามองเธอด้วยความสับสน และรับรู้ได้ว่าอารมณ์ของเธอผิดแปลกไป
“หม่ามี้ คุณลุงสุดหล่อทำให้โกรธอีกแล้วเหรอ?”
เขาชอบคุณลุงสุดหล่อ อยากให้คุณลุงสุดหล่อมาเป็นปะป๊า และไม่อยากเห็นพวกเขาทั้งสองทะเลาะกัน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกตะลึงเมื่อรู้ว่าเสี่ยวเป่าสามารถอ่านความคิดของเธอได้ เธอจึงรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าและระงับความไม่พึงพอใจเอาไว้ข้างใน
“หนูชอบคุณลุงมากเลยเหรอลูก?”
เสี่ยวเป่ารีบพยักหน้า “เสี่ยวเป่าชอบคุณลุงสุดหล่อ หม่ามี้ ให้คุณลุงสุดหล่อเป็นปะป๊าไม่ได้จริง ๆ เหรอ?”
เขาถามด้วยความไร้เดียงสา แต่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับรู้สึกอึดอัด
หากเรื่องนั้นไม่เกิดขึ้น มู่อวี้เฉิงก็คือพ่อของเสี่ยวเป่า
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอถามเขาด้วยความสับสน “ทำไมถึงชอบคุณลุงล่ะ?”
พวกเขาเคยเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง และอุปนิสัยของมู่อวี้เฉิงไม่น่าจะเป็นที่นิยมในหมู่ของเด็ก ๆ
“ไม่รู้สิ ก็แค่ชอบมาก ๆ เลย!” เสี่ยวเป่าขมวดคิ้วคิดหนักอยู่นานแต่กลับไม่เข้าใจเหตุผล
“แล้วเสี่ยวเป่าไม่ชอบคุณลุงซีจวี๋เหรอลูก? คุณลุงใจดีกับหนูมากเลยนะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขมวดคิ้วด้วยความวิตกกังวล
“ก็ชอบ แต่ชอบคุณลุงสุดหล่อมากกว่า อยากให้คุณลุงสุดหล่อเป็นปะป๊า ส่วนคุณลุงซีจวี๋เป็นคุณลุงคนโปรดของ เสี่ยวเป่า”
คนหนึ่งชอบแบบปะป๊า ส่วนอีกคนชอบแบบคุณลุง
เสี่ยวเป่าตีความหมายออกมาได้ชัดเจนมาก
จู่ ๆ หัวใจของถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ด้านชาขึ้นมา
เธอพูดถึงลู่ซีจวี๋เพราะต้องการทดลองทัศนคติของ เสี่ยวเป่า
แต่นึกไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะออกมาเช่นนี้
บางทีนี่อาจจะเป็นแรงดึงดูดทางสายเลือด
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จะไม่ยอมแพ้ให้เสี่ยวเป่า
ขณะที่บรรยากาศในห้องตกอยู่ในความเงียบงัน ท้องของเสี่ยวเป่าก็ร้องคำรามขึ้นมา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับมามีสติอีกครั้งและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“หิวเหรอ? อยากกินอะไร เดี๋ยวหม่ามี้ทำให้”
เสี่ยวเป่าลูกท้องคิดอยู่นานแล้วพูดว่า “อยากกินบะหมี่ที่หม่ามี้ทำ หม่ามี้อย่าลืมทำให้คุณลุงสุดหล่อด้วยนะ คุณลุงสุดหล่อก็เหนื่อยเหมือนกัน”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกหมดหนทางเมื่อเห็นว่าเขาเอาแต่นึกถึงมู่อวี้เฉิงจนกระทั่งตอนนี้
ถึงอย่างนั้นมู่อวี้เฉิงเป็นคนพาพวกเขากลับมา ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงทำบะหมี่ให้เขาหนึ่งถ้วย
จนกระทั่งเธอจัดแจงถ้วยและตะเกียบเสร็จ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก
มู่อวี้เฉิงอยู่ในชุดนอนที่เธอเอาออกมาให้ เขาผูกปมหลวม ๆ ที่เอวและยกผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดผมที่เปียกปอน
เขาเคลื่อนไหวไปมาจนทำให้ชุดนอนถลกขึ้นเป็นครั้งคราว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่สมบูรณ์แบบ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกตะลึงและรู้สึกแก้มที่ร้อนผ่าวขึ้น
“ฉันเพิ่งทำอาหารเสร็จ คุณจะกินมั้ยคะ?” เธอหันหน้าไปมองทางอื่นด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะก้มหน้าลงแสร้งทำเป็นหยิบจาน
มู่อวี้เฉิงที่อยู่อีกด้านหนึ่งหยุดการเคลื่อนไหวเมื่อได้ยินคำเชิญชวนของเธอ
เขาเหลือบมองไปทางถงเหมี่ยวเหมี่ยวและว่าชามกับตะเกียบทั้งสามชุดวางอยู่บนโต๊ะแล้ว
“คุณลุงสุดหล่อมากินเร็ว ฝีมือหม่ามี้อร่อยมากเลยนะ!” เสี่ยวเป่าที่นั่งรออยู่โอบกอดชามเอาไว้ในอ้อมแขน เขาเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบสนองจึงร้องตะโกนเรียก
มู่อวี้เฉิงละสายตาออกจากโต๊ะแล้วหันไปมองทาง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยสายตาลึกซึ้ง ตอบรับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ทั้งสามคนรีบเข้าไปนั่งลงบนโต๊ะอาหาร
เสี่ยวเป่าร้องจะนั่งข้างมู่อวี้เฮิง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้ามองเขาวิ่งอุ้มชามในแขนอ้อมไปอีกฝั่ง
มู่อวี้เฉิงมองดูเสี่ยวเป่าปีนป่ายขึ้นมาบนเก้าอี้แล้วเผลอคิดฟุ้งซ่านอยู่พักหนึ่ง
ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกราวกับว่านั่งอยู่ที่บ้าน
“คุณลุงสุดหล่อทำไมไม่กินล่ะ?” เสี่ยวเป่านั่งลงข้างเขาและเห็นว่าเขายังนิ่งอยู่จึงพูดเร่งเร้า
มู่อวี้เฉิงกลับมามีสติอีกครั้ง เอื้อมมือออกไปลูบหัว เสี่ยวเป่าและหยิบตะเกียบขึ้นมาภายใต้สายตาที่จ้องมองมา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขามัวยุ่งอยู่กับการเข้าสังคมจนไม่ค่อยได้กินอาหารทำเองที่บ้านสักเท่าไหร่
แต่ต้องว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวมีทักษะการทำอาหารอยู่บ้างและรสชาติก็เทียบได้กับพ่อครัวของตระกูลมู่
“คุณลุงสุดหล่ออร่อยมั้ย?” เสี่ยวเป่ามองดูเขาคีบตะเกียบด้วยสายตาเป็นประกายราวกับกำลังรอคำชม
ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้มู่อวี้เฉิงไม่สามารถเมินเฉยต่อคำถามของเสี่ยวเป่าได้เลย
เขาวางตะเกียบลง เหลือบมองคนฝั่งตรงกันข้ามที่กำลังก้มหน้าก้มตาแล้วยกยิ้มมุมปาก “ก็อร่อยดี กินกันต่อเถอะ”
หลังจากพูดจบ คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ชะงักกะทันหัน
มู่อวี้เฉิงเลิกคิ้วและหัวเราะเบา ๆ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาเพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองถูกหลอก จึงเงยหน้าจ้องเขม็งไปทางมู่อวี้เฉิง
ทว่ามู่อวี้เฉิงไม่ได้มองค้อนกลับ
คราวเมื่อทั้งสองสบตากัน ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสะดุ้งโหยงตื่นตระหนกอย่างอธิบายไม่ถูกและรีบหันออกไปมองทางอื่น
มุมปากของมู่อวี้เฉิงโค้งขึ้นสูงเมื่อเห็นมุมอ่อนโยนที่หาได้ยาก
น้ำเสียงที่มีความสุขของเสี่ยวเป่าดังก้องอยู่ในหูของเขาอีกครั้ง
“ผมบอกแล้วไงว่าฝีมือแม่อร่อยที่สุด!”
จู่ ๆ มู่อวี้เฉิงก็รู้สึกใจสั่น
ถ้าในตอนนั้นถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่จากเขาไป ตอนนี้พวกเขาจะเป็นยังไงกันบ้าง?
ความคิดดังกล่าวปรากฏขึ้นในหัวของมู่อวี้เฉิงเพียงแป๊บเดียวก่อนที่เขาจะสลัดมันทิ้งไป
สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นการกำหนดเอาแล้วว่าเขากับถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่สามารถมาบรรจบกันได้