พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 940 ผู้มาเยือนเปร์คิง
บทที่940 ผู้มาเยือนเปร์คิง
สถานที่แห่งหนึ่งในเกียวโต รถจิ๊บคันหนึ่งกำลังจอดอยู่ข้างทาง
บนรถจิ๊บมีหญิงหนึ่งชายหนึ่ง ทั้งสองใสเครื่องแบบทหาร ฝ่ายชายสูงและกำยำ คิ้วทำให้ดูเคร่งขรึม บนหน้าผากมีแผลเป็นขนาดนิ้วโป้ง ดูๆไปน่าเกรงขาม ทำให้คนที่เห็นหวาดกลัว
ฝ่ายหญิงลักษณะไม่น่าเกรงขาม แม้จะเป็นเสื้อผ้าเป็นกลางๆก็ไม่สามารถปกปิดออร่าในตัวเธอได้ บวกกับทวารทั้งห้าที่สวยได้รูปดึงดูดสายตา ในกองทัพ ถือว่าเธอเป็นดาวของกองทัพแน่นอน
ผู้ชายมีชื่อว่าชนสรณ์ ปีนี้อายุสามสิบเก้า เป็นทหารระดับสูงของเปร์คิง ผู้ช่วยครูฝึกทหารมังกร เป็นยอดฝีมือมวยไทยที่มีชื่อเสียงของเปร์คิง แม้จะเป็นในกองทัพ ก็มีไม่กี่คนเท่านั้นที่เป็นคู่แข่งกับเขา
ผู้หญิงชื่อทัตดา ยี่สิบสามปี มีตำแหน่งฝ่ายพลเรือนของกองทัพ เพิ่งจะเข้าร่วมกองทัพได้หนึ่งปี เพราะเก่ง ดังนั้นจึงถูกเลือกให้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายชี้แนะของหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรในครั้งนี้
ที่พวกเขาทั้งสองปรากฏตัวที่นี่นั้น เพื่อมารับคนที่ผู้บัญชาการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรมาเปร์คิงด้วยตัวเอง
รพีพงษ์ เป็นหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ของทหารมังกร
ตอนนี้ทัตดากำลังจ้องเอกสารที่มาจากกองทัพส่วนกลางเกี่ยวกับหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ เพราะตัวตนของรพีพงษ์พิเศษ บอกกับจารุวิทย์ให้เกียรติรพีพงษ์ ดังนั้นข้อมูลของรพีพงษ์จึงเป็นลับสุดยอด
คนทั่วไปจะเห็นข้อมูลพื้นฐานของรพีพงษ์เท่านั้น เกี่ยวกับข้อมูลในด้านความสามารถ ฝีมือ และมีผลการรบอย่างไรทั้งหมดจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ มีทหารเพียงระดับสูงเท่านั้นที่จะเห็น
ทัตดาคนระดับนี้ จะเห็นข้อมูลบางอย่างของรพีพงษ์เท่านั้น
“ไม่เข้าใจจริงๆว่าผู้บัญชาการคิดอะไรอยู่ รู้สึกว่ารพีพงษ์แน่ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ก็แค่นายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ป้ะ และเขาก็ยังเคยเป็นผู้ชายแต่งงานเข้าผู้หญิงที่เมืองริเวอร์ด้วย จากข้อมูล ตอนที่เขาเป็นผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิงนั้น ทุกๆคนเรียกเขาว่าไอ้สวะ จนกระทั่งมาสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์จึงได้ผันตัวขึ้นมา”
“ถ้าดูจากประสบการณ์ รพีพงษ์ก็ถือว่าผ่านอะไรมาเยอะ แต่คนที่ถูกคนอื่นเรียกว่าเป็นไอ้สวะ จะเป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรตำแหน่งนี้ได้ไงกัน เพราะทหารมังกรเป็นกลุ่มที่มีเบื้องหลังแข็งแกร่งที่สุดนะ”
ทัตดาพูดข้อสงสัยในใจของตนให้ชนสรณ์ฟัง
ชนสรณ์ได้ยินคำพูดของทัตดาแล้วนั้น ก็ยิ้มอย่างเหยียดหยาม แล้วกล่าว “ผมได้ดูข้อมูลของรพีพงษ์นี่แล้วเช่นกัน ตอนแรกที่เห็น ผมคิดว่าผู้บัญาชาการเลือกผิดคน จึงได้ไปถามผู้บัญชาการโดยเฉพาะ แต่ผู้บัญชาการบอกว่าไม่ผิด ที่จะแต่งตั้ง ก็คือรพีพงษ์คนนี้นี่แหละ”
“ผู้บัญชาการยังบอกอีกนะว่ารพีพงษ์นี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เห็น ให้ผมกระฉับกระเฉง ต่อมาผมดูข้อมูลพวกนี้อยู่นาน สุดท้ายก็เข้าใจ ที่ผู้บัญชาการให้เขามาเป็นหัวหน้าครูฝึกนั้น น่าจะเพื่อมาฝึกความฮึกเหิมของทหารมังกรที่ขี้โวยวายเวลาทำอะไรไม่ได้ดั่งใจพวกนั้น
ทัตดายังคงไม่เข้าใจ แล้วถาม “ฝึกความฮึกเหิมของพวกเขา? ทำไมต้องเป็นรพีพงษ์?”
“ใช่ คุณคิดดูนะ รพีพงษ์คนนี้เมื่อก่อนมันเป็นผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิง รับได้ทุกสถานการณ์ ต่อมาเขาเป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ นั่นหมายถึงเขามีฝีมืออยู่บ้าง แต่การที่เขาเป็นหัวหน้าครูฝึก มันยังไม่พอ เพราะจะทำให้ทหารมังกรไม่พอใจ ถึงเวลานั้นรพีพงษ์จะต้องใช้ตัวตนของตัวเองในการบีบทหารของทหารมังกร”
“ในกองทัพ คำสั่งขอเบื้องบนใหญ่ยิ่งกว่าอะไร ต่อให้เหล่าทหารของทหารมังกรจะไม่พอใจ ก็พูดอะไรไม่ได้ สำหรับจิตใจของพวกเขาแล้ว ถือว่าเป็นการฝึกที่เจ็บปวดครั้งหนึ่งเลยทีเดียว แต่รพีพงษ์ที่รับได้ทุกสถานการณ์ ก็สามารถรับได้กับความไม่พอใจของเหล่าทหารทหารมังกร ที่ผู้บังคับบัญชาเชิญมันมา ก็ประมาณนี้”
ชนสรณ์อธิบายให้ทัตดาฟังอย่างตั้งใจ
หลังจากที่ทัตดาฟังจบแล้วนั้น ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล แต่ก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆอยู่ดี
“แต่การฝึกฝนความฮึกเหิมนี้ ชนสรณ์คุณเหมาะสมกว่านะ เลื่อนให้คุณเป็นหัวหน้าครูฝึกก็จบ ทำไมพาคนอย่างรพีพงษ์มาด้วย?” ทัตดาถาม
ชนสรณ์อัดอึด ก่อนหน้านี้ตำแหน่งหัวหน้าครูฝึกทหารมังกร จารุวิทย์เป็นผู้ดูแลเอง ครั้งนี้เขาปล่อยตำแหน่ง ตอนแรกชนสรณ์ก็คิดว่าถึงเวลาที่ตัวเองจะได้เลื่อนขั้นแล้ว
แต่ใครก็ไม่คิด ว่าจารุวิทย์จะรพีพงษ์ที่ไม่เคยผ่านการทหารมาก่อนมาเป็นหัวหน้าครูฝึก และรพีพงษ์อายุแค่ยี่สิบกว่าปี นี่มันเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกคนอย่างมาก
ชนสรณ์ไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร ต่อมาเดาว่ารพีพงษ์นี้น่าจะเป็นคนที่จารุวิทย์เอามาเพื่อทดสอบเขา
“นี่น่าจะเป็นความคิดของผู้บัญชาการแล้วแหละ ผมคิดว่านอกจากเขาจะฝึกฝนเหล่าทหารทหารมังกรแล้ว น่าจะต้องการทดสอบผม ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาผมอยากได้ตำแหน่งหัวหน้าครูฝึกนี้มาโดยตลอด ผู้บัญชาน่าจะคิดว่าผมเห็นความสำคัญกับตำแหน่งนี้ ดังนั้นจึงได้พารพีพงษ์มา ดูว่าผมสามารถจะอดทนต่อความกดดันของคนแบบนี้ แล้วพาทหารมังกรให้สำเร็จได้หรือไม่”
ชนสรณ์อุทานออกมา คราวนี้ทัตดาก็รู้สึกว่าชนสรณ์มีเหตุผลขึ้นมาทันที เพราะถ้าผู้บัญชาการไม่อยากใช้ชนสรณ์ ก็ไม่มีทางที่จะหาคนอายุยี่สิบกว่าปีมาเป็นหัวหน้าครูฝึกได้
“หวังว่าหัวหน้าครูฝึกคนนี้จะไม่เรื่องมาก ได้ยินมาว่าผู้ชายที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงนานๆ แล้วผันตัวขึ้นมาได้ จะมีอารมณ์ที่ค่อนข้างแปลกๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือชอบสั่งการผู้น้อย เพื่อระบายอารมณ์จากเรื่องราวในอดีตของตัวเอง ถ้าเขาเป็นแบบนี้ ฉันต้องปวดหัวมากแน่ๆ” ทัตดากล่าวอย่างกังวล
ชนสรณ์ยิ้ม แล้วกล่าว “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แม้ในกองทัพจะเป็นเข้มงวดเรื่องระบบลำดับชั้น ต้องเชื่อฟังคำสั่ง แต่ทหารพวกนั้นยโสโอหัง และให้ความสำคัญกับฝีมือมาก การทหาร ยังไงก็เคารพกันที่ความสามารถ”
“ถ้าครูฝึกคนใหม่นี้เป็นไอ้สวะไม่มีความสามารถ เหล่าทหารของทหารมังกรก็ไม่มีทางดีกับเขาแน่นอน ไม่เหมาะสมกับหน้าที่ ก็ต้องถูกดูหมิ่น ผมว่าคนนี้มันอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ก็จะออกไสหัวไปเอง” ชนสรณ์กล่าวอย่างมั่นใจ
ทัตดาก็หัวเราะตาม ไม่พูดอะไรต่อ
สายตาชนสรณ์ลำเลิกจ้องไปที่ข้อมูลของรพีพงษ์ที่อยู่ในมือของทัตดาแล้วหลับตา
“เด็กน้อย แกแย่งตำแหน่งหัวหน้าครูฝึกฉันไป อย่าคิดว่าฉันจะให้เกียรติแกเลย ฉันฝึกมวยไทยมาตั้งแต่ยังเล็ก ในกองทัพน้อยมากที่จะเป็นคู่ต่อกรของฉันได้ ต่อให้เป็นคนจากนอกโลก ก็ต้องเรียกฉันอย่างนับถือว่าเป็นปรมาจารย์มวยไทย แกมีสิทธิ์อะไรมาเหยียบหัวฉัน รอให้แกมาถึงเปร์คิงก่อน ฉันจะสั่งสอนแกเอง” ชนสรณ์พึมพำ
ผ่านไปไม่นาน ร่างซูบผอมร่างหนึ่งปรากฏกายบนถนน ชนสรณ์และทัตดามองไปที่ร่างนั้น ด้วยความตะลึง
“มาแล้ว คนนี้ไง” ชนสรณ์กล่าว
ทัตดามองรพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็พึมพำ “ดูธรรมดาจริงๆ ดูๆแล้วผู้บัญชาการต้องการที่จะทดสอบพวกคุณจึงได้พาเขามา แต่ฟังจากชนสรณ์ เกรงว่าคนนี้น่าจะโชคร้ายแล้วล่ะ”