พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 664 จุดจบ
บทที่664 จุดจบ
ทุกคนกำลังมองจณัตว์ที่ล้มชักอยู่บนพื้นจนกระทั่งค่อยๆนิ่งไป ความกลัวภายในใจได้ถึงขั้นขีดสุด
จากที่รพีพงษ์ปากริชไปที่หัวใจของคนนั้น ถึงกำจัดจณัตว์ ใช้เวลาแค่ยี่สิบกว่านาที
วรยศนายใหญ่ตระกูลวรโชติธีรธรรม และจณัตว์อีกสี่คน บวกกับอีกคนที่ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดี ในยี่สิบนาที ได้เสียชีวิตไปทั้งหมด นี่ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าใจ ว่ารพีพงษ์ไม่ได้ล้อเล่นกับพวกเขา
พลชยืนแข็งทื่อที่เดิม ทุกๆกี่วินาที ร่างจะสั่นคลอสักครั้ง ในสมองเขาปรากฏแต่ภาพที่วรยศถูกรพีพงษ์ตบตาย ปากซีดเซียว เหงื่อไหลย้อย
งานเลี้ยงครั้งนี้เป็นเขาและวรยศร่วมกันจัด แม้แต่วรยศรพีพงษ์ก็ได้ฆ่าแล้ว แล้วจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร
แล้วจณัตว์ที่ฝีมือดี สู้กับรพีพงษ์ยังไม่ถึงสามท่าก็ไปไม่ไหวแล้ว นี่หมายความว่า แม้เขาจะวิ่งหนีเร็วขนาดไหน ก็ไม่สามารถหนีออกไปจากความอาฆาตในใจของรพีพงษ์ได้
ตอนนี้รพีพงษ์หันไปมองพลช พลชกลืนน้ำลาย ปากสั่น
”
รพีพงษ์เดินถึงหน้าของพลช ด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย แล้วถาม “เหลือแค่มึงล่ะ มีคำพูดอะไรจะฝากไว้ไหม?”
พลชสูดหายใจเข้าลึกๆ คิดว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องตาย สู้ตายอย่างมีศักดิ์ศรีหน่อยดีกว่า
“รพีพงษ์ มึงไอ้ปีศาจ! ฆ่าคน โดยไม่เคารพกฎหมาย มึงคิดว่าการทำแบบนี้ จะสามารถรักษาตระกูลลัดดาวัลย์ในตอนนี้ได้หรือ ฝันไปเถอะ!”
รพีพงษ์บึนปาก แล้วกล่าว “แล้วที่มึงจะทำอะไรกับลูกเมียกู เคารพกฏหมายหรือไง? กูก็แค่เลียนแบบมึง แต่กลายเป็นพวกมึงที่เสียเปรียบ แล้วตอนนี้จะมาพูดให้ดูดี?”
“เหอะ ยังจะชี้แจงอีก มึงก็แค่ไอ้บ้าบิ่น วันนี้มึงอาจได้ชีวิตกูไป แต่ตระกูลลัดดาวัลย์ของมึงกำลังจะจบลง ถึงกูจะตาย แต่ตระกูลลัดดาวัลย์ก็ยังต้องพังลงอยู่ดี มันถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ว่าแกจะทำยังไง ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว!” พลชกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “มึงคิดว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะเรียบง่ายอย่างที่มึงคิดจริงๆหรือไง ในเมื่อเป็นแบบนี้ กูจะให้มึงถอดใจ แล้วไปเฝ้ายมบาลซะ”
พูดจบ รพีพงษ์หยิบมือถือขึ้นมาโทร
“ลงมือ”
“รับทราบ”
แค่ไม่กี่คำ รพีพงษ์ก็ได้เก็บมือถือไว้
พลชมองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเขาทำอะไร แต่ในใจของเขา ตระกูลลัดดาวัลย์ถูกเพ่งเล็งในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ก็ได้มีกำลังเสริมมาช่วยจากอเมริกา แม้ตระกูลลัดดาวัลย์ยังคงยืนหยัดได้ แต่ก็มีจุดอ่อนมากมายแล้ว รพีพงษ์เพียงคนเดียว ทำให้กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้
“ทุกท่าน สิบนาที ตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมจะหายไปจากเมืองเกียวโต ผมอยากให้พวกคุณรู้ แม้ตระกูลลัดดาวัลย์สุดที่จะรับได้ แต่ก็ไม่ใช่ใครจะรังแกได้ง่ายๆ สิบนาทีให้หลัง ถ้าพวกคุณมีใครที่ยังจะเพ่งเล็งตระกูลลัดดาวัลย์อีกล่ะก็ เตรียมตัวมีความสุขได้เลย!” รพีพงษ์ตะโกนให้ทุกคนในงานรับรู้
ก่อนหน้าที่จะมาที่นี่ รพีพงษ์ได้รับการติดต่อกับเทือกเขากิสนา และได้รู้ว่าเทือกเขากิสนากำลังสแตนด์บายเพื่อเขาอยู่
ด้วยความสามารถของเทือกเขากิสนา จะล้างบางตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมนั้น สิบนาที ถือว่าเยอะไป
หลังจากที่พลชได้ยินคำพูดของรพีพงษ์แล้วนั้นก็เหยียดหยามทันที “ทุกท่านอย่าไปฟังมัน สถานการณ์ของตระกูลลัดดาวัลย์ในปัจจุบันเป็นยังไงทุกคนรู้ดี แม้รพีพงษ์จะกลับมาแล้วยังไง ตระกูลลัดดาวัลย์ได้ให้เงินทุกบาททุกสตางค์กับหอการค้าสมน.แล้ว แค่เขาคนเดียว ไม่สามารถเรียกคืนตระกูลลัดดาวัลย์ได้
“ดังนั้นแม้วันนี้มันจะฆ่าผม พวกคุณต้องร่วมใจกันทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์พัง มีเพียงวิธีนี้ พวกเราถึงจะได้ของที่ควรจะเป็นของพวกเรากลับมา!”
ทุกคนโต้ตอบพลชทันใด แล้วยังกล่าวโทษรพีพงษ์ ว่ารพีพงษ์ก็แค่คุยโวโอ้อวด
รพีพงษ์ไม่พุดอะไร ได้แต่ยืนเงียบๆอยู่ตรงนั้น
ประมาณสิบนาทีผ่านไป พลชได้รับข้อความรัวๆ
“บัตรธนาคารหมายเลขสุดท้ายเลขที่4253ได้ถูกอายัด……”
“เงินกู้ทำกิจการของคุณได้ถูกเพิกถอน……”
“บริษัทXXในนามของคุณทำผิดกฎได้ถูกตรวจสอบ……”
……
ผ่านไปไม่นาน มือถือของพลชก็มีสายโทรเข้ามาอย่างไม่หวาดไม่ไหว
“ลูกพี่ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเงินหมุนของบริษัทชะงัก คุณรีบหาเงินมาหมุน”
“ท่านประธาน บริษัทของเราเกิดช่องว่างกระแสเงินสดยอดหนึ่งห้าพันล้าน ตอนนี้หุ้นหยุดชะงัก ถ้าเงินสดนี้ไม่ได้รับการโปะ บริษัทต้องจบแน่ๆ!”
……
พลชมองเหตุการณ์นี้อย่างเหม่อลอย ยังไงเขาก็คิดไม่ถึง แค่ช่วงระยะเวลาเพียงสิบนาที ตระกูลนฤวัตปกรณ์ของเขาจะเกิดปัญหาขึ้นมากมายขนาดนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ตระกูลนฤวัตปกรณ์จะต้องชดใช้อย่างมากมายมหาศาล
มือถือของวรยศก็ดังไม่หยุด ไม่คิดก็รู้ ว่าตระกูลวรโชติธีรธรรมกำลังเจอปัญหาเดียวกับตระกูลนฤวัตปกรณ์
“พวกคุณรีบดู หุ้นของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมหยุดชะงักไปแล้ว บริษัททั้งหมดในนามของพวกเขาราคาลงถึงสามเท่า”
ในขณะนี้ผู้คนกำลังส่งเสียงตะลึง ทุกคนหยิบมือถือขึ้นมา หาสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรม
“นายใหญ่ของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมทั้งสองได้ติดแบล็กลิสต์ ว่าบริษัทของพวกเขา ขาดทุน และคืนเงินกู้ไม่ได้ ทรัพย์สินในนามของพวกเขาถูกอายัดไว้หมดแล้ว”
“บริษัทลูกของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมหลายๆบริษัทถูกตรวจสอบว่าทำผิดกฎหมาย มีผู้เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบแล้ว!”
……
มีข้อความจากคนหลายๆคนพูดกันอย่าไม่หยุด ทุกๆคำพูด ทำลายตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมทั้งหมด
ถึงกระทั่งตอนนี้ ทุกคนเพิ่งจะเข้าใจ ว่ารพีพงษ์ไม่ได้ล้อเล่นกับพวกเขา
พลชถอยหลังไปสองก้าวอย่างเดินไม่ตรงทาง สีหน้าซีดเซียว แววตาของรพีพงษ์สงบ แต่ทว่าเขากลับรับรู้ได้ถึงการบีบบังคับของวัยรุ่นคนนี้
เขาไร้ซึ่งกำลัง เมื่อนึกถึงตระกูลนฤวัตปกรณ์ที่จบลงแล้ว รพีพงษ์ก็ไม่มีทางปล่อยเขาไป เขาถอยหลังไป นอนลงกับพื้น
หลังจากคืนนี้ไป แผนที่จะทำลายล้างตระกูลลัดดาวัลย์ ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก
สิ่งแรกที่คนพวกนั้นที่เข้าร่วมงานเลี้ยงในคืนนั้นทำคือ เตือนคนในครอบครัวของตัวเอง ว่าอย่าไปหาเรื่องตระกูลลัดดาวัลย์
พฤติกรรมทั้งหมดที่กระทำต่อตระกูลลัดดาวัลย์ ราวกับมีสิ่งที่มองไม่เห็นครอบงำอยู่ ในคืนเดียวกันนั้นก็หยุดหมด
วันรุ่งขึ้น เพราะบริหารที่ไม่ยุติธรรม ขาดเงินทุน ทำผิดกฎและอื่นๆ ตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมจึงประกาศล้มละลาย ข่าวสะพัดไปทั้งเมืองเกียวโต
และข่าวการกลับมาของรพีพงษ์ คนที่อยู่ในงานเลี้ยงคืนนั้นไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมา หลังจากที่เห็นรพีพงษ์ฆ่าคนแล้ว พวกเขาจึงไม่อยากปลาหมอตายเพราะปาก
ตำแหน่งของตระกูลลัดดาวัลย์ในเมืองเกียวโตมั่นคงอีกครั้ง การล้มละลายของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมเป็นข่าวที่ถกเถียงกันอย่างมาก ถูกแปลไปหลายภาษา ถึงกระทั่งทำหนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
มีคนจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าที่ตระกูลลัดดาวัลย์ผ่านช่วงวิกฤตนี้มาได้นั้น เพราะอารียาใช้วิธีรุนแรง กำจัดการร่วมมือกันระหว่างตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรม ในหนังสือ เธอได้กลายเป็นธิดาสงคราม
ถึงขั้นมีคนจำนวนไม่น้อยพูดว่าเด็กที่อารียาตั้งครรภ์คือมังกร ดังนั้นจึงสามารถผ่านวิกฤตครั้งนั้นมาได้ ในแต่ล่ะเวอร์ชั่น พูดเกินจริง เพื่อตอบสนองความต้องการของคนส่วนมาก
หน้าประตูบริษัทตระกูลวรโชติธีรธรรม
หญิงวัยกลางคนพาเด็กอายุราวๆเจ็ดแปดปีเดินมาที่นี่ ด้วยความตื่นเต้น
“จำเริญ อีกเดี๋ยวพวกเราก็จะได้เจอคุณลุงแล้ว คุณลุงของเธอคือบุคคลสำคัญของตระกูลวรโชติธีรธรรม บริหารคนอยู่ในบริษัทนี้เป็นร้อยๆคนเลยนะ เดี๋ยวพวกเราจะให้คุณลุงออกหน้า ช่วยหาไอ้นั่นให้เจอ แล้วจัดการมันอย่างรุนแรง” หญิงวัยกลางคนยิ้มพลางกล่าว
เด็กน้อยรีบพยักหน้าคิดว่าอีกเดี๋ยวจะได้ล้างแค้น ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ทั้งสองเดินไปถึงบริษัท แต่กลับเห็นบริษัทถูกปิด
หญิงวัยกลางคนสงสัย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รปภ.ที่อยู่หน้าประตูเก็บของเสร็จพอดี เธอเห็นดังนั้น ก็รีบเดินเข้าไปหา
“น้องชาย พวกเราเป็นญาติของตระกูลวรโชติธีรธรรม มาเพื่อจะพบญาติของฉัน รบกวนพาฉันไปหน่อยได้ไหม?” หญิงวัยกลางคนกล่าว
รปภ.มองไปที่เธอ แล้วเหยียดหยามว่า “ตระกูลวรโชติธีรธรรมล้มละลายไปแล้ว พวกคุณยังจะมาหาญาติที่นี่อีก บางคนถูกจับ บางคนหนี พวกคุณไม่กลัวมีปัญหาไปด้วยหรือไง ยังกล้ารู้จักญาติอย่างตระกูลวรโชติธีรธรรมอีก”
“คุณพูดว่าอะไรนะ? ตระกูลวรโชติธีรธรรมพังลงแล้ว?” หญิงวัยกลางคนตะลึง
“ก็ใช่ไง ไม่เห็นเทปปิดไว้หรอ” รปภ.กล่าว จากนั้นก็ไม่สนใจเธออีก แล้วจากไป
หญิงวัยกลางคนดูเทปปิดอย่างเหม่อลอย ไม่พูดไม่จาอยู่นาน