พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 1638 ไม่ง่ายเช่นนั้น
ไอ้หนวดไม่พอใจเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เมื่อเห็นกิเลนแล้วรู้สึกว่าเขานั้นมีอนาคต แต่ทำไมเขาถึงได้สนใจรพีพงษ์ได้อย่างไร
ไอ้หนวดกล่าวกับกิเลนว่า “เอาอย่างนี้ คุณมาติดตามผม ผมสามารถให้ในสิ่งที่คุณต้องการ ผมคิดว่านายท่านของคุณทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง คุณมาติดตามผม ผมรับรองว่าคุณสามารถกินดีอยู่ดีได้อย่างแน่นอน”
ขณะที่เขากำลังพูดกิเลนก็คำราม เกิดลมกระโชกแรง ทำให้น้ำลายของ กิเลนพ่นใส่ใบหน้าของไอ้หนวดรพีพงษ์ยิ้ม “คุณคิดว่าคุณมีอะไรที่จะสามารถแข่งขันกับพวกเราได้”
ไอ้หนวดเห็นว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตนเอง เขาก็อยากจะพูดกดดันรพีพงษ์ แต่เมื่อมอง กิเลนแล้วเขาก็ถอยออกไป
เขากล่าวอย่างอ้อมแอ้มว่า “คุณคิดว่าคุณจะเข้าเมืองได้อย่างราบรื่นหลังจากที่ผ่านด่านของผมไปแล้วหรือ? มันเป็นเรื่องตลกสิ้นดี”
ไอ้หนวดรู้สึกไม่เต็มใจ และสาบานว่าจะไม่ปล่อยพวกรพีพงษ์ไปง่าย ๆ แล้วลูกน้องคนหนึ่งก็กระซิบข้างหูเข้าว่า “พี่หนวด ดูแล้วตอนนี้พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา พวกเราถอยกันเถอะ เดี๋ยวจะทำให้พวกเราเสียหน้า”
ไอ้หนวดตบคนที่พูด รพีพงษ์มองไปที่ไอ้หนวดอย่างมีความหมาย ไอ้หนวดดูเหมือนคนธรรมดาเหมือนพวกผลิน และไม่มีระดับผลการฝึกตน เขาจะสู้กับรพีพงษ์ได้อย่างไร?
ไอ้หนวดจากไป เขาคิดว่าที่รพีพงษ์กล้าหยิ่งผยองต่อหน้าตนเองนั้นเป็นเพราะกิเลน ถ้ารพีพงษ์เข้าไปในเมืองแล้วกิเลนไม่สามารถอยู่เคียงข้างรพีพงษ์ได้ตลอดเวลา รอให้เพียงรพีพงษ์อยู่กับเด็กคนนั้น เขาค่อยไปหารพีพงษ์อีกครั้ง และสั่งสอนรพีพงษ์ว่าควรจะทำตัวอย่างไร
หลังจากที่ไอ้หนวดไปแล้ว รพีพงษ์ถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าแดนเทวะสถิตจะมีคนอยู่ทุกประเภท”
ปัณฑายักไหล่ “นั่นเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ แดนเทวะสถิตนั้นไม่ดีเหมือนเมืองแฟรี่ คนที่นี่โหดร้ายกว่าเมืองแฟรี่ และคนที่นี่ก็คบยากกว่าคนเมืองแฟรี่ รพีพงษ์ พวกเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม”
รพีพงษ์พยักหน้า มองไปที่กิเลนและกล่าวว่า “ถ้าพวกเราพากิเลนไปด้วยมันจะเป็นจุดเด่นเกินไป ต้องหาสถานที่สำหรับกิเลน”
ปัณฑาก็ไม่คุ้นเคยกับที่นี่ ความทรงจำที่นี่เมื่อพันกว่าปีที่แล้ว และสถานที่หลายแห่งนั้นก็เปลี่ยนไปแล้ว
พวกรพีพงษ์เดินเข้าไปข้างใน และข้างในนั้นเริ่มมีคนมากขึ้น บ้านเรือนที่เจริญรุ่งเรือง และมีผู้คนมากมายตามร้านค้า ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของแดนเทวะสถิต
ตามคำกล่าวของปัณฑา ที่นี่ไม่ใช่สถานที่หรูหราที่สุด รพีพงษ์ตั้งหน้าตั้งตารอสถานที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดนั้นจะเป็นแบบไหน
ปัณฑามองสถานที่นี้ แล้วถอนหายใจ ไม่ได้เห็นมานานแล้ว ที่นี่เปลี่ยนแปลงไปมากจริง ๆ มีคนย้ายมาที่แดนเทวะสถิต ไม่น้อย เมื่อก่อนมีแต่ในเมืองเท่านั้นที่มีคนอาศัยอยู่ และไม่ได้เข้มงวดขนาดนี้ คนเหล่านี้ได้ยินมาว่าที่แดนเทวะสถิตเป็นสถานที่ดีดังนั้นจึงย้ายมาอาศัยอยู่ที่นี่
รพีพงษ์พบโรงแรม แล้วก็มีบ๋อยเดินออกมาและกล่าวว่า “คุณลูกค้า นอกจากโรงแรมของพวกเราแล้ว คุณไม่สามารถหาโรงแรมที่เหมาะสมแห่งที่สองได้อีกแล้ว”
บ๋อยมองไปที่รพีพงษ์ด้วยรอยยิ้ม รพีพงษ์ถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณพูดเช่นนี้หมายความว่ายังไง?”
“เพื่อต้อนรับแขกเช่นคุณที่พาสัตว์ขี่มาด้วย ทางโรงแรมของพวกเราจึงออกแบบสถานที่สำหรับให้สัตว์ขี่ได้พักผ่อนโดยเฉพาะ ไม่มีแห่งที่สองในแดนเทวะสถิตอีกแล้ว”
“คืนละกี่เหรียญทอง” รพีพงษ์ถามตรงประเด็น สถานที่แบบนี้ไม่ถูกแน่นอน ตอนที่อยู่ในเมืองแฟรี่มีตระกูลภูสรีดาวอยู่ รพีพงษ์จึงไม่เคยเห็นเหรียญทองอยู่ในสายตา เมื่อมาถึงที่นี่ ไม่มีเหรียญทองจะขยับทำอะไรก็เป็นเรื่องยาก
บ๋อยเหยียดสองนิ้วออกมาแล้วกล่าวว่า “เท่านี้!”
ปัณฑาถามว่า “คงจะไม่ใช่สองร้อยเหรียญทอง?”
“เป็นไปได้ยังไง เจ้าเด็กน้อย ที่นี่ไม่ใช่แค่ที่คุณพักกับพ่อของคุณเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงที่พักสัตว์ขี่ของพวกคุณด้วยสองพันเหรียญทอง ไม่หลอกลวงพวกคุณแน่นอน”
ปัณฑากล่าวว่า “ เชอะ” แล้วกล่าวว่า “ทำไมคุณไม่ไปปล้นล่ะ ตอนกลางวันแสก ๆ คิดว่าเงินคนอื่นลมพัดมาหรือไง?”
กิเลนก้มลงเพื่อให้รพีพงษ์ลงมา หลังจากที่รพีพงษ์ลงมา กิเลนก็กลายเป็นขนาดเดียวกับสุนัขที่เลี้ยงตามบ้านทันที กิเลนกล่าวว่า “วิธีนี้จะไม่ทำให้นายท่านยุ่งยาก ผมสามารถพักห้องเดียวกับนายท่านได้”
ใบหน้าของบ๋อยเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที และทัศนคติต่อพวกรพีพงษ์ก็เปลี่ยนไป เขารู้ว่าพวกรพีพงษ์ไม่มีเงิน
รพีพงษ์รู้ดีว่า ไม่ว่าในเทวโลกหรือบนโลก ขอแค่ไม่มีเงิน ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีแต่คนดูถูกเหยียดหยาม
รพีพงษ์มองไปที่บ๋อย และกล่าวว่า “เอาล่ะ ตอนนี้สัตว์ขี่ของผมไม่ต้องการที่พักที่คุณจัดให้ สามารถถูกกว่านี้ไหม?”
“โรงแรมของเราไม่มีห้องว่าง” บ๋อยมองรพีพงษ์ด้วยสายตาที่ดูถูก ค่าห้องพักที่นี่สูงมาก ดูแล้วรพีพงษ์ไม่มีปัญญาพักแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ ตนเองก็ไม่อยากเสียเวลากับพวกรพีพงษ์อีกต่อไป
รพีพงษ์เอามือแตะหน้าผาก มีอย่างนี้ด้วยหรือ เมื่อสักครู่ไม่ได้พูดเช่นนี้
ปัณฑากล่าวอย่างไม่พอใจ “ฉันคิดว่าพวกคุณเป็นคนที่ชอบดูถูกคนอื่น”
ในเวลานี้ มีคนตบหลังรพีพงษ์ และกล่าวว่า “ที่พักของพวกเขาเท่าไหร่ ผมจะจ่ายให้”
รพีพงษ์ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยมาก หันกลับไปมอง เขาเห็นตวัส รพีพงษ์ไม่คิดว่าจะได้เจอตวัสที่นี่ จึงขมวดคิ้วและกล่าวว่า “คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
“ผมอยู่ที่นี่ก็ไม่เห็นมีอะไรน่าแปลกเลย คุณมาที่นี่ถึงแปลก ทำไม เรื่องของหนูลินยังไม่คลี่คลายอีกหรือ?”
รพีพงษ์นึกถึงเรื่องนี้ มันยากที่จะกล่าวออกมา ถ้าเรื่องของหนูลินได้คลี่คลายไปแล้ว ตนเองจะไม่ปรากฏตัวอยู่ที่นี่
เมื่อบ๋อยเห็นตวัส ก็แสดงความนอบน้อมทันทีและกล่าวว่า “ในเมื่อคุณชายท่านนี้บอกว่าจะจ่ายเงินให้พวกคุณ ทางโรงแรมของพวกเราก็มีห้องว่างที่ดีอยู่แล้ว”
ปัณฑาถามบ๋อยว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าไม่มีห้องว่างไม่ใช่หรือ? ตอนนี้มีแล้วหรือ?”
บ๋อยเหลือบมองปัณฑา แต่ไม่สนใจปัณฑา รพีพงษ์และตวัสเดินเข้าไปพร้อมกัน และพูดคุยกันขณะเดิน
รพีพงษ์บอกตวัสเกี่ยวกับสิ่งที่เขาประสบมาในช่วงเวลานี้ ตวัสรู้สึกโศกเศร้า ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะโชคร้ายเช่นนี้
ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ไม่ค่อยราบรื่น ในแดนเทวะสถิต เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขารู้หลังจากนรเทพตายไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงถามรพีพงษ์
ตอนนี้ลูกสาวของรพีพงษ์อยู่ในเทวโลก และตอนนี้รพีพงษ์มาตามหาลูกสาว แต่คราวนี้มันยากกว่าการนำจิตวิญญาณของหนูลินคืนจากนรเทพมาก
เมื่อเข้ามาถึงห้องพัก เขากล่าวกับรพีพงษ์ว่า “เส้นทางนี้มันลำบากยากเย็นแสนเข็ญ คุณต้องรู้ว่า คนที่อยู่เบื้องหลังนรเทพนั้นร้ายกาจกว่านรเทพมาก นรเทพเป็นหมากตัวหนึ่งของเขาเท่านั้น ตอนนี้พวกเขาจับตาการเคลื่อนไหวของคุณแล้ว ทุกการเคลื่อนไหวของคุณอยู่ในสายตาของพวกเขาตลอด”
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว เป้าหมายของพวกเขาคือหนูลิน ตอนนี้หนูลินอยู่ในมือของพวกเขาแล้ว เกรงว่าตนเองคงจะต้องลำบากแน่นอน
พ่อกับลูกสาวสองคนสายสัมพันธ์เชื่อมกัน พวกเขาจะหาวิธีฆ่าตนเองตายแน่นอน เขาถามตวัสว่า “ตอนนี้ผมควรจะทำอย่างไรดี?”