พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 779 ตระกูลใหญ่ทั้งหก
บทที่779 ตระกูลใหญ่ทั้งหก
วิธีปฏิบัติทั้งหมด เป็นวิธีฝึกที่ทำได้ยาก
วิธีปฏิบัติมีมากมาย ตามเป้าหมายที่ต่างกันไป ผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกันมาก
วิธีปฏิบัติที่อยู่ด้านบนหยกนี้ เป็นวิธีเพิ่มพลังอย่างหนึ่ง เมื่อทำได้แล้ว จะทำให้พลังของตนเอง ในเวลาอันสั้น เพิ่มขึ้นกว่าสามเท่า ผลลัพธ์จะคล้ายๆกับยาเม็ดไอกิแดน
แต่วิธีปฏิบัติกับยาเพิ่มพลังนี่ให้ผลลัพธ์ต่างกัน หลังจากที่ใช้วิธีปฏิบัตินี่แล้ว ผลข้างเคียงคือทำให้ร่างกายคนอ่อนแอลงมาก จะไม่สามารถใช้พลังในร่างกายตนได้ในเวลาอันสั้น แน่สุดท้ายก็จะฟื้นฟูกลับมาได้
และผลข้างเคียงของยาเม็ดไอกิแดนทำให้คนคนหนึ่งพัง อันตรายถึงชีวิต อ่อนแอ
แม้ในตัวของรพีพงษ์ยังมีอีกสองเม็ดแต่เป็นยาที่ไม่มีผลข้างเคียงอะไร แต่ยาเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป แต่วิธีการปฏิบัติไม่มีทางหมดไป เพียงแค่ร่างกายพอที่จะรับได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
แน่นอน ว่านี่หมายถึงไม่ใช่จะใช้วิธีการปฏิบัติได้อย่างตามใจตัวเองได้ เนื้อหาที่ถูกสลักไว้บนหยกเน้นหนัก ว่าวิธีการปฏิบัตินี้ใช้ได้เฉพาะตอนที่อยู่ในอันตรายเท่านั้น
แม้วิธีการปฏิบัติจะทำให้พลังงานเพิ่มอย่างก้าวกระโดด แต่ท้ายที่สุด แม้ว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้ หลังจากที่ใช้วิธีการปฏิบัติแล้ว และร่างกายอ่อนแอ ก็ไม่ต่างอะไรกับลูกแกที่ถูกเชือด
ถ้าอีกฝั่งไม่ได้ถูกกำจัดหรืออีกฝั่งยังมีตัวช่วยอื่น ก็หนีความตายไม่พ้น
รพีพงษ์ไม่สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ หากพลังของเขาสามารถเพิ่มเป็นสามเท่าได้ นอกจากยอดฝีมือแดนปรมาจารย์แล้ว เขาก็คิดไม่ออกว่าใครจะเป็นศัตรูของเขาได้อีก
สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์คิดไม่ถึงก็คือ วิธีการปฏิบัติขั้นพื้นฐานในการใช้ ก็คือฝึกการใช้พลังวิเศษเสน หากใช้เป็นแค่เน่ยจิ้งล่ะก็ ไม่มีทางเอาพลังวิเศษเสนออกมาใช้ได้
เขาได้หยกนี้มา ก็ถือว่าโชคดีของโชคดีแล้ว ถ้าเขาไม่ได้ฝึกฝนการใช้พลังวิเศษเสน งั้นวิธีการปฏิบัตินี้ก็ทำได้เพียงวางไว้เท่านั้น
และนี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเข้าใจพลังวิเศษเสนนอกจากในหนังสือ
ครั้งแรกรับรู้มาจากชินาธิป จากที่เขาพูดมา ต้นตระกูลของตระกูลชินาธิปได้บันทึกพลังวิเศษเสน และครั้งแรก เห็นพลังวิเศษเสนบันทึกอยู่ในหนังสือวิธีปฏิบัตินั้น
ตามที่อาจารย์โอบนิธิพูดนั้น ในถุงนั้นล้วนพบบนโครงกระดูกที่อยู่ในถ้ำทั้งหมด รพีพงษ์แปลกใจว่าโครงกระดูกนั้นเป็นของใคร เขาและพ่อของโศศุจมีความสัมพันธ์แบบใดกับเจ้าของสุสานนั้น
การท่องเที่ยวเมืองเย็นหยางในครั้งนี้ สิ่งที่รพีพงษ์ได้รับมีมากมายเลยทีเดียว มีวิธีการปฏิบัตินี้ บวกกับยาสองอัน ถือว่าในศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนนี้ รพีพงษ์มีฝีมือที่เก่งกาจเลยทีเดียว
แต่พลังวิเศษเสนทำให้เขารับรู้ได้ว่า ขีดจำกัดของศิลปะการต่อสู้ เกรงว่าจะไม่ธรรมดาอย่างที่เขาคิดไว้
แล้วบนโลกนี้คนที่รู้ว่ามีพลังวิเศษเสนอยู่นั้นไม่ได้มีเพียงคนเดียว ดังนั้นแม้ตอนนี้ฝีมือเขาอยู่ระดับแดนปรมาจารย์ ก็ยังต้องรักษาระดับไว้
ยังคงพักผ่อนอยู่ในโรงแรมต่ออีกวัน หบังจากที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติหยกอย่างถ่องแท้แล้วนั้น รพีพงษ์และอารียาทั้งสองก็กลับได้อย่างสบายใจ
ในขณะเดียวกัน ในร้านอาหารเกียวโตแห่งหนึ่ง คนที่มีพลังอานุภาพนั่งรวมอยู่ด้วยกัน ร้านอาหารนี้ถูกเหมาเอาไว้ ดังนั้นลูกค้าที่มากินจึงถูกขอให้กลับไป
พนักงานของร้านอาหารล้วนหลบอยู่ในมุมอย่างระมัดระวัง มองไปยังคนที่แลดูมีอำนาจอย่างแปลกใจ ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย
คนกลุ่มนี้เป็นคนแก่สวมเสื้อคอจีน ผมขาว มีกลิ่นอายของผู้ที่มีบารมี
ด้านหน้าของชายชราสวมเสื้อคอจีนมีสี่คนที่สวมชุดต่างกัน แต่ทั้งสิ่งคนมีบารมีไม่น้อยไปกว่าคนที่สวมชุดคอจีนเลยแม้แต่น้อย
หากมีคนที่รู้ดีเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้มาที่นี่ เห็นผู้ที่กำลังพบปะกันอยู่ทั้งห้าคนนี้ ต้องตกใจเป็นแน่
เพราะทั้งห้าคนที่อยู่ที่นี่ ไม่มีใครที่ไม่เป็นแดนปรมาจารย์ขั้นสุดยอด และพวกเขาทั้งห้า รวมกัน สามารถเป็นตัวแทนของศิลปะการต่อสู้ประเทศจีนได้เลย
ศิลปะการต่อสู้ของจีนที่สืบทอดมานานกว่าพันปี มาถึงปัจจุบัน เพราะวิทยาศาสตร์ก้าวหน้า จึงจำเป็นต้องซ่อนตัวออกจากสังคม แต่นี่ไม่ไ่ด้หมายความว่าศิลปะการต่อสู้ได้ถดถอยลง
ปัจจุบันทั่วประเทศจีน ล้วนเห็นศิลปะการต่อสู้ได้ทั่วไป แต่ศิลปะการต่อสู้ปัจจุบัน มีอยู่หกตระกูลใหญ่
หกตระกูลใหญ่นี้พูดได้ว่าเป็นหกตระกูลที่เก่งกาจที่สุดตั้งแต่โลกนี้เคยมีมา ตระกูลทั้งหกของพวกเขามีการสืบทอดศิลปะการต่อสู้ที่ล้ำค่า แม้จะเป็นศิลปะการต่อสู้ ก็ไม่มีใครเทียบกับพวกเขาได้
ตระกูลภูธนแถบเมืองชลาลัย ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ทั้งหก
ห้าคนที่อยู่ที่นี่ เป็นหกตระกูลใหญ่นอกจากตระกูลภูธน ที่เหลือก็เป็นนายใหญ่ของห้าตระกูลใหญ่
หกตระกูลใหญ่แบ่งไปอยู่ตามประเทศจีนทุกๆพื้นที่ แต่ปัจจุบันพวกเขารวมตัวกันที่เกียวโต เหตุผลหลักเลยคือ การตายของปรมาจารย์ทั้งสองของตระกูลภูธน
พวกเขามาเพราะรพีพงษ์
“คนก็มาพร้อมกันแล้ว ผมจะไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วกัน ครั้งนี้ที่เรียกทุกคนมา เพราะอะไร ไม่จำเป็นต้องให้ผมพูดอะไรมาก” ชายชราที่สวมชุดจีนมองไปรอบๆ แล้วกล่าวอย่างช้าๆ
ทุกคนในที่นี่ล้วนเคารพชายชราที่ใส่ชุดคอจีน เพราะคนนี้เป็นนายใหญ่ตระกูลวัชรชัย บดีศวร
ฝีมือของตระกูลวัชรชัย ในโลกของศิลปะการต่อสู้ แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นอีกห้าตระกูลที่เหลือจึงเคารพตระกูลวัชรชัยเป็นหัวหน้า
“วัยรุ่นคนนั้นที่ชื่อรพีพงษ์ สามารถมาถึงขั้นนี้ได้ ฆ่าปรมาจารย์ทั้งสองของตระกูลภูธร ความสามารถของเขาทำให้คนตะลึง ฝีมือของปรมาจารย์ทั้งสองตระกูลภูธนไม่เท่าเขา ตายด้วยฝีมือเขา ไม่มีอะไรต้องพูดมาก”
“แต่รพีพงษ์เป็นศิษย์ของวฤนท์ธม ดังนั้นการตายของทั้งสองปรมาจารย์ตระกูลภูธน จึงมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน”
“พวกเราหกตระกูลใหญ่ ระหว่างวฤท์ธม มีความแค้นกัน ตอนนั้นวฤนท์ธมฆ่าศิษย์ของตระกูลใหญ่ทั้งหกไปหลายคน แค้นนี้ ไม่ว่านานขนาดไหน ก็ไม่มีทางลืมได้”
“ปัจจุบันรพีพงษ์ฆ่าปรมาจารย์ทั้งสองของตระกูลภูธน อาจเป็นไปได้ที่รับคำสั่งจากวฤนท์ธมมา วฤนท์ธมเต่าหัวหดแอบมาหลายปี พอปรากฏตัว ก็แสดงอำนาจให้พวกเราเห็นแล้ว”
“ถ้าเรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆแบบนี้ล่ะก็ งั้นเป้าหมายของวฤนท์ธม น่าจะเป็นอีกห้าตระกูลที่เหลือ อาจเป็นไปได้ว่า สุดท้ายเราอาจพลาดท่าให้ศิษย์ของวฤนท์ธมได้
“พวกเราห้าตระกูลใหญ่รวมตัวกัน เพื่อกำจัดเนื้อร้ายออกจากโลกของศิลปะการต่อสู้ ศิษย์ของวฤนท์ธมตอนนี้อายุแค่ยี่สิบกว่าปี หากยังปล่อยให้เขาเติบโตต่อไป อำนาจของเขา จะมากกว่าวฤนท์ธมอีก
“ดังนั้นการประชุมของศิลปะการต่อสู้ในปีนี้ จึงเลือกที่จะจัดที่เกียวโต พวกเราจำเป็นต้องกำจัดศิษย์ของวฤนท์ธม หากเขาไม่ปรากฏตัว ก็ต้องคิดหาวิธีบีบให้มันออกมา เมื่อมันปรากฏตัว ห้ามปล่อยมันไปเด็ดขาด!”