[นิยายแปล]พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อม"หัวใจ"สู่ หัวใจ - ตอนที่ 123
บทที่7ตอนที่8
จิฮัดและอินด้าที่ได้รับข่าวว่าโนโซมุตื่นขึ้นแล้ว ก็รีบไปที่สถาบันวิจัยกลอวรัมทันที
เมื่อเข้ามาในห้อง ไม่เห็นเพียงแต่ไอริสดิน่ากับคนที่อนุญาติเท่านั้นยังมีพวกมาร์ด้วย
ทันทีที่โนโซมุตื่นขึ้น ก็ได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดถี่ถ้วนและกำลังจะบอกผลลัพธ์
ทุกคนต่างหน้าแข็งเกร็งเพราะกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่จะออกมา
「เอ่อเกี่ยวกับอาการของเขา?」
「อืม ร่างกายแข็งแรงดี ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบางส่วนลดลง แต่จะกลับมาฟื้นฟูได้หากได้รับการฝึกดูแล」
ไม่มีปัญหา ขณะที่ได้ยินเช่นนั้นก็โล่งอก
เมื่อหมอหญิงออกจากห้องหลังจากอธิบายผลตรวจ มาร์ก็ตบไปที่ไหล่พร้อมกับพูดกับโนโซมุ
「เห้ย นอนมากไปปะเนี่ย」
「เอ่อ ผมเองก็ไม่คิดว่าจะหลับไปนานขนาดนี้หรอกนะ……」
「นั่นหมายความว่าคิดไว้อยู่แล้วเหรอว่าจะต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล?」
「ตราบใดที่ไม่ตายมันก็ไม่มีปัญหาใช่ไหมล่ะ เกี่ยวกับเรื่องนั้น……」
ขณะที่โนโซมุยิ้มออกมาแบบนั้นขณะจับหัวที่โดนเขกไปเพราะความคิดบ้าๆ จากนั้นก็มีสายตาทิ่มแทงราวกับหอกจากข้างๆ
ด้วยไหล่ที่สั่นเทา เขาเหลือบไปมองหญิงสาวผมดำทั้งสองคนและสาวเอลฟ์ที่มีท่าทีสั่นเทิ่ม
「เอ่อ ไม่สิ….ขอโทษ……」
โนโซมุรีบข้อโทษทันทีที่เห็นท่าทางของพวกเธอ แต่สาวๆก็แก้มป้องงอล
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เพราะพวกเธอคงจะกังวลเกี่ยวกับเขามาก พวกเธอล้วนต่างเป็นกังวลพยายามขอร้องหมอให้ช่วยรักษาโนโซมุให้หายโดยเร็วที่สุด แต่บุคคลเจ้าปัญหากลับทำท่าทีสบายใจเฉิ่ม
ดีใจนะที่ปลอดภัย แต่เนื่องจากผลกระทบและท่าทีของเขา ทำให้พวกเธอจ้องเขม็งอย่างแรง
โนโซมุเองก็รู้ดีว่าทำในสิ่งที่ไม่สมควร ดังนั้นเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอโทษ
「ไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะซับซ้อนขนาดนี้ ก็แค่ต้องการจะหยุดเคน….คิดแบบนั้นแหละ」
โนโซมุพูดคนเดียวขณะมองไปบนเพดาน
อันที่จริงเขาคิดแค่นั้น
ในเวลานั้นสิ่งเดียวที่คิดคือการช่วยลิซ่าและหยุดเคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้
เพราะงั้นนี่ไม่มากไปกว่าการกระทำที่บุ่มบ่ามเลย
คราวนี้ฟีโอก็เอามือทาบไว้ด้านหลังศีรษะพร้อมกับพูดออกมา
「แน่นอน หากพิจารณาถึงบุคลิกของโนโซมุพูดไปก็เท่านั้นแหละน้อ」
ดูเหมือนคนอื่นๆเองก็เข้าใจและยิ้มออกมา
อย่างไรก็ตาม การจ้องมองของเหล่าหญิงสาวหาได้เปลี่ยนแปลง
「แต่ก็อย่างที่มาร์บอก นอนเยอะเกินไปแล้ว ต่างจากตอนที่สู้กับมังกรแห่งความตายเลย รอบนี้อาการบาดเจ็บเองก็ไม่ได้มากนัก~」
「อย่างไรก็ตาม มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นตอนที่เข้าไปในเขตนักล่าของมันไหม?」
เมื่อได้ยินคำพูดของฟีโอ ทอมก็คาดเดา
อันที่จริงมีความคิดเกี่ยวกับอบิสค่อนข้างน้อย เพราะมันเข้าไปเกี่ยวข้องกับโนโซมุไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
โนโซมุเองก็จำได้เมื่อเข้าไปในเขตนักล่าของอบิสที่กลืนกินสัตว์อื่น ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเล็กน้อยกับคำถามของทอม
「อืม ก็อาจจะ แต่น่าแปลกที่ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรตกค้างในร่างกายเลยนะสัมผัสไม่ได้เลย」
โนโซมุพูดช้าๆขณะกำหมัดแน่น
จริงอยู่ที่ว่านอนมากเกินไปจนเวียนหัว และทั้งร่างกายก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ไม่ได้รู้สึกผิดแปลกอะไร
ในความฝันของโนโซมุ เขาจ้องมองไปที่มือ โซ่ที่มองไม่เห็นก็ปรากฏขึ้นพันรอบด้านเขาอย่างคลุมเครือ
ตอนนั้นได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
จู่ๆโซ่ที่มัดเอาไว้ก็หลุดออกและพันไว้รอบๆเคนซึ่งได้หลอมรวมกับอบิส ทันใดนั้นเคนกับเจ้านั่นก็เริ่มแสดงท่าทีเจ็บปวด
ในเวลานั้นดูเหมือนกับว่าโนโซมุใช้โซ่ที่มองไม่เห็นสะกดพลังของอีกฝ่ายเอาไว้
แต่ว่าเขาไม่เคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้มาก่อนเลย หลังจากที่โนโซมุแสดงความสามารถนี้ เขาได้ลองสิ่งต่างๆค้นหาข้อมูลในห้องสมุด แต่ไม่มีคำอธิบาย
โนโซมุขมวดคิ้วขณะจ้องมองที่มือของเขาเอง อินด้าก็จ้องมองเขาด้วยท่าทางที่ซับซ้อน
ด้วยความจริงที่ว่าอบิสฟื้นคืนชีพมาหลังจับตัวทหารนายหนึ่ง โนโซมุเองก็กังวลว่ามันอาจจะมีผลกับเขาบ้าง
ในเวลาเดียวกันก็ส่ายหัว พยายามไม่ให้ตัวเองได้คิดแบบนั้น
「แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่นายได้เป็นดราก้อนสเลเยอร์?」
ในทางกลับกันจิฮัดที่ได้ยินสถานการณ์ปัจจุบันของโนโซมุจากซอนเน่ก็ไม่ได้แปลกใจเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตาแก่ได้ตำหนิเขาไว้ เขาจึงต้องมาถามโนโซมุโดยไม่ให้คนรอบข้างกังวล
「ก็ไม่รู้หรอก แต่ดูเหมือนอาจารย์จิฮัดจะรู้อะไรสักอย่าง」
「อาได้ยินเรื่องต่างๆมาจากพวกเขาบ้างแล้ว แต่ว่าก็อยากได้ยินจากปากนายโดยตรงด้วย……」
เมื่อจิฮัดเหลือบมองไอริสและคนอื่นๆพวกเธอก็พยายามขอโทษโนโซมุ
「งั้นเหรอ……」
เป็นไปได้มากว่าพวกเธอรู้สึกอายที่ต้องบอกความลับของโนโซมุโดยไม่ได้รับอนุญาติ
ด้วยรอยยิ้มอันบิดเบี้ยว โนโซมุโบกมือปัดเบาๆแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ”
พลังที่ปล่อยออกมาตอนที่ปลดพันธนาการดูยังไงมันก็ไม่ใช่พลังของมนุษย์ธรรมดาทั่วไปอยู่แล้ว
พลังงานจำนวนมหาศาลที่ปะทุขึ้นและแสงทั้งห้าสีก็ปะปนเข้าไปใน “คมดาบมายา-บทสุดท้าย-”ของโนโซมุที่ประกอบด้วยพลังธาตุทั้งห้าที่ไม่ใช่ทั้งคิหรือเวทย์
ตอนนี้เขาได้เผยไพ่ในมือให้เห็นหลายอย่างแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบหนี ค่อนข้างจะดีกว่าที่จะพูดให้เข้าใจกันและดึงมาเป็นพันธมิตรด้วย
โนโซมุยักไหล่และหายใจออกลึกๆสงบสติอารมณ์และเผชิญหน้ากับจิฮัด
เป็นอีกครั้งที่เขาต้องเล่าความลับ พูดคุยเกี่ยวกับเทียแมตที่โดนผนึกและมันเกิดขึ้นได้ยังไง
ไอริสและคนอื่นๆได้อธิบายพื้นฐานแล้ว แต่เขาคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่จะอธิบายด้วยตัวเอง
「แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับผม?」
หลังจากบอกความลับทั้งหมด โนโซมุก็มองตรงไปยังจิฮัดและตอบคำถามแบบตัวต่อตัว ตอนนี้น้ำเสียงของเขาไม่ได้มีความสั่นเครือ
เป็นความจริงที่ว่ากรณีเลวร้ายที่สุดอาจจะถูกขัง อย่างไรก็ตามการที่ได้พบกับไอริสและมาร์ก็คงจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้
บางทีคงจะเข้าใจความคิดของโนโซมุ จิฮัดเริ่มอธิบายสถานการณ์ปัจจุบันด้วยน้ำเสียงที่สงบโดยไม่มีน้ำเสียงใดเป็นพิเศษ
「มีแต่คนที่นี่เท่านั้นที่รู้ว่านายคือดราก้อนสเลเยอร์ ข้าเองก็ไม่อยากเปิดเผยต่อสาธารณะเช่นกัน ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ในที่สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต。」
มันไม่ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต โนโซมุก็รู้ดีว่ามันก็คงจะเป็นแบบนั้น
ไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่ามีเพียงคนในนี้เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แต่อย่างน้อยก็มีเหตุผลที่สามารถคาดเดาได้ว่าข้อมูลของโนโซมุค่อนข้างจำกัด
「เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของดราก้อนสเลเยอร์ในรอบหลายร้อยปี เป็นที่จชัดเจนว่าแต่ละประเทศจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องแน่ๆหากรู้เรื่องนี้ แม้ว่าจะไม่ทำเช่นนั้น แต่พวกนั้นก็จะพยายามเข้าหานายอย่างแน่นอน」
ก็ว่าแบบนั้นเหมือนกัน คามที่คาดไว้พวกนั้นจะไม่พูดอย่างเปิดเผยอย่าง “การทดลองกับมนุษย์”
「ตอนนี้จะให้ไปที่สถาบันเหมือนแต่ก่อน แต่ถ้าประเทศต่างๆพยายามบังคับให้นายเข้ารับการทดลองกับมนุษย์และพยายามจะทำสิ่งที่ไร้มนุษย์ธรรม ข้าเองก็อาจจะต้องลงมือและทำให้ทั่วทุกทวีปรู้
แม้ว่าในกรณีนั้นจะทำให้นายได้ใช้ชีวิตค่อนข้างจำกัดอิสระก็ตาม……」
ดูเหมือนว่าจะคิดมาตรการรับมือกับเรื่องนี้ไว้แล้ว
ตามที่จิฮัดกล่าว วิธีหนึ่งก็คือการเปิดเผยต่อสาธารณะให้รับรู้ทั้งหมด
ถ้าเป็นแบบนั้นชีวิตของโนโซมุก็จะโดนจำกัดอิสระภาพ
「แต่ถึงอย่างนั้นแต่ละประเทศก็พยายามจะใช้อำนาจของนายด้วยเหตุผลบางอย่าง นั่นเป็นเหตุผลที่ตอนนี้ อยากให้นายได้กักเก็บพลังของดราก้อนสเลเยอร์ไว้เงียบๆอย่าได้ปลดปล่อยมัน……」
「เดิมที ผมเองก็ไม่อยากอวดพลังนี้หรอกครับ มันเป็นดาบสองคมสำหรับผม แต่ยังไงเงียบไว้ก่อนก็ดีกว่า……」
โนโซมุเองก็สามารถคาดเดาได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อได้ยินจากปากคนอื่นจริงๆ มันเป็นเรื่องที่น่าสลดใจจนทำให้รู้สึกหนักใจเลย
อย่างไรก็ตามเขาไม่อยากถูกปฏิบัติเหมือนพวกหนูทดลอง
กรณีเลวร้ายที่สุดเขาจะต้องต่อต้านมัน
ถึงแม้จะเป็นจิฮัดก็ตาม หากโนโซมุปลดปล่อยพลังก็คงเอาอยู่
ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าเขาจะสามารถควบคุมพลังนั้นได้มากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องปะทะกันไม่มีใครอื่นนอกจากจิฮัดที่จะหยุดเขาได้ และในกรณีเลวร้ายที่สุด จะต้องหลั่งเลือดมากแค่ไหนก็ไม่ทราบได้
「อืม ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าจะยังไม่เข้าใจพลังของดราก้อนสเลเยอร์อย่างเต็มที่ นั่นเลยทำให้เป็นปัจจัยที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง
ดังนั้นก็เลยต้องพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆและพยายามคลี่คลายให้ได้ อย่างแรกเลยได้ฝึกฝน “พลังนั่น”และได้ฝึกพลังเวทย์ที่ไม่ถนัดด้วยละนะ……」
「กรณีนั้นให้อาจารย์อันริให้ความร่วมมือ นอกจากห้ามข้อมูลรั่วไหลไปสู่ภายนอกด้วย……」
「ถ้างั้นฉันก็จะเป็นคนที่เลือกสถานที่และอุปกรณ์การฝึกที่จำเป็นสิน้าาา อาจารย์อินด้าก็เก่งเรื่องพลังเวทย์ ให้มาช่วยหน่อยได้มะ~」
อินด้าและนอร์นเองก็อยู่ ณ ที่แห่งนี้ด้วย
ตอนแรก โนโซมุก็เป็น นักเรียนทั่วไปของสถาบันโซลมินาติ
ตราบใดที่ตัดสินใจจะปกป้องสถาบันแห่งนี้และนักเรียน โนโซมุเองก็อยู่ภายใต้การดูแลของจิฮัด
แน่นอนจิฮัดไม่ได้เก่งในทุกๆด้านและยังมีภาระผูกพัน อย่างน้อยเขาก็ต้องกำจัดความกังวลของโนโวมุให้มากที่สุด
「อืมมมม……」
โนโซมุเกาแก้มขณะที่เหล่าอาจารย์ยังคงพูดคุยต่อ
เป็นความจริงที่ว่าพลังของดราก้อนสเลเยอร์ที่โนโซมุได้ไปมีพลังมหาศาล แต่มันก็เป็นอันตรายต่อเขาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น โนโซมุที่ใช้พลังนั่นเพื่อช่วยลิซ่านั้นน่ากลัวมาก
ถ้าต่อสู้ไปพร้อมกับความเกลียดชังที่กลืนกินร่าง ก็จะจบลงด้วยการมีคนตายมากขึ้น
แม้ว่าจะรู้เรื้่องพวกนี้อยู่แล้ว จะมีสักกี่คนที่สามารถหยุดยั้งได้?
「นายมีพลังอันยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เพียงแค่พลังของดราก้อนสเลเยอร์เท่านั้น นายยังเชี่ยวชาญวิชาดาบของ ชิโนะ มิคางุระ แถมยังเป็นผู้สำเร็จวิชาอีกด้วย
แม้แต่การฝึกพิเศษ ก็ยังทำได้ดีต่อศัตรูที่มีพลังเหนือกว่าตัวเอง และรอดชีวิตมาจากมังกรแห่งความตายได้ บอกตามตรงหลายๆประเทศคงจะต้องการตัว……」
ในขณะที่พูดอย่างนั้น จิฮัดก็พูดเพื่อเน้นย้ำ
สายตาที่เฉียบแหลมจ้องมองทะลุผ่าน โนโซมุเองก็รู้สึกตกใจกับเจตจำนงของจิฮัด
「สักวันนายจะต้องตัดสินใจเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง」
ตัดสินใจเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง โนโซมุกลืนน้ำลายกับคำพูดหนักแน่นที่ดังก้อง
ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง
「ก็ดีสำหรับตอนนี้ แม้ว่าจะเรียนจบไปแล้วแต่ก็ยังคงอยู่ในสถาบันได้เพราะฝีมือดาบอันมีค่า แต่ว่าก็จงจำไว้ล่ะ」
จิฮัดทำท่าทีผ่อนคลายและตบไหล่โนโซมุเบาๆ อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นการตบไหล่เบาๆ แต่โนโซมุก็รู้สึกว่ามือนั้นหนักอย่างน่าประหลาด
「อืม แล้วเกิดอะไรขึ้นกับลิซ่า……?」
「เธอไม่มีปัญหาอะไรทางด้านร่างกาย เธอมาเรียนตามปกติ ตอนนี้ก็น่าจะรู้แล้วว่านายตื่น」
เขาเป็นลมก่อนที่จะยืนยันว่าลิซ่าปลอดภัย ดังนั้นโนโซมุจึงถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอปลอดภัยดีรึเปล่า
「ขอบคุณมากเลยนะครับ」
「ไม่หรอก ตอนนั้นข้าเองก็อยู่ที่นั่น ในเวลานั้น การเสียสละก็เลยมีน้อยเพราะความพยายามของนาย ในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์เมืองนี้ ข้ารู้สึกขอบคุณจริงๆ
แต่ก็อยากจะขอโทษด้วยสำหรับความผิดพลาดของพวกเรา ข้าเสียใจจริงๆ」
โนโซมุตกใจที่จู่ๆก็ได้รับคำขอบคุณและคำขอโทษ ด้วยความจริงใจ จริงๆก็ไม่คิดว่าจะได้รับคำขอโทษตรงๆแบบนี้
ด้วยความรู้สึกแบบนั้น อินด้าที่อยู่ด้านหล้งเองก็โค้งหัวให้เช่นกัน
「ขอโทษสำหรับเรื่องที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้นะ……」
「เอ่อ เงยหน้าขึ้นเถอะครับ……」
พูดตามตรง เห็นแบบนี้ไม่สบายใจ
มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นกับเคน แต่โนโซมุเองก็ตระหนักดีว่าความบกพร่องของตัวเองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุ
แม้ว่าตัวเองจะโดนตำหนิ แต่ทางเราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปวิจารณ์คนอื่นได้
「แต่ว่า การกระทำนั่นก็บ้าบิ่นจริงๆ พลังนั่นมันอะไรกัน ถึงแม้จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแต่ไม่คำนึงถึงตัวเองแบบนี้ก็..」
「เอ่อ ….. ขอโทษด้วยจริงๆครับที่ทำให้เป็นห่วง」
อย่างไรก็ตาม แม้แต่จิฮัด ก็ไม่อยากจะยอมรับในการใช้พลังนั่นโดยบ้าบิ่น มันต้องมีมาตราการ
ถึงแบบนั้น มันก็เหมือนกับเป็นความพอใจในตัวเอง จิฮัดเองก็รู้สึกอับอายที่ทำอะไรไม่ได้กับนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือและก็ต้องจบลงด้วยการให้พวกเขาจบเรื่องด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม การถูกคนระดับสูงคำนับแบบนี้มันค่อนข้างน่าอายสำหรับโนโซมุที่เป็นพลเมืองตัวน้อย
「อืม แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเคนเหรอครับ?」
เพื่อเปลี่ยนเรื่อง โนโซมุถึงถามเกี่ยวกับเคน
ในเวลาต่อมาท่าทางของจิฮัดและอินด้าก็มีสีหน้าคลุมเครือ
เมื่อจิฮัดสบตากับอินด้าครู่หนึ่ง เขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่และอ้าปากช้าๆ ขณะที่พูดด้วยบรรยากาศหนักอึ้ง
「ก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่ว่าจะเรียกว่ามีชีวิตอยู่ได้ไหมนะ?……」
「ร่างกายยังคงทำงานตามปกติ แต่ก็อยู่ในสภาพโคม่าลึกแถมยังโดนอบิสสิงสู่ ดังนั้นก็เลยต้องผนึกเขาอยู่ในมาตราการสูงสุด
นี่คือการตัดสินใจของสภาเมืองนี้ และทางเราก็ทำอะไรกับมันไม่ได้ต้องขอโทษจริงๆ……」
「……งั้นเหรอครับ」
ตามคำกล่าวของอินด้าที่เป็นผู้ช่วยของจิฮัด เคนถูกผนึกไว้ที่ส่วนลึกสุดในสถาบันกลอวรัม
ทั้งทางกายภาพและเวทย์มนตร์ที่ทรงพลังถูกใช้เพื่อผนึกเอาไว้
ตอนนี้อัตตาและความตั้งใจของเขานั้นไม่เหมือนกับโนโซมุเลย และเขาก็แค่ “มีชีวิต”อย่างแท้จริง
แน่นอนก็คงไม่ได้เจอกันอีก ทั้งนี้ทางรัฐสภามีอำนาจเหนือการผนึกในครั้งนี้และไม่ใช่เขตอำนาจที่จิฮัดเอื้อมถึงอีกต่อไป
รู้สึกปวดหัวกับสภาพอันน่าเศร้าของอดีตเพื่อนสมัยเด็ก ร่างกายของโนโซมุนั้นสั่นคลอน
「……โนโซมุไม่เป็นไรนะ?」
เพื่อนๆรอบตัวต่างส่งเสียงกังวลขณะพยายามสนับสนุนเขา
โนโซมุยกมือขึ้นเพื่อขัดจังหวะและบอกว่า “ไม่เป็นไร” แต่ก็กัดริมฝีปากแน่น
โนโซมุแหงนมองฟ้า “นี่มันคือจุดจบแล้วสินะ”
“เพราะว่าข้ารักเธอยังไงล่ะ” เพราะความรู้สึุกนั่นทำให้เคนทำลายความฝันของคนสำคัญ และโนโซมุก็จบมันด้วยมือของเขาเอง
เขาไม่คิดว่าเขาทำอะไรผิดอีกแล้ว เขาไม่คิดที่จะเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปดังนั้นเขาจึงชักดาบออกมาด้วยความรู้สึกแบบนั้น
ถึงอย่างนั้น ความเจ็บปวดที่หน้าอกก็ยังคงดำเนินต่อไป
สิ่งเดียวที่ช่วยเยียวยาก็คือลิซ่านั้นปลอดภัยแล้ว
「ยังไงก็ตาม ใจเย็นๆก่อน ไว้มาคุยเรื่องต่างๆหลังจากที่กลับสถาบันได้ก็แล้วกัน」
「จากการตรวจร่างกายพบว่าปกติ ทุกคนสามารถเข้าเยี่ยมได้อย่างทั่วถึงแล้ว และมีหลายอย่างที่อยากจะพูด ดังนั้นใจเย็นๆและค่อยไปเจอกันที่สถาบัน……」
จิฮัดและอินด้ามองโนโซมุที่กำลังเจ็บปวดด้วยความอ่อนโยนแล้วมองดูไอริสและคนอื่นๆ และออกจากห้องไป
หลังจากที่ทั้งสองออกจากห้องพยาบาล สหายของโนโซมุก็เดินเข้ามาหาเขา
「ทุกคน ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง」
「จริงๆเลยนะ ต้องทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย……」
「อืมก็ดีแล้วล่ะที่ฟื้นขึ้นมา!」
ทุกคนยิ้มอย่างโล่งอกให้กับโนโซมุที่ก้มศีรษะ พวกเขากำลังให้กำลังใจโนโซมุที่ได้ยินเรื่องของเคนหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ยังคงเจ็บปวดอยู่ แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเพื่อนๆแก้มของโนโซมุก็คลายลงอย่างเป็นธรรมชาติ
「พอดีว่าฝันด้วยน่ะ」
「ฝัน?」
「ใช่เห็นมังกรนั่นในฝัน……」
คำพูดของโนโซมุที่พูดเรื่องเทียแมต ความตึงเครียดเริ่มเข้าหาเหล่าเพื่อนๆ
「พยายามจะเอาชีวิตนายอีกแล้วเหรอไง?」
มาร์ขมวดคิ้วหลังคิดสักครู่หนึ่ง โนโซมุส่ายหัวช้าๆ
「ไม่หรอก ก็เป็นความจริงทีว่าตอนจบเกือบถูกฆ่าตาย แต่ว่ามันไม่ใช่บรรยากาศแบบนั้นมันต่างไปจากเดิม นอกจากนี้……」
「นอกจากนี้……?」
ฉากนั้นผุดขึ้นในใจของโนโซมุ ร่างของเทียแมตที่กำลังร้องไห้น้ำตานองหน้าและร่ำไห้ต่อสวรรค์
เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่? เอกสารส่วนใหญ่เมื่อห้าพันปีก่อนยังไม่ถูกค้นพบและยังมีอีกมากมายที่ปกคลุมไปด้วยความลึกลับ
นอกจากนี้ความบ้าคลั่งที่รู้สึกได้ตั้งแต่แรกพบ ยังสัมผัสได้ถึงความเศร้าโศกในเสียงของเทียแมตอย่างชัดเจน
เมื่อคิดแบบนั้น โนโซมุก็ส่ายหัว
「เอิ่ม มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่ามังกรตัวนั้นมีเรื่องราวซับซ้อนกว่าที่พวกเราคิด」
ยังไม่เข้าใจเหตุการณ์โดยรวม
อย่างไรก็ตามโนโซมุรู้สึกว่าเทียแมตนั้นค่อนข้างคล้ายกับเขา
「แน่ใจงั้นเหรอ?」
「อืม!」
ร่างของโนโซมุสั่นคลอนในขณะที่เขาพยักหน้าเล็กน้อยกับคำถามของซีน่า ตัวเขาที่เพิ่งตื่นขึ้นยังอ่อนแรง
「ยังรู้สึกไม่ค่อยดีอยู่อีกเหรอ? พักผ่อนหน่อยก็ดีนะ」
「อืม ก็ว่างั้นแหละ」
หากมองออกไปนอกจากห้องพยาบาลพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว มีเพียงแสงยามพลบค่ำเท่านั้นที่ยังคงแผดเผาท้องฟ้า
พูดตามตรงมาร์และคนอื่นๆค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับโนโซมุ แต่เมื่อพวกเขาเห็นเขาก็ให้คำตอบที่ชัดเจน
มันอาจจะกลายเป็นภาระสำหรับเขาที่ต้องอยู่ในห้องพยาบาล
「โนโซมุคุงงงงงงงงง อาจารย์จะเตรียมบทเรียนพิเศษให้น้าาาา ดังนั้นหายเร็วๆ~!」
「อ่า ขอบคุณมาก อาจารย์อันริ แต่ว่าได้โปรดกรุณาผมด้วย……」
อืม ! โนโซมุยิ้มเล็กน้อยให้อาจารย์อันริที่กำลังครื้นเครงอยู่
แต่ว่าการฝึกพิเศษมันคืออะไร?
โนโซมุรู้สึกไม่ดีกับท่าทางของอันริ
「อะไรกัน อย่ามาทำหน้าตาแบบนั้นสิ เป็นความผิดของนายที่หลับเยอะเกินไป」
「เอ่อพูดแบบนั้นผมก็แก้ตัวไม่ได้อะสิ……」
「ก็ไม่รู้หรอกน้า แต่ว่าบทเรียนเสริมพิเศษจากอาจารย์อาจจะทำให้นายกลับมามีชีวิตชีวาอีกก็ได้น้อ…」
โนโซมุยักไหล่เมื่อได้ยินมาร์เหน็บ ขณะที่ฟีโอพยายามวางแผนชั่วร้ายอะไรบางอย่าง
ทอมและโซเมียที่ฟังที่ทั้งสามคุยกันก็เอียงคอสงสัย
「บทเรียนพิเศษ?」
「เป็นการฝึกที่ต่างไปจากต่างปกติงั้นเหรอ? ทิม่าจังพอจะเข้าใจอะไรบ้างไหมคะ?」
「เอ่อ คือว่าเรื่องแบบนั้นยังเร็วเกินไปสำหรับโซเมียจังนะ……」
ทิม่าเลี่ยงตอบคำถามของโซเมียที่ไร้เดียงสาขณะที่หน้าแดงไปด้วย
ในทางกลับกันมิมูรุที่ได้ยินก็กระโดดเข้าหาทอมแล้วพูดขึ้น
「อืม อืม เดี๋ยวฉันเองก็จะสอนบทเรียนเสริมใส่ไข่กับทอมด้วยล่ะกัน! แม้ว่าทอมจะไม่ยอมก็……」
「เอ๋?」
「เดี๋ยว คิดไปไกลเลยเนอะ!」
อย่ามาพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าเด็กได้ไหม ด้วยความมุ่งมั่นเช่นนั้น ซีน่าคว้ามิมูรุแล้วดึงออกมาจากทอม
ปั่ก ! มิมูรุที่โดนกระชากออกมาก็ร้องเสียงหลง ขณะกลอกตาไปมา
「ยัยนี่……เฮ้อ โนโซมุคุง งั้นวันนี้พวกเรากลับกันก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์」
โนโซมุยังคงยิ้มตอบกลับซีน่าที่ส่งรอยยิ้มมาให้
รอยยิ้มของซีน่าทำให้จิตใจรู้สึกสงบ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโนโซมุ แต่อย่างใดก็ตามมันเป็นความรู้สึกนุ่มฟูอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
「ขอบคุณนะซีน่า ราตรีสวัสดิ์」
โนโซมุพยักหน้าให้กับคำพูดของซีน่าแล้วนอนลงบนเตียง
เพื่อเป็นการตอบกลับซีน่าพยักหน้าเล็กน้อยและลากมิมูรุออกจากห้องพยาบาล
มีเรื่องกังวลตั้งมากมาย แต่ตอนนี้ขอแค่พักก่อน
เหล่าเพื่อนๆที่ได้พูดคุยกับโนโซมุก็เริ่มออกจากห้องพยาบาลไปทีละคน
เมื่อไอริสวางมือไปที่ประตู เธอก็มองย้อนกลับมาราวกับนึกอะไรบางอย่างออก
「ราตรีสวัสดิ์ โนโซมุ ฉันดีใจมากเลยล่ะที่นายฟื้นขึ้นมา……」
「ไอริส……」
แม้ว่าดวงตาของเธอจะบวมแดง แต่ก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า
ชั่วครู่หนึ่ง หัวใจของโนโซมุเต้นแรงขึ้น
แต่ว่าขณะนั้นเองใบหน้าของไอริสก็เศร้าหมองในทันที
「ฉันรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะลิซ่า แต่…..แต่ว่า……」
「เอ๋?」
「ขอโทษนะ ! ไม่มีอะไร ! เอ่อลืมไปเถอะ แล้วก็อย่าทำอะไรแบบคราวนี้อีกล่ะ」
ก่อนที่โนโซมุจะถามกลับไอริสก็หายตัวไปที่หลังประตู
ใบหน้าที่เศร้าโศกราวกับทนกับบางสิ่งบางอย่าง ทำไมถึงได้มีสีหน้าแบบนั้น
จู่ๆเธอก็พูดถึงลิซ่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่
ก่อนที่จะได้คำตอบ ร่างกายของโนโซมุก็โดนความง่วงเข้าถาโถม จิตใจนั้นต้องการพักมากกว่าร่างกาย
เกี่ยวกับลิซ่าที่ตอนนี้เขายังไม่ได้เจอหน้าเธอ เคนที่ถูกผนึก ได้เห็นอดีตของเทียแมต และใบหน้าที่เศร้าโศกของไอริส ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงคาใจ
แต่ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้ เพราะร่างกายสั่งให้พัก และในไม่ช้าก็ต้องนอนหลับไป
ไม่นานประตูห้องพยาบาลก็เปิดออกอย่างเงียบๆผ่านประตูที่เปิดออกช้าๆ ลิซ่าที่มีผมสีแดงเพลิงก้าวเข้ามาในห้อง
เมื่อเธอมองไปใกล้โนโซมุที่กำลังนอนหลับอยู่ เธอก็ยิ้มอย่างโล่งอก
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มก็หายไปในไม่ช้าและถูกแทนที่ด้วยความเศร้า
「โนโซมุ……」
โนโซมุที่ผล็อยหลับไปแล้วไม่ได้ยินเสียงเรียกของหญิงสาว อย่างไรก็ตามเธอได้ยินมาว่าโนโซมุนั้นฟื้นแล้วและสามารถลุกขึ้นยืนหรือนั่งได้
เมื่อลิซ่าเข้ามาที่สถาบันก็ได้ยินเรื่องที่โนโซมุฟื้นขึ้นมา และบังเอิญพบกับจิฮัดที่ออกมาจากที่นี่
เมื่อเธอได้ยินเรื่องของโนโซมุที่ฟื้นขึ้นมา เธอก็รีบมาที่ห้องในทันที แต่ก่อนที่จะเปิดประตูก็ได้ยินบทสนทนาระหว่างเพื่อนๆของเขา
ทันทีที่ได้ยินโนโซมุพูดอย่างร่าเริง
พอถึงเวลาที่พวกเพื่อนๆของเขากลับบ้าน
ลิซ่าก็รอให้โนโซมุหลับก่อนค่อยๆย่องเข้ามาหาโนโซมุ
เธอไม่กล้าเข้าไปในห้อง โดยมีที่เพื่อนๆของโนโซมุอยู่ได้
หลังจากได้คุยกับซีน่าและได้รับรู้ความรู้สึกอันแสนบริสุทธิ์ของเธอแล้ว เธอเองก็ไม่อยากจะเพิกเฉยต่อความตั้งใจของโนโซมุ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามความขี้ขลาดยังคงซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจของเธอจนไม่สามารถทำดั่งที่หวังได้
เธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับโนโซมุ เธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับความปราถนาอันแรงกล้าของไอริสที่มีต่อโนโซมุได้เลย
「ขอโทษนะ」
ลิซ่ากัดฟันด้วยความรู้สึกผิด
โนโซมุที่หลับไหลอยู่ไม่ได้ยินเสียงของเธอ ถึงอย่างนั้นเธอก็อยากจะระบายมันออกมา
「……ขอบคุณนะที่ช่วยฉันเอาไว้ สุดท้ายแล้วนายก็คอยอยู่เคียงข้างฉันตลอดเวลา」
นอกจากคำพูดแล้ว น้ำตาก็เอ่อล้นออกมาอย่างเป็นธรรมชาติจนหยุดมันไม่ได้
เธอมีความรู้สึกผิดต่อโนโซมุอย่างมาก สมเพชตัวเองที่ขี้อาย และเหนือสิ่งอื่นใด ที่ต้องปล่อยให้เขาเผชิญหน้ากับความบิดเบี้ยวของเคนด้วยตัวคนเดียว
ใบหน้าที่หลับไหลของโนโซมุนั้นสงบนิ่งต่อหน้าเธอ จนเธอรู้สึกอยากสัมผัสแก้มของเขา
เธอค่อยๆยื่นมือออกไป
แต่ก็ฉุกคิดได้ว่า “ตัวฉันเองไม่มีคุณสมบัติพอที่จะแตะต้องเขา”
ฉันทำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่จะชดใช้ก็ยังไม่ได้ จะตอบแทนอะไรก็ไม่ได้
ภายในอกยังคงมีความเจ็บปวดที่วนเวียน ความรู้สึกผิดและความลังเลที่มีต่อโนโซมุทำให้ปลายนิ้วนั้นสั่นเทา
แต่ถึงอย่างไร……。
「……ราตรีสวัสดิ์โนโซมุ หายเร็วๆนะ」
หลังจากส่งคำพูดนั้นไปถึงโนโซมุ เธอลุกขึ้นจากที่นั่งและค่อยๆออกจากห้องไปด้วยความไม่เต็มใจ
◆◇◆
เมื่อลิซ่ากลับมาที่สวนสาธารณะกลาง ที่มืดสนิท คามิลล่าเองก็กำลังรอเธอด้วยสีหน้ากังวลใจ
「ลิซ่า โนโซมุเป็นยังไงบ้าง?」
「อืม….ดูท่าทางจะสบายดีแล้วล่ะ」
「เฮ้อ ท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงไม่กล้าที่จะพูดกับเขาตรงๆสินะ……」
คามิลล่าถอนหายใจมองลิซ่าที่ก้มหน้าลง
คามิลล่าเองก็คาดหวังไว้บ้าง แม้ว่าความเข้าใจผิดสองปีจะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ก็ไม่มีทางที่จะพูดคุยกับโนโซมุแบบเป็นกันเองได้ในทันที
ในตอนแรกตัวเธอก็มีแผลใจจนต้องเป็นโรคกลัวความรัก ถึงตอนนี้เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับความลังเลใจ เมื่อพิจารณาจากเรื่องที่เธอได้รับมันก็คงจะลำบาก
แต่นั่นเป็นเหตุผลที่คามิลล่าต้องการให้ลิซ่าพูดคุยกับโนโซมุ เพราะคิดว่าโนโซมุน่าจะลบความลังเลใจของลิซ่าได้
ในเวลาเดียวกันคามิลล่าเองก็ต้องกัดฟันแน่นในความไร้ซึ่งพลังที่จะคอยสนับสนุนเพื่อน
เธอเองก็มีความผิดเฉกเช่นเดียวกับลิซ่า ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะช่วยให้ลิซ่าหายดีด้วยมือของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ขณะที่โนโซมุยังคงหลับอยู่ ไม่ว่าคามิลล่าจะพูดอะไร เธอก็ช่วยอะไรลิซ่าไม่ได้
โนโซมุนั้นขโมยหัวใจของลิซ่าไปแล้ว
อย่างน้อยที่สุด ก็อยากอยู่เคียงข้างเธอเพื่อไม่ให้เธอจมอยู่กับความรู้สึกผิด จนกว่าจะสามารถเผชิญหน้ากับโนโซมุได้อย่างถูกต้อง นั่นเป็นการตัดสินใจที่จะชดใช้ความผิดบาปของเธอ
ในทางกลับกัน ใบหน้าของลิซ่าเริ่มมัวหมอง เพราะเธอรู้สึกผิดที่เป็นฝ่ายทิ้งโนโซมุไป
「นี่ คามิลล่า ฉันควรจะทำยังไงดี……?」
「ถ้าถามฉันล่ะก็ เธอก็แค่ต้องทำในสิ่งที่โนโซมุต้องการ แต่…บอกตามตรง ตอนนี้พวกเราไม่ค่อยรู้เรื่องของโนโซมุเท่าไหร่เลย……」
ภาพของโนโซมุที่เข้าปะทะกับเคนผุดขึ้นในใจของคามิลล่า
เมื่อสองปีที่แล้วโนโซมุไม่แม้แต่จะเอาชนะเคนได้ในการต่อสู้จำลอง
โนโซมุในตอนนี้สามารถต่อสู้กับจิฮัด รันเดลและเติบโตมาจนถึงจุดที่เขาสามารถเอาชนะเคนได้ ซึ่งเกิดจากการใช้พลังทุกอย่างที่เขามี
และในที่สุดเขาก็ช่วยลิซ่าได้ ซึ่งถูกอบิสจับตัวไป
ความสามารถของเขานั้นไกลเกินกว่าโนโซมุคนเดิมที่พวกเธอรู้จัก ขณะที่รู้สึกยินดีกับโนโซมุที่เติบโตขึ้น แต่พวกเธอก็รู้สึกได้ว่าพวกเธอห่างไกลกับโนโซมุมากขึ้นเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน ลิซ่ารู้สึกว่าโนโซมุนั้นอยู่ไกลออกไป ตัวเธอในตอนนี้มีความประทับใจที่แตกต่างออกไปจากคามิลล่า
「เอ่อ……」
「หืม?」
“มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง……”
เสียงนั้นเล็ดลอดออกมาจากลำคอของลิซ่าเล็กน้อย คำพูดเหล่านั้นไม่ได้เข้าหูเธอด้วยซ้ำ
หัวใจของลิซ่าที่ยังคงดื้อดึงกลับพูดคำเหล่านั้นออกมาได้อย่างภาคภูมิใจ
เป็นความจริงที่ว่าลิซ่ากับคามิลล่าไม่ได้รู้จักตัวตนของโนโซมุในปัจจุบัน
เขาไปเรียนวิชาดาบนั่นมาจากไหน แถมยังเอาชีวิตรอดจากสัตว์ประหลาดนั่นได้ยังไง
และเหนือสิ่งอื่นใด ความสัมพันธ์ของโนโซมุที่เชื่อมโยงกับไอริสและคนอื่นๆคืออะไร
เมื่อดวงตาที่หม่นหมองของเธอเป็นประกายขึ้นหลังจากได้เห็นความจริงที่เธอทำเป็นเมินเฉยมาตลอด ลิซ่าก็ได้พบสิ่งใหม่ๆ แม้ว่าเธอจะเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความเสียใจก็ตาม
แต่เมื่อนึกมันขึ้นมาได้ สายตาของโนโซมุที่จ้องมองมาที่ลิซ่ามันก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิม ตัวเขาที่ปฏิเสธว่าไม่เคยนอกใจในตัวเธอ ความรู้สึกนั่นยังคงสะท้อนอยู่ในจิตใจ
เขายังเป็นคนที่บริสุทธิ์และใจดียิ่งกว่าใคร
แต่ว่าเธอก็ไม่ได้สังเกตเห็น
「……นั่นสินะ」
คามิลล่าเองก็คงคิดอะไรแบบนั้นเหมือนกัน แม้ว่ามันจะไม่ได้เข้าหูเธอก็ตาม แต่ก็สัมผัสได้ถึงคำพูดของลิซ่าที่ล่องลอยไปตามสายลม
「ในที่สุด อย่างน้อยฉันก็ต้องพูดคุยกับโนโซมุแบบตรงไปตรงมาให้ได้……」
ความรู้สึกนั่นมันร้อนผ่าวอยู่ในใจ ต้องแก้ไขความเข้าใจผิดตลอดสองปีมาให้ถูกต้อง
มิฉะนั้น ลิซ่าและโนโซมุเองก็จะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าในความหมายที่แท้จริงได้
「เอ่อ…….นั่นสินะ……..แต่ว่าเรื่องนั้น………อิย๊าาาาาาา!」
ลิซ่าที่ยังไม่กล้าเผชิญหน้าต่อโนโซมุตรงๆก็กรีดร้องออกมาอย่างน่ารัก
เธอรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่กำลังจับอยู่ที่บริเวณก้นของเธอ
เมื่อเธอหันกลับไปมองก็พบชายชรามีเคราสีขาวน่าสงสัยพร้อมกับสวมเสื้อคลุม
「โฮะโฮะโฮะ ก้นที่งอนงามเด้งดึ๋งเหมือนกับลูกพีชนี่มัน ช่างน่าดึงดูดดีแท้~~」
「คิย้าาาาาาาาาาาาาาาาา!」
「อั่กกกกกกกกกกกกกก!」
โดยไม่ยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็นใครฝ่ามือของลิซ่าก็ตบไปที่ผู้ต้องสงสัยสุดแรง
ไม่แน่ใจว่าเสริมพลังเวทย์ลงไปรเปล่า แต่ว่าชายชราที่โดนตบเข้าไปก็ถึงกับสะดุ้งจนร้องจ้าก ลอยขึ้นไปในอากาศและตกลงไปบนพื้นหญ้าของสวน
ในสายตาของคามิลล่า ศีรษะของชายชราคนนนั้นกระแทกลงทิ่มพื้น แต่ว่าช่างมันเถอะ
「ใครน่ะ?」
「ฮะฮะฮะ ตบได้ดีเลยนี่ นี่มันฝ่ามือเทพธิดาชัดๆเลยเน้อ อาริกาโตะ!」
「แหยะ!」
อย่างไรก็ตามชายชรากระโดดขึ้นจากหญ้าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แก้มของชายชรานั้นบวมเต่ง และเลือดก็ไหลออกมาจากรูจมูกของเขา
อย่่างไรก็ตามเรื่องนี้ เขาถอนหายใจพร้อมกับพูดประโยคน่าสยดสยองออกมา ดังนั้นจึงทำให้เหล่าสาวๆขนลุกกันเลยทีเดียว
「อาาาา คุณ เมื่อตอนนั้นนี่……」
「คามิลล่ารู้จักด้วยเหรอ?」
「อ่า…เป็นตาแก่ที่มาช่วยลิซ่าตอนที่ถูกเคนจับน่ะ…」
คามิลล่าจำตาแก่ได้ด้วยรอยยิ้มบ้าๆแบบนั้น
ใช่แล้ว คนที่ขัดขวางตอนที่ลิซ่าถูกจับโดยอบิสในเหตุการณ์ครั้งก่อน ก็คือตาแก่ซอนเน่
「ยินดีที่ได้รู้จักคุณผู้หญิงทั้งสอง ข้ามีนามว่าซอนเน่ เป็นตาแก่หมอดูผู้อ่อนน้อมถ่อมตนและเป็นวีรบุรุษ(สำหรับผู้หญิง)แห่งย่านการค้า!」
แต่นแต๊น! ด้วยคำพูดและท่าโพสต์ทำเอาเหมือนกับมีเอฟเฟคโผล่ออกมา
ตาแก่เอื้อมมือออกไป ทั่วทั้งพื้นที่เกิดเสียงเงียบจนราวกับว่ายืนอาลัยมุกนี้ให้ 3 วิ
สุดท้ายก็กลายเป็น “ความเย็นชา” ที่ทิ่มแทงตาแก่
「เอ่อถ้าจำไม่ผิด ตาแก่คนนี้ค่อนข้างจะเป็นคนที่แข็งแกร่งมากเลยล่ะ แต่ว่านะ?」
ขณะที่ปล่อยความเย็นชานั่นออกไปคามิลล่าก็ได้แต่ถามว่า เรื่องในหัวของหมอนั่น? ก็มีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด
คามิลล่าจำตาแก่ได้และรู้ว่าเป็นคนยังไง
เขามีความรู้ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเกี่ยวกับอบิสนั่น และเป็นคนที่ทำให้แม้แต่จิฮัดต้องคุกเข่าลงได้
「เหหหห แม่สาวน้อยคนนั้นรู้จักข้าด้วยเหรอเนี่ย !? เออออ๋~หรือว่าตกหลุดรักข้าเสียแล้ว ว่าแล้วข้านี่มันบาปหนาเสียจริง~!」
สุดท้ายก็เป็นแค่ตาแก่ลามกงั้นเหรอเนี่ย?
แววตาสีชมพูที่เต็มไปด้วยราคะและความหลงผิด ชวนให้หงุดหงิดอย่างน่าประหลาด
「ไหงข้อสรุปมันถึงออกไปในทางแบบนั้นได้ล่ะเนี่ย……」
「เป็นคนที่ค่อนข้างน่ารำคาญและน่าขยะแขยงมากเลยล่ะ……」
ทั้งลิซ่าและคามิลล่าต่างระวังตาแก่ที่ก่ออาชญากรรม
การจ้องมองไปที่ตาแก่มีเพียงแค่ความเย็นชาเท่านั้น
อย่างไรก็๖ามไม่ต้องสงสัยเลยว่าตาแก่ตรงหน้าที่เรียกตัวเองว่าซอนเน่มีพลังที่ไม่ธรรมดา
นี่อาจจะเป็นเพียงแค่การแสดงตบตา ไม่ว่าจะมองอย่างไร สายตาของตาแก่ที่ดูเต็มไปด้วยเรื่องทะลึ่งตึงตังก็ดูจะเป็นการแสดงจริงๆแหละ
「แล้วมาที่นี่ทำไม? พวกเราไม่คิดว่าคนอย่างคุณมีธุระอะไรกับพวกเราหรอกนะ……」
「อืม ข้าไม่ได้มีธุระอะไรกับเจ้า แต่ข้ามีธุระกับแม่สาวผมแดงตรงนั้น」
「เอ๋ ฉันเหรอ……?」
「อุมุ เจ้าเป็นคนเดียวที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพ่อหนุ่มนั่น ข้าก็เคยอยากจะคุยด้วยสักหน่อย นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าทักทายไปแบบนั้น แต่ว่าก้นของเจ้าก็งอนงามเสียทีเดียวจนข้าห้ามใจไม่ได้……」
ขอแก้ไข ไม่ต้องสงสัย หมอนี่มันโรคจิคชัดๆ
「……ลิซ่า ฉันจะไปหาอาจารย์จิฮัด ให้จับตัวตาแก่นี่โดยด่วนที่สุดเลย」
「เดี๋ยว รอก่อนสิ ! ก่อนหน้านี้ก็แค่แกล้งเล่นนิดหน่อย แต่ว่าที่พูดนั่นคือเรื่องจริงนะ!」
「ตัวจริงของแกก็แค่ทำตัวลวนลามหญิงสาวไปทั่วสิไม่ว่า แทนที่จะส่งมอบให้อาจารย์จิฮัดสู้เอากระทืบไอนั่นให้มันตายไปดีกว่าไหม」
「เดี๋ยวจะกระทืบอะไร!」
「……ยังต้องถามอีกเหรอ?」
คามิลล่าจ้องมองอย่างเย็นชาไปตรงเป้าของซอนเน่ เธอจะไม่พูดว่ามันคืออะไร แต่นั่นเป็นจุดสำคัญที่ผู้ชายทั่วโลกต่างหวาดกลัวมากที่สุด แต่ว่ามันอาจจะไม่ได้ผลสำหรับผู้ชายบางคนก็ได้
ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของตาแก่ทำให้ซอนเน่ลดเอวต่ำลง
「ขอโทษ ขอโทษ ! เอาล่ะแม่สาวน้อย ตอนนี้เจ้าไม่รู้ใช่ไหมว่าต้องทำสิ่งใด แต่แม้ว่าเจ้าจะต้องทำสิ่งใดก็ตาม ตอนนี้ตัวเจ้ายังไม่รู้จักพ่อหนุ่มคนนั้นในตอนนี้อย่างดีพอใช่ไหมล่ะ」
จู่ๆใบหน้าของซอนเน่ก็มีท่าทีจริงจังราวกับจะหลบหนีสายตาของคามิลล่า
การเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยทำให้ความขุ่นเคืองของคามิลล่าหนักข้อขึ้น แต่ว่าพอได้ยินเรื่องของโนโซมุเธอก็ใจเย็นลง
ภาพของซอนเน่ที่เข้ามาแทรกแซงเหตุการณ์ก่อนหน้าเธอยังจำมันได้ดี
ตาแก่คนนี้รู้เรื่องของโนโซมุมากกว่าที่คิด และเกี่ยวกับอบิสนั่นด้วย
「แม่สาวผมดำพวกนั้นรู้ดี แต่ว่าพวกเจ้าไม่ได้รู้ความลับของพ่อหนุ่มคนนั้นเลย ไม่อยากจะรับรู้หรอกรึ?」
คำพูดและการกระทำของซอนเน่นั้นดึงดูดพวกเธอ แต่ว่าความแวดระวังของคามิลล่าก็เพิ่มขึ้น
「จุดประสงค์ของแกคืออะไร?」
「ข้าจำเป็นต้องคอยจับตาดูพ่อหนุ่มนั่น เพราะงั้นก็เลยต้องอยู่ในเมืองนี้
เพื่อเฝ้ามองว่าเด็กคนนั้นจะดูดซับพลังที่ได้กลืนกินมาได้รึไม่ หรือเขาอาจจะถูกความเกลียดชังกัดกินร่างกายของเขาไปและโดนยึดร่าง……」
คามิลล่าคร่ำครวญและจ้องไปที่ตาแก่ แต่ซอนเน่ก็เพียงแค่ยักไหล่
「โนโซมุจะโดนยึดร่าง….」
ในทางกลับกันลิซ่าครุ่นคิดเพื่อยืนยันคำพูดของซอนเน่
ก่อนที่จะรู้ตัว มือของเธอก็กำแน่นและหัวใจก็เต้นแรง
ตามสัญชาตญาณ เธอเข้าใจว่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่แยกเธออกจากโนโซมุอีกครั้ง
「……มาคุยกับพวกเราให้ได้อะไรขึ้นมา? ถ้าต้องการจะคุยไปคุยกับพวกไอริสและคนอื่นๆไม่ดีกว่ารึไง……」
「พวกนั้นรู้ดีอยู่แล้ว พวกเขาประสบพบเจอสิ่งนั้นด้วยตัวเองแล้ว ถึงอย่างนั้นพวกเธอก็ยังตัดสินใจที่จะอยู่เคียงข้างชายผู้นั้น」
「…………」
ไอริสและคนอื่นๆรู้ความลับของโนโซมุแล้ว ในตอนนั้นลิซ่า สูญเสียคำพูดไปครู่หนึ่งและเงียบไป และในขณะเดียวกันเธอก็มั่นใจว่านั่นคือสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงโนโซมุกับไอริส
แม้ว่าซอนเน่จะเหลือบมองลิซ่า แต่ก็ไม่ได้คิดจะหักห้ามอะไร
「ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเธอเป็นใคร โดยไม่คำนึงถึงความประสงค์ของเขา พ่อหนุ่มนั่นมีส่วนร่วมในสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อนาคตของทวีปอาร์คมีล ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากเจ้าคิดจะอยู่เคียงข้างพ่อหนุ่ม อย่างน้อยเจ้าก็ต้องเตรียมความกล้าหาญและการเตรียมใจในระดับหนึ่ง
แต่ว่าตัวเจ้าในตอนนี้จะสามารถเอาชนะความกลัวและกล้าเผชิญหน้ากับโนโซมุในตอนนี้ได้หรือเปล่า……」
「ฉัน……」
สายสัมพันธ์ระหว่างไอริสและคนอื่นๆ ส่งต่อมาจากบุคคลที่สาม แม้ว่าพอจะเดาได้อยู่แล้ว แต่เมื่อถูกผลักดันอีกครั้งแบบนี้ ฉันก็รู้สึกว่าเส้นทางข้างหน้าช่างมืดบอด
ฉันรู้ดีว่า มันเป็นเพื่อความพึงพอใจของตัวเอง
ฉันเป็นคนเดียวที่ไม่เชื่อใจเขาจนถึงที่สุด ตรงกันข้ามกับทักษะการต่อสู้อันแสนเฉียบคม หัวใจของเขานั้นอ่อนแอมาก
ความเป็นจริงที่เผชิญหน้าได้เจาะทะลุร่างของลิซ่าอีกครั้งกัดเซาะไปกระทั่งแสงแห่งความอบอุ่นเล็กๆ
ลิซ่ากลืนน้ำลายลง
ถัดจากเธอ มีคามิลล่าที่จ้องมองอย่างกังวล แต่เธอก็ไม่สามารถตอบสนองอะไรต่อคำพูดของซอนเน่ได้เช่นกัน ท้ายที่สุดพวกเธอก็ไม่ต่างอะไรจากคนนอก
ในขณะนั้น ซอนเน่ยังคงจ้องลิซ่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและค่อยๆผ่อนลง
ในเวลาเดียวกัน ความตึงเครียดรอบๆก็หายไป
「แต่ว่าก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะทำอะไรไม่ได้เลย」
「เอ๋?」
การเปลี่ยนน้ำเสียงกระทันหันจนทำให้พวกเธอตกใจ
ซอนเน่พูดต่อไปอย่างสงบขณะยิ้มใหักับลิซ่าที่สับสนราวกับมองดูหลานๆของตัวเอง
ดวงตาที่อ่อนโยนดั่งแสงแดดยามเช้า มีความสงสารและความเสียใจปะปนอยู่
「พวกเจ้ายังพอมีเวลา ที่จะทำ เหนือสิ่งอื่นใด อย่าได้ลังเลที่จะเผชิญหน้ากับความผิดบาปที่ได้ก่อ คราวนี้อย่าได้ปล่อยโอกาสเหล่านั้นให้หลุดลอยไปอีก……」
「ในที่สุดก็เจอสักทีปู่」
ในขณะนั้นเองเสียงเย็นเฉียบก็ดังก้องมาจากด้านหลังของตาแก่
หญิงสาวในชุดคลุมปรากฏตัวขึ้นจากความมืดซึ่งทั้งสามคนมองมา
ผมสีขาวสว่างไสวด้วยแสงจันทร์และดวงตาสีฟ้าคราม หน้าเรียวเหมือนตุ๊กตา ใช่แล้ว เด็กสาวที่เคยวิ่งชนมาร์ที่สวนสาธารณะกลาง
ลิซ่าเองก็เป็นผู้หญิงที่สวยและงดงาม แต่ที่สำคัญที่สุด สิ่งที่ติดหูของลิซ่าคือสิ่งที่เธอพูดกับซอนเน่
「「ปู่?」」
「ฮะ ฮะ……」
ในทางกลับกัน ซอนเน่เบิกตากว้างและจ้องไปทางหญิงสาวที่ยืนตรงหน้าเขา
「อาเซล(アゼル)! ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่!?」
「นั่นคือสิ่งที่ทางนี้อยากถามต่างหาก จะทำยังไงอยู่ดีๆก็หายออกไปจากหมู่บ้านแบบนี้?」
เด็กหญิงที่เรียกตัวเองว่าอาเซลโต้กลับด้วยความตกใจขณะที่ซอนเน่ซึ่งตัวสั่นและกำลังขึ้นเสียง
ศักดิ์ศรีของซอนเน่ที่ทำอวดเบ่งมาจนถึงตอนนี้ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง และตอนนี้มีสีหน้าเขินอายเล็กน้อย
ในทางกลับกัน หญิงสาวไม่ได้สังเกตเห็นลิซ่าก็ตะลึงงันและคนอื่นๆที่อยู่เบื้องหลังซอนเน่เองก็ตะลึง และเธอก็พูดต่อด้วยความเฉยเมย
「ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาวิกฤตแท้ๆ กำลังทำอะไรอยู่เนี่ย ในสถานการณ์ที่ต้องค้นหาและกำจัดภัยพิบัตินั้นโดยเร็วที่สุดแท้ๆ?」
「มีหลายสิ่งหลายอย่างละเน้อ……」
หญิงสาวคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นวิพากษ์วิจารณ์ซอนเน่ สายตาของหญิงสาวค่อยๆแหลมคมขึ้น ขณะที่ซอนเน่กำลังผิวปากเมินเฉย
ในเวลานั้นในที่สุดดวงตาของหญิงสาวก็จับจ้องไปที่ลิซ่าและคามิลล่า
「ปู่ คนพวกนั้นเป็นใคร?」
จากนั้นเธอก็เดินมาหาลิซ่าและคามิลล่าและถามว่าเป็นใครด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
คำถามนั่นสำหรับซอนเน่เท่านั้น ราวกับบอกแบบนั้น
「แหม~ก็อย่างที่เห็นแหละน้าาาา พวกเธอเองก็เป็นหญิงสาวที่มีอนาคตสดใส? เอ่อถ้างั้นก็ช่วยพาไปร้านเหล้าตรงนั้นทีสิ……」
「ให้ตายสิ แก่ปูนนี้แล้วยังทำตัวแบบนี้อีก!」
เด็กสาวคนนั้นไม่ได้สนใจพวกลิซ่าเลยแม้แต่น้อย ทำตัวห่างเหินอย่างสมบูรณ์
ในทางกลับกันซอนเน่ที่เห็นความเกรี้ยวกราดของอาเซล ดูเขินอายและหันไปอีกทาง
「เอ่อ ! พอดีว่ามีสิ่งที่ต้องไปทำอยู่ ! ขอโทษด้วยแต่ว่าขอเว้นเรื่องนั้นไว้ในตอนนี้ก่อนนะ……」
「อา ! รอก่อนสิ!」
เหล่าหญิงสาวรีบวิ่งตามซอนเน่ที่จู่ๆก็เดินจากไป
ซอนเน่ทิ้งหญิงสาวคนนั้นที่โวยใส่และหายเข้าไปในเมือง
อย่างไรก็ตามซอนเน่ที่กำลังจะจากไปก็หันกลับมา
「โอ้ใช่ หากเตรียมใจพร้อมเมื่อไรก็ให้มาที่ร้านของข้า!」
ทิ้งคำพูดไว้เพียงแค่นั้นและจากไปในความมืดมิด อาเซลเองก็ไล่ตามเขาไป
「อะไรเนี่ย……」
ลิซ่าและคนอื่นๆพูดอะไรไม่ออกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
「หมอดูย่านการค้า……」
ฉันจะได้รู้ทุกสิ่ง หากไปที่นั่น
เป็นตาแก่ที่ดูน่าสงสัยชะมัด ปกติฉันเองก็ไม่เคยไปที่นั่น
อย่างไรก็ตามหัวใจของลิซ่าสั่นไหวอย่างรุนแรง เพราะอยากรู้ความลับของโนโซมุ
ขออภัยที่หายไปนานมากๆครับ ขอโทษจริงๆ งานยุ่งมากๆ เดือนนี้ก็เดือนเกิดเราสินะ แล้วก็เพิ่งผ่านวันเกิดไปด้วยเมื่อวันที่ 25 นี้ ฮ่าฮ่า
แล้วก็จะกลับมาแปลตามปกติแล้วรออ่านได้เลย ขอโทษจริงๆที่ทำให้รอนาน ปมใหม่ได้เริ่มแล้ว อาเซลโผล่มาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต้องติดตาม
ช่วงนี้ก็ถังแตกอีกแล้ว ค่าครองชีพมันแพงจริงๆ เฮ้อ ~