[นิยายแปล]พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อม"หัวใจ"สู่ หัวใจ - ตอนที่ 6
บทที่1ตอนที่6
ผ่านมาสามสัปดาห์แล้วตั้งแต่การต่อสู้กับเทพมังกรเทียแมท(มีคนแนะนำให้เรียกเทพ) ต้องขอบคุณอาจารย์ด้วยที่คอยสนับสนุนข้าจนสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้
ยาของอาจารย์เป็นสูตรดั้งเดิมของเธอเองและดูเหมือนว่ายานั่นจะให้ผลค่อนข้างดีเป็นอย่าง และมันยังรักษาร่างกายได้เป็นอย่างดี
มันเป็นยาที่จะช่วยให้ผ่อนคลายแถมยังค่อยๆสมานแผลอย่างช้าๆ แม้จะขยับตัวแรงก็ไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถขยับตัวได้ประมาณสามสัปดาห์และข้าก็ขาดเขียนไปสามวันโดยไม่บอกกล่าว ตอนนั้นเองที่ข้าไปถึงที่โรงเรียนก็โดนอาจารย์อันริลากตัวไปทันที
อย่างไรก็ตามการที่ข้าขาดเรียนไปถึงสามวันและใช้เวลารักษาตัวประมาณสามสัปดาห์ก็ไม่มีใครสนใจมากนัก
หลังจากได้เห็นอาการบาดเจ็บของร่างกายโนโซมุแล้ว ตอนที่เขากลับเข้าเรียนครั้งแรกในรอบสามวันก็เจอกับมาร์
「นี่แกโง่หรือบ้ากันแน่วะเดินไปชนเข้ากับรถม้า โครตโง่เลยวะ」
เอ่อ แกก็เห็นข้าเป็นคนโง่ๆอยู่แล้วนี่ ดังนั้นข้าตอบโต้ไปก็เปล่าประโยชน์
ยังไงก็ตามข้าก็ไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่เขากล่าว
ยังไงก็ตามอาจารย์อันริไม่ได้โดนหลอกง่ายๆด้วยเรื่องพรรคนั้นก็เริ่มสอนคาบเรียนบรรยายตามปกติ
「โนโซมุกำลังซ่อนอะไรบางอย่างอยู่สิน้า~~~。ไม่ใช่เรื่องปกติเลยน้าที่บาดเจ็บหนักขนาดนั้นแล้วไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเนี่ยยย~~~」
「ไม่ครับ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ข้าก็แค่ได้รับบาดเจ็บระหว่างทำงานเท่านั้นเอง……」
「โกหกชัดๆ โนโซมุคุงชอบเข้าไปในป่า~。ฉันเองก็ได้ยินข่าวลือเรื่องที่ว่ามังกรโผล่ออกมาด้วย แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะน้าสัตว์อสูรเก่งๆมันไม่ค่อยเข้าใกล้ถนนหลักใช่ม้าาาาา~」
…………เอ่อ อยากจะพูดจริงๆ ข้าเจอกับมังกรตัวเป็นๆ แถมเป็นเทพมังกรเทียแมต และยิ่งไปกว่านั้นยังเอาชนะมันมาได้อีก ท้ายที่สุดแล้วข้าก็ยืนยันไปว่าประสบอุบัติเหตุระหว่างทำงาน
「แล้วทำไมถึงหยุดโดยไม่แจ้งให้ทราบละจ้ะ~โนโซมุก็อาศัยอยู่ในเขตหอพักยังไงก็น่าจะติดต่อสถาบันได้นี่หน่า~」
「พอดีข้าไข้ขึ้นและหลับไปเพราะอาการบาดเจ็บ แถมข้ายังไม่มีเพื่อนร่วมชั้นที่มาเฝ้าด้วย…………」
…………เอ่อพูดเองก็เจ็บเองแหะ เป็นเรื่องจริงที่ข้าไม่มีเพื่อนและข้าก็บอกความจริงไม่ได้
ข้าพยายามจะหนีออกไปจากสถานการณ์ตรงนี้
「………………อะฮือ」
อาจารย์อันริเริ่มร้องไห้
ทันใดนั้นเองข้าก็สับสน
「เอ๋ อาจารย์เป็นอะไรครับเนี่ย」
「แงงงงงง~! โนโซมุไม่เชื่อใจฉันง่าาาาา~~~!! อะไรกันคิดจะปกปิดอะไรกับฉันงั้นเหรอ~~!!!」
「เอะ เอ๊ะ ไม่ใช่นะครับ แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนั้นไปได้ละครับ!!」
「ก็เพราะเธอไม่ยอมบอกความจริงนะซิ~~~!! บาดแผลแบบนั้นนะมันไม่ใช่มาจากการโดนรถม้าชนหรอกใช่ไหมล่ะและยาที่ใช้นั่นก็ไม่ใช่ยาที่หาได้ในเมืองนี้ด้วย~~!!」
…………ท้ายที่สุดดูเหมือนว่าจะหลอกเธอไม่ได้เลย
แต่ยังไงข้าก็บอกความจริงไม่ได้ การต่อสู้ระหว่างข้าที่พยายามหลอกอาจารย์อันริและอันริที่พยายามร้องไห้เพื่อเค้นข้อมูลจากข้า……ยังไงก็ตามการที่อันริร้องไห้เหมือนกับเด็กแบบนี้มันก็
หญิงสาวแสนสวยร้องไห้ต่อหน้าผม ดวงตาอันอ่อนโยนนั่น ดูยังไงเธอก็เป็นห่วงผมจริงๆนั่นแหละ
ถ้ามองดูท่าทางของเธอแล้วดูยังไงก็อยากจะได้ยินคำตอบนั่นให้ได้
……เอ่อที่ข้าจะสื่อก็คือเธอเป็นคนที่ทำให้คนอื่นตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัวนั่นละนะ
「โนโซมุคุง…………บอกมาเถอะน้าา?」
ก็-บอก-แล้ว-ไง ว่าทำแบบนี้มันขี้โกงกันนี่!!!!
เมื่อพูดถึงผลลัพธ์แล้วระฆังเข้าเรียนก็ดังขึ้นเธอหยุดร้องไห้ สิ้นสุดการเทศนาจากอันริสักที ได้เวลาที่ผมต้องออกไปแล้ว
แต่หลังจากนั้นก็เห็นท่าทางของอันริที่ดูไม่พอใจเป็นอย่างมากและโกรธตลอดเวลาในคาบเรียนตอนเช้านั่นเอง
………………ขอโทษจริงๆนะอันริ
「โนโซมุคุงงงงง! อย่าแก้ปัญหาด้วยตัวคนเดียวซิ~~~!」
และตอนนั้นเองระหว่างเลิกชั้นเรียนก็โดนเรียก
…………อันริซังนี่คุณโตขนาดนี้แล้วนะครับอย่าทำตัวเป็นเด็กสิ…………。
◇◆◇
ชั้นเรียนศิลปะการต่อสู้ในช่วงบ่าย เป็นการจำลองการต่อสู้ในชั้นเรียนเช่นเดิม คู่ต่อสู้ของข้าก็คือ・・・
「เจอกันอีกแล้วนะไอ้เศษสวะ」
จะมีใครอื่นล่ะนอกจากมาร์
「แกนี่มันดวงกุดชะมัดเลยโว้ย ยังไงก็เหอะแกอย่าได้กังวลไปเลยเพราะไม่ว่าแกเจอใครแกก็ไม่ชนะหรอกวะ ฮะฮะฮะฮะฮะ!!」
ข้าเมินมาร์ที่ยังทำตัวกวนโอ๊ยเหมือนเดิม และเริ่มตั้งท่า
บาดแผลตอนนี้ค่อนข้างโอเคแล้ว ดีขึ้นมาหน่อย
ดาบเองก็ยังอยู่ในสภาพดี แม้ว่าจะเป็นดาบเลียนแบบ แต่มันก็รู้สึกเหมือนได้จับดาบของตัวเองจริงๆ
ส่วนตัว “พันธนาการ”…….ดูเหมือนว่าผมจะปลดปล่อยมันได้
แต่………….ข้าไม่คิดจะใช้มัน
เทียแมนที่ข้าฝันถึงข้ากังวลเกี่ยวกับมันเล็กน้อยและข้ามีความรู้สึกว่ามันจะมีอะไรเปลี่ยนไปหากข้าทำลาย “พันธนาการ” นั่นออกมา
เป็นตัวข้าเองที่ลังเลที่จะปลดปล่อย “พันธนาการ” ด้วยตัวเอง
◇◆◇
「ถ้าอย่างงั้นละก็นะ เริ่มได้~~」
มาร์ลุดหน้าขึ้นมาพร้อมกับเสียงตะโกนของนอร์นนั่นเอง
บางทีเพราะตั้งใจจะบดขยี้ข้าตั้งแต่เริ่มต้นดูเหมือนว่าจะเปิดใช้คิตั้งแต่แรกเริ่ม
ข้าจับตามองดูมาร์และก็เริ่มปรับคิให้เข้ากับสภาพร่างกายปัจจุบัน
「แหลกไปซะเหอะมึงงงงงงงงงง!!!」
มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่ลงมาจากด้านบนหลังจากนั้นก็ฟันในแนวนอน
ข้าหมุนตัวเพื่อสร้างแรงเหวี่ยงและเหวี่ยงดาบขึ้นเช่นเดียวกับดาบใหญ่ของมาร์ ดาบคาตานะของข้าหักเหวิถีทางดาบของมาร์จนข้าหลบการโจมตีพ้น
มาร์พยายามแก้วิถีดาบที่ถูกเบนออกและเหวี่ยงดาบลงมาบนด้ามดาบของข้า
ข้าหมุนข้อมือไปด้านหลังและถือดาบในแนวทแยงรับดาบของมาร์ ในขณะเดียวกันก็ผ่อนแรงที่ขาพร้อมกับรับแรงกระแทกของดาบ
การที่เป็น ดราก้อน สเลเยอร์ทำให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพสูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้ข้าสามารถกันการโจมตีได้โดยไม่ต้องสวนกลับ
ตามทิศทางดาบนั้นในชั่วพริบตาก็ฟันออกไป
มาร์ใช้ปลอกแขนกันเหมือนครั้งที่แล้ว แต่การกระทำนั่นข้าก็คิดไว้แล้ว
ในช่วงพริบตานั่นข้าผ่อนคลายทำใจให้สงบ ดาบนั่นกันได้ด้วยปลอกแขน แต่ด้วยการผ่อนคลายท่าทางกระทันหันทำให้เปลี่ยนท่าทางได้ทันที
การใช้แรงเหวี่ยงนั้นก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่งมือจากการถือดาบสองมือ ข้าปล่อยมือหนึ่งออกจากดาบเพราะใช้แรงเหวี่ยงเป็นตัวช่วย จากนั้นจึงต่อยเข้าไปที่ท้องของมาร์
「หนอยยยย!」
ใบหน้าของมาร์บิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด ร่างกายนั่นกระตุกราวกับกำลังเต้น
ข้าปล่อยดาบลงและจับหัวของมาร์จากนั้นใช้เข่ากระแทกหน้าหมอนั่น
มาร์เดินเซพร้อมกับเลือดกำเดาที่ไหลออกมา
ข้าพยายามที่จะโจมตีเข้าไปอีก・・・
「ไอ้เศษสวะเอ้ย มึงตายยยยยยยยยยยยยยยยย!!!」
พลังงานจำนวนมากปะทุขึ้นพร้อมกับเสียงคำรามของมาร์
ด้วยความรู้สึกได้ถึงอันตรายข้าจึงถอยออกมา
มาร์จ้องมาทางนี้ราวกับโกรธแค้น
การโต้กลับที่ไม่คาดคิดของผู้ที่อ่อนแอที่สุด ทำให้หมอนั่นคลานอยู่ตรงหน้าข้า เป็นการโจมตีที่สมบูรณ์แบบ
「ตาย! ไอ้เปรตเอ้ย!! จะต้องฆ่าให้ได้!!!!!」
มาร์ตั้งสติเข้าไปในดาบเล่มใหญ่นั่น จิตวิญญาณเริ่มรวมตัวกันจนอัดแน่นอยู่ที่คมดาบมันกลายเป็น คมดาบวายุที่รุนแรงจนเกาะติดอยู่กับดาบใหญ่นั่น
คิ “คมดาบล่องนภา”
มันเป็นเทคนิคของการจะฟันสิ่งๆหนึ่งให้ขาดด้วยสายลมที่เกาะติดอยู่กับดาบนั่น
นอกจากนี้ลมรอบใบดาบเองก็ป้องกันการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับการโจมตีและใช้แรงจำนวนมากเพื่อเบี่ยงวิถีดาบนั่นออกไป
มาร์เหวี่ยงดาบแห่งสายลมตรงมาที่ข้า
ข้าลังเลเพราะอ่านวิถีดาบแห่งสายลมของมาร์อยู่ แต่มาร์ก็รัวการโจมตีหลายครั้งเหมือนเดิม
หลบคมดาบนั่นต่อไปด้วยพละกำลังในตอนนี้ ถ้าข้าพยายามปัดป้องมันก็ต้องโดนสายลมนั่นพัดจนปลิวแน่ๆ
ไงก็เถอะนะ การโจมตีของมาร์ที่เต็มไปด้วยความโกรธ มันอ่านได้ง่ายกว่าตอนปกติเสียอีก ดังนั้นถึงจะสู้ต่อก็ไม่มีปัญหา
ด้วยการทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆพละกำลังกายของข้าก็คงจะเพิ่มขึ้นบ้าง
ภายใต้สถานการณ์ที่ถูก “พันธนาการ” ความสามารถของข้าก็ยังคงต่ำกว่านักเรียนทั่วไป
ถึงอย่างงั้นความสามารถมันก็ค่อยๆเพิ่มทีละน้อยทำให้การต่อสู้ของข้ามันทำได้หลากหลายมากขึ้น
จนถึงตอนนีข้าทำได้แค่ป้องกันการโจมตี ไม่สามารถสวนกลับได้แม้แต่น้อย ตอนนี้ข้าอ่านการโจมตีได้แล้วและเน้นไปที่การหลบแบบง่ายๆ
ข้าเองที่รู้สึกได้ถึงการเติบโตของตัวเอง ก็เตรียมตัวสำหรับก้าวถัดไป
◇◆◇
「อะไรกันวะเนี่ย!」
มาร์แสดงท่าทีสับสนคนอื่นเองก็เช่นกัน
「ทำไมข้าโจมตีมันไม่โดนเลยวะ!!!!」
จนถึงตอนนี้ข้าไม่เคยเห็นหมอนั่นเคลื่อนไหวแบบนั้นเลย
ตอนที่ข้ารับดาบนั่นเข้าไปก็มีทางเดียวคือต้องกลิ้นลงไปกับพื้น
วันนี้ดูท่าทางข้าจะเผลอไปหน่อย แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิมนั่นละ มันกลิ้งไปไกล
แต่ว่าตอนนี้ท่าทางของมันต่างออกไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
การเคลื่อนไหวของมันเองช้ากว่าพวกเรามาก แต่มันก็หลบการโจมตีได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่เพียงแค่หลบดาบข้า แต่ยังหลบคมดาบวายุที่ข้าใส่ไว้กับดาบได้ด้วย
ตอนนั้นเองที่ข้าเห็นหน้าหมอนั่น ใบหน้าของมันไม่มีท่าทีร้อนรนแม้แต่น้อย มันมั่นใจว่าหลบดาบของข้าได้สบายๆ
「เป็นไปได้・・・เป็นไปได้ยังไง!ถ้าแบบนั้นละก็!!!」
ตัวมันที่อยู่อย่างเศษสวะในชั้นปี 2 ของพวกเราในทางกลับกันตัวข้าที่เป็นถึงระดับสูงในห้องนี้
ข้ามั่นใจว่าความสามารถของข้าเทียบเท่า แรงค์ B
จู่ๆข้าก็นึกถึงความสามารถของมัน
“พันธนาการ”
ความสามารถที่ลดความสามารถของบุคคลให้ต่ำลงกว่าปกติ แน่นอนว่าตัวมันจะต้องถูกจำกัดพลังเวทย์ และคิแน่ๆ
หากว่ามันทำลายโซ่ตรวนที่ผูกมันมันได้มันจะน่ากลัวขนาดไหน นี่ขนาดมันถูกพันธนาการเอาไว้ มันต้องฝึกหนักระดับไหนถึงจะได้ถึงขนาดนี้
“…………ไม่เห็นจะจำได้เลย ว่าแกเป็นแบบนี้!”
อารมณ์ที่เดือดพล่านทำให้ข้าเริ่มตัดสินพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวหมอนั่นอย่างใจเย็น
และตอนนั้นเอง ข้าก็ได้พ่ายแพ้ให้กับมัน
◇◆◇
มาร์ที่มั่นใจในพลังของตัวเองมาโดยตลอด เขาที่เกิดมาพร้อมกับพลังอันมากมายและร่างกายที่แข็งแกร่ง ในไม่ช้าเขาก็แกร่งมากขึ้นจนไม่มีใครเอาชนะเขาได้
แม้ว่าจะอยู่ห้อง 10 แต่เขาก็เป็นคนที่มีความสามารถ ความภาคภูมิใจ ดวงตาของเขาเริ่มขุ่นมัว
โนโซมุท่าทางเปลี่ยนเล็กน้อยหลังจากการฟันของมาร์ มาร์เหวี่ยงดาบลง แต่ว่านั่นเป็นกับดักของโนโซมุ
โนโซมุที่ทำท่าทางกลิ้งลงกับพื้นกลับลุกขึ้นมาทันทีและโดนไปทางด้านข้างดาบของมาร์ที่แทงทะลุพื้นไปและคมมีดวายุที่บขยี้พื้นดินนั่นทำให้ทัศน์วิสัยโดยรอบเริ่มมองไม่เห็น
「ไอกร๊วกกกกกกเอ้ยยยยยย!!」
มาร์ที่ใจร้อนเปิดใช้งานคมดาบวายุในทิศทางที่เขาเชื่อว่าโนโซมุยืนอยู่
คิ “ค้อนสะบั้นปฐพี”
ใบมีดของดาบวายุมวลขึ้นด้วยแรงของลมอย่างเร่งรีบกลายเป็นดั่งการทุบสนั่นทั่วพื้นที่
การตัดสินใจนั่นทำให้พื้นที่รอบๆฝุ่นกระจายหายไปทำให้มาร์กลับมามองเห็น แต่ว่าเขาคิดผิดแล้วที่ทำเช่นนี้
โนโซมุไม่ได้อยู่ ณ ตรงนั้น ดาบที่ฟาดสนั่นจนแยกพื้นดินจนเป็นร่อง เขาอยู่ข้างๆมาร์แล้ว
เมื่อควันเริ่มปกคลุมบริเวณโดยรอบเขาก็ขยับขาของตัวเองและเอาดาบไปจ่อรอบข้างมาร์
สายตาของทั้งสองเข้าปะทะกัน โนโซมุตะวัดดาบลง มาร์ที่เปิดช่องว่าง
มาร์ที่ไม่สามารถหลบการโจมตีได้ เขาพยายามใช้ปลอกแขนป้องกัน แต่ท่าทางตอบสนองที่ช้าทำให้ตัวของเขาทรุดลงไปกับพื้น
ช่วงเวลานั้นเองดาบของโนโซมุก็ถูกดึงออกมา
ก้~~~อ~~~ง~~~งงงงง
「เอาล่ะ~~การดวลจบลงแล้ว วันนี้คาบเรียนหมดแล้ว ขอให้ทุกคนทบทวนบทเรียนโดยละเอียดด้วยนะ~~」
เสียงระฆังในตอนท้ายของคาบเรียนดังขึ้นและด้วยคำสั่งของอาจารย์อันริเองเพื่อนร่วมชั้นเองก็ผ่อนคลายลงเพราะความตึงเครียดของการดวลเมื่อครู่ กลายเป็นหัวข้อสนทนาไปแล้ว
โนโซมุหันหลังกลับจากนั้นเก็บดาบที่วางไว้เข้าฝัก
มาร์ไม่พูดอะไรและจ้องมองไปทางด้านหลังของโนโซมุขณะที่เขากำลังออกไปจากสนามฝึก
「นี่ มาร์ เป็นยังไงบ้างล่ะ สำหรับไอ้เศษสวะในวันนี้น่ะ」
「ดูเหมือนว่าจะรอดตัวไปนะ มาร์ ข้าคิดว่าไปจัดการมันดีกว่านะเพราะมันเริ่มเหิมเกริมละ!」
พวกนั้นสองคนพยายามพูดใส่มาร์แต่มาร์ไม่ได้ยินอะไรเลย
หมอนั่นมันแกร่งขึ้นแน่นอนไม่ผิดแน่ แต่เดิมมันก็แข็งแกร่งอยู่แล้วแต่ว่าข้าไม่ได้สังเกตเห็นมันเลย?
อย่างน้อยฝีมือดาบของมันในวันนี้ก็ดีกว่าข้าอย่างเห็นได้ชัด ผลการต่อสู้ในวันนี้มันแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์
「…………ความรู้สึกนี่มันอะไรกันวะ…………」
รู้สึกไม่สบายใจ ความโกรธที่ปะทุขึ้นในอก แต่ว่าทำไม
ทำไมถึงต้องซ่อนความสามารถเอาไว้?
…………ไม่ใช่ มันไม่ได้ซ่อนความสามารถ อย่างน้อยข้าก็ไม่โกรธเมื่อนึกถึงมันในตอนนี้
แล้วหมอนั่น…………………………ทำ…………เพื่อข้ายังงั้นเหรอ
…………ข้าไม่เคยโกรธตัวเองขนาดนี้มาก่อน
…………ข้าที่ภาคภูมิใจในตัวเองนักหนา อย่างน้อยข้าก็เกลียดคนที่มันอ่อนแอจนทำอะไรไม่ได้เลย แต่ว่าหมอนั่นกลับทำภายใต้เงามืด
และข้าก็เกลียดคนที่ไม่ยอมต่อต้าน แม้ว่าจะถูกเหยียบย่ำแค่ไหนก็ตาม
นั่นคือสิ่งที่ข้ารู้สึกับหมอนั่นจนถึงตอนนี้ แม้ว่าเขาจะโดนกดขี่จนถึงขีดสุด แต่เขาก็ยอมรับก้มหน้าโดยไม่สนใจอะไร มันเป็นคนที่ประเภทที่ข้าเกลียดที่สุด
แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเช่นไรกันแน่
เขาอดทนยิ่งกว่าใครๆ ข้าไม่รู้ว่าทำไม แต่หมอนั่นพยายามที่จะแข็งแกร่งขึ้น
และความพยายามมันก็อยู่ในระดับที่ข้าคาดไม่ถึงด้วย
ข้าไม่เคยคิดว่ามนุษย์ผู้ที่โดน “พันธนาการ”จะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดได้
นี่ข้าทำอะไรกับหมอนั่นลงไปกันแน่เนี่ย ทั้งๆที่หมอนั่นพยายามอย่างหนักมาโดยตลอด ข้าที่คอยเยาะเย้ยและล้อเลียนมัน
ข้ารู้สึกเริ่มไม่พอใจในตัวเองและเฝ้ามองหมอนั่นออกจากสนามฝึกไป