พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 876 ฟังคนอื่นพูดเรื่องตัวเอง
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 876 ฟังคนอื่นพูดเรื่องตัวเอง
บทที่876 ฟังคนอื่นพูดเรื่องตัวเอง
คนนั้นพารพีพงษ์มายังประตูอาคารหนึ่งที่ติดกับเขา ผ่านกระจกไป สามารถมองเห็นห้องโถงได้ มีสี่คนที่สวมเครื่องแต่งกายต่างกัน คนอายุไม่เท่ากันอยู่ด้านใน
“คุณเข้าไปเองล่ะกัน พวกเขาทั้งสี่ก็มารายงานตัวเช่นกัน เดี๋ยวจะมีคนพาคุณไปทดสอบ หลังจากที่ผ่านการทดสอบแล้ว ก็เข้าร่วมกลุ่มสิงโตได้อย่างเป็นทางการ” คนนั้นกล่าว
รพีพงษ์ชะงัก แล้วถาม “ยังต้องทดสอบอีกหรอ?”
“แน่นอน แม้พวกคุณจะได้รับป้ายแรกเข้าของกลุ่มสิงโต ก็พอจะบอกได้ถึงความสามารถของพวกคุณ แต่พวกเราไม่รู้ว่าคนที่รับพวกคุณมาจะมองผิดไปหรือเปล่า เมื่อก่อนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบ่อย ดังนั้นสำหรับคนที่มารายงานตัวต้องผ่านการทดสอบอีกครั้ง” คนนั้นตอบ
รพีพงษ์พยักหน้า
“ผมขอเตือนคุณไว้ก่อน คนที่ทดสอบพวกคุณวันนี้ คือคุณหงส์ผู้ยิ่งใหญ่ เธอขึ้นชื่อมากในเรื่องเหวี่ยง คุณอย่าหาเรื่องเธอนะ มิเช่นนั้นการทดสอบครั้งนี้ของคุณ ต้องรับผิดชอบเอง” คนนั้นกล่าว
รพีพงษ์ยิ้ม กล่าว “ขอบคุณที่เตือนครับ”
คนนั้นไม่พูดอะไรต่อ หันหลังแล้วจากไป รพีพงษ์ก็เดินเข้าไปในห้องโถง
คนนั้นที่พารพีพงษ์มาออกไปไม่ไกล ก็หยุดเดินลง หันหลังมองไปยังห้องโถง แล้วพึมพำ “ไม่ใช่สิ เด็กนั่นทำไมละอ่อนจัง ดูๆไปน่าจะแค่ยี่สิบกว่าปีนะ? วัยรุ่นขนาดนี้ฝีมือจะเก่งสักเท่าไหร่เชียว? ใครรับเขาเข้ามา ความจริงรุ่นใหญ่ที่รับสมาชิกใหม่นี้แม้จะดูผิด แต่ไม่น่าจะแค่นี้ก็ดูไม่ออกนะ?”
“หรือเป็นผู้มีพรสวรรค์?”
คิดไปคิดมา คนนั้นก็เดินต่อไป ยังไงเขาก็อยู่แค่ตรงด่าน รพีพงษ์จะได้ไม่ได้ ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
ณ ห้องโถง ทั้งสี่คนกำลังพูดคุยกันอยู่
อายุของทั้งสี่คนไม่น้อย เห็นคนอายุน้อยที่สุด ก็อายุสี่สิบกว่าปี แก่สุดก็ประมาณหกสิบกว่าปี
หลังจากที่รพีพงษ์เข้าไปในห้องโถงแล้ว รู้สึกได้ว่าสี่คนนี้เป็นแดนปรมาจารย์ แม้ออร่าความแกร่งอ่อนจะไม่สม่ำเสมอ แต่สี่คนนี้เป็นแดนปรมาจารย์จริงๆ
หนึ่งในสี่คนที่อายุยืนที่สุด รู้สึกว่าจะเป็นแดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุด
ไม่แปลกที่กลุ่มสิงโตเป็นกลุ่มอันดับหนึ่งของประเทศจีน แค่รายงานตัววันนี้ ก็มีแดนปรมาจารย์เยอะขนาดนี้แล้ว ไม่รู้ว่าถ้าทุกคนของกลุ่มสิงโตรวมตัวกัน จะน่าเกรงขามมากมายขนาดไหน
เขาสังเกตเห็นสามคนในสี่คนนั้น ล้วนเคารพผู้อายุยืนนั้น
เมื่อรพีพงษ์เข้าไปยังห้องโถง ทั้งสี่คนก็มองมา เห็นรพีพงษ์อายุน้อย ก็รู้สึกประหลาดใจ
แต่พวกเขารู้สึกตัวอย่างเร็ว วัยรุ่นที่ปรากฏตัวต่อหน้าเขา อาจจะเป็นศิษย์ของกลุ่มสิงโตที่มีความสามารถน่าเกรงขาม แค่เห็นก็รู้แล้วว่าห้ามแตะต้องเป็นอันขาด การที่เป็นศิษย์ของกลุ่มสิงโตได้นั้น จะต้องมีพรสวรรค์ไม่น้อยเลยทีเดียว
ผู้อาวุโสคนนั้นยิ้มให้รพีพงษ์ กล่าว “น้องชาย ชื่อพรดรัล มาจากเกาะทองขาวตระกูลพิมลนัทชา เห็นท่าทีของน้องชาย น่าจะเป็นศิษย์ของผู้ยิ่งใหญ่ท่าใดท่านหนึ่ง มิทราบว่าน้องชายพอจะบอกได้มั้ย ว่าเดี๋ยวพวกเราต้องเจอกับการทดสอบอะไรบ้าง?”
รพีพงษ์จ้องไปที่พรดรัล ในหัวสะท้อนภาพพี่น้องตอนที่อยู่สำนักเทพยาเซียนมากมาย พวกเขาทั้งสองก็มาจากตระกูลพิมลนัทชาเกาะทองขาว ไม่รู้ว่าพรดรัลกับสองพี่น้องนั้นเป็นอะไรกัน
สามคนรอบๆนั้นก็มองรพีพงษ์ด้วยไมตรีจิต ดูออกชัดเจนว่ากำลังประจบประแจง
รพีพงษ์มองทุกคน แล้วกล่าว “ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว ผมก็มารายงานตัวเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเขาจะทดสอบอะไร?
พรดรัลและพวกพ้องได้ยินคำนี้ก็ชะงัก แล้วมองรพีพงษ์จากหัวจรดเท้า ไม่คาดคิดว่าเขามาที่นี่เพื่อรายงานตัว
แค่ดูจากอายุของรพีพงษ์ ก็ค่อนข้างวัยรุ่นอยู่
แต่ทุกคนก็ไม่ได้เมินเฉย เพราะการที่จะมารายงานตัวที่กลุ่มสิงโตได้นั้น ไม่มีใครที่ธรรมดา
“ที่แท้น้องชายก็มารายงานตัว โชคดีจัง น้องชายอายุน้อยขนาดนี้เข้าร่วมกลุ่มสิงโตได้ ต้องเป็นเพราะพรสวรรค์ล้วนๆ ได้มาเจอกันที่นี่ ถือว่าเป็นพรหมลิขิตของเราแท้ๆ” พรดรัลกล่าว แม้จะพูดแบบนี้ แต่ในใจเขากลับรู้สึกว่ารพีพงษ์พึ่งความสัมพันธ์เข้ากลุ่มสิงโตนี้ เพราะจากการที่เขาเป็นแดนปรมาจารย์ขั้นสุดยอด ดูไม่ออกถึงความโดดเด่นของรพีพงษ์ คิดว่าฝีมือต้องด้อยอย่างมากแน่นอน
พรดรัลอยู่ที่เกาะทองขาวอย่างเจริญรุ่งเรือง สำหรับปฏิสัมพันธ์ เข้ากันได้ทุกฝ่าย แม้ในใจจะคิดแบบนี้ แต่เขาก็ไม่แสดงอาการใดๆออกมา
รพีพงษ์เพียงแค่ยิ้มให้เขา ไม่พูดอะไรต่อ
พรดรัลเห็นรพีพงษ์ไม่อยากพูดคุยกับพวกเขา จึงทักทายตามมารยาท แล้วไม่สนใจรพีพงษ์แต่อย่างใด
สำหรับคนที่ใช้เส้นสายเข้ามา พวกเขาในฐานะนักบู๊ ก็ต้องเหยียดหยามเป็นธรรมดา นักบู๊ เคารพความสามารถ แม้จะมีเส้นสายแล้วสะดวก แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนดูหมิ่นเช่นกัน
พรดรัลกำลังพูดคุยอยู่นั้น รพีพงษ์ก็ได้ฟังพวกเขาคุย จากคำพูดของพรดรัล รพีพงษ์ก็มั่นใจว่าผู้เฒ่าคนนี้เป็นพ่อของดรัลเพ็ญรดีสองพี่น้องที่เขาเจอที่สำนักเทพยาเซียน เพราะเรื่องที่พรดรัลพูดอยู่นั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่สำนักเทพยาเซียน
“ตามที่ลูกชายฉันพูด ยอดฝีมือคนนั้นชื่อรพีพงษ์ สู้กับปรมาจารย์ของสำนักเทพยาเซียนโดยลำพัง สุดท้ายได้ ออกหมัดไป เป็นรอยใหญ่ จนทำให้เหล่าปรมาจารย์ของสำนักเทพยาเซียนพ่ายแพ้ไป ฝีมือแบบนี้ พวกเราคงคิดไม่ถึงอย่างแน่นอน”
“แล้วอายุของรพีพงษ์ก็ไม่ต่างจากลูกชายฉันมาก นี่สิพรสวรรค์โดยแท้จริง”
พรดรังพูดพลางตื่นเต้นพลาง ราวกับตัวเองอยู่ในเหตุการณ์อย่างไรอย่างนั้น
สอบคนที่อยู่รอบๆก็แปลกใจตามๆกัน คิดไม่ถึงว่าบนโลกนี้จะมีคนที่เก่งกาจแบบนี้อยู่ด้วย
รพีพงษ์อยู่ข้างๆฟังคนเหล่านี้พูดถึงตัวเอง ก็รู้สึกตลกขึ้นมา แต่ก็ไม่พูดอะไร แค่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆก็เท่านั้น
พรดรัลเห็นรพีพงษ์กำลังตั้งใจฟังเรื่องที่เขาพูด แต่เมื่อฟังจบก็แสดงท่าทางเหยียดหยามออกมา นี่ทำให้พรดรัลยิ่งรู้สึกว่ารพีพงษ์ไม่รู้แล้วยังหยิ่งผยองอีก ถ้าไม่ใช่เพราะคิดว่าอีกฝั่งมีแบ็คอยู่ที่กลุ่มสิงโต เขาต้องพูดสั่งสอนไปแล้ว
ผ่านไปไม่นาน เสียงรองเท้าส้นสูงดังขึ้น จากนั้นก็เห็นผู้หญิงที่สวมชุดดำร่างสูง ผมยาวพลิ้วไสว สีหน้าเยือกเย็นห้อมล้อมด้วยผู้ชายหลายคน มาถึงห้องโถง