พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 240 สรรพสิ่งยังเหมือนเดิม แต่ผู้คนกลับเปลี่ยนไป
ตอนที่ 240
สรรพสิ่งยังเหมือนเดิม แต่ผู้คนกลับเปลี่ยนไป
หลังจากที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกดจองร้านอาหารแล้ว เธอก็พูดขึ้นอย่างใจเย็น “ถ้าอย่างนั้นไปร้านนี้กันค่ะ เดี๋ยวเลิกงานแล้วฉันจะไปรับเสี่ยวเป่า”
ลู่ซีจวี๋พยักหน้าตอบ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงพูดแกมหยอกล้อ “รุ่นพี่จะตรวจสอบการทำงานต่อมั้ยคะ?”
“ตั้งใจทำงานล่ะ ฉันไม่รบกวนเธอแล้ว ขอตัวก่อนนะแล้วเจอกันเย็นนี้” ลู่ซีจวี๋พูดขณะลุกขึ้นยืน
“ค่ะ ไว้เจอกันเย็นนี้นะคะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบรับ
ลู่ซีจวี๋ที่ได้ยินเช่นนั้นพยักหน้าตอบรับเธอและหันหลังเดินกลับออกไป
ในตอนเย็นหลังจากที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเลิกงานแล้ว เธอก็ไปรับเสี่ยวเป่าที่คฤหาสน์ตี้หลานและเดินทางไปยังร้านอาหารที่จองไว้
แต่กลับนึกไม่ถึงว่าลู่ซีจวี๋กับผู้เฒ่าสตีเฟนจะมารอที่นี่ก่อนหน้านี้แล้ว
เสี่ยวเป่ามีความสุขมากที่ได้เจอผู้เฒ่าสตีเฟน
เขาจับมือถงเหมี่ยวเหมี่ยว ยิ้มกว้างและร้องตะโกนว่า “คุณปู่สตีเฟน”
ผู้เฒ่าสตีเฟนที่เห็นหน้าเสี่ยวเป่ายิ้มกว้างเช่นกัน
เขามองดูเสี่ยวเป่าขณะยิ้มแย้ม “เสี่ยวเป่าของเราสูงขึ้นหรือเปล่า?”
เสี่ยวเป่าปรบมือและมองดูผู้เฒ่าสตีเฟนด้วยดวงตาแวววาว “คุณปู่สตีเฟนเจ๋งมาก เสี่ยวเป่าสูงขึ้นหนึ่งเซนแน่ะ!”
“จริงเหรอ?” ผู้เฒ่าสตีเฟนหัวเราะเสียงดังลั่นเมื่อได้รับคำชมจากเสี่ยวเป่า บรรยากาศรอบข้างดูอบอุ่นอย่างมาก
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมีความสุขมากเช่นกันที่เห็นว่าเขายังแข็งแรงดีอยู่
จู่ ๆ ผู้เฒ่าสตีเฟนก็พูดขึ้นระหว่างมื้ออาหาร “เหมี่ยวเหมี่ยว ฉันว่าจะอยู่ที่นี่อีกสักพัก ได้ยินมาว่าที่จีนมีจุดชมวิวสวย ๆ เยอะแยะเลย สมัยหนุ่ม ๆ ฉันอยากจะแวะไปดูตลอด แต่พอก่อตั้งสตีเฟนกรุ๊ปแล้วก็เอาแต่ยุ่งทั้งวัน ตอนนี้ว่างแล้ว ช่วยมาเป็นไกด์ให้หน่อยได้มั้ย?”
“ท่านประธานเกรงใจกันเกินไปแล้วค่ะ ก็ต้องได้อยู่แล้ว สิคะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรีบตอบตกลง เธอมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือผู้เฒ่าสตีเฟน
ผู้เฒ่าสตีเฟนมีความสุขมากเช่นกัน เพราะการเติมเต็มความปรารถนาในวัยเยาว์ของเขาคือหนึ่งในจุดประสงค์สำคัญที่มาเยี่ยมประเทศจีนในครั้งนี้
“แล้วเธอจะว่างอีกเมื่อไหร่? หรือให้ซีจวี๋จัดวันหยุดให้เธอดีมั้ย?” ผู้เฒ่าสตีเฟนถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม
ถงเหมี่ยวเหมี่ยววางเครื่องดื่มลงและรีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่เป็นไรค่ะท่านประธาน”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้เธอเลิกงานตั้งแต่บ่ายเลยแล้วกัน” ลู่ซีจวี๋เสนอ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหรี่ตาลงและคิดพิจารณาด้วยความลังเล
ลู่ซีจวี๋รู้ดีว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวขยันทำงานมากขนาดไหน
เขารีบพูดเกลี้ยกล่อมราวกับว่าสามารถอ่านความคิดของถงเหมี่ยวเหมี่ยวได้ “ไม่เป็นไรหรอก ฉันกลับมาแล้ว จะไปช่วยเธอสะสางงานที่บริษัทเอง เพราะฉะนั้นงานไม่ล่าช้าไปกว่าเดิมหรอก”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและตอบตกลง
เดิมทีต่อให้มีช่วงเวลาทำงานตามปกติ แต่เธอก็มักจะทำงานเร่งด่วนเสร็จตั้งแต่ตอนเช้า แถมตอนนี้ลู่ซีจวี๋ยังกลับมาแล้ว เธอจึงมีเวลาช่วงบ่ายพาผู้เฒ่าสตีเฟนไปตระเวนเที่ยวรอบ ๆ ได้
เสี่ยวเป่าที่อยู่ด้านข้างกะพริบตาและถามว่า “หม่ามี้ผมไปด้วยได้มั้ยฮะ?”
เขาไม่ได้ออกไปเที่ยวกับคุณปู่สตีเฟนมานานแล้ว
“ถ้าลูกทำแบบฝึกหัดที่อาจารย์ให้เสร็จเร็ว หม่ามี้ก็จะพาไปด้วย” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบ
จู่ ๆ ดวงตาสดใสของเสี่ยวเป่าก็เปลี่ยนเป็นผิดหวังทันที หม่ามี้ก็รู้ว่าช่วงนี้การบ้านของเขาหนักหนาสาหัสขนาดไหน และเขาแทบจะไม่มีเวลาออกไปวิ่งเล่นหลังจากเรียนเสร็จเลย
ลู่ซีจวี๋ยิ้มเมื่อเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก “เสี่ยวเป่าสู้ ๆ นะ”
“ฮะ ผมจะสู้ ๆ” เสี่ยวเป่าทำหน้ามุ่ย คำพูดเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
หลังจากมื้ออาหารเย็นจบลง พวกเขาก็วางแผนจะกลับบ้านกัน
แต่ใครจะคิดว่าเมื่อมองผ่านหน้าต่างบานสูงจรดเพดาน ฝนจะเทกระหน่ำลงมา
“เหมี่ยวเหมี่ยวเอาร่มมาหรือเปล่า?” ลู่ซีจวี๋ถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวส่ายหน้าและพูดว่า “พยากรณ์อากาศไม่ได้บอกว่าฝนจะตก ฉันก็เลยไม่ได้พกร่วมติดตัวมาด้วยค่ะ”
เธอมีร่มสำรองอยู่ในรถยนต์ ทว่ารถยนต์จอดอยู่ห่างจากร้านอาหารมาก
ต่อให้มีร่มหรือไม่มีร่ม หากแต่เดินไปที่ลานจอดรถก็คงจะเปียกไปทั้งตัว
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่ซีจวี๋ก็แนะนำว่า “เดี๋ยวฉันไปส่งเธอกับเสี่ยวเป่าเอง”
ผู้เฒ่าสตีเฟนยังพูดเสริมอีกว่า “ใช่ ฝนน่าจะตกหนักอีกสักพักใหญ่เลย พวกเธอไม่มีร่มกัน เดี๋ยวฉันให้ส่งให้เอง”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจับมือเสี่ยวเป่าและไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของพวกเขา
พวกเขาทั้งหลายจึงเดินไปที่ประตูร้านอาหารและเห็นว่าคนขับรถของลู่ซีจวี๋กำลังยืนถือร่มรออยู่ที่ประตูร้าน
“เหมี่ยวเหมี่ยวพาเสี่ยวเป่าไปขึ้นรถกับคนขับก่อนสิ” ลู่ซีจวี๋พูด
ทันทีที่ลู่ซีจวี๋พูดจบ ร่างสูงก็ค่อย ๆ ถือร่มคันใหญ่เดินขึ้นมาตามขั้นบันได
ร่มสีดำปกคลุมใบหน้าเกือบทั้งหมด เหลือเพียงริมฝีปากเซ็กซี่ที่ปรากฏออกมา
ยิ่งเดินเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ยิ่งเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนขึ้น
ขณะที่ชายคนนั้นกำลังเดินเข้ามา เสี่ยวเป่าก็ร้องตะโกนด้วยความดีใจ “แด๊ดดี้!”
รอยยิ้มของเขาเบ่งบานสดใสราวกับดอกไม้
เสี่ยวเป่ามีความสุขมากเมื่อรู้ว่าแด๊ดดี้มารับเขากลับบ้าน
ลู่ซีจวี๋ตกตะลึงมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาแทบจะไม่เชื่อสิ่งที่เพิ่งได้ยินมา
แด๊ดดี้?
เสี่ยวเป่าเรียกมู่อวี้เฉิงว่าแด๊ดดี้เหรอ?
พวกเขารู้ความจริงแล้วใช่ไหม?
ลู่ซีจวี๋จ้องมองไปทางถงเหมี่ยวเหมี่ยว ขณะที่ดวงตาสีฟ้าเต็มไปด้วยความสับสน
เขารีบกระซิบถาม “เกิดอะไรขึ้น?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินคำถามตอบอะไรไม่ถูกอยู่พักหนึ่ง
ช่วงนี้มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นจนเธอเองก็รับไม่ไหวเช่นกัน
เธอปริปากและตอบว่า “เรื่องมันซับซ้อนน่ะค่ะ ฉันก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน เดี๋ยวเอาไว้มีโอกาสฉันจะอธิบายให้ฟังนะคะ”
ทว่าเสี่ยวเป่ากลับเงยหน้าขึ้นและพูดอธิบายอย่างสนิทสนม “คุณลุงซีจวี๋ เสี่ยวเป่าหาแด๊ดดี้เจอแล้ว”
เห็นได้ชัดว่ารูปลักษณ์หน้าตาของเขาดูมีความสุขมาก
ลู่ซีจวี๋ตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เขานึกไม่ถึงว่าหลังจากกลับไปที่ต่างประเทศระยะสั้น ๆ แล้วสรรพสิ่งจะยังเหมือนเดิม แต่ผู้คนกลับเปลี่ยนไป
เขาไม่นึกเลยว่าทุกอย่างจะกลายมาเป็นแบบนี้ เสี่ยวเป่ากับมู่อวี้เฉิงรู้จักกันในฐานะพ่อลูกแล้ว
แล้วความสัมพันธ์ระหว่างถงเหมี่ยวเหมี่ยวกับมู่อวี้เฉิงเป็นยังไงบ้าง?
เรื่องระหว่างเขากับถงเหมี่ยวเหมี่ยวเป็นไปไม่ได้แล้วใช่ไหม?
ลู่ซีจวี๋เม้มปากแน่น ใบหน้ามืดมนลง
แม้แต่ผู้เฒ่าสตีเฟนยังประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวเป่า
ทว่ากาลเวลากลับทำให้เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย เขามองไปที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวและถามด้วยถ้วยคำดีงาม “นี่คือพ่อผู้ให้กำเนิดของเสี่ยวเป่าสินะ”
“ใช่ครับ” มู่อวี้เฉิงตอบรับและพูดทักทายเขาอย่างสุภาพนอบน้อม “ผมมู่อวี้เฉิงครับ ขอบคุณคุณสตีเฟนที่ช่วยดูแล เหมี่ยวเหมี่ยวกับเสี่ยวเป่าในตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
“คุณมู่ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ก็แค่เรื่องเล็กน้อย” ผู้เฒ่าสตีเฟนพูดตอบเบา ๆ
“ดึกมากแล้ว ผมขอพาเหมี่ยวเหมี่ยวกับเสี่ยวเป่ากลับก่อนนะครับ เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยนะครับ” มู่อวี้เฉิงพูดอย่างสุภาพ
ผู้เฒ่าสตีเฟนตอบกลับว่า “คุณมู่ก็ด้วยครับ”
“ท่านประธาน เจอกันพรุ่งนี้นะคะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูด
เสี่ยวเป่าที่อยู่ในอ้อมแขนของถงเหมี่ยวเหมี่ยวโบกมือลาเช่นกัน “บ๊ายบายฮะคุณปู่สตีเฟน คุณลุงซีจวี๋”
หลังจากนั้นมู่อวี้เฉิงก็กางร่มออกแล้วกอด ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่มีเสี่ยวเป่าอยู่ในอ้อมแขนให้เขยิบเข้ามาใกล้ จากนั้นจึงเอียงร่มไปทางสองแม่ลูกเล็กน้อย
พวกเขาทั้งสามเดินก้าวเท้าไปสู่สายฝนและจากไปพร้อมกัน