พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่459 คุกเข่า
เสียงของดัมพ์รงค์ดึงกึกก้องไปทั้งสนาม ตอนนี้รพีพงษ์ถือว่าชนะปีนบันไดสูงสำเร็จ
ทั้งสนามเงียบไปสามวินาที จากนั้นก็ก็ปรบมือดังลั่น
ฝนสุดามองไปที่รพีพงษ์ด้วยความยินดี ยิ้มจนแก้มปริ เธอพุ่งไปที่รพีพงษ์แล้วตะโกน “คุณคือคนที่ฝนสุดาชอบ!”
ธนเทพเดินถอยหลังไป นั่งลงบนโซฟาอย่างหมดอาลัยตายอยาก ด้วยอารมณ์เกินที่ยากจะบรรยาย
นี่ยังฆ่ารพีพงษ์ไม่ได้อีก เขาคิดวิธีที่จะจัดการกับรพีพงษ์ไม่ออกอีกแล้ว
เตชัสผิวปากให้รพีพงษ์ ตอนนี้รพีพงษ์คือไอดอลของเขา แม้จะให้เขาเป็นลูกน้องของรพีพงษ์ตลอดชีวิต เขาก็ยินดีอย่างยิ่ง
รพีพงษ์เห็นการประลองปีนบันไดสูงจบลง ก็ถอนหายใจยาวๆ ตอนนี้ในร่างกายเริ่มมีปฏิกิริยาต่อต้านออกมา และกำลังภายในของร่างกายก็ถูกใช้ไปอย่างเต็มที่
เขาเดินไปข้างหน้าสองก้าว คิดว่าจะลงจากเวที แต่ทว่าเพิ่งจะก้าวเท้า หัวเขาเริ่มหมุน จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น
เตชัสที่อยู่ล่างเวทีเห็นเหตุการณ์ ก็รีบพุ่งไปบนเวที ตรวจร่างกายของรพีพงษ์ พบว่าเขาเพียงแค่สลบไป ไม่ได้มีอะไรสาหัส จึงโล่งอกไป
ฝนสุดาเห็นรพีพงษ์เป็นลม ก็ตกใจเช่นกัน ความจริงอยากที่จะพุ่งเข้าไปดูเหตุการณ์ แต่คิดๆแล้ว คนเยอะขนาดนี้เธอควรจะอดกลั้นไว้ดีกว่า
ตอนที่นนทภูเห็นรพีพงษ์ล้มลงใจก็เต้นตึกๆ แต่เมื่อแน่ชัดว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้วนั้น ก็ไม่ได้ร้อนใจ เพียงแค่สั่งให้คนข้างกาย ให้พวกเขาตามหมอให้รพีพงษ์
ไม่นาน ก็มีคนพารพีพงษ์ที่สลบอยู่ออกจากหอแข่งขันศิลปะการต่อสู้กิสนา กลับไปพักผ่อนที่วิลล่า
เมื่อปีนบันไดสูงจบลง หลังจากคนส่วนใหญ่ในหอการแข่งขันดีใจกันเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับไป
ท่านบุญถึงลุกขึ้น ยิ้มต่อนนทภูแล้วกล่าว “วันนี้ได้เห็นพลังของลูกชายแก ขั่งเป็นเรื่องเซอร์ไพร์สอย่างหาที่เปรียบมิได้ ว่างเมื่อไหร่พาเขาไปดื่มชาที่บ้านฉัน”
นนทภูรีบยืนขึ้น แล้วคำนับให้ท่านบุญถึง ยิ้มแล้วกล่าว “แน่นอน”
นนทภูผู้เป็นเจ้าของเทือกเขากิสนารู้ดีว่าท่านบุญถึงเป็นคนระดับไหน คนที่เขาเชิญไปดื่มชาได้นั้น ไม่มีใครที่ไร้ความสามารถสักครู่
แค่เขาพูดออกมา ก็มีค่าอย่างมาก
ท่านบุญถึงไม่อยู่ต่อ หันหลังกลับแล้วเดินจากไป นนทภูออกไปส่ง ไม่นานก็กลับมายังหอการแข่งขันอีกครั้ง
วันนี้รพีพงษ์ชนะการแข่งขันปีนบันไดสูงสำเร็จ ถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว และนนทภูจะต้องช่วยรพีพงษ์จัดการปัญหาบางอย่าง ให้ไอ้พวกระยำทั้งหลายรู้ ว่าลูกชายเขา ไม่ใช่ใครจะรังแกได้ง่ายๆ
นรชัยรออยู่ที่ที่นั่งของนนทภู เพราะคนจำนวนมากได้ออกไปจากที่นี่แล้ว จึงเหลือแค่คนของนนทภู และคนที่นรชัยพามา
นรชัยยืนอยู่ที่นี่อย่างวิตกกังวล ครุ่นคิดว่าจะสร้างความสัมพันธ์กับเจ้าของเทือกเขากิสนาได้อย่างไร
เมื่อกี๊เขาได้สังเกตท่านบุญถึงที่นั่งใกล้ๆกับนนทภู ถึงแม้เขาไม่รู้ว่าคนแก่คนนั้นเป็นใคร แต่รับรู้ได้ว่าเจาเป็นคนที่คาดเดายาก ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา ยิ่งทำให้นรชัยรู้ว่านนทภูแตะต้องไม่ได้
นนทภูกลับไปนั่ง ลงบนโซฟาอีกครั้ง มองไปนัยน์ตาของนรชัย ด้วยความเยือกเย็น
“ท่านเทพสังหาร ครั้งนี้ที่ผมมาเทือกเขากิสนา ตั้งใจเอาของขวัญมาให้ท่าน……” นรชัยยิ้มพลางกล่าว ตัดสินใจบอกว่าตนเองเอาของขวัญมาให้ก่อน
นนทภูเหอะๆ แล้วกล่าว “ไม่จำเป็นหรอก ผมไม่อยากได้ของขวัญของคุณ”
นรชัยชะงัก ไม่รู้ว่าเจ้าของเทือกเขากิสนาเป็นอะไรไป แค่เริ่มต้นก็แข็งกระด้างเสียแล้ว เหมือนกับไม่ให้เกียรติเขาอย่างไรอย่างนั้น
การแข่งขันปีนบันไดสูงครั้งนี้เขาเป็นคนลงเงินจัดการแข่งขัน แล้วยังมียอดฝีมืออย่างรพีพงษ์ ความจริงเจ้าของเทือกเขากิสนาจะต้องดีใจถึงจะถูกสิ ตอนนี้ดูๆแล้ว เป็นเพราะเรื่องนี้เขาจึงรู้สึกไม่สบายใจ
“ท่านเทพสังหาร คุณหมายความว่ายังไง?” นรชัยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ผมหมายความไง เดี๋ยวคุณก็จะรู้ในอีกไม่ช้า เรียกลูกชายคุณมา เรื่องวันนี้ ต้องคิดบัญชีให้หมด” นนทภูกล่าว
สีหน้าของนรชัยถอดสี ไม่คาดคิดว่านนทภูตั้งใจรออยู่ที่นี่อยู่แล้ว เมื่อกี๊เขาคิดว่านนทภูตั้งใจจะมาสร้างสัมพันธไมตรีกับเขา แต่ที่ไหนได้มาเพื่อคิดบัญชีกับลูกชายเขา ดังนั้นจึงรออยู่ ตอนนี้ดูๆแล้ว กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้
“ท่านเทพสังหาร ถ้าลูกชายของผมสร้างปัญหาไว้ คุณบอกผมได้นะ ผมจะกลับไปจัดการเขาเอง” นรชัยกล่าว
นนทภูชักตาไปที่เขา ด้วยความโกรธแค้น นรชัยเห็นสายตาของนนทภู ตกใจจนแทบจะคุกเข่าลงกับพื้น
ความสามารถของเด็กคนนี้ชั่งเก่งกล้าเหลือเกิน เขาก็เป็นผู้ดีเหมือนกัน แต่ไม่สามารถที่จะทนต่อสายตาของนนทภูได้
“คุณไม่เข้าใจที่ผมพูดหรอ?
หน้าผากของนรชัยเต็มไปด้วยเหงื่อ เขารู้ว่าตัวเองอยู่ในเทือกเขากิสนา ไม่มีสิทธิ์ที่จะขัดขืน ดังนั้นสุดท้ายแล้วจึงไม่พูดอะไร หยิบมือถือขึ้นมา แล้วโทรหาลูกชายเขา
ผ่านไปไม่นาน ธนเทพเดินลงมาจากชั้นสาม มาอยู่หน้าของนนทภูพวกเขา
คนที่เดินลงมาพร้อมกับธนเทพ ก็คือฝนสุดา
ฝนสุดารับรู้ได้ถึงพลังในตัวของนนทภู ฝนสุดารู้สึกแปลกใจ แต่ไม่นานเธอก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
หลังจากที่ฝนสุดารู้แล้วว่ารพีพงษ์คือลูกชายที่เจ้าของเทือกเขากิสนาภูมิใจ ก็เดาออกว่านนทภูไม่มีทางปล่อยธนเทพไปแน่นอน
เธอหันหน้าไปมองธนเทพ ด้วยสายตาสงสาร
ธนเทพยังเข้าใจ เขายังไม่รู้ว่าทำไมพ่อเขาถึงได้เรียกเขามา ตอนนี้เขายังคงอยู่ในอารมณ์โกรธที่รพีพงษ์ชนะการแข่งขันปีนบันไดสูงได้สำเร็จ เขาต้องหาวิธีอื่น ที่จะกำจัดรพีพงษ์ให้หายไปจากโลก
เมื่อกี๊ เขาคิดที่จะใช้การวางยาพิษให้รพีพงษ์ รพีพงษ์กำลังเป็นลมไปพอดี เขาจะให้การ์ดของเขสไปดูรพีพงษ์แล้ววางยาเสีย เพียงแค่ไม่มีคนขัดขวาง รพีพงษ์จะต้องตายแน่นอน
แต่เขายังคิดไม่จบ ก็ถูกเรียกตัวแล้ว ดีงนั้นทำได้เพียงจัดการเรื่องตรงนี้ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปลงมือกับรพีพงษ์
“พ่อ พ่อหาผมมีธุระอะไรหรอครับ?” ธนเทพมองไปที่นรชัย ไม่ได้สนใจนนทภูที่อยู่ตรงหน้าแต่อย่างใด ในสายตาเขา เจ้าของเทือกเขากิสนาไม่สำคัญใดๆ ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ
นรชัยชักตาไปที่ธนเทพ แล้วกล่าว “อาเทพสังหารหาแก แกถามท่านเองแล้วกัน”
ธนเทพสงสัย หันหน้าไปที่นนทภู ถามอย่างมีมารยาทว่า “อาเทพสังหาร คุณหาผมมีอะไรหรือเปล่า?”
นนทภูเงยหน้าดูธนเทพ แล้วพูดอย่างเข้มงวดว่า
“คุกเข่า!”