พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 31 เธอและครอบครัวของเธอ
ตอนที่ 31
เธอและครอบครัวของเธอ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่ชั้นล่างได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแต่เธอไม่สามารถรับสายได้
ถงกัวฮุยยังคงจับเธอเอาไว้แน่น
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้ามาช่วยเหลือก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวทำได้เพียงปกป้องตัวเองตามสัญชาตญาณ
น่าเสียดายที่มันไม่มีประโยชน์อะไร ขณะที่หมัดหนักทุบลงมาบนร่างกายเธอราวกับเม็ดฝน
ถงกัวฮุยทุบตีแรงขึ้นเรื่อย ๆ และดูโหดเหี้ยมมากขึ้น
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเจ็บปวดมากจนน้ำตาไหล
เธอถูกแรงกำลังอันแข็งแกร่งผลักออกจนล้มกระแทกกับพื้น
บริเวณที่เธอล้มลงมามีกระเบื้องที่แตกเป็นเศษอยู่ ทำให้แขนและขาได้รับรอยขีดข่วน
ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาฉับพลันขณะรอยเลือดสีแดงเริ่มปรากฏบนผิวขาว
“เจ็บ…” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสูดลมหายใจเข้าทั้งที่น้ำตา คลอเบ้า
ดวงตาของถงกัวฮุยแดงก่ำและต้องการที่จะไล่ล่าไปทุบตีต่อ
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่รีบเข้ามายืนขวางหน้าถงเหมี่ยวเหมี่ยวและพูดขู่ว่า “คุณเป็นบ้าอะไร ผมบอกว่าห้ามมาก่อเรื่องที่นี่ไง ไม่อย่างงั้นผมจะโทรแจ้งตำรวจ!”
ถงกัวฮุยไม่ได้สนใจเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแม้แต่น้อย
เขาชี้นิ้วไปที่พนักงานรักษาความปลอดภัยและพูดอย่างเย่อหยิ่ง “อย่ามาแส่เรื่องคนอื่น มันเรื่องในครอบครัวฉัน โทรไปหาตำรวจก็เปล่าประโยชน์ วันนี้ฉันจะทุบตีนังเด็กเนรคุณให้ตายไปซะ ไอ้ตัวซวย!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินคำพูดดังกล่าวรู้สึกถึงหัวใจที่ด้านชา แขนขาทั้งสองเฉียบเย็น
ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกนายเดินเข้ามาประคองเธอและถามอีกครั้งว่า “คุณครับอยากเราโทรแจ้งตำรวจมั้ย?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเหลือบมองถงกัวฮัวที่กำลังโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่และตอบว่า “โทรแจ้งเลยค่ะ”
เธอไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมให้ใครมากลั่นแกล้งและเก็บงำความโกรธเคืองเอาไว้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบโทรแจ้งตรวจทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ
ถงกัวฮัวรีบหันไปตะคอกใส่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยความโกรธจัดทันทีเมื่อได้ยินว่าเธอต้องการให้โทรแจ้งตำรวจ “มึงกล้าดียังไงถึงจะโทรแจ้งตำรวจ กูเป็นพ่อมึงนะ ต่อให้มึงโทรแจ้งตำรวจไปก็ทำอะไรกูไม่ได้หรอก กูจะทุบลูกสาวตัวเองแล้วใครจะทำไม!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูถงกัวฮัวอย่างเฉยเมยและไม่แยแส
เธอจับมือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้ามาช่วยพยุงให้ลุกขึ้นยืน หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าและพบว่าสายเรียกเข้าเมื่อสักครู่นี้คือลู่หมิง เธอจึงรีบโทรกลับทันที
ไม่ถึงวินาทีปลายสายก็รับโทรศัพท์
“ผู้ช่วยลู่รบกวนบอกท่านประธานมู่ทีว่าตอนนี้ฉันมาถึงด้านล่างบริษัทแล้วค่ะ แต่มีเรื่องนิดหน่อย คงอีกสักพักถึงจะได้ขึ้นไปนะคะ”
ลู่หมิงที่อยู่อีกด้านหนึ่งกำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ขณะที่เขากำลังจะอ้าปากถาม เสียงเกรี้ยวโกรธจากปลายสายก็ดังขึ้นก่อน
“ถงเหมี่ยวเหมี่ยว นังชั่ว!”
“ถ้ารู้ว่ามึงหัวรั้นขนาดนี้ กูน่าจะรัดคอมึงให้ตายตั้งแต่เกิด!”
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ฝากบอกท่านประธานมู่ด้วย” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขอโทษและกดตัดสายไป
ลู่หมิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและคิดได้ว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวอาจจะกำลังประสบปัญหาอยู่จึงรีบถือโทรศัพท์กลับเข้าไปในห้องทำงาน
“ท่านประธาน ดูเหมือนว่าผู้จัดการถงจะมีปัญหาอยู่ที่ชั้นล่างน่ะครับ”
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้ว
เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูและพบว่าจวนจะถึงเวลาประชุมสายทางวิดีโอแล้ว
แต่กลับสั่งการว่า “นายช่วยลงไปดูทีว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ลู่หมิงน้อมรับคำสั่งและเดินออกไป
ในไม่ช้าเขาก็มาถึงที่เกิดเหตุและพบว่าถงกัวฮุยกำลังถูกตำรวจสองนายสอบปากคำอยู่ ใบหน้าบึ้งตึงตะโกนด่าสาป ถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยถ้อยคำรุนแรง
“ถงเหมี่ยวเหมี่ยว มึงปล่อยให้ตำรวจมาจับกูได้ยังไง มึงนี่มันไอ้เด็กเหลือขอ!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังคงแสดงสีหน้าไร้ความรู้สึก
ทว่าลู่หมิงกลับตกตะลึงอยู่หลายวินาทีกว่าจะตอบสนอง
เขารีบเข้าไปหาถงเหมี่ยวเหมี่ยวและถามว่า “ผู้จัดการถงเกิดอะไรขึ้นครับ?”
เขาสะดุ้งเมื่อเห็นคราบเลือดบนร่างกายของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยว และรีบพูดถามออกไปโดยไม่รอคำตอบจาก ถงเหมี่ยวเหมี่ยว “ผู้จัดการถง บาดเจ็บตรงไหนครับ? ร้ายแรงหรือเปล่า?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการปรากฏตัวของลู่หมิงเลยสักนิด
เธอหันกลับมาและส่ายหน้า “ไม่ค่ะ”
ลู่หมิงมองสำรวจถงเหมี่ยวเหมี่ยวและเสนอว่า “ขึ้นไปห้ามเลือดทายาข้างบนก่อนเถอะครับ ส่วนเรื่องข้างล่างให้พนักงานรักษาความปลอดภัยจัดการต่อ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลังเลครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้า
เธอรู้สึกปวดแผลมาก
เธอขอบคุณเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองนายและเดินตามลู่หมิงออกไป
ถงกัวฮุยต้องการจะเข้าไปขัดขวางเมื่อเห็นเธอกำลังจะเดินจากไป แต่ไม่สามารถหลุดออกจากพันธนาการได้
“ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหยุด!”
ทว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่สนใจ
เธอเดินตามลู่หมิงไปยังห้องทำงานของเขา
เพราะในห้องทำงานของเขามีกล่องยาครบครัน
เดิมทีลู่หมิงต้องการช่วยทายาให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยว แต่ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับปฏิเสธ
“ฉันทายาเองได้ ผู้ช่วยลู่ไปทำงานต่อเถอะค่ะ”
เธอไม่คุ้นเคยเวลาที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาใกล้จึงคว้าผ้าก๊อซและยาฆ่าเชื้อจากมือลู่หมิงมาทำแผลด้วยตัวเอง
ลู่หมิงเห็นว่าเขาไม่ต้องทำอะไรจึงพูดกับถงเหมี่ยวเหมี่ยวสองสามคำและออกจากห้องทำงานไป
เขาเดินตรงไปยังห้องทำงานของมู่อวี้เฉิง
มู่อวี้เฉิงกำลังประตูอยู่เหลือบเห็นเขาเดินเข้ามาจึงขยิบตาส่งสัญญาณให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ห่างไกลพูดปิดการประชุม
เขารีบถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับถงเหมี่ยวเหมี่ยว?”
ลู่หมิงพูดรายงานตามความเป็นจริง
มู่อวี้เฉิงรู้สึกกังวลขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินว่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บ
“เลื่อนการประชุมออกไปอีกหนึ่งชั่วโมง” เขาพูดทิ้งทวนและเดินออกจากห้องทำงาน
ลู่หมิงรีบตามออกไป
มู่อวี้เฉิงรีบสาวเท้ายาวไปตามทางเดิน
เขาเดินไปถึงห้องทำงานของลู่หมิงภายในระยะเวลาไม่ถึงสองนาที จากนั้นจึงผลักประตูเข้าไป
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังนั่งทายาอยู่ในห้องทำงาน
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วขณะที่ดวงตาจับจ้องไปยังบาดแผล ต่าง ๆ “เกิดอะไรขึ้น?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนึกไม่ถึงว่ามู่อวี้เฉิงจะแวะมาดูด้วยตัวเอง
เธอชะงักไปครู่หนึ่งและค่อย ๆ พูดว่า “ไม่มีอะไร แค่อุบัติเหตุน่ะ”
เธอไม่ต้องการพูดถึงพ่อตัวเอง
แต่มู่อวี้เฉิงกลับไม่พอใจกับคำตอบจอมปลอม
เขาหันหน้าไปมองลู่หมิงอย่างเย็นชา
ลู่หมิงเข้ามารายงานก่อนหน้านี้ว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวทะเลาะวิวาทกับใครบางคนจนได้รับบาดเจ็บ
ลู่หมิงเหลือบมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวและพูดรายงานสรุปสถานการณ์โดยย่อ “คนที่ผู้จัดการถงมีเรื่องด้วยคือคุณพ่อของผู้จัดการถงครับ เขาเข้ามาก่อเรื่องภายในบริษัท ทางพนักงานรักษาความปลอดภัยจึงโทรแจ้งตำรวจ”
มู่อวี้เฉิงมองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยความประหลาดใจ
แต่เขากลับไม่เห็นอารมณ์ใด ๆ บนสีหน้าของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เสียงทุ้มจะดังขึ้น “นายไปจัดการเรื่องนี้ที อีกอย่างฉันไม่อยากได้ยินข่าวลือเรื่องพวกนี้ในบริษัท”
“ครับ!” ลู่หมิงตอบรับคำสั่งและเดินออกไป
บรรยากาศภายในห้องทำงานตกอยู่ในความสงบอีกครั้ง
มู่อวี้เฉิงเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงข้าม ถงเหมี่ยวเหมี่ยวและถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับคุณและครอบครัวของคุณ?”
“เราตัดขาดกันแล้ว” น้ำเสียงฟังดูแผ่วเบานัก
มู่อวี้เฉิงประหลาดใจและถามต่อว่า “ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ห้าปีที่แล้ว”
“…” มู่อวี้เฉิงเงียบไป
เมื่อห้าปีที่แล้วเป็นเวลาเดียวกันกับที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหนีหายไป
ตอนนี้คุณปู่ส่งคนออกไปตามหาครอบครัวถง แต่ทางครอบครัวของเธอบอกว่าพวกเขาไม่รู้ว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวไปอยู่ที่ไหน
ต่อมาหลังจากตามสืบสวน พวกเขาพบว่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหนีไปต่างประเทศ
และหลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้อีกเลย
ถึงแม้ว่ามู่อวี้เฉิงจะไม่รู้เรื่องระหว่างถงเหมี่ยวเหมี่ยวกับตระกูลถง แต่เขาก็พอจะรับรู้ได้ว่าทั้งสองฝ่ายกำลังขัดแย้งกันอยู่
ไม่อย่างนั้นวันนี้เรื่องคงไม่จบลงด้วยการโทรแจ้งตำรวจ