พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 135 ด่วนดีใจ
ตอนที่ 135
ด่วนดีใจ
ลู่ซีจวี๋ทำได้เพียงจำใจยินยอม
เขาค้นหาโรงแรมในบริเวณใกล้เคียงสำหรับตนเอง และในที่สุดก็พบห้องว่าง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลากกระเป๋าเดินตามมู่อวี้เฉิงเข้ามาในห้องเพรสซิเดนสูท
ทันทีที่เข้ามาถึง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
ห้องเพรสซิเดทสูทของที่นี่ดูแตกต่างจากที่อื่นมาก!
มีการตกแต่งอย่างหรูหรา จัดวางสิ่งของเอาไว้อย่างอลังการงานสร้าง นอกจากห้องนอนสองห้องแล้วยังมีห้องนั่งเล่นและระเบียงห้องขนาดใหญ่ที่มีหน้าต่างสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน
“คุณอยากนอนห้องไหน?” มู่อวี้เฉิงถาม
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูและชี้ไปยังห้องทางฝั่งขวามือ “ห้องนี้ค่ะ”
มู่อวี้เฉิงตอบรับงึมงำแล้วลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในอีกห้อง
หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว โทรศัพท์ของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ดังขึ้น
เป็นสายเรียกเข้าจากลู่ซีจวี๋
“เหมี่ยวเหมี่ยว ฉันจัดการทุกอย่างเรียกร้อยแล้ว ทางเธอเรียบร้อยดีมั้ย?”
“เรียกร้อยดีค่ะ ห้องพักก็ค่อนข้างใหญ่”
เห็นได้ชัดว่าลู่ซีจวี๋ยังคงเป็นกังวล “เหมี่ยวเหมี่ยว ถ้า มู่อวี้เฉิงจงใจสร้างความลำบากใจอะไรให้เธอ รีบโทรมาหาฉันนะ เดี๋ยวฉันจะรีบไปที่นั่น”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหัวเราะ “รุ่นพี่ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันไม่ใช่คนรังแกง่ายขนาดนั้นหรอก”
“อืม ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนเถอะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบรับและวางสายลง
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณสักหน่อย” จู่ ๆ น้ำเสียงเย็นชาของมู่อวี้เฉิงก็ดังลอดมาจากประตูหน้าห้อง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกใจจนรีบหันกลับไปมอง
จากนั้นจึงเห็นว่ามู่อวี้เฉิงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตขาวกำลังยืนอยู่หน้าประตู
“คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกผิดด้วยเหตุผลบางอย่าง
“เมื่อกี้”
เมื่อกี้?
เมื่อกี้นี่นานเท่าไหร่?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสงสัย
แต่ก่อนที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะคิดออก มู่อวี้เฉิงก็ปริปากพูดอีกครั้ง “ผมจะไปรอที่ห้องนั่งเล่นนะ”
หลังจากพูดจบ มู่อวี้เฉิงก็เดินกลับออกไป
“อือ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบกลับอย่างเฉื่อยชา จากนั้นจึงหวนนึกถึงคำพูดของเขา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่รีรอชักช้ารีบหยิบข้าวของและถามไปที่ห้องนั่งเล่น
ในคืนนั้นมู่อวี้เฉิงสั่งอาหารเย็นให้ทั้งสองได้นั่งรับประทานอาหารด้วยกันในห้องนั่งเล่น
หลังจากอาหารเย็น ทั้งสองพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการประมูลที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้
เพื่อให้การประมูลไร้ข้อผิดพลาดมากที่สุด ทั้งสองคุยกันจนดึกดื่นก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเข้านอน
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็เกิดปวดท้องขึ้นมา
มู่อวี้เฉิงที่อยู่ด้านข้างสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเธอซีดเซียวจึงถามอย่างกังวล “เป็นอะไรไป?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวส่ายหัว “ไม่เป็นอะไร ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
มู่อวี้เฉิงตอบรับเบา ๆ ด้วยความรู้สึกสงสัย แต่เขากลับไม่ได้ถามคำถามอะไรเพิ่มเติม
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเข้ามาในห้องน้ำและมองดูเวลา
ใกล้จะถึงเวลาประมูลแล้ว!
วันนี้เธอจะปล่อยให้ตนเองเป็นอะไรไปไม่ได้!
เธอรีบเปิดกระเป๋าแล้วค้นหายาขวดยาขนาดเล็กสีขาว
เธอคลายฝาเกลียวออกแล้วประคับประคองตนเองให้กินยา จากนั้นจึงเดินทางไปร่วมงานประมูลกับมู่อวี้เฉิง
นอกจากนี้ลู่ซีจวี๋กับพวกนักออกแบบยังเดินทางไปร่วมด้วย
ทั้งทีมมีทั้งหมดประมาณหกถึงเจ็ดคน
เมื่อพวกเขามาถึงพื้นที่ประมูลโครงการ พวกเขาก็พบเข้ากับจิ้นเป่ยเฉิง
จิ้นเป่ยเฉิงเห็นว่าพวกเขาเดินยิ้มแย้มเข้ามา
“เอ๋ นั่นมันคู่แข่งฉันไม่ใช่เหรอ? มู่กรุ๊ปกับสตีเฟนกรุ๊ปใช่มั้ย?” จิ้นเป่ยเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงแกลมประชดประชัน
พวกมู่อวี้เฉิงไม่ต้องการเสวนากับเขาเลยสักนิด
ทว่าจิ้นเป่ยเฉิงกลับยังตามรังควานและพูดจาถากถางต่อ “ได้ยินมาว่าพวกคุณร่วมมือกัน ทำไม คงจะรู้แล้วล่ะสิว่าตัวมีความสามารถไม่ถึง มาอยู่รวมกันแบบนี้มันอบอุ่นใจมากกว่าใช่มั้ย?”
“แต่ว่าถ้าพวกคุณคิดจะเอาชนะโครงการนี้มันคงจะเป็นแค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ หรือเปล่า? ผมแนะนำให้พวกคุณลามือไปดีกว่า พวกคุณเอาชนะจิ้นกรุ๊ปไม่ได้หรอก”
จิ้นเป่ยเฉิงเหลือบมองพวกมู่อวี้เฉิงแล้วพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ
“ดูเหมือนว่าจิ้นกรุ๊ปจะมุ่งมั่นที่จะเอาชนะโครงการนี้ซะเหลือเกินนะคะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอดไม่ได้ที่จะตอบโต้
จิ้นเป่ยเฉิงเชิดหน้าขึ้นและพูดอย่างทะนงตัว “แน่นอนอยู่แล้ว เรื่องความสำเร็จของจิ้นกรุ๊ปในอุตสาหกรรมด้านนี้น่ะไม่จำเป็นต้องพูดถึงผมก็เชื่อว่าคุณได้ยินชื่อเสียงเรามามากพอ แต่ผมพอจะเข้าใจที่สองบริษัทหันมาจับมือกันชั่วคราวนะ ยังไงซะพวกคุณก็ไม่มีโอกาสชนะอยู่แล้ว!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวปรบมือ “คุณจิ้น ที่คุณพูดนี่มันเยี่ยมยอดจริง ๆ เลยค่ะ!”
จิ้นเป่ยเฉิงเหลือบมองเธอด้วยท่าทางหยิ่งยโส รอยยิ้มบนใบหน้าดูพึงพอใจมาก
“แต่ว่าคุณจิ้น ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะดีใจหรือเปล่าคะ? ไม่ว่าตำแหน่งจะดีเลิศขนาดไหนแต่ก็สามารถสะดุดล้มได้ตลอดเวลา แล้วคุณรับประกันได้ยังไงคะว่าครั้งนี้คุณจะชนะ?”
ทันทีที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูด รอยยิ้มบนใบหน้าของ จิ้นเป่ยเฉิงก็แข็งค้าง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันขอแนะนำว่าคุณอย่าพูดมากไปจะดีกว่าค่ะ ยังไงซะหลังจากนี้เราก็ยังต้องเจอกันอีก ถ้าคุณมั่นใจขนาดนี้แล้วผลลัพธ์ไม่เป็นตามที่ต้องการ ฉันก็เกรงว่าคุณจะไม่มีหน้ามาเจอพวกเราอีกนะคะ”
ขณะที่เธอพูด กลุ่มนักออกแบบทั้งหลายต่างพากันหัวเราะอย่างไร้ความปรานี
จิ้นเป่ยเฉิงโกรธจัดและก้าวออกมาข้างหน้าทันที
ทว่ามู่อวี้เฉิงกับลู่ซีจวี๋กลับก้าวออกไปยืนบังหน้า ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
จิ้นเป่ยเฉิงเหลือบมองพวกเขาทั้งสองก่อนจะถอยหลังกลับไป กัดฟันแน่นและจ้องเขม็งมาที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยว “คุณถง ฝีปากของคุณนี่มันช่างคมคายเหลือเกินนะครับ! แต่การประมูลในครั้งนี้ไม่อยู่ที่คำพูด อีกอย่างศักยภาพของจิ้นกรุ๊ปก็เป็นที่ยอมรับมากด้วย”
จิ้นเป่ยเฉิงพูดขณะจัดระเบียบเสื้อผ้าของตนเองให้เรียบร้อย และพูดอย่างเย่อหยิ่ง “สรุปก็คือจิ้นกรุ๊ปของเรามุ่งมั่นที่จะเอาชนะในวันนี้ให้ได้ครับ! ถ้าคุณทั้งสองไม่อยากสูญเสียครั้งใหญ่หลวงก็หลีกเลี่ยงความอัปยศอดสูด้วยการรีบยอมแพ้เถอะครับ!”
เขาหันหลังกลับและเดินเข้าไปข้างในทันที
แต่ก่อนเขาจะเดินออกไป เขาจ้องมองลู่ซีจวี๋ด้วยแววตาแฝงความหมายและพูดกระซิบข้างหูว่า “คุณลู่ นึกไม่ถึงว่าคุณจะหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้นขนาดนี้!”
ลู่ซีจวี๋จะไม่เข้าใจประโยคสุดท้ายได้อย่างไร
ในงานเลี้ยงอาหารค่ำคืน จิ้นเป่ยเฉิงบอกว่าต้องการร่วมมือกับเขา แต่เขาปฏิเสธ
แต่ตอนนี้เขากลับหันมาร่วมมือกับมู่กรุ๊ป
เขาเมินเฉยต่อค่ำคืนที่มู่อวี้เฉิงพาตัวถงเหมี่ยวเหมี่ยวออกไปอย่างเปิดเผย
และเขาทำทั้งหมดนี้เพื่อถงเหมี่ยวเหมี่ยว
“รุ่นพี่ เขาบอกอะไรรุ่นพี่คะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถามเมื่อเห็นว่าลู่ซีจวี๋ดูแปลกประหลาดไป
ลู่ซีจวี๋กลับมาได้สติอีกครั้ง ก่อนจะมองไปที่มู่อวี้เฉิงกับ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวแล้วส่ายหัว “ไม่มีอะไร แต่บอกว่าโครงการนี้จะต้องเป็นของจิ้นกรุ๊ป”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าโดยไม่สงสัยอะไร
มู่อวี้เฉิงมองดูลู่ซีจวี๋แล้วพูดเบา ๆ “ไป เข้าไปข้างในเถอะ”
กลุ่มคนพยักหน้าและพากันเดินเข้าไปในสถานที่ประมูล
ผู้คนจำนวนมากมาเข้าร่วมงานประมูลในครั้งนี้ ทำให้พวกเขาต้องพบปะกับฝูงชนทันทีที่เข้าไปถึง
พวกมู่อวี้เฉิงอยู่ทางด้านขวา ส่วนพวกจิ้นเป่ยเฉิงอยู่อีกทางด้านหนึ่ง
จิ้นเป่ยเฉิงกับหัวหน้าโครงการของเคเอ็นกรุ๊ปเป็นเพื่อนกัน ดังนั้นทั้งสองคนจึงทักทายกันอย่างสนิทสนม
มู่อวี้เฉิงมองดูแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
แน่นอนว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่ด้านข้างย่อมไม่พลาดเหตุการณ์ดังกล่าว
“อ๊ะ นั่นคือคนที่รับผิดชอบโครงการของเคเอ็นกรุ๊ปไม่ใช่เหรอ? พวกเขาสองคนดูสนิทกันมาก จิ้นเป่ยเฉิงจะเล่นตุกติกกับการประมูลครั้งนี้หรือเปล่า?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกังวล
เธอรู้ว่าจิ้นเป่ยเฉิงไม่ใช่คนที่ใจคอกว้างขวางและตรงไปตรงมา
เมื่อเห็นเช่นนั้น มู่อวี้เฉิงก็ปลอบเธอว่า “ไม่ต้องห่วง ตอนนี้เรายังไม่รู้ใครชนะใครแพ้ เกรงว่าใครบางคนจะรีบด่วนดีใจไปก่อนมากกว่า!”
“อืม” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้า