พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 100 ศึกชิงรักหักสวาท
ตอนที่ 100
ศึกชิงรักหักสวาท
แม้เพียงสบตากันไม่กี่วินาที แต่มู่อวี้เฉิงก็ยังมองเห็นว่าทั้งสองคนนั้นสบตากัน
จู่ ๆ หัวใจก็เริ่มร้อนรนขึ้นมา
เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของลู่ซีจวี๋ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วพูดทักทายเบา ๆ “ผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับคุณลู่แห่งสตีเฟนกรุ๊ปมานานแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
ใบหน้านุ่มนวลของลู่ซีจวี๋ค่อย ๆ จางหายไป ก่อนจะยื่นมือออกไปจับ “คุณมู่ ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกันครับ”
ชายหนุ่มทั้งสองที่มีสัดส่วนใกล้เคียงกันมายืนเคียงข้างกัน ดวงตาสีดำนิลกับดวงตาสีฟ้ากำลังประจันหน้ากันอยู่ จนบรรยากาศรอบข้างเริ่มอึดอัดขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก
สองมือประสานเข้าหากัน แต่กลับไม่มีใครยอมปล่อยมือก่อน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกแปลกใจเมื่อรู้สึกได้ว่าทั้งสองไม่ลงรอยกัน
พวกเขารู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า? หรือว่าจะเป็นสงครามทางการค้า แต่เธอทำงานที่สำนักงานใหญ่ของสตีเฟนมาหลายปีแล้วและไม่เคยเห็นมู่กรุ๊ปติดต่อมายังต่างประเทศมาก่อน
คุณปู่ซ่งรู้สึกว่าชายหนุ่มทั้งสองกำลังแอบแข่งขันกันอยู่ จึงเลิกคิ้วมองผู้เฒ่าลู่ด้วยความสงสัย
“ทำไมหลานคุณถึงสร้างศัตรูทันทีที่เหยียบแผ่นดินจีน?”
ผู้เฒ่าลู่ส่ายหัวเล็กน้อยราวกับบอกว่าเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
ในเมื่อไม่เข้าใจสถานการณ์ ชายชราทั้งสองจึงไม่ได้พูดจาบุ่มบ่าม เพียงแต่ยืนมองดูสถานการณ์ภาพรวมที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นไม่นานลู่ซีจวี๋ก็เป็นฝ่ายปล่อยมือก่อน
เขาไม่สนใจมู่อวี้เฉิงอีกต่อไป และหันกลับไปมอง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยใบหน้าที่อ่อนโยนตามปกติ “เดี๋ยวอีกสักพักห้องโถงจะจัดงานเต้นรำ เธอจะมาเป็นคู่เต้นรำกับพี่ได้มั้ย?”
น้ำเสียงของเขาฟังดูใกล้ชิดสนิทสนม จนใครก็ต่างบอกได้ว่าเขาสนิทชิดเชื้อกับถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ทว่ามู่อวี้เฉิงจะไม่มีวันเห็นด้วยกับคำขอดังกล่าว เขาจึงพูดเตือนว่า “คุณลู่ มาขโมยคู่ควงของผมไปอย่างเปิดเผยแบบนี้จะดีเหรอครับ?”
เขาพูดเน้นคำว่า ‘คู่ควงของผม’ เล็กน้อยราวกับกำลังป่าวประกาศความเป็นเจ้าของ
แต่นั่นกลับไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายเก็บมาใส่ใจเลย
ลู่ซีจวี๋ไม่ได้คิดจริงจังอะไร สายตาของเขาจับจ้องไปที่ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวแล้วพูดว่า “ไม่ว่าเธอจะเป็นคู่ควงของคุณหรือไม่ ผมก็จะให้เหมี่ยวเหมี่ยวตัดสินใจด้วยตัวเอง”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ยืนอยู่ต่อหน้าฝูงชนรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าเธอจะเลือกใครก็จะทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองอย่างไม่ต้องสงสัย นี่มันเป็นการขุดหลุมพรางให้เธอกระโดดลงไปไม่ใช่เหรอ?
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดขึ้นว่า “ต้องขอโทษด้วยค่ะ พอดีว่าฉันเจ็บเท้าคงเป็นเพราะว่ารองเท้ากัด ฉันเต้นไม่ไหวหรอกค่ะ”
สีหน้าของผู้ชายทั้งสองมืดมนลง
ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกันอยู่แต่กลับสามารถเรียกความสนใจจากแขกผู้เกียรติในงานได้ทุกคน แม้แต่กลุ่มผู้บริหารที่กำลังหารือเรื่องความร่วมมืออย่างเมามันยังหันมามองทางเดียวกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวตกไปอยู่ในสายตาของแขกทั้งหลาย จนพวกเขาอดจะพูดถึงมันไม่ได้
ตอนนี้ลูกคุณหนูทั้งหลายที่ให้ความสนใจกับมู่อวี้เฉิงและลู่ซีจวี๋กำลังใจสลาย พวกเธออยากจะขว้างมีดใส่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวให้รู้แล้วรู้รอด
คุณชายทั้งสองออกศึกชิงรักหักสวาทอย่างออกหน้าออกตา
จนมันทำให้พวกเธอรู้สึกลุ้นแทน!
ซ่งอวี่ซีกับถังอวิ้นมองดูภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกโกรธเคืองมาก ถังอวิ้นจึงพยายามพูดเข้าข้างเพื่อนสนิท “นัง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนี่มันมารยาจริง ๆ คนที่กินข้าวกับมันในวันนั้นก็คือลู่ซีจวี๋นี่เอง! ไม่แปลกใจเลยที่มันมั่นหน้ามั่นโหนก”
“มันก็แค่นังแพศยา!”
ซ่งอวี่ซีกระทืบเท้าด้วยความโกรธจัด “มันกล้าดียังไงมาทำตัวหลายใจต่อหน้าอวี้เฉิง!”
เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งถูกจับได้ว่ากำลังออกเดทอยู่กับผู้ชายอื่นลับหลังมู่อวี้เฉิง ไม่รู้ว่ากลับไปหากันอีท่าไหนถึงได้มายืนอ่อยผู้ชายอื่นต่อหน้ามู่อวี้เฉิงได้
ผู้หญิงชั้นต่ำแบบนี้ควรจะมายืนเคียงข้างมู่อวี้เฉิงแล้วเหรอ?
ถังอวิ้นถอนหายใจและพูดเกลี้ยกล่อม “แต่เราจะไปทำอะไรได้ล่ะ? มาสงบจิตสงบใจกันดีกว่า”
“ไม่!” ความชั่วร้ายสาดส่องเข้ามาในดวงตาของซ่งอวี่ซี “คืนนี้ฉันจะต้องสอนบทเรียนให้มัน!”
ขณะเดียวกันถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่รู้ว่าตนเองกำลังตกเป็นเป้าหมาย
เธอพูดก่อนจะก้มลงไปลูบข้อเท้าแล้วขอโทษขอโพย “ขอโทษด้วยนะคะแต่ฉันไม่สะดวกจริง ๆ พวกคุณคุยกันไปก่อนเถอะ ฉันจะไปนั่งพัก”
เธอพูดและหันหลังกลับวิ่งหนีหายไปทันที
คงจะดีกว่านี้หากสามารถออกจาก ‘สนามรบ’ แห่งนี้ได้ในทันที
เธอไม่อยากเข้าไปอยู่กึ่งกลางระหว่างมู่อวี้เฉิงกับลู่ซีจวี๋ ภายในงานเลี้ยงแห่งนี้มีแขกเข้าร่วมจำนวนมาก นอกจากนี้พวกเขายังอยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสทั้งสอง พวกเขาเป็นบ้าไปกันแล้วหรือไง?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอดไม่ได้ที่จำพร่ำบ่น
แต่ทันทีที่เธอเดินออกมาพักผ่อนด้านนอกและเตรียมจะนั่งลง เธอก็สังเกตเห็นใครบางคนที่เดินตามเธอออกมา
มู่อวี้เฉิงเดินตามออกมา แววตาสีดำนิลจับจ้องมาที่เธอ “คุณกับลู่ซีจวี๋เป็นอะไรกัน?”
เขารู้สึกโกรธเคืองขึ้นมาดื้อ ๆ เมื่อหวนนึกถึงตอนที่พวกเขาสองคนสบตากัน
เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคู่ควงของเขา แต่ทำไมเธอถึงเลี่ยงจะตอบต่อหน้าลู่ซีจวี๋?
คิ้วของถงเหมี่ยวเหมี่ยวย่นเข้าหากัน เธอไม่ได้ต้องการตอบคำถามนี้ “ฉันไม่มีหน้าที่ที่จะต้องมาอธิบายเรื่องนี้ให้คุณฟัง”
เธอตอบตกลงมาร่วมงานเลี้ยงกับเขาเพื่อตอบแทนหนี้บุญคุณเขา
หากแต่เขาไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องอื่นได้
เมื่อคิดได้แบบนั้น ท่าทางของถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ดูแข็งข้อขึ้นเล็กน้อย
ความโกรธที่กำลังประทุอยู่ในใจทำให้ดวงตาของมู่อวี้เฉิงมืดมนลง เขาอยากจะถามเธอต่อ
แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้แล้วจะต้องใช้ไม้อ่อนมากกว่าไม้แข็ง ดังนั้นการทำเช่นนี้ต่อไปมีแต่จะสร้างปัญหาเปล่า ๆ
มู่อวี้เฉิงระงับความโกรธในใจและมองดูเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง “คุณไปพักผ่อนเถอะ”
ไม่ว่าลู่ซีจวี๋จะเป็นอะไรสำหรับเธอ แต่เขาจะไม่มีวันยอมให้ใครคิดเกินเลยกับเธอ เธอเป็นคู่หมั้นของเขาคนเดียว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรต่อ
ทั้งสองคนนั่งพักอยู่ในห้องรับรองได้สักพัก โทรศัพท์มือถือของมู่อวี้เฉิงก็ดังขึ้น
หลังจากนั้นเขาจึงลุกขึ้นและพูดว่า “ผมมีเรื่องต้องทำ เดี๋ยวจะออกไปก่อน คุณจะพักอยู่ที่นี่อีกนานมั้ย?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบรับอย่างเป็นกันเอง “อีกแป๊บหนึ่งค่ะ เดี๋ยวฉันออกไป”
“อืม ออกมาหาผมนะ” เขาพยักหน้าและหันหลังกลับ
หลังจากมู่อวี้เฉิงเดินออกไป ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากเขายืนกรานที่จะถามคำถามต่อ เธอก็คงไม่รู้ว่าจะต้องตอบคำถามอย่างไร
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นคือความเข้าใจผิด เมื่อมันเข้ามาพัวพันกับความสัมพันธ์ในปัจจุบันจึงกลายเป็นความไม่ชัดเจนเกิดขึ้น
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ต้องการคิดเรื่องยุ่งยากพวกนี้อีก จึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับรองไปที่ยังห้องน้ำ
งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในโรงแรมห้าดาว ดังนั้นห้องน้ำจึงมีอยู่เพียงน้อยนิดและอยู่ที่ชั้นหนึ่งเท่านั้น
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินเข้ามาแล้วพบว่ามันเงียบมาก แต่เธอกลับไม่ได้สนใจ
หลังจากกลับออกมา เธอเดินมาเติมเครื่องสำอางที่หน้ากระจก
ทว่าจู่ ๆ ประตูห้องน้ำกลับถูกทุบจนเกิดเสียงดัง ‘ปัง’
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสะดุ้ง มือของเธอสั่นจนลิปสติกสีแดงเกือบจะปาดไปด้านข้าง เธอจึงรีบเก็บมันแล้วออกไปข้างนอกทันที
จู่ ๆ ร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาใส่เธอ
“อุ้ย คนสวย? บังเอิญจัง นี่เราเจอกันครั้งแรกไหนแนะนำตัวหน่อยสิ อึก”
ชายขี้เมามีกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งไปทั่วร่างกาย เขาเดินโซซัดโซเซทำตาหยาดเยิ้มไปทางถงเหมี่ยวเหมี่ยว จากนั้นจึงเอื้อมมือออกมาคว้าถงเหมี่ยวเหมี่ยว
หัวใจของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเต้นระรัว เธอหยิบกระเป๋าและเขวี้ยงใส่เขา
“ไปให้พ้น!”
คนเมาถูกเขวี้ยงกระเป๋าใส่จนเซเกาะติดผนัง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรีบวิ่งออกไปคว้าบานประตู แต่กลับพบว่าไม่สามารถเปิดประตูได้
ประตูถูกล็อกจากด้านนอก!