พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 239 ไม่ช้าหรือเร็วทุกอย่างจะกลายมาเป็นของเขา
ตอนที่ 239
ไม่ช้าหรือเร็วทุกอย่างจะกลายมาเป็นของเขา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นแทบอยากจะถอนมือออก แต่เธอกลัวจะทำร้ายจิตใจของผู้เฒ่ามู่
มู่อวี้เฉิงสังเกตเห็นอารมณ์ของเธอที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ถึงแม้ว่าเสี่ยวเป่าจะยอมรับพวกเขาแล้ว แต่การจะแต่งงานกับถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังคงต้องใช้เวลาอยู่
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอยังไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ และมู่อวี้เฉิงก็รู้สึกไม่จำเป็นจะต้องการรีบร้อนอะไร
มู่อวี้เฉิงจึงมองดูชายชราและส่งยิ้มเบา ๆ “เดี๋ยวผมจัดการเองครับ”
ผู้เฒ่ามู่เห็นว่าหลานชายมีวิธีการของตนเองจึงไม่ได้พูดอะไรมาก และเฝ้าดูพวกเขาจากไปอย่างไม่เต็มใจนัก
“นายท่าน รถยนต์แล่นออกไปแล้ว เรากลับเข้าไปข้างในกันเถอะครับ” พ่อบ้านพูดพร้อมกับเดินเข้ามาประคองชายชรา
ผู้เฒ่ามู่พยักหน้าและเดินถือไม้เท้ากลับเข้ามาข้างใน
หลังจากเดินไปได้สองสามก้าว เขาก็คิดอะไรบางอย่างออกและหยุดเดินกะทันหัน
ผู้เฒ่ามู่หันไปมองพ่อบ้านแล้วถามว่า “วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเสี่ยวเป่า?”
พ่อบ้านรีบรายงานด้วยท่าทางสงบว่า “มีแม่บ้านที่ไม่รู้เรื่องเผลอไปล่วงเกินนายน้อยครับ ผมไล่เธอออกไปแล้ว”
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่ามู่ก็พยักหน้าและเดินต่อไป
อีกด้านหนึ่ง
รถยนต์คันหรูแล่นไปตามท้องถนน เสี่ยวเป่าผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของถงเหมี่ยวเหมี่ยวหลังจากขึ้นรถมาได้ไม่นาน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกอดเสี่ยวเป่าขณะมองดูแสงไฟสว่างไสวด้านนอกหน้าต่าง มุมปากของเธอยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะอารมณ์ดีมาก
มู่อวี้เฉิงมองเธอแล้วยิ้มตาม “เหมือนคุณจะอารมณ์ดีนะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและยิ้มเบา ๆ “เพราะคุณปู่ชอบเสี่ยวเป่ามาก ฉันก็เลยมีความสุขมากค่ะ”
เห็นได้ชัดว่าผู้เฒ่ามู่กับเสี่ยวเป่าเข้ากันได้ดี ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
“คุณคิดยังไงกับเรื่องที่คุณปู่พูด?” มู่อวี้เฉิงถามขึ้นอย่างกะทันหัน
เมื่อสักครู่นี้เขาเห็นว่าตอนที่ผู้เฒ่ามู่พูดเรื่องนี้ ทัศนคติของเธอดูหลีกเลี่ยงได้อย่างชัดเจน
ทว่ามู่อวี้เฉิงแค่ต้องการทดสอบทัศนคติของเธออีกครั้ง
“อะ… อะไรนะ?” ดวงตาของถงเหมี่ยวเหมี่ยวจ้องมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ไม่กล้าหันกลับมามองเขา
เธอพยายามแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป
ดวงตาของมู่อวี้เฉิงเฉียบคมขึ้น เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอเมินเฉยเด็ดขาด
เขาจึงพูดขึ้นตรง ๆ “เสี่ยวเป่าโตแล้ว ควรจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบสักที ถึงเวลาที่จะต้องจัดงานแต่งของเราแล้วนะ”
เขาเม้มปากขณะที่รอคอยคำตอบจากเธอ
จู่ ๆ มู่อวี้เฉิงก็พูดเรื่องราวดังกล่าวออกมาจนกระจ่าง ทำให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสับสนอยู่ครู่หนึ่ง
เธอไม่รู้ว่าจะจัดการความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับมู่อวี้เฉิงอย่างไรดี และยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องการแต่งงาน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลดสายตาลงและพูดเบา ๆ “ฉันคิดว่ามันยังเร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องการแต่งงานตอนนี้ค่ะ”
มู่อวี้เฉิงไม่ได้แสดงท่าทางประหลาดใจกับคำตอบของเธอมากนัก
ดวงตาสีนิลของมู่อวี้เฉิงจับจ้องไปทางถงเหมี่ยวเหมี่ยว ก่อนที่ปากบางจะเผยอออกเล็กน้อย “ไว้ค่อยคุยกัน”
อันที่จริงมู่อวี้เฉิงรู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจ
ตอนนี้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังมุ่งความสนใจไปที่เสี่ยวเป่าและยุ่งอยู่กับหน้าที่การงาน เธอจึงไม่สามารถคิดเรื่องพื้นฐานได้เลย
เขาเองก็เข้าใจถึงทัศนคติของถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่มีต่อการงานทำของเธอเช่นกัน
แต่ในเมื่อเธอคลอดลูกชายของเขาออกมาแล้ว ลูกของเธอก็จะตกมาเป็นของเขาในไม่ช้าหรือเร็ว
เมื่อคิดได้เช่นนั้น มู่อวี้เฉิงก็หันไปมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยแววตาลึกซึ้ง
วันต่อมา
หลังจากการประชุมช่วงเช้าเสร็จ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็เก็บเอกสารในมือแล้วเดินออกมา
ขณะที่กำลังเดินถึงห้องทำงาน กู้ชิงก็เข้ามาหาและรายงานว่า “ผู้จัดการคะ มีคนรอพบอยู่ในห้องทำงานค่ะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองเธอด้วยความประหลาดใจและถามว่า “ใคร?”
ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะรออยู่ที่ห้องรับแขกไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงไปยังในห้องทำงานของเธอได้ล่ะ?
“เดี๋ยวผู้จัดการเข้าไปก็รู้เองค่ะ” กู้ชิงพูดจาลึกลับ
จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากบอก แต่คนคนนั้นสั่งไม่ให้เธอบอก
เธอจึงทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขมวดคิ้วและเปิดประตูห้องทำงานเข้าไปด้วยความสงสัย
แต่ทันทีที่เธอเดินเข้าไปในห้องทำงาน เธอก็เห็นใครบางคนนั่งอยู่บนโซฟา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจำคนตรงหน้าได้เกือบจะในทันที เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยแต่ตกใจมากกว่า
ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง “รุ่นพี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
ลู่ซีจวี๋หันกลับมามองเธอด้วยดวงตาแวววาวราบกับดวงดาว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่น “เพิ่งมาถึงวันนี้น่ะ อยากจะเซอร์ไพรส์เธอสักหน่อยเลยไม่ได้บอกล่วงหน้า”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ตกใจเลยค่ะ ว่าแต่สุขภาพของท่านประธานดีขึ้นหรือยังคะ?”
ท้ายที่สุดลู่ซีจวี๋เดินทางกลับไปยังต่างประเทศเพื่อดูแลสุขภาพของผู้เฒ่าสตีเฟน
ตอนนี้เขากลับมาที่ประเทศจีนแล้ว ก็หมายความว่าสุขภาพของผู้เฒ่าสตีเฟนน่าจะดีขึ้น
“อืม เกือบหายดีแล้วล่ะ ครั้งนี้คุณตาก็มาที่นี่ด้วยนะ” ลู่ซีจวี๋ยิ้มตอบ
ท่านประธานมาด้วยเหรอ?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นจ้องมองไปทางบานประตูแต่กลับไม่เห็นใคร “ท่านประธานไม่ได้มาที่บริษัทกับรุ่นพี่ด้วยเหรอคะ?”
ลู่ซีจวี๋พยักหน้าและอธิบายว่า “คุณตาเหนื่อยเพราะนั่งเครื่องบินมานาน เลยไม่ได้แวะมาที่นี่ด้วย”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าตอบรับ ระยะทางจากประเทศเอ็มมายังเมืองเป่ยค่อนข้างห่างไกล แม้แต่คนหนุ่มสาวยังรู้สึกเหนื่อยล้า นับประสาอะไรกับคนเฒ่าคนแก่ที่เพิ่งหายจากอาการป่วย
เธอจึงรีบถามขึ้นทันที “แล้วตอนนี้ท่านประธานอยู่ที่ไหนคะ?”
“ตอนนี้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่พรุ่งนี้จะแวะมาเยี่ยมที่บริษัทด้วย” ลู่ซีจวี๋ตอบ
ถึงแม้ว่าสตีเฟนจะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนด้วย แต่ส่วนใหญ่ทุกคนย่อมบริหารร่วมกัน
ลู่ซีจวี๋จึงพาญาติพี่น้องของเขาไปยังคฤหาสน์ส่วนตัว
“แล้วทำไมจู่ ๆ วันนี้รุ่นพี่ถึงมาหาฉันล่ะคะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถามด้วยความสงสัย
ลู่ซีจวี๋ยิ้มและตอบว่า “คุณตาบอกว่าไม่ได้เจอเธอกับเสี่ยวเป่ามานานแล้ว คิดถึงพวกเธอกันมาก ฉันก็เลยคิดว่าถ้าวันนี้ฉันจะพาเธอกับเสี่ยวเป่าไปกินข้าวกับคุณตาสักหน่อยจะได้มั้ย?”
“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ทีหลังรุ่นพี่โทรมาบอกฉันก็ได้ค่ะ ทำไมจะต้องมาถึงที่นี่ด้วย” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้ม
ดวงตาของลู่ซีจวี๋โค้งขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉันแวะมาดูบริษัทและแวะมาหาเธอด้วยน่ะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น และพูดติดตลกว่า “รุ่นพี่ตั้งใจจะมาตรวจสอบการทำงานของผู้จัดการใช่มั้ยล่ะ?”
ลู่ซีจวี๋ยิ้ม ทว่ารอยยิ้มของเขากลับเต็มไปด้วยความขมขื่น “ใช่ ฉันก็มาดูไงว่าเธอตั้งใจทำงานหรือเปล่า”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวแสร้งทำเป็นจริงจัง และทำสีหน้าติดรำคาญเล็กน้อย “ก็ต้องแหง่อยู่แล้ว เชิญรุ่นพี่มาตรวจดูได้ตลอดเลยค่ะ ส่วนเรื่องร้านอาหารให้เป็นหน้าที่ฉันเอง”
“ฉันทำเองได้” หลังจากแสดงตนเป็นสุภาพบุรุษมาหลายปี ดูเหมือนว่าลู่ซีจวี๋จะทำอะไรไม่ได้เลยนอกเสียจากปล่อยให้เธอจัดการเรื่องร้านอาหาร
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวส่ายหน้าและอธิบายว่า “ตอนนั้นท่านประธานดูแลฉันดีมาก ๆ เลยค่ะ แต่เขาก็ไม่ได้แวะมาที่จีนง่าย ๆ เพราะฉะนั้นฉันจะต้องดูแลท่านประธานให้ดี รุ่นพี่อย่ามาแข่งขันกันฉันเลยนะคะ”
ทัศนคติของถงเหมี่ยวเหมี่ยวแข็งกร้าวมากจนลู่ซีจวี๋อะไรไม่ถูก เขาไม่สามารถหักล้างคำพูดของเธอได้จึงทำได้เพียงพยักหน้า
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดแอพพิเคชั่นค้นหาร้านอาหาร เธอเงยหน้ามองลู่ซีจวี๋แล้วถามว่า “ฉันจองอาหารร้านไหนดีคะ? รุ่นพี่มีที่อยากจะเสนอมั้ย? แต่ฉันจำได้ว่าท่านประธานชอบกินอาหารจีนมาก หรือว่าจะเป็นอันนี้ดีคะ?”
“แล้วแต่เธอเลย” ลู่ซีจวี๋ยิ้มแย้ม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหลงใหล