พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 170 จัดการให้ชัดเจน
ตอนที่ 170
จัดการให้ชัดเจน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวฟังสิ่งที่เขาพูดและคิดตามอย่างรอบคอบ
เธอคิดว่ามันน่าจะเป็นอย่างที่มู่อวี้เฉิงพูดจริง ๆ หากเสี่ยวเป่าเดินทางไปโรงเรียน เขาก็อาจจะถูกตระกูลถงลักพาตัวไปอีกครั้ง
ถ้าอย่างนั้นการที่เธอกับเสี่ยวเป่าย้ายมาที่นี่ก็จะไม่มีความหมาย
การเรียนที่บ้านเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับเสี่ยวเป่า
“เอาอย่างว่าก็ได้ค่ะ แต่ว่าฉันจะไปหาอาจารย์ที่เหมาะสมกับเสี่ยวเป่าได้ที่ไหน?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหาทางออกให้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้จริง ๆ
มู่อวี้เฉิงเห็นว่าเธอยอมรับข้อเสนอจึงยกยิ้มมุมปาก “เรื่องหาอาจารย์ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม ผมจะให้ลู่หมิงไปหาให้”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลง
“ขอบคุณค่ะ” เธอพยักหน้าและพูดขอบคุณมู่อวี้เฉิง
ท้ายที่สุดแล้วมู่อวี้เฉิงมีเส้นสายที่กว้างขวางและรู้จักกับอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมมากมาย
ถึงแม้ว่าเธอจะหาอาจารย์มาสอนเสี่ยวเป่าได้ แต่คงไม่ดีเท่าอาจารย์ที่มู่อวี้เฉิงหามาแน่
ใบหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวดูจริงจังขึ้นมาก จากนั้นเธอจึงบอกกับมู่อวี้เฉิงตามความเป็นจริง “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะจ่ายค่าสอนของอาจารย์ให้นะคะ”
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น และมองดูเธอด้วยสีหน้าสับสน
เขาไม่ชอบที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวทำตัวเกรงใจเขา
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ดีว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวเป็นคนไม่ชอบสร้างความลำบากใจให้ผู้อื่น เขาจึงพยักหน้าตอบรับเบา ๆ
จากนั้นเขาก็โทรศัพท์หาลู่หมิงโดยบอกปลายสายว่าให้ไปค้นหาอาจารย์ที่มีความสามารถโดดเด่นมา
ลู่หมิงเป็นคนทำงานมีประสิทธิภาพมาก หลังจากนั้นไม่นานข้อมูลหลายอย่างก็ถูกส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของมู่อวี้เฉิง
มู่อวี้เฉิงมองดูคร่าว ๆ ก่อนจะเลือกรายชื่ออาจารย์ออกมาและส่งโทรศัพท์ให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวดู
“ผมคัดเลือกให้แล้ว คุณลองดูว่าใครเหมาะสมที่สุด”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรับโทรศัพท์ของมู่อวี้เฉิงขึ้นมาเลื่อนดูบุคคลที่ถูกคัดเลือกแล้วถึงกับพูดไม่ออก
เธอรู้ว่าอาจารย์ที่มู่อวี้เฉิงหามาจะต้องเก่งกาจมาก แต่นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเก่งกาจถึงขนาดนี้
ทุกคนบนรายชื่อล้วนเป็นอาจารย์สอนโฮมสคูลที่มีชื่อเสียงกว้างขวาง พวกเขามีลูกศิษย์เต็มบ้านเต็มเมืองจน ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้จักชื่อของอาจารย์ทุกคนบนรายชื่อนี้
การให้คนเหล่านี้มาสอนเสี่ยวเป่าอาจจะเป็นสิ่งที่เกินตัวจนเกินไป
แต่การเชื้อเชิญคนพวกนี้มาสอนเสี่ยวเป่าได้ก็นับว่าเป็นโชคดีของเขาเช่นกัน
เสี่ยวเป่าจะต้องกลายไปเป็นคนเก่งภายใต้การสอนที่มีประสิทธิภาพของพวกเขาอย่างแน่นอน
“ประมาณนี้ก็ได้ค่ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเลือกอาจารย์สองสามคนซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นอาจารย์เหรียญทองในวิชาต่าง ๆ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวบอกและส่งโทรศัพท์คืนให้มู่อวี้เฉิง
มู่อวี้เฉิงรับโทรศัพท์ขึ้นมามองดูและส่งรายชื่อดังกล่าวไปให้ลู่หมิง พร้อมทั้งบอกเขาให้ติดต่ออาจารย์เหล่านี้ไป
หลังจากนั้น เขากับถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับกำหนดแผนการศึกษารายวันและช่วงเวลาเรียนของเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าถูกกำหนดตารางชีวิตประจำวันตั้งแต่เช้าจรดเย็นไว้อย่างชัดเจน
ทำให้แผนการเรียนหลาย ๆ วิชากินเวลาว่างเกือบทั้งหมดของเขา
เสี่ยวเป่าทำหน้าตาบูดบึ้งระหว่างนั่งฟังบทสนทนาระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองคน
หม่ามี้กับคุณลุงสุดหล่อไม่ขอความคิดเห็นจากเขาเลย คะยั้นคะยอจะจ้างอาจารย์พิเศษมาสอนเขาอยู่ได้
ตอนนี้เขาคิดวางแผนเวลาของตนเองแล้ว และพบว่านอกจากเวลากินและนอน เวลาทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับการเรียนหนังสือ
ตอนนี้ไม่เหลือเวลาแม้แต่จะเล่นเกมด้วยซ้ำ เสี่ยวเป่ารู้สึกว่าพวกเขาจัดแจงเวลาของตนเองไปจดหมด
…
ขณะเดียวกัน เยี่ยชวงได้รับตำแหน่งปัจจุบันของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวบนโทรศัพท์มือถือแล้ว เธอจึงรีบโทรศัพท์หา ลู่ซีจวี๋ทันที
เธอพูดรายงานเรื่องเมื่อวานด้วยน้ำเสียงนอบน้อม “นายท่าน คุณเหมี่ยวเหมี่ยวกับนายน้อยถูกมู่อวี้เฉิงย้ายไปอยู่ที่คฤหาสน์ของเขาแล้วค่ะ”
ลู่ซีจวี๋ตกใจมากเมื่อได้ยินว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวย้ายเข้าไปอยู่คฤหาสน์ของมู่อวี้เฉิงแล้ว
ดวงตาที่เปล่งประกายก่อนหน้านี้เริ่มมืดมนลงเล็กน้อย ก่อนพูดถามเยี่ยชวงด้วยนำเสียงเย็นชา “เกิดอะไรขึ้น?”
เห็นได้ชัดว่าก่อนที่เขาจะบินกลับมาต่างประเทศ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังคงมีทัศนคติต่อต้านมู่อวี้เฉิงอยู่
นอกจากนี้เธอไม่ต้องการให้เสี่ยวเป่าติดต่อกับมู่อวี้เฉิงมากจนเกินไป เพราะเกรงว่ามู่อวี้เฉิงจะรู้ตัวตนของเสี่ยวเป่า
แต่ทำไมตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนถึงย้ายไปอยู่คฤหาสน์ของมู่อวี้เฉิง?
ระหว่างที่เขาอยู่ต่างประเทศจะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับทั้งสองคนเป็นแน่
เยี่ยชวงตอบรับอย่างใจเย็น “ทั้งหมดเป็นเพราะตระกูลถงค่ะ”
“ตระกูลถง?” ลู่ซีจวี๋ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินว่ามันเกี่ยวข้องกับตระกูลถงอีกครั้ง
แถมยังคิดกับตนเองว่าทำไมถึงเป็นคนพวกนี้อีกแล้ว
“ใช่ค่ะ” เยี่ยชวงหยุดชะงักราวกับกำลังคิดคำอธิบาย
จากนั้นเธอก็พูดรายงานเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้
“พ่อแม่ของคุณเหมี่ยวเหมี่ยวมาร้องห่มร้องไห้สร้างปัญหาที่หน้าประตูบ้าน ข่มขู่คุณเหมี่ยวเหมี่ยวว่าให้ถอนฟ้องคดีความของถงอวิ๋นเหยียน มู่อวี้เฉิงใช้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ขอให้คุณเหมี่ยวเหมี่ยวเห็นแก่ความปลอดภัยของเสี่ยวเป่าโดยการย้ายออกไป เธอเลยตอบตกลงค่ะ”
“เห็นแก่ความปลอดภัยของเสี่ยวเป่า? หมายความว่ายังไง?”
“พวกเขาข่มขู่คุณเหมี่ยวเหมี่ยวว่าถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับถงอวิ๋นเหยียน พวกเขาก็จะฝังนายน้อยไปพร้อมกับเธอค่ะ”
“พวกเขากล้าข่มขู่คนของฉันแบบนี้เชียวเหรอ” ลู่ซีจวี๋ขมวดคิ้วขณะที่รัศมีดุร้ายแพร่กระจายออกมาจากร่างกาย
เยี่ยชวงจึงพูดต่อว่า “มู่อวี้เฉิงจึงใช้ประโยชน์จากคำขู่นั้นพาคุณเหมี่ยวเหมี่ยวไปอยู่ด้วยค่ะ”
ลู่ซีจวี๋ตบโต๊ะด้วยความโกรธจัดหลังจากได้ยินเรื่องราวจากปากของเยี่ยชวง
“ครอบครัวนี้ขยันทำเรื่องไม่เป็นเรื่องจริง ๆ”
สมาชิกในตระกูลถงเป็นเหมือนกับแผลร้ายที่ไม่สามารถสลัดออกไปได้
อุตส่าห์ปล่อยให้พวกเขาอยู่กันอย่างสงบแล้วแท้ ๆ แต่ใครจะคิดว่าพวกเขาจะสร้างปัญหาทุกครั้งที่มีโอกาส
“เธอบอกว่าพวกเขาอยากจะช่วยถงอวิ๋นเหยียนใช่มั้ย?” ลู่ซีจวี๋หรี่ตาลงและถามด้วยน้ำเสียงอันตราย
“ใช่ค่ะ ตอนนี้ถงอวิ๋นเหยียนอยู่ในศูนย์กักกัน โดนรังแกอยู่บ่อยครั้ง เธอจึงบอกให้พวกถงกัวฮุยมาหาคุณเหมี่ยวเหมี่ยวค่ะ” เยี่ยชวงตอบ
เธอคิดว่าการที่ครอบครัวนั้นบุกรุกมายังหน้าประตูบ้านมันช่างเป็นเรื่องที่ไร้ยางอายจริง ๆ
ลู่ซีจวี๋แสยะยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น ถงอวิ๋นเหยียนกล้าทำร้ายถงเหมี่ยวเหมี่ยว นั่นก็หมายความว่าเธอกล้าแตะเกล็ดมังกร*ของเขาเช่นกัน
* แตะเกล็ดมังกร (触逆鳞) เป็นความเชื่อว่าใครก็ตามที่แตะเกล็ดมังกร มังกรตัวนั้นจะโกรธเคืองมากและลงมือฆ่าคนคนนั้นโดยตรง สำนวนนี้จึงเปรียบเทียบถึงการทำให้ผู้มีอำนาจโกรธเคือง
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้มู่อวี้เฉิงฉวยผลประโยชน์และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองคนให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ดังนั้นมันจึงเป็นอาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัยได้
ตอนนี้เขาเริ่มหวาดระแวงและอยากให้มันเป็นเพียงเรื่องที่ฝันไป!
“ถงอวิ๋นเหยียนทำเรื่องชั่วร้ายมามาก ตอนนี้เธอกำลังได้รับโทษอยู่ ไม่ต้องสนใจอะไรเธอทั้งนั้น เพราะเดี๋ยวก็มีคนตัดสินลงโทษเธอเอง” ลู่ซีจวี๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ค่ะนายท่าน แล้วเราควรจะทำยังไงกับคุณเหมี่ยวเหมี่ยวดีคะ?” เยี่ยชวงถาม
เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือถงเหมี่ยวเหมี่ยวได้เข้าไปพักอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกับมู่อวี้เฉิงแล้ว
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เจ้านายของเธอก็จะหมดสิทธิ์
ลู่ซีจวี๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้น แล้วจึงพูดว่า “เอาข้อความของฉันไปส่งต่อให้เหมี่ยวเหมี่ยวที บอกว่าท่านผู้เฒ่าสตีเฟนต้องการพบเธอกับเสี่ยวเป่า”
“เธอก็แค่ไปบอกว่าตอนนี้ท่านผู้เฒ่าสตีเฟนป่วยอยู่ หวังจะได้เจอหน้าเหมี่ยวเหมี่ยวในฐานะคนแก่ที่ดูแลพวกเขาสองแม่ลูกมาตลอดหลายปี”
“ค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการให้” เยี่ยชวงพยักหน้า
หลังจากที่ลู่ซีจวี๋วางสายลงเยี่ยซวงก็ขับรถไปที่คฤหาสน์ตระกูลมู่