พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 80 อาซิ้มอาม่ามาทั่วสารทิศ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 80 อาซิ้มอาม่ามาทั่วสารทิศ
บทที่80 อาซิ้มอาม่ามาทั่วสารทิศ
“แม่ ทำอะไรอ่ะคะ หนูต้องไปทำงานนะคะ แม่รีบให้หนูออกไปเถอะ”อารียาทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก มองไปที่ศศินัดดา
ในเวลานี้ศศินัดดาถือไม้ตะพลองอันหนึ่ง ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้าอารียากับรพีพงษ์ หน้าตาถมึงทึง
ศักดายืนอยู่ข้างหลังเธอ และก็มองสองคนนั้นอย่างไม่สบอารมณ์เช่นกัน
“บอกให้พวกแกออกไปไง พวกแกไม่รู้เหรอว่าตอนนี้ข้างนอกพูดถึงพวกแกยังไงบ้าง ยังจะไปทำงานบ้าบออะไร ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราจะโดนไล่ออกจากตระกูลทั้งหมดแล้ว!”ศศินัดดาตะโกนก้อง
“คุณแม่คะ หนูอธิบายคุณแม่ชัดเจนแล้วนะคะ สัญญาฉบับนั้นชรินทร์ทิพย์ดันทุรังจะเซ็นเอง ไม่เกี่ยวกับรพีพงษ์ เธอทำตัวเธอเอง แล้วทำไมต้องปัดความผิดมาให้รพีพงษ์ด้วยคะ”อารียาโกธรแทนรพีพงษ์
“หึ แกไม่ต้องมาพูดแทนไอ้สวะนั่น มันเป็นคนยังไงทำไมฉันจะไม่รู้ ตั้งแต่แรกแล้ว มันจะฉุดให้ครอบครัวเราตกต่ำลง ตอนนี้ทุกคนต่างอยากจะเสือกไสมันออกจากตระกูลฉัตรมงคล แกยังจะปกป้องมันทำไม”
“ลูกสาว แม่เขาพูดถูกนะ รพีพงษ์เสียเวลาแกมานานมากแล้ว มาถึงวันนี้ ก็ต้องไล่มันออกจากตระกูลฉัตรมงคลจริงๆแหละ”ศักดาพูดถอนใจ
อารียาขมวดคิ้วขึ้น ทำไมเธอถึงคิดไม่ถึง หลังจากเหตุการณ์นั้น ชรินทร์ทิพย์จะต้องฟาดงวงฟาดงาแน่ ทำให้รพีพงษ์ตกที่นั่งลำบาก
นอกจากนี้คนในตระกูลฉัตรมงคลจะต้องเชื่อคำพูดของชรินทร์ทิพย์แน่นอน แต่ไม่มีใครไปถามความจริงกับนภทีป์เลยสักคน อารียาอึดอัดแทนรพีพงษ์จริงๆ
“ไม่ต้องพูดกันแล้วค่ะ ไม่ว่ายังไง หนูจะไม่หย่ากับรพีพงษ์แน่นอน อย่างมาก หนูก็แค่ย้ายออกไปกับเขา”อารียาพูดแน่วแน่
ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ศศินัดดากับศักดาที่ตกใจ แม้แต่รพีพงษ์เองก็ตกใจ
เขาไม่เคยคิดเลยว่า อารียาจะทำเพื่อเขา โดยการย้ายออกไป
เขายิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างโดดเดี่ยว ในใจคิดว่าถ้าอารียาต้องออกไปอยู่กับเขาละก็ เขา
จะไม่ลังเลเลย
ดูท่าน่าจะได้เวลาซื้อบ้านใหม่แล้วมั้ง ไม่งั้นตอนย้ายออก เดี๋ยวไม่มีที่อยู่
แน่นอนว่า เขายังมีวิลล่าฟ้าอนงค์ แต่รพีพงษ์ไม่ค่อยชื่นชอบวิลล่านี้สักเท่าไหร่ นอกจากนี้วิลล่านี้ยังเป็นของตระกูลลัดดาวัลย์ให้มา รพีพงษ์ไม่เคยคิดจะไปอยู่ที่นั่นเลย
เดี๋ยวพอมีเวลา ไปดูบ้านหน่อยก็ได้ รพีพงษ์คิดอยู่ในใจ
ศศินัดดาเห็นอารียาไม่เชื่อฟังเลย จึงอาละวาด เธอจึงชี้โทษความผิดทั้งหมดไปที่รพีพงษ์ คำรามขึ้น“รพีพงษ์ ไอ้สวะ ยังมีหน้าอยู่ในตระกูลเราอีก แกไม่ได้คุยโครงการกับซันบับเบิลจนสำเร็จ ก็ควรจะหย่ากับแคลร์โดยดี แกไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่บ้านเราอีกต่อไปแล้วนะ!”
รพีพงษ์ทำสีหน้าไม่ยี่หร่า เปิดปากพูดขึ้น“ผมคุยโครงการกับซันบับเบิลจนสำเร็จแล้ว แต่คุณชรินทร์ทิพย์เจ้ากี้เจ้าการเซ็นเอง จนทำให้สัญญาเป็นโมฆะ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับผม”
ศศินัดดารีบเบ้ปาก พูดขึ้น“หยุดทำเสแสร้งสักที น้ำหน้าอย่างแกน่ะนะ จะคุยโครงการสำเร็จได้ไง ฉันว่าแกหาเรื่องใส่ร้ายหนูเจน เธอก็บอกอยู่ว่าแกจงใจใส่ร้ายเธอ”
อารียาโกธรขึ้นมาทันที ชรินทร์ทิพย์หาทางทำร้ายเธอทุกวิถีทาง แต่คิดไม่ถึงว่ามารดา
ของเธอจะช่วยพูดให้ชรินทร์ทิพย์
“คุณแม่คะ เรื่องนี้รพีพงษ์ไม่ได้โกหกนะคะ ทำไมคุณแม่ถึงไม่เชื่อบ้างล่ะ หรือแม้กระทั่งลูกสาวตัวเองคุณแม่ก็ไม่เชื่อคะ”อารียาเปิดปากถาม
“ลูกแคลร์ ลูกโดนไอ้สวะล้างสมองแล้ว มันไม่สมควรที่ลูกจะต้องไปพูดจาปกป้อง ลูกตื่นได้แล้ว แบบนี้ต่อไป บ้านเราคงฉิบหายเพราะมัน”
ศศินัดดาโมโหขึ้นมา เธอมักจะชอบกุมอำนาจในบ้านไว้เสมอ ตอนนี้อารียาเถียง
เธอคำไม่ตกฟาก ทำให้เธอรู้สึกว่าสถานภาพตัวเองถูกคุกคาม
เธอถือไม้นวดแป้ง ถลึงตาจ้องรพีพงษ์ พูดขึ้น“แกจะเลิกกับลูกสาวฉันไหม ถ้าแกไม่หย่า ฉันจะทุบจนแกหย่าไปเอง!”
พูดจบ เธอก็ทุบไม้นวดแป้งลงไปบนตัวรพีพงษ์ โดยไม่ได้คำนึงว่ารพีพงษ์จะได้รับบาดเจ็บหรือไม่
สำหรับเธอแล้ว เธอเลี้ยงรพีพงษ์มาหลายปีดีดัก ต่อให้จะทุบจะตีบ้าง เขาก็ต้องรับ
สีหน้าอารียาเปลี่ยน เธอจะยื่นมือมาขวางศศินัดดาไว้
ในเวลานี้ รพีพงษ์ยกมือขึ้น ขัดมือศศินัดดาเอาไว้
ศศินัดดาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะมีปฏิกริยาที่ว่องไวขนาดนี้ สิ่งที่ทำให้เธอตกใจคือ
รพีพงษ์กล้าต่อต้านเธอ
“แกสมควรโดนมีดอีโต้สับพันครั้ง ปล่อยฉัน แกกล้าดียังไง แม้แต่ฉันแกก็กล้าลงมือ”
ศศินัดดาพูดอย่างร้อนใจ
สีหน้ารพีพงษ์นิ่งขรึม เขาจ้องศศินัดดาเขม็ง พูดน้ำเสียงเย็นชา“ที่ผมเคารพคุณเพราะเป็นแม่ของแคลร์ ผมเลยยอมคุณทุกอย่าง แต่อย่าทำเกินไป ผมรพีพงษ์ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรังแกได้”
“ในเมื่อกล้าหือกับฉัน แกไอ้สวะ ยังมีหน้ามาพูดกับฉันอีกเหรอ”ศศินัดดาไม่ยอมรามือ แต่เธอก็ยังคงชักมือกลับไม่ได้
เมื่อศักดาเห็นสถานการณ์ไม่เข้าที จึงรีบเดินขึ้นหน้า พูดโน้มน้าว“คุณก็อย่าไปถือสามันเลย เรื่องนี้ค่อยว่ากันแล้วกัน”
“รพีพงษ์ อย่าวู่วามไป เธอเป็นผู้ใหญ่ จะว่าบ้างกี่คำก็สมควร”
รพีพงษ์คลายมือศศินัดดา ไม่พูดอะไร
ศศินัดดาคลึงข้อมือตนเบาๆ หันกลับไปมองศักดา ด่าทอว่า“ก็เพราะคุณน่ะมีปัญญาแค่รพีพงษ์ ถ้าคุณมีน้ำยาสักหน่อย บ้านเราจะต้องถูกรบกวนด้วยเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ เหรอ!”
ศักดาถอนหายใจ คิดไม่ถึงว่าศศินัดดาจะมาระบายใส่ตน
ในช่วงที่หลายคนแข็งขืนไม่ไหว จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูมา
ศักดาก้มหน้าเดินออกจากประตูไป ด้านนอกประตูมีคนยืนกลุ่มหนึ่ง โดยมากเป็นพงศา
คณาญาติตระกูลฉัตรมงคล อาซิ้มอาม่ามาทั่วสารทิศ
ทุกคนต่างเข้าข้างศศินัดดา แต่ละคนมองดูรพีพงษ์อย่างไม่วางตา
“พี่ใหญ่ พี่สอง มาทำอะไรกันคะ ไม่บอกไม่กล่าว ฉันจะได้ต้อนรับ”ศศินัดดาเห็นสถานการณ์ จึงรีบปรับสีหน้า พูดขึ้น
“ไม่ต้องต้อนรับขับสู้หรอก ที่พวกเรามาครั้งนี้ มาเพราะเรื่องรพีพงษ์กับหนูแคลร์นี่แหละ ครั้งนี้รพีพงษ์ทำลายความร่วมมือระหว่างตระกูลฉัตรมงคลกับซันบับเบิล ตัวซวยแบบนี้ ไม่ควรเหลือไว้ในตระกูลฉัตรมงคล มันจะต้องหย่ากับหนูแคลร์”ผู้หญิงที่นำหน้าพูดขึ้น
“พูดส่งเดข การร่วมมือกับซันบับเบิลครั้งนี้ ไม่ใช่ความผิดของรพีพงษ์สักหน่อย!”
อารียาคิดไม่ถึงว่าจู่ๆตระกูลฉัตรมงคลจะแห่กันมามากมายเพราะเรื่องนี้ แล้วมาพูดคัด
ค้าน
“จะไม่เป็นความผิดมันได้ไง การเติบโตของตระกูลฉัตรมงคลต้องมาติดขัด ก็เพราะตัวซวยนี่แหละ!”ตอนนี้เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ขึ้นมากันเต็ม
อารียาหันหลังไป เห็นชรินทร์ทิพย์พอดี
ชรินทร์ทิพย์มองอารียาอย่างลำพองใจ เดิมทีเธอแค่อยากหาเรื่องรพีพงษ์ก็แค่นั้น แต่สิ่งที่เธอคาดไม่ถีงคือ ตระกูลฉัตรมงคลจะมีปฏิกริยาใหญ่โตเช่นนี้
เธอจึงถือโอกาสยุยงส่งเสริม จะหาทางไล่รพีพงษ์ออกจากบ้าน เป็นการแก้แค้น
อย่างไรเสีย ไม่มีใครเชื่อคำรพีพงษ์หรอก ชรินทร์ทิพย์จึงไม่มีการหวั่นเกรงใดๆ
เอาเป็นว่าก็คือคนหนึ่งคนโกหก ก็คือโกหก ส่วนตอนที่มีคนเชื่อเป็นร้อยนั้นคือความจริง
“หนูเจนพูดถูก จะให้รพีพงษ์อยู่ในตระกูลฉัตรมงคลไม่ได้ ตอนนี้ก็ไล่เขาออกไป!”
“ให้รพีพงษ์หย่ากับหนูแคลร์ สวะแบบนี้ ไม่คู่ควรกับหนูแคลร์แม้แต่น้อย!”
“ฉันว่าเขาต้องชดใช้ที่ทำให้ตระกูลฉัตรมงคลเสียหาย เสียดายที่สวะแบบนี้ทำอะไรไม่ได้”
……
ศศินัดดาเห็นกลุ่มคนมาไล่ให้รพีพงษ์หย่ากับอารียา ก็รู้สึกตัวเองมีบารมีขึ้นมา จึงหันไปแค่นยิ้มเย็นชาให้รพีพงษ์
“รพีพงษ์ ตอนนี้คนทั้งตระกูลฉัตรมงคลต่างอยากให้แกเลิกกับหนูแคลร์ แกยังมีอะไรจะพูดอีก ฉันว่าวันนี้แกไปอำเภอกับหนูแคลร์เถอะ ไปจัดกรให้เรียบร้อย ทุกคนจะได้ไม่มีเรื่องพะวงใจ ”ศศินัดดาเปิดปากพูด
อาซิ้มอาม่าจากทั่วสารทิศเริ่มแสดงความเห็นกัน บอกว่าให้รพีพงษ์กับอารียาไปที่ว่าการอำเภอ
อารียายืนกำบังอยู่ด้านหน้ารพีพงษ์ และคัดค้านสุดตัว แต่กำลังของเธอเพียงลำพังช่าง
น้อยเหลือเกิน จะไปสู้รบปรบมือกับพวกผู้หญิงพวกนี้ไม่ไหวหรอก
รพีพงษ์ฟังกลุ่มคนส่งเสียงจ้อกแจ้กจอแจ ช่างน่าปวดหัว ในใจคิดว่าชรินทร์ทิพย์คนนี้
ช่างร้ายกาจจริง หาพวกกลุ่มผู้หญิงที่ไม่คุยเหตุผลมา
“รพีพงษ์ ยังจะยืนงงอะไรอีกล่ะ รีบไปหย่ากับอารียาสิ ไม่อย่างนั้น พวกอาซิ้มอาโกวทั้งหลาย จะไม่ไปไหนแน่วันนี้”ชรินทร์ทิพย์มองรพีพงษ์อย่างสมน้ำหน้า
“ฉันจะดูว่าหน้าไหนมันกล้าให้รพีพงษ์หย่ากับหนูแคลร์!”ในเวลานี้ เสียงทุ้มเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง
“ใครกันที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี มีหน้ากล้าพูดแทนรพีพงษ์!”ชรินทร์ทิพย์หันหน้าไป ทำหน้าดุร้าย
เวลานี้ด้านนอกประตูมีเลขาคนหนึ่งเข้ามา พยุงคนเข้ามาคนหนึ่ง คนๆนั้นคือนภทีป์ที่
หน้าบึ้งอย่างเห็นได้ชัด!