พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 66 ผมขับรถกลับมาแล้ว
บทที่ 66 ผมขับรถกลับมาแล้ว
“ว้าว รถคันนี้สวยจัง นี่มันรถแลนด์โรเวอร์นี่ แพงแน่นอน”
“นี่รถแลนด์โรเวอร์เหรอ ได้ยินมาว่าราคาล้านกว่าเลยนะ นี่มันรถหรูชัดๆ”
“ดีกว่ารถที่บ้านฉันเป็นไหนๆ น่าอิจฉาจริงๆ ไม่รู้ว่ารถคันนี้มารับใครกัน”
…
รูปลักษณ์อันสวยหรูของรถแลนด์โรเวอร์ต่างทำให้ผู้คนตกตะลึงและพากันถกเถียงกันให้วุ่น
อารียามองไปที่รถคันนั้นแวบหนึ่ง แววตาของเธอยิ่งผิดหวัง รถคันนี้แค่มองก็รู้ว่าราคาสูงมาก สำหรับเธอในตอนนี้รถราคาแค่ไม่กี่แสนก็ยังซื้อไม่ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรถหรูขนาดนี้
“พวกเธอคิดว่ารถคันนี้มารับใครกัน” จู่ๆ ก็มีคนเอ่ยปากถามขึ้น
“ใครจะไปรู้ล่ะ ไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้โชคดี แต่ฉันว่าไม่ได้มารับอารียาอย่างแน่นอน สามีไร้ประโยชน์ของเธอ ชาตินี้ทั้งชาติคงไม่มีปัญญาซื้อรถราคาแพงขนาดนี้หรอก”
“ก็ถูกอย่างที่เธอพูด มารับใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่อารียา”
คนพวกนั้นต่างพากันหัวเราะเยาะ
ทันใดนั้นเองหน้าต่างของรถหรูก็ค่อยๆ ขยับ เผยให้เห็นรพีพงษ์นั่งอยู่ตรงที่คนขับ
เดิมทีอารียากำลังจะหันกลับไป แต่หลังจากที่เห็นรพีพงษ์นั่งอยู่ตรงที่คนขับ เธอก็อึ้งไปในทันที
เพื่อนร่วมงานของอารียาจำนวนไม่น้อยที่เคยเจอรพีพงษ์ ดังนั้นเมื่อคนพวกนั้นเห็นว่าคนบนรถคือรพีพงษ์ ต่างก็พากันตกตะลึงไปเช่นกัน
รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของรพีพงษ์ หลังจากนั้นเขาก็ตะโกนเรียกอารียา “คุณภรรยา รีบขึ้นรถสิ ผมมารับคุณกลับบ้านแล้ว”
อารียายังคงยืนอึ้งอยู่ที่เดิมเธอยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้
ขณะนั้นเองรพีพงษ์เดินลงมาจากรถ แล้วเปิดประตูข้างคนขับ จากนั้นก็ผายมือเชิญให้หญิงสาวขึ้นรถ
อารียาเดินเข้าไปด้วยความมึนงง ราวกับเป็นความฝันอย่างไรอย่างนั้น หญิงสาวเดินขึ้นไปนั่งตรงเบาะข้างคนขับ
เพื่อนร่วมงานของเธอต่างพากันจ้องด้วยความอิจฉาริษยา ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
รพีพงษ์ยิ้มแล้วเดินขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถพาหญิงสาวกลับบ้าน
“ไหนบอกว่ารพีพงษ์เป็นคนไร้ประโยชน์ไง เขาซื้อรถราคาแพงขนาดนั้นได้ยังไงกัน”
“แม่เจ้า นั่นมันรถราคาล้านกว่าบาทเลยนะ เมื่อกี้เรายังหัวเราะเยาะอารียาอยู่เลย คิดไม่ถึงว่าเธอจะขึ้นไปนั่งบนรถหรูคันนั้นแล้ว”
“ใครจะไปรู้ว่าเขาซื้อรถคันนั้นมาจริงหรือเปล่า ไม่แน่อาจจะไปยืมมาก็ได้”
…
ระหว่างทาง สติของอารียาเริ่มกลับมา เธอเอ่ยปากพูดกับรพีพงษ์ “รถมอเตอร์ไซค์ของฉันยังอยู่ที่บริษัทนะ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปขี่กลับมาให้คุณ” รพีพงษ์ยิ้มแล้วเอ่ยปากขึ้น
อารียาหันหน้ามามองรพีพงษ์แวบหนึ่ง จากนั้นก็ถามขึ้น “นายเอารถคันนี้มาจากไหน ถ้าไปยืมใครมาก็รีบเอาไปคืนให้เขาเลยนะ”
หญิงสาวยังคงไม่เชื่อว่าชายหนุ่มจะซื้อรถคันนี้มา
“ผมซื้อรถคันนี้มา ต่อจากนี้เวลาผมไปส่งคุณก็จะได้ใช้รถคันนี้” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดขึ้น
“นายซื้อเหรอ!” อารียาพูดด้วยน้ำเสียงตะลึง เมื่อวานเธอนึกว่าเขาแค่พูดเล่นเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะซื้อจริงๆ แถมยังเป็นรถหรูราคาแพงอีกด้วย
“แต่ว่า…รถแพงขนาดนี้ ฉันได้ยินเขาพูดกันว่าคันละล้านกว่าเลยนะ” อารียาพูดขึ้น
“ก็ยังดี ล้านกว่า อันที่จริงก็ราคาไม่เท่าไรหรอก” รพีพงษ์พูดตอบ
อารียาอึ้งไปเธอพูดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง ล้านกว่าเนี่ยยังราคาไม่เท่าไรเหรอ ไอ้หมอนี่รวยแค่ไหนกันนะ
จนกระทั่งตอนนี้ อารียาเพิ่งนึกคำถามที่เธออยากถามเขามาโดยตลอด
“รพีพงษ์ นายมีเงินเท่าไรกันแน่”
รพีพงษ์หันหน้ามามองหญิงสาวแวบหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยปากขึ้น “เอ่อ จะพูดยังไงดีล่ะ มันพอสำหรับเลี้ยงคุณอีกครึ่งชีวิตที่เหลือแล้ว”
อารียาเห็นว่าเขาไม่ตอบตรงๆ เธอจึงไม่ถามเซ้าซี้ แต่ว่าแค่เลี้ยงครึ่งชีวิตที่เหลือของเธอได้ ถ้าอย่างนั้นเขาคงเหลือเงินไม่มากเท่าไรหรอก
สำหรับอารียาแล้ว การเลี้ยงดูครึ่งชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ของเธอ อันที่จริงก็ไม่ต้องใช้เงินมากนัก
ดูๆ แล้วเขาการที่เขาซื้อรถคันนี้ คงจะเหลือเงินไม่มากเท่าไรแล้ว อารียาคิดในใจ
ขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกประทับใจ เพราะช่วงนี้รพีพงษ์แสดงให้เห็นถึงทรัพย์สินของเขา ก็ทำให้คนต่างพากันตะลึงเป็นอย่างมาก อีกอย่างรพีพงษ์ยังใช้เงินพวกนี้มาทำเพื่อเธอทั้งนั้น
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ สิ่งที่เขาพูดว่าจะเลี้ยงดูเธอต่อจากนี้ มันจะสามารถทำให้เธอใช้ชีวิตดั่งเจ้าหญิง มีกินมีใช้ ใช้ชีวิตอย่างไร้ความทุกข์และไร้ความกังวล
รพีพงษ์ได้ยินอารียาถามคำถามนี้ จู่ๆ เขาก็กระแอมออกมาเบาๆ จากนั้นก็เอ่ยปากขึ้น “เอ่อ คุณยังไม่ได้เก็บเงินสำรองของผมไว้ใช่ไหม ถ้ายังไม่ได้เก็บผมจะได้ให้คุณทั้งหมด”
อารียาไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือจะร้องไห้ดี เธอคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะคิดเช่นนี้
“นั่นเป็นเงินของนาย ฉันไม่เอาหรอก อีกอย่างนายก็คงเหลือเงินไม่เยอะแล้ว แม่ฉันก็ไม่ดีกับนาย นายเก็บเอาไว้เถอะ” อารียาพูดขึ้น
รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาขับรถหรูจนถึงที่หมาย
ทั้งคู่เดินเข้าไปในบ้าน เพิ่งเดินเข้ามาถึงหน้าประตูบ้านก็เห็นศศินัดดากับศักดากำลังมองมาทางพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ครอบครัวของป้าฟาง ทั้งสามคนนั่งอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นอารียาและรพีพงษ์กลับมา ก็รีบลุกขึ้นทันที
“กลับมาแล้วเหรอรพีพงษ์ พวกเรามาดูรถที่นายซื้อ เมื่อวานนายพูดไม่ใช่เหรอว่าวันนี้จะไปเอารถ เป็นไง ขับรถกลับมาแล้วใช่ไหม” ป้าฟาง ยิ้มแล้วพูดขึ้น
ศศินัดดารีบเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้นมาว่า “ป้าฟาง อย่าไปฟังที่รพีพงษ์คุยโม้เลย เขาเป็นคนยังไงคุณก็รู้ดีอยู่แล้ว เมื่อวานเขาแค่พูดเล่นกับคุณเท่านั้นเอง”
“ใช่ ใช่ รพีพงษ์แค่พูดเล่นเท่านั้น เขาจะซื้อรถจริงๆ ได้ยังไงกันล่ะ” ศักดาพูดเสริม
“ที่แท้ก็แค่พูดเล่น อุตส่าห์จะมาดูว่ารถของเขาจะมีอะไรแตกต่างกับรถที่มนวรรธน์ซื้อมา” สามีของป้าฟาง พูดด้วยสีหน้าผิดหวัง
“รพีพงษ์นายไม่ได้ซื้อรถเหรอ ไม่ซื้อแล้วจะพูดไร้สาระทำไม ทำให้พวกเรามาเสียเที่ยวแท้ๆ” มนวรรธน์พูดกับรพีพงษ์ด้วยน้ำเสียงไร้ความเกรงใจ
ศศินัดดากับศักดาสีหน้าโกรธจนหน้าดำหน้าแดง พวกเขากะว่าหลังจากครอบครัว ป้าฟางกลับไป จะสั่งสอนรพีพงษ์ให้เข็ด
อารียามองสายตาเหยียดหยามของครอบครัว ป้าฟาง จู่ๆ เธอก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว อีกอย่างรพีพงษ์ก็ขับรถกลับมาแล้ว
“ผมขับรถกลับมาแล้ว จอดอยู่ด้านล่าง” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
ทุกคนต่างพากันอึ้ง ศศินัดดาและศักดาไม่เชื่อ ศศินัดดาจ้องรพีพงษ์แล้วเอ่ยขึ้น “นายพูดไร้สาระอะไรอีก ขับรถอะไร นายคิดว่าพวกเราเป็นคนโง่หรือไง”
“แม่ ผมขับรถกลับมาแล้วจริงๆ ไม่เชื่อพวกคุณก็ลงไปดูด้านล่างได้เลย” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
“ใช่ค่ะแม่ รถจอดอยู่ด้านล่าง” อารียาก็พูดขึ้นมาเช่นกัน
“ที่แท้ก็ซื้อแล้วจริงๆ เราลงไปดูกันเถอะ ไปดูกันว่ารพีพงษ์จะซื้อรถแบบไหนกัน” ป้าฟางยิ้มแล้วพูดขึ้น
ครอบครัวของป้าฟางเดินลงไปข้างล่าง
ศศินัดดาจ้องรพีพงษ์แล้วพูดขึ้นมาว่า “คนไม่เอาไหนแบบแก ไม่ว่าแกจะเอารถพังๆ มาจากไหน เสร็จเรื่องเมื่อไรฉันจะจัดการแกให้เข็ด”
พูดจบเธอก็เดินออกไปพร้อมกับศักดา
รพีพงษ์ยักไหล่แล้วเดินลงไปพร้อมกับอารียา
เมื่อถึงด้านล่าง ครอบครัวของป้าฟางก็มองไปรอบๆ แล้วชี้ไปยังรถโฟล์คสวาเกน พาสสาทสภาพเก่าๆ ที่จอดอยู่ไม่ไกล จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “รพีพงษ์รถคันนั้นคงไม่ใช่รถที่นายซื้อมาใช่ไหม”
“ที่แท้ก็ซื้อรถมือสอง ฉันก็คิดว่ารถดีๆ ที่ไหนเสียอีก อุตส่าห์มาดู เสียเวลาจริงๆ” มนวรรธน์ พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ศศินัดดาและศักดาสีหน้าสลด ศศินัดดาพูดโพล่งด่ารพีพงษ์ออกมาทันที “แกเอาไอ้รถเศษเหล็กนี่กลับบ้านมาทำอะไร รถพังๆ แบบนี้แกให้ฉัน ฉันยังไม่เอาเลย นี่แกซื้อมันมา น่าขายขี้หน้าจริงๆ!”
รพีพงษ์ไม่ได้มีท่าทีเดือดร้อนอะไร เขายกมือชี้ไปที่รถแลนด์โรเวอร์ที่จอดอยู่อีกด้าน จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “รถที่ผมซื้ออยู่ทางนั้น ไม่ใช่คันนี้”
ทุกคนมองไปตามทางที่เขาชี้ไป หลังจากที่เห็นรถแลนด์โรเวอร์คันใหม่เอี่ยม ต่างก็พากันอึ้ง
“ระ รถคนนี้คือรถที่รพีพงษ์ซื้องั้นเหรอ” ป้าฟางพูดอย่างไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไรนัก
ทุกคนพากันเดินไปที่รถแลนด์โรเวอร์คันนั้น เมื่อดูอย่างละเอียดแล้ว ความตกตะลึงก็ฉายออกมาทางแววตา
“รพีพงษ์ นี่คือรถที่แกซื้อเหรอ” ศศินัดดาพูดอย่างไม่ค่อยเชื่อสักเท่าใดจึงถามเขาเพื่อเป็นการยืนยัน
รพีพงษ์พยักหน้า แล้วพูดว่า “ครับ เพิ่งไปเอามาวันนี้ ใบเสร็จยังอยู่ในรถครับ”
เมื่อครอบครัวของป้าฟาง ได้ยินสิ่งที่รพีพงษ์พูดก็รู้สึกริษยาขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เห็นได้ชัดว่ารถคนนี้ดีกว่ารถของมนวรรธน์ใจของพวกเขาร้อนรนขึ้นมาทันที
แต่มาคิดดูดีๆ แล้ว ตั้งแต่ไหนแต่ไรรพีพงษ์ไม่ได้ทำงาน แถมตำแหน่งในบ้านก็ต่ำต้อยขนาดนั้น จะมีเงินไปซื้อรถได้ยังไงกัน
ดังนั้นครอบครัวของ ป้าฟาง จึงคิดว่าอารียายืมเงินเพื่อมาซื้อรถคนนี้ และทำให้รพีพงษ์มีหน้ามีตา
ป้าฟาง ยังคิดอีกว่าอารียาเพิ่งจะเลื่อนตำแหน่งได้แค่ไม่นาน คงจะยังไม่มีเงินมากสักเท่าไร รถคันนี้ก็แค่รูปลักษณ์ภายนอกดูดี ถ้าจะเทียบกับรถของมนวรรธน์ก็คงยังต่างกันมากอย่างแน่นอน
มนวรรธน์ยังคงจ้องไปที่รถแลนด์โรเวอร์ด้วยสีหน้าตะลึง แน่นอนว่าเขารู้จักยี่ห้อของรถคันนี้ แถมยังเคยได้ยินคนพูดกันว่ารถแลนด์โรเวอร์ถูกที่สุดก็คันละล้านกว่า
แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยเจอรถที่ดีขนาดนี้ ดังนั้นเขาเลยเอาแต่สนใจรถไม่มีกะจิตกะใจไปคุยกับพ่อแม่ของตัวเอง
เพื่อที่จะรักษาหน้าของตัวเองป้าฟาง จึงหันไปถามรพีพงษ์ “นายซื้อรถคนนี้คงจะใช้เงินไม่น้อยเลยสินะ”
รพีพงษ์ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “ก็ไม่เท่าไรครับ”
เมื่อเห็นว่ารพีพงษ์พูดอย่างนั้น ป้าฟาง จึงมั่นใจว่ารถคันนี้คงจะมีราคาไม่เท่าไร มากสุดก็คงไม่กี่แสน
“รถคนนี้ดูๆ ไปแล้วเหมือนจะดีมากเลยนะ แต่ถ้าเทียบกับรถของมนวรรธน์ก็คงจะยังต่างกันมาก รถของมนวรรธน์ ราคาสองแสนเชียวนะ รถของนายคงจะไม่กี่แสน ก็ยังเป็นรถที่ไม่ถือว่าดีเท่าไรนัก กลับไปฉันจะให้มนวรรธน์ขับรถมาให้นายดูนะว่ารถราคาสองแสนมันเป็นยังไง” ป้าฟางพูดด้วยสีหน้าพออกพอใจ
รพีพงษ์ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ขณะนั้นเองมนวรรธน์ได้ยินสิ่งที่ป้าฟางพูด เขาจ้องไปยังแม่ของตัวเองแล้วพูดว่า “แม่ แม่บ้าหรือเปล่า รถของผมจะเทียบกับรถคันนี้ได้ยังไง”
ป้าฟาง อึ้งไป แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “แต่ว่ารถคันนั้นสองแสนกว่าเชียวนะ รถของเขาแค่ไม่กี่แสนเอง ทำไมถึงจะเทียบไม่ได้ล่ะ”
“ใครบอกแม่ว่ารถคันนี้ไม่กี่แสน นี่รถแลนด์โรเวอร์ราคาถูกที่สุดก็ล้านกว่า!”