[นิยายแปล]พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อม"หัวใจ"สู่ หัวใจ - ตอนที่ 111
บทที่6ตอนที่28
การปรากฏตัวของซอนเน่ที่ยืนอยู่ต่อหน้าโนโซมุและคนอื่นๆด้วยรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนทำให้พื้นที่นั้นเกิดความเงียบที่ไม่สามารถอธิบายได้
เบื้องหลังของชายชราคืออบีตที่สร้างรังไหมขึ้นมา ซอนเน่นั้นไม่ได้สนใจอะไรมากนักและแค่เดินไปหาโนโซมุ
「รอก่อนนะพ่อหมุ่น มันไม่ปลอดภัยที่จะบุกเข้าไปแบบสุ่มสี่สุมห้าเข้าบาเรียของมัน」
「ทำไมตาแก่ถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วอะไรคือบาเรียของมัน?……」
「ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างเลยอะนะ อ้า แม่สาวตรงนั้นมาอยู่กับข้าเถอะ อืม ! โชคดีที่ยังไม่บาดเจ็บ」
ซอนเน่พยักหน้าอย่างมีความสุข โนโซมุรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้ลิซ่ากำลังตกอยู่ในอันตราย
มันไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาทำเรื่องแบบนี้ โนโซมุคิดแบบนั้น ! เมื่อเขาเหลือบมองไปที่รังไหมพร้อมกับพยายามผ่านซอนเน่ไป
「ถ้าคิดมาสาวๆไปเดินเล่นด้วยก็อย่ามาขวางสิฟะ! ตอนนี้มันฉุกเฉินนะเห้ย!」
「ก็บอกว่าให้ใจเย็นๆไงพ่อหนุ่ม การแก้ปัญหามันไม่ได้ง่ายเพียงแค่กระโดดเข้าไปหาปัญหาหรอกนะ」
อย่างไรก็ตามซอนเน่ก็มาขวางโนโซมุ พร้อมกับเหตุผลลึกซึ้ง
「มั่นใจได้เลย อย่างน้อยผู้หญิงผมแดงคนนั้นจะไม่ถูกกินและไม่ตายในตอนนี้ สำหรับตอนนี้ สัตว์ร้ายตัวนั้นไม่ได้ต้องการผู้หญิงคนนั้น」
คำพูดและการจ้องมองอย่างมีนัยยะของซอนเน่ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้โนโซมุที่กำลังหัวร้อนให้เย็นลง
โนโซมุถามซอนเน่ขณะที่อารมณ์เสีย
「……หมายความว่าไง?」
แน่นอน โนโซมุรู้สึกว่าขาดข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้
เกิดอะไรขึ้นกับเคน? เกิดอะไรขึ้นกับลิซ่าในตอนนี้?
สิ่งเดียวที่บอกได้คือสัตว์อสูรสีดำมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในเรื่องนี้ และชายชราที่อยู่ตรงหน้ามีข้อมูลบางอย่างและมาด้วยจุดประสงค์แน่วแน่
แสงสว่างแห่งเหตุผลกลับมาที่ดวงตาของโนโซมุอีกครั้ง บางทีอาจจะเพราะพอใจกับสภาพโนโซมุในตอนนี้ ซอนเน่พยักหน้าเล็กน้อยและพูดขึ้น
「ชายผู้ที่ถูกสัตว์ร้ายนั่นกลืนกินนั้นหลงรักเพื่อนในวัยเด็กของเจ้าใช่ไหมล่ะ? ถึงขั้นขนาดที่ต้องหักหลังเพื่อนรัก……」
โนโซมุพยักหน้าให้กับคำถามของซอนเน่
ถึงจะน่าสงสัยที่ว่าทำไมตาแก่ถึงได้รู้จักมิตรภาพส่วนตัวของโนโซมุ แต่ตอนนี้โนโซมุก็ฟังเรื่องของซอนเน่ต่อ
「อย่างที่พ่อหนุ่มรู้ สัตว์อสูรตัวนั้นมีความสามารถพิเศษเท่าที่ร่างกายของผู้ที่สิงอยู่โดยใช้เป็นพื้นฐาน」
“พื้นฐานในการก่อร่างสร้างใหม่สำหรับผู้ถูกสิง”
นั่นทำให้โนโซมุและซีน่าได้เจอกับอบีตในป่า
ในเวลานั้นอบีตนั้นเป็นเหมือนสัตว์ร้ายสี่ขาและหางของมันคมเหมือนมีดกิโยติน
และอบีตที่ถูกพวกโนโซมุต้อนจนมุมก็เปลี่ยนคอของมันให้เป็นปากใหญ่ปากเดียว และเพิ่มจำนวนหางที่เหมือนดาบใหญ่ อย่างน้อยก็ไม่เคยเห็นสัตว์อสูรที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้เลย
นอกจากนี้ร่างกายของเคนก่อนหน้านี้ยังมีของเหลวคลายโคลนตมโผล่ออกมาจากร่างของเขาตอนที่โดนคมดาบมายาของโนโซมุตัดขาด เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ของเหลวสำหรับร่างกายของมนุษย์
「ในทางกลับกันตัวมันนั้นก็ไม่เสถียรสักเท่าไรเลยต้องหาร่างที่มั่นคงในการสิงสถิตย์」
ซอนเน่ยังคงพูดต่อไปขณะที่โนโซมุคิด
「สิ่งมีชีวิตพวกนั้นเป็นเหมือนจำพวกอิงอาศัยงั้นเหรอ?อย่างพวก หมัด เห็บ……」
「ไม่หรอก ถ้ามันเล็กเกินไป มันก็จะพังก่อนที่ร่างกายจะเสถียร ยังมีอีกหลายสิ่งที่เข้ากันได้ดี หากถูกรบกวนโดยร่างหลักที่พยายามขัดขืนมันก็จะทำให้เวลาในการสิงสู่ลดต่ำลงอย่างมาก เพราะมันต้องเลือกความเข้ากันได้ด้วย」
ขณะพูดเช่นนั้นซอนเน่ก็หันไปมองรอยที่จิฮัดทำไว้บนพื้น ไม่สิ สิ่งที่กำลังมองอยู่นั่นคือร่างของจิบิน
ร่างที่ถูกบดขยี้ไม่ได้อยู่ในร่างเดิมอีกต่อไป แต่เมื่อเห็นศพซอนเน่ก็มีสีหน้าเศร้าๆ
「……นอกจากนี้สัตว์อสูรตัวนั้นยังสร้างมลทินให้กับจิตวิญญาณของผู้สิงสู่ เข้าควบคุมมัน และจัดการตามความเหมาะสม แต่ในขณะนั้นมันก็เล่นกับช่องว่างของจิตใจเจ้าของร่าง มันจะพยายามทำตามสิ่งที่เจ้าของร่างต้องการ เพื่อให้เจ้าของร่างยอมรับการมีอยู่ของมัน เพื่อให้มันแข็งแกร่งขึ้นและควบคุมได้ง่ายขึ้น……」
การมีอยู่ของตัวเจ้าของร่าง ทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้นก็ตกใจอย่างมาก
ร่างของหญิงสาวที่เป็นรักแรกของโนโซมุเข้ามาในสายตา
เคนที่กลายเป็นเจ้าของร่างของอบีตนั้น มีเพียงคนเดียวที่เขาโหยหาและไม่ยอมหยุดนิ่ง
「ไม่มีทาง……」
「ใช่แล้ว ผู้หญิงที่ผู้ชายคนนั้นต้องการจะกลายเป็นแกนกลาง เมื่อรับตัวเธอเข้าไป สัตว์ร้ายนั่นก็เกิดใหม่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากขึ้น หญิงสาวที่เจ้าของร่างนั้นโหยหา ไม่แปลกใจเลยที่อบีตนั่นถึงได้จับตัวเธอเอาไว้」
ขณะยักไหล่ซอนเน่จ้องมองไปยังรังไหมที่ถูกสร้างขึ้นมา
มีรังไหมอยู่ที่นั่นเพื่อให้อบีตได้ฟักออกมา โดยมีเคนเป็นแกนกลางและลิซ่าเป็นตัวประกัน แท้จริงแล้วมันก็เหมือนดักแด้
「รังไหมแห่งแสงนั่นจะกลายเป็น “เขตนักล่า” เพื่อหลอมรวมสิ่งมีชีวิตที่ถูกจับเข้าไปในระดับวิญญาณ หากกระโดดเข้าไปในรังไหมนั้น ไม่เพียงแต่กระดูกของเจ้า แต่จิตวิญญาณของเจ้าก็จะถูกกลืนกิน และจะถูกใช้มาเป็นอาหารสำหรับเจ้าสัตว์อสูรนั่น」
「แล้า ถ้าทำลายบาเรียนั่น……」
「จริงอยู่ที่ว่าสัตว์อสูรนั่นอาจจะพ่ายแพ้ไป อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรนั่นก็น่าจะเริ่มครอบงำจิตใจของแม่สาวผมแดงแล้ว หากเราทำลายอย่างไม่ระวัง มันอาจจะทำลายวิญญาณของหญิงสาวได้」
「ถ้างั้น……」
ถ้าบาเรียถูกปล่อยไว้แบบนี้ ความตายของลิซ่าก็มาถึงแน่นอน อย่างไรก็ตามแม้จะทำลายก็ไม่ได้เช่นกัน ไม่ว่าทางไหนก็นำไปสู่ความสิ้นหวัง
ไอริสและคนอื่นๆต่างกัดริมฝีปากแน่น
ในขณะเดียวกันอินด้าที่ฟังเรื่องราวอยู่ด้านหลังก็สงสัย
「ตาแก่นี่เป็นใครกันคะ……」
「ข้าน่ะเหรอ? อย่างที่เห็นก็แค่ผู้กล้าที่ผ่านทางมา…!」
「ข้าเองก็กังวลมากเลย ตอนแรกก็ไม่รู้สึกตัวเลยว่าผ่านมาที่นี่ได้ยังไง อย่างน้อยก็อยากจะรู้ ขนาดคนในสถาบันที่เก่งๆยังไม่รู้สึกตัวเลยนะ」
จิฮัดก้าวไปอีกขั้นราวกับมีสีหน้าสงสัยชัดเจน
「นอกจากนี้ยังไม่เคยได้ยินเรื่องของอบีตแบบนั้นมาก่อนเลย แต่สถานการณ์ในตอนนี้ก็ฟังดูน่าเชื่อถือสุดๆ」
สำหรับอบีตที่มีรายละเอียดไม่ชัดเจนเนื่องจากมีพยานจำนวนน้อย และมีการพบเห็นไม่มาก
อย่างไรก็ตามตาแก่ตรงหน้าก็พูดเรื่องอบีตออกมาได้อย่างมั่นใจ
「ข้อมูลที่พวกเราไม่เคยรู้ แม้แต่ที่นี่ แหล่งรวมเทคโนโลยีสุดล้ำก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ไม่รู้เกี่ยวกับอบีตนั่น แล้วนายรู้ได้ยังไง มันอดไม่ได้ที่จะกังวล」
จิฮัดก้าวเข้าไปหาซอนเน่
ผู้คนทั้งหลายต่างจ้องมองไปที่ทั้งสองโดยไม่ละสายตา
「ดูเหมือนว่าเจ้าจะสงสัยข้านะ」
「อย่างน้อยก็ไม่มีอะไรที่ช่วยขจัดความสงสัยให้เลยนี่ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ช่วยบอกข้อมูลทั้งหมดด้วย ถ้าทำได้ อย่างน้อยก็อยากให้บอกวิถี ช่วย ลิซ่า เฮาวด์ กับ เคน โนทิส ด้วยได้ไหม?」
โนโซมุเบิกตากว้างกับคำพูดของจิฮัด และซอนเน่ก็ผิวปากเล็กน้อย
「ทำไมถึงได้คิดแบบนั้นล่ะ?」
「ก็เป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่า “อย่าเข้าไปโดยสุ่มสี่สุ่มห้า” ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะมีวิธีอื่นในการเข้าไปใช่ไหมล่ะ?」
「คาดหวังไปเองรึเปล่า?」
「แต่ว่าก็ไม่ใช่เรื่องโกหกกันใช่ไหมล่ะ?」
ตาของจิฮัดหรี่ลงเล็กน้อยและปล่อยแรงกดดันออกมา
ในทางกลับกันคนปกติที่โดนต้องกลัวจนตัวสั่นแต่ซอนเน่ยังคงสบายๆ
「……ถ้าไม่ให้ความร่วมมือกันก็ช่วยไม่ได้พวกเราจะทำลายบาเรียนั่นด้วยพลังทั้งหมด」
「ว่าไงนะ!?」
ทั้งสองเผชิญหน้าอย่างเงียบๆและเป็นฝ่ายจิฮัดที่พูดขึ้น คำพูดนั้นทำให้พวกโนโซมุและเพื่อนต่างตกใจ
อย่างไรก็๖าม มันง่ายที่จะเข้าใจเพราะถ้าอบีตมันฟื้นขึ้นมาจริงๆเมืองคงไม่ปลอดภัย
อีกฝ่ายหนึ่งเป็นสัตว์อสูรที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อและประเมินความสามารถของมันได้
แม้ว่าจะเอาชนะสัตว์อสรูได้โดยไร้ความเสียหาย แต่ว่าก็น่าจะโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุใดถึงไม่ยอมดำเนินการใดๆก่อนที่มันจะฟื้นชีพขึ้นมา
「สัตว์อสูรตัวนั้นเคยเห็นเมื่อ 10 ปีที่แล้วและคิดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับการรุกรานครั้งใหญ่ ดูเหมือนว่าจะไร้ความปราณี แต่ว่าก็ปล่อยมันให้ฟื้นคืนชีพในเมืองไม่ได้……」
อินด้าพยักหน้ารับคำพูดของจิฮัด และทั้งสองก็กัดฟันแน่น เพราะรู้สึกเสียใจ
「ตามจริงก็ไม่อยากให้พวกเด็กๆต้องมาตาย แต่ว่ามันก็เหมือนข้ออ้าง พวกเราที่เป็นอาจารย์ก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเช่นกัน เพราะงั้นถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยร่วมมือกันที」
จิฮัดพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและขอความร่วมมือจากซอนเน่ มันอาจจะดูเหมือนข้ออ้าง แต่ถ้าต้องให้คุกเข่าขอร้องกันเขาก็พร้อมที่จะทำ
หัวหน้าของสถาบันจะก้มหัวให้ใครมันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก
โลกนี้เต็มไปด้วยพวกนอกคอกที่แสวงหาอำนาจ และการแสดงความอ่อนแอให้อีกฝ่ายเห็นจะเป็นการเปิดช่องว่างขนาดใหญ่ ซึ่งมันเป็นความเสียหายที่ไม่อาจประเมินได้
ในทางกลับกันก็กล่าวได้ว่าเขารักเมืองนี้และลูกศิษย์ของเขา แม้จะไม่ได้พูดมันออกมาตรงๆ
「อืม ก็ไม่รู้วิธีที่ชัดเจนสำหรับการช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกทำให้เป็นผู้สิงสู่ อย่างพ่อทหารหนุ่มคนนั้นที่โดนมันยึดไปทั้งร่างแล้ว……」
ซอนเน่เหลือบมองร่างของจิบินอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เขาก็มองหน้าจิฮัดและถอนหายใจเฮือกใหญ่
「ข้าเองก็มีเหตุผลของข้าเหมือนกัน ดังนั้นเล่าได้ไม่หมดทุกอย่างหรอกนะ」
ซอนเน่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด พร้อมกับสีหน้าขอโทษ
จิฮัดเองก็รู้เช่นกัน พยักหน้าโดยไม่แปลกใจ อย่างไรก็ตาม
「แล้วถ้างั้น……」
จิฮัดจับดาบยักษ์ขึ้นมา
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือจะใช้กำลังในการรีดเข้นข้อมูลนั่นเอง
มันเป็นสิ่งที่เขาจะทำเพื่อเมืองนี้และนักเรียนที่รักของเขา
บางทีเพราะความมุ่งมั่นของจิฮัด ทหารที่อยู่รอบๆเองก็ฮึดสู้เช่นกัน
ซอนเน่ที่ถูกจ้องมองก็ถอนหายใจออกอย่างช่วยไม่ได้
「ท้ายที่สุดก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำเช่นนี้……」
ซอนเน่พึมพำด้วยน้ำเสียงเบาๆที่ไม่มีใครได้ยิน ยกไม้เท้าในมือขวาขึ้นสูงสุดแล้วเคาะพื้นเบาๆ
ในเวลาต่อมาวงเวทย์ที่ซับซ้อนก็ถูกวาดลงทั่วทั้งหมดหน้าห้องสมุด
「หะ!?」
วงเวทย์ที่มีลักษณะซับซ้อนมากมายปรากฏขึ้นมาราวกับเขาวงกต
เมื่อวงเวทย์ที่ปรากฏขึ้นมานั้นไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ขนาดสำหรับจิฮัดและอินด้านับประสาอะไรกับโนโซมุ มันส่องแสงอย่างทรงพลังทหารทั้งหมดที่อยู่ในนั้นและลันซ่าก็ได้รับการปกป้อง จากนั้นก็ล้มลงเหมือนตุ๊กตาที่ด้ายขาด
「ตอนนี้……」
โนโซมุและเพื่อนๆต่างประหลาดใจจนพูดอะไรไม่ออก โนโซมุและเพื่อนๆที่คิดว่าจะตายไปซะแล้ว แต่ถ้ามองดูจะเห็นว่าพวกทหารที่ล้มลงนั้นยังคงเคลื่อนไหวได้อยู่ แต่ว่าการหายใจนั้นแข็งกระด้าง
อย่างไรก็ตาม ตอนแรกก็ตัวแข็งเพราะความสามารถของซอนเน่ ที่ทำให้พวกทหารทั้งหมดต่างหมดสภาพในเวลาไม่ถึงวินาที
อย่างน้อยการกระตุ้นพลังเวทย์ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการหลายอย่าง เช่นการสร้างวงเวทย์การใส่พลังเวทย์และการเปิดใช้งาน
ก็เลยสงสัยว่ามีความสามารถที่ช่วยเหลือในการใช้งานอย่างปรับใช้ทันทีอย่างของไอริสรึเปล่า แต่ถึงกระนั้นขนาดมันก็ต่างกันเกินไป เวทย์ขนาดใหญ่แบบนั้นไม่น่าจะถูกใช้ได้ในทันที
อย่างไรก็ตามโนโซมุและเพื่อนๆต่างต้องตกใจ ซอนเน่ลืมตาและอ้าปากค้างด้วยเหตุผลบางอย่าง
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของซอนเน่คือจิฮัดและอินด้าที่ควรจะนอนราบลงไปกับพื้น พยายามยืนขึ้นขณะกัดฟันแน่น
「หนอย……」
「ฮึบ……」
จิฮัดที่ยกร่างกายส่วนบนขึ้นมาในขณะกัดริมฝีปากแน่นและยืนขึ้นด้วยตัวเอง อินด้านั้นยืนไม่ขึ้นแต่เธอก็ใช้เล็บที่อัดไปด้วยพลังเวทย์ที่หลังมือของเธอและพยายามลุกขึ้นจากพลังเวทย์ของซอนเน่
「อืม ท้ายที่สุดแล้วดูเหมือนพวกอาจารย์จะแตกต่างจากพวกทหารสินะเนี่ย ก็ถ้าเล่นแรงเกินไปเดี๋ยวตายกันเกลื่อนแน่นอนเลยล่ะ เพราะงั้นข้าก็เลยระงับพลังไว้ส่วนหนึ่ง แต่ ถึงกระนั้นก็ยังลุกขึ้นต่อต้านได้งั้นเหรอเนี่ย……」
「ฮ่าฮ่า ตาแก่นี่เป็นใครกันแน่เนี่ย……」
「ก็ไม่ได้เป็นศัตรูกับเจ้าหรอกนะ แต่ว่าข้าเองก็มีธุระอยู่ในเมืองนี้เช่นกัน……」
“หรือมากกว่านั้น จะต้องบอกว่ามีธุระกับพ่อหนุ่มตรงนั้น……”
ซอนเน่เหลือบมองโนโซมุ ขณะพึมพำ โนโซมุที่โดนจับตามองก็รู้สึกแปลกๆ
อย่างไรก็ตามรู้สึกแบบนั้นอยู่พักหนึ่ง วินาทีถัดมาจิตใจของโนโซมุก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง
“แก แก แกกกกกกกกก……!!”
เสียงของเทียแมตดังก้องอยู่ในหู มันกำลังตกใจราวกับเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เป็นไปไม่ได้
วินาทีต่อมาโนโซมุก็ปวดหัวอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
「อะฮึก อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!」
「โนโซมุ!?」
「คุณโนโซมุเป็นอะไรไปคะ!?」
ไอริสและเพื่อนๆเบิกตากว้างกับโนโซมุที่จู่ๆก็เริ่มทุกข์ทรมานอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามโนโซมุไม่สามารถตอบกลับพวกเธอได้เลย
รู้สึกเหมือนว่าสมองกำลังถูกไฟเผา โนโซมุคุกเข่าลงด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
「อึกกกกกกฮ่าาาาาาห์ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」
“ก๊าซซซซซซซซซซซซซซ กิก๊าซซซซซซซซซซ!!”
ปวดหัวจนทนแทบไม่ไหวยิ่งกว่าตอนที่สู้กับเคน ความเจ็บปวดอันแสนร้ายแรงแล่นเข้ามาที่หัวเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
「หมอนี่ ! พอได้แล้วววววว อ๊ากกกกกก!」
โนโซมุพยายามต่อต้านต่อความเจ็บปวดและหลับตาลง เขาทำได้เพียงแต่อดทนต่ออาการปวดหัวอย่างรุนแรงที่ประสบอยู่
ณ พื้นที่สีขาวมีความเกลียดชังที่เดือดดาลราวกับภูเขาไฟปะทุอยู่
ขณะที่รู้ว่าเป็นความเกลียดชังของเทียแมต โนโซมุกัดฟันแน่นไม่ให้อัตตาของเขาถูกกลืนกิน
“ไม่นะ ! ปล่อยข้าออกไปーーーー!!”
มังกรยักษ์ยังคงอาละวาดอยู่ในตัวของโนโซมุ
ความเกลียดชังที่จุดประกายด้านลบอยู่ลึกในอกของโนโซมุ นั่นคือความไร้เหตุผลและความขุ่นเคืองต่อเคนและคนอื่นๆ และพยายามเติบเต็มจิตวิญญาณของเขาด้วยความเกลียดชัง
「หุบปากไปซะ……!..เงียบ……!」
ขณะที่พึมพำอยู่เบาๆราวกับบอกตัวเอง พยายามกักเก็บความโกรธที่ดูเหมือนจะย้อมทุกอย่างเป็นสีแดงได้ทุกเมื่อ ทันใดนั้นก็มีน้ำเสียงใสๆดังก้องอยู่ในหูของโนโซมุ
มันเป็นเสียงที่ได้ยินอยู่หลายครั้งในความฝัน
พร้อมกับเสียงใสๆที่ดังขึ้น ความเกลียดชังที่ผุดขึ้นก็สงบลงราวกับกระแสน้ำที่นิ่งสงบ
“ก๊ากกกกกกกกกกก ……!”
เมื่อได้ยินเสียงเทียแมตหายไปอย่างสมบูรณ์โนโซมุก็กลับมานิ่งสงบอีกครั้ง
「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……」
「ตกใจเลยนะเนี่ย ไม่คิดเลยว่าจะระงับความบ้าคลั่งของเจ้านั่นได้……」
ดวงตาของซอนเน่เบิกกว้างเมื่อเห็นเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามคำพูดและการกระทำของซอนเน่นั้นบ่งบอกว่าเขารู้ความลับของโนโซมุ
「แฮ่ก แฮ่ก ตาแก่รู้มากแค่ไหนกันเนี่ย……」
ตาแก่นี่รู้มากแค่ไหนกัน โนโซมุตกใจกับความน่าขนลุกของตาแก่ตรงหน้า
เหมือนกับพวกไอริสและคนอื่นๆ จิฮัดเองก็ไม่ได้รู้ความลับเรื่องนั้น แต่ไอริสและเพื่อนๆต่างหมดคำพูดเพราะพวกเขาเองก็รู้ดี
ในทางกลับกันซอนเน่เหลือบมองพวกโนโซมุอย่างภาคภูมิใจ และยังคงพูดต่อโนโซมุและคนอื่นๆที่ตกใจ
อย่างไรก็ตาม คำพูดนั้นทำให้โนโซมุและเพื่อนๆของเขาต้องสั่นสะท้าน
「ถ้างั้นมาพูดกันต่อดีกว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ใครเป็นแกนหลักของเจ้าสัตว์ร้ายนั่น แต่สำหรับแม่สาวนั่นยังไม่สายเกินไป วิธีก็ค่อนข้างง่าย ตราบใดที่เราไม่สามารถทำลายบาเรียได้เราก็มีแต่ต้องเข้าไปในรังไหมนั่นโดยตรงและช่วยชีวิตแม่สาวคนนั้นออกมา」
「หะ!?」
「เฮ้ ตาแก่ ! เพิ่งพูดไปไม่ใช่เหรอว่าถ้าเข้าไปในรังไหมนั่นดวงวิญญาณจะถูกกลืนกิน?」
「ไม่มีกลยุทธ์เลยเน้อ~! ฟังดูไร้เหตุผลใช่มะ~!」
ไอริสและคนอื่นๆที่ได้ยินข้อเสนอของซอนเน่ต่างพากันขึ้นเสียง
เพื่อความชัดเจน มันตรงกันข้ามที่ห้ามเอาไว้นั่นแหละ ถ้าเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าก็ตายเปล่า
ขณะที่ทุกคนกำลังบ่นซอนเน่ก็พูดต่อ
「แน่นอนว่ามันยุ่งยากถ้าพูดตรงๆ หาทางอื่นไม่ได้แล้วจริงๆ ด้านในของรังไหม นั้นเป็นพื้นที่ๆต่างจากความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง และวิญญาณที่เข้าไปในนั้นก็จะถูกบังคับ แม้แต่คนที่เก่งที่สุดในที่นี้น่าจะเป็นหัวหน้าตรงนั้น แต่ว่ามันก็ยากอยู่ดี การเข้าไปในอบีตก็หมายความว่าต้องเข้าเผชิญกับความขุ่นเคืองและความโกรธแค้นที่จะกลืนกิน」
ทุกคนที่ได้ยินก็เงียบขนาดจิฮัดยังยาก
จิฮัด รันเดล นั้นแข็งแกร่งที่สุดในทวีปนี้
ร่างกายที่มีความโดดเด่นทางกายภาพ และผ่านประสบการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหนือสิ่งอื่นใด จิตวิญญาณอันเป็นผู้ใหญ่และมีเกียรติหนึ่งในเสาหลักของเมือง
แม้แต่คนที่มีอำนาจเช่นนั้นก็ยังไม่ไหว คนอื่นๆก็คงไม่ต้องพูดถึงกันเลยทีเดียว
แต่ในเวลาเดียวกันทำไมถึงได้เสนอตัวโนโซมุให้เข้าไปในรังไหมนั่นทั้งๆที่มันอันตราย
จิฮัดและอินด้าต่างก็สงสัยและรอคำพูดจากปากซอนเน่
「แต่ถ้าเป็น พ่อหนุ่ม ตรงนี้อาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง บางทีอาจจะมีเหตุผลบางอย่าง……」
โนโซมุสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงได้รับเลือก แต่ว่าคำพูดเป็นนัยเหล่านั้นก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเทียแมตด้วย
แน่นอนว่าพลังของมังกรยักษ์นั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก แก่นแท้ของพลังนั่นคือพลังวิญญาณที่คอยสนับสนุนโลกใบนี้ หากควบคุมมันได้เต็มที่ก็อาจจะช่วยลิซ่าออกมาได้
อย่างไรก็ตามโนโซมุนั้นก็ไม่สามารถควบคุมพลังได้อย่างเหมาะสมเลยจริงๆ…
「เอ่อนั่นสินะ ไม่ใช่เจ้านั่นแต่ต้องเป็นพ่อหนุ่มเท่านั้น เจ้าเท่านั้นที่จะช่วยเเพื่อนของตัวเองได้」
อย่างไรก็ตามซอนเน่ปฏิเสธคำพูดของโนโซมุ ไม่ใช่ “พลังของเทียแมต” แต่ด้วยพลังของตัวเองที่จะช่วยลิซ่าออกมาได้
「หมายความว่าไง……」
「บางทีเพราะนายอาจจะมีพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ ไม่ใช่ “หมอนั่น” แต่เป็นพลังของเจ้าเอง ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมากว่ามันเป็นพลังแบบไหน……」
คำพูดนั้นคว้าใจโนโซมุเอาไว้
“หมอนั่น” กับ “พลังของโนโซมุเอง”
นอกเหนือจากนี้ยังมีความหมายแท้จริงซ่อนอยู่เบื้องหลังคำพูด ยังมีประโยคที่ที่โนโซมุคิดขึ้นเองได้ในเหตุการณ์ล่าสุดที่โลกฝ่ายวิญญาณของโนโซมุ
เทียแมตพยายามยึดร่างโนโซมุ
มังกรยักษ์ยังคงเหยียบย่ำโนโซมุผู้ต้อยต่ำ ราวกับแมลงที่คอยกวนจิตใจของเขา โดยปกติการมีอยู่ของโนโซมุ เบลาตี้ น่าจะหายไปจากโลกเมื่อถูกฆ่าตาย
อย่างไรก็ตาม โนโซมุกลับไม่ได้ตาย เพราะแบบนั้นนั่นเลยเป็นสาเหตุเหรอ?
「ถ้าจะให้พูดตามตรงนะ “เจ้านั่น” ที่เคยอยู่ในตัวนาย ข้าลองตรวจสอบ “เจ้านั่น” ไปแล้วล่ะ」
「พูดอะไรนะ!?」
โนโซมุตกใจกับคำพูดนั่น
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ไอริสและฟีโอที่ช่วยพวกเอลเดอร์และหลังจากทำคำขอสำเร็จก็ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์กับลิซ่า และเมื่อตอนที่สัมผัสกับคริสตัลของตาแก่ ก็มีอาการชาแปลกๆในมือเขา
ถ้าหากใช้เวทย์บางอย่างในตอนนั้น
โนโซมุรู้สึกเวียนหัวกับเนื้อหาของซอนเน่
「อย่างไรก็ตาม ข้าไม่รู้หรอกนะเกี่ยวกับพลังของ “เจ้านั่น” อย่างไรก็ตามจะบอกได้ว่าพลังมันค่อยๆตื่นขึ้นก็ได้ บางทีอาจจะตื่นขึ้นแล้วก็ได้ นึกอะไรไม่ออกบ้างเหรอ?」
「…………」
ซอนเน่จ้องมองตรงไปที่โนโซมุ ราวกับว่ากำลังอ่านใจเขา โนโซมุไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนิ่ง
ความเงียบเกิดขึ้นชั่วครู่และเป็นอินด้าที่ทำลายความเงียบ
「อย่างไรก็ตาม การเดิมพันกับสิ่งที่ไม่แน่นอนนั้นมันก็ดูจะหนักหนาเกินไป แถมยังไม่รู้รายละเอียด……」
「นั่นสิ จากนั้นอีกสิ่งหนึ่งที่บอกได้ว่า : พวกเราต้องเชื่อมต่อกับพ่อหนุ่มหลังจากที่เข้าไปในรังไหมแล้ว ด้วยวิธีนี้เราก็จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในรังไหมนั่นและสถานการณ์ของพ่อหนุ่มนี่ และเราอาจจะสามารถ ช่วยผู้หญิงคนนั้นออกมาได้?」
「นี่ ทำไมถึงได้รู้ล่ะ!?」
ทันใดนั้นโนโซมุก็พูดออกมา และซีน่านั้นตัวสั่นใหญ่เลย
「หืม? เรื่องการเชื่อมต่อน่ะเหรอ……」
「ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรทั้งนั้น!」
「เอ๋?」
「…………」
โนโซมุเอียงคอขณะพยายามถามซีน่าเกี่ยวกับเรื่องพันธสัญญานั่น แต่ซีน่าบอกปัด
ไอริสที่เห็นบรรยากาศแปลกๆ ก็หรี่ตามอง
「ลองคิดูสิผู้หญิงผมดำคนนั้นก็เคยใช้เป็นตัวเชื่อมทางผ่านเข้าไปหาพ่อหนุ่มหรือเปล่า ข้าเองสัมผัสได้ถึงสิ่งนั้น……」
「รู้มากแค่ไหนกันเนี่ย ไม่สิ ก็คงจะดีกว่า」
คำพูดของซอนเน่ที่ดูจะเข้าใจทุกอย่าง ไอริสเองก็ต้องตกใจเพราะความลับที่เก็บมาถูกเปิดเผยออกจนหมด
อย่างไรก็ตามเมื่อตกลงที่จะทำการเชื่อมต่อผ่านซีน่าก็จ้องมองไปยังเธอ
「อืมมมมมมมม……」
「เอ่อ คือ……」
ซีน่าก้มหน้าลงอย่างเชื่อมช้าและโนโซมุก็รู้สึกอารมณ์เสียหน่อยๆไม่รู้ว่าเธอจะพูดอะไร
ในขณะนั้นสัญญาที่เคยทำกันในป่ามันไม่เคยลืมเลือน
ทำไมกันตอนที่ทุกข์เพราะพลังของเทียแมตเหมือนจะได้ยินเสียงเธอปนมาด้วย
เหตุการณ์ที่ยืนยันว่าพันธสัญญาจะฟื้นคืนเข้ามาในจิตใจของโนโซมุ ซีน่าไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา
อย่างไรก็ตามไม่มีได้มีความรู้สึกเชิงลบใดๆ เช่นการปฏิเสธ มีแต่ความเขินอายที่มากขึ้น
ในทางกลับกัน ซอนเน่และไอริสได้พูดคุยกับพวกจิฮัดและอินด้าก่อนที่จะรู้ตัว
ในขณะที่รู้สึกว่าแก้มของซีน่าถูกย้อมเป็นสีแดงเข้ม โนโซมุก็กลับมาที่การสนทนา
「แล้วจะเอายังไง? คิดว่ามันก็คุ้มนะที่จะลอง?」
「แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ได้มีศักยภาพมากนัก แต่ว่าข้อดีในการให้สนับสนุนด้วยวงจรเวทย์ด้วยการทำสัญญานั้นค่อนข้างสำคัญเลยนะ……」
จิฮัดรีบคิดอย่างรวดเร็วกับสถานการณ์ตรงหน้านี้
วิธีที่ง่ายสุดคือเพิกเฉยต่อคำพูดของซอนเน่และทำลายรังไหมนั่น
วิธีนี้จะสร้างความเสียหายน้อยที่สุดและน่าเชื่อถือที่สุด ความปลอดภัยของคนในเมืองจะได้รับการยืนยันแต่ว่าต้องแลกกับชีวิตนักเรียนสองคน
จริงๆแล้วจิฮัดก็คิดว่ามันเป็นทางเลือกเดียวในการปกป้องเมือง
ฝ่ายตรงข้ามเป็นสัตว์อสูรที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ หรือวงจรชีวิตของมันเลย นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายอย่างยิ่ง และไม่สามารถจินตนาการได้หากมันได้ทำการแพร่พันธุ์ออกไป หากรับมือไม่ดีแม้แต่ประเทศหนึ่งก็อาจถูกทำลายได้เลย
อย่างไรก็ตามตัวตนของซอนเน่ก็ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ จากมุมมองของจิฮัด ตาแก่ตรงหน้านั้นแปลกเกินไป
ในชั่วพริบตา มนุษย์หลายสิบคนก็หลับไป และแม้แต่แรงค์ S อย่างเขายังต้องคุกเข่าให้กับพลังตรงหน้า และทำได้อย่างไม่ยากเย็น
พรสวรรค์และประสบการณ์ของจิฮัดยังส่งเสียงร้องเตือนดังก้องว่าอันตรายมาก อย่าได้ริอาจสู้กับตาแก่ตรงหน้า จิฮัดสูดลมหายใจเข้าด้วยอารมณ์ที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
บอกตามตรงว่าไม่รู้จุดประสงค์ของซอนเน่
อย่างไรก็ตามตาแก่ตรงหน้าก็เป็นห่วงโนโซมุ เบลาตี้มาก เป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการจากคำพูดและการกระทำของซอนเน่ และดูเหมือนว่าจะไม่ได้ปกปิดอะไร
อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อมูลบางอย่างที่เขาไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจน
คำถามต่างๆและการคาดเดามากมายที่ไม่ได้คำตอบ ผุดขึ้นมาในหัวของจิฮัดและใช้เหตุผลในการมีอยู่ของเมือง เพื่อควบคุมตัวเองขณะคิด
「……ภารกิจของข้าคือการปกป้องเมืองนี้」
ปกป้องเมืองนี้ นั่นคือภารกิจของเขาและเขาก็ตั้งมั่นเอาไว้
「แต่ในขณะเดียวกันก็หล่อเลี้ยงเด็กน้อยทั้งหลายให้เติบโตขึ้นจนสามารถเอาตัวรอดได้ หากสามารถช่วยชีวิตหนุ่มสาวเหล่านั้นได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ก็คุ้มค่าที่จะลอง」
อย่างไรก็ตาม อีกภารกิจของเขาก็คือการชุบเลี้ยงเหล่าเด็กๆที่จะเป็นตัวตนในอนาคตผู้ขึ้นมาคอยปกป้องเมือง
หากชีวิตที่สามารถช่วยได้กลับถูกถอดทิ้งไปมันก็ไม่ต่างไปกับพวกคนที่ขายวิญญาณให้กับปีศาจเพื่อตัวเอง
จิฮัดกล่าวเช่นนั้นขณะรับข้อเสนอของซอนเน่
「อย่างไรก็ตามต้องเชื่อมข้าเป็นทางผ่านด้วย นั่นคือเงื่อนไข」
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถฝากทุกอย่างไว้กับนักเรียนได้ ด้วยเหตุนี้จิฮัดจึงเสนอตัวเขาให้เชื่อมต่อกับเวทย์พันธสัญญาด้วย
ในกรณีฉุกเฉินเขาจะได้เข้าไปที่รังไหมและช่วยโนโซมุออกมา
「……เข้าใจแล้ว อีกอย่าง ต้องการให้เชื่อมต่อกับพันธสัญญาทุกคนที่นี่ไหม เวทย์พันธสัญญาจะทำโดยแม่หนูเอลฟ์นั่น และความช่วยเหลือต่างๆข้าจะให้ความช่วยเหลือเอง」
ขณะพูดเช่นนั้น ซอนเน่ก็เอาไม้เท้าแตะพื้น
วงเวทย์อันสลับซับซ้อนปรากฏขึ้นกับตัวพวกโนโซมุอีกครั้ง
วงกลมเวทย์ที่กางออกห่อหุ้มด้วยสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ก่อตัวเป็นโดมที่ส่องแสงสว่างสีขาวหน้าห้องสมุด
「ด้วยเหตุนี้การลงมือในพื้นที่นี้สามารถใส่สุดแรงได้ตามใจชอบ มันจะไม่ส่งเสียงดังกระทบด้านนอก และมนุษย์ภายนอกจะไม่สามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ได้และในขณะนั้นก็ให้พวกที่สลบไปนอนด้านนอกตัวสถานที่นี้จะดีกว่านะ」
การจะแยกตัวประกอบออกไปซอนเน่เหวี่ยงไม้เท้าไปสามครั้ง
ทหารและพวกที่หุ้มเกราะทั้งหลายก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวและออกจากโดมแห่งนี้ไป
ซอนเน่พูดอีกครั้งเมื่อเห็นบารอซซ่าที่ออกไปจากโดมนี่
「อีกอย่างพวกเราควรเผื่อกรณีเลวร้ายที่สุดด้วย ถ้าความเสียหายที่เกิดขึ้นกระจายไปทั่วทั้งเมือง รังไหมนั่นจะต้องถูกทำลายโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ ในกรณีนี้ไม่ใช่แค่ลิซ่าและเพื่อนๆของเธอเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพวกโนโซมุกับเพื่อนสมัยเด็กของเขาทั้งหมดจะต้องตาย……」
จิฮัดกล่าวอย่างชัดเจนว่ากรณีเลวร้ายที่สุดทั้งสามคนจะต้องตาย
ใบหน้าของจิฮัดนั้นจริงจังมาก
เดิมทีโนโซมุเป็นสิ่งที่จิฮัดต้องปกป้อง แต่ว่าก็เสียใจที่ต้องฝากภาระไว้กับเขา
「ไม่เป็นไรให้ผมได้ทำมันด้วยเถอะครับ」
อย่างไรก็ตาม โนโซมุตอบกลับด้วยความรู้สึกชัดเจน ไม่มีความลังเลแม้เพียงนิด
「และถึงแม้จะหนีไม่พ้นจากรังไหมนั่นและรังไหมถูกทำลาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะตั้งใจจะตายใช่ไหม ตาแก่?」
「อืมก็ไม่ได้หมายความว่าจะตาย แต่จริงๆแล้ว นึกไม่ออกหรอกนะว่ามันไม่มีผลกับนาย?」
「ไม่เป็นไรแม้จะเป็นข้อเสนอที่บ้าดีเดือดแต่หากยังคงมีซึ่งความหวัง มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้」
โฯโซมุเองก็ไม่อยากจะถามหรอกว่ามีความเป็นไปได้ไหม แต่เดิมเข้าตั้งใจจะเข้าไปด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
「นอกจากนี้ขอสัญญาเลย……」
สัญญาว่าจะสนับสนุนลิซ่า เป็นคำสัญญาที่เหมือนกับมลายหายไป แม้ว่าทั้งสามจะต้องแยกจากกันก็ตาม
มีเพียงโนโซมุที่ไม่เลือกจะทิ้งลิซ่าและคนอื่นๆเอาไว้
อนาคตที่พวกเราสามารถหัวเราะด้วยกันแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากลำบากแค่ไหน โนโซมุก็ตั้งใจไว้ว่าหากทำมันได้ก็จะทำมัน
“อยากจะก้าวเดินต่อไป ต่อให้เส้นทางข้างหน้าจะมีอะไรไม่คาดคิดรออยู่ก็ตาม”
นั่นคือเหตุผลที่โนโซมุยังคงอยู่ในสถาบันแห่งนี้
「ขอโทษด้วยนะ……」
จิฮัดบ่นราวกับขอโทษ แต่โนโซมุก็ส่ายหัว
「……เริ่มกันเลยเถอะครับ」
「อืม……」
เขากระตุ้นซอนเน่ด้วยเสียงที่หนักแน่นขณะจ้องมองซอนเน่
ซอนเน่ใช้วงเวทย์มากมายบนพื้นดิน และวงเวทย์ที่แพร่กระจายออกไปราวกับระลอกคลื่นห่อหุ้มตัวพวกโนโซมุด้วยพริบตาเดียว อาจเป็นตัวที่ใช้ทำเวทย์พันธสัญญา แต่ก็ยังมีความเร็วและขนาดที่ใหญ่เกินคาด
ซีน่าหลับตาและเชื่อมต่อเข้ากับตัวโนโซมุ
แสงพลังเวทย์สีน้ำเงินล้อมรอบกายเธอและในที่สุดก็กระจายออกมาหลังปรากฏขึ้น พลังเวทย์นั้นตกลงใส่ผู้คนที่อยู่ในโดมแห่งนี้
แสงพลังเวทย์ที่ทำให้ความรู้สึกอบอุ่นท่ามกลางแสงจันทร์
ในที่สุดพลังเวทย์ก็กระจัดกระจายหายไป อย่างไรก็ตาม โนโซมุรู้สึกว่าพลังเวทย์ได้ห่อหุ้มร่างกายของเขาเอาไว้
ทางผ่านน่าจะถูกเชื่อมต่อไว้อย่างแน่นหนารู้สึกผูกผันกับทุกคนที่อยู่ตรงนี้
โนโซมุยังคงเข้าใกล้รังไหมที่ดูเหมือนไอพิษแห่งความตายออกมา เขาจับดาบที่อยู่ตรงเอวขณะมองดูเพื่อนสมัยเด็กที่อยู่ในรังไหม
「โนโซมุระวังตัวไว้นะคะ……」
โนโซมุพยักหน้าเงียบๆให้กับไอริสที่ร้องเรียกจากด้านหลัง โนโซมุพุ่งเข้าไปในรังไหมที่กำลังกัดกินพลังวิญญาณ
สารภาพบาปทำไมวันนี้มาปล่อยช้าขนาดนี้
เมื่อคืนที่บ้านพี่ชายกับแฟนสาวของเขาทะเลาะกันหนักมากเสียงดังจนทำให้ผมที่นอนหลับยากอยู่แล้ว(ทุกวันนี้กินยานอนหลับตลอด) นอนไม่หลับเลยครับ กว่าจะได้นอนก็เกือบ 8 โมงเช้า ซึ่งปกติผมจะตื่นมาราวๆ 9 โมงเพื่อมาแปลนิยาย จากนั้นก็หลับยาวไปจนถึง 4 โมงเย็น ก็พึ่งจะได้หยิบนิยายขึ้นมาแปลนี่แหละครับ ไม่รู้ว่าจะได้อีกตอนไหมวันนี้ ถ้าไม่ได้ในวันนี้ก็อาจจะมีชดเชยในวันพรุ่งนี้ครับ