พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 552 วิไลพรระเบิด
บทที่552 วิไลพรระเบิด
เสียงดัง“เพี่ยะ” พสธรถูกตบจนไปอยู่กับผู้ชายอีกฝั่งของโซฟา ในหัวมีแต่เสียงวิ้งวิ้ง หน้าตามึนงง
ทุกคนในห้องรับรองตกใจกับการตบ สายตาของทุกคนล้วนมองไปที่รพีพงษ์
ขณะนี้ใบหน้าของรพีพงษ์บึ้งตึง เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเคือง ยืนอยู่ข้างวิไลพร มองไปที่พสธรด้วยสายตาอาฆาต
มีคนไปปิดไฟดิสโก้ในห้อง ในห้องเงียบสงัดลงทันใด ในห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อุดอู้
วิไลพรขมวดคิ้ว แล้วถอนหายใจอย่างเซ็ง คิดในใจว่าพสธรรนหาที่ตายเอง บอกแล้วว่าอย่าพูด รพีพงษ์ก็เกรี้ยวกราดขึ้นมา ท่านผู้บริหารของบริษัทความงามFFR ก็ต้องเงียบไป
หลังจากที่พสธรรู็สึกตัว ก็ชักตาไปที่รพีพงษ์ ด้วยความเกลียดชัง ตะคอกไปที่รพีพงษ์ว่า “มึงบ้าไปแล้วหรือเปล่าวะ กล้าตบกู มึงหาเรื่องกูใช่ไหม?”
รพีพงษ์จ้องไปที่พสธรอย่างเยือกเย็น แล้วกล่าว “ขอโทษคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา เดี๋ยวนี้”
พสธรเริ่มแสดงอาการ ตอนที่รพีพงษ์บอกว่าตัวเองว่างงานนั้น รพีพงษ์ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาอีกแล้ว วันนี้ที่รพีพงษ์มีงานเลี้ยงแบบนี้ได้นั้น เป็นเพราะวิไลพรทั้งนั้น
วันนี้เขาเพิ่งจะคุยธุรกิจกับวิไลพรสำเร็จ ถือว่าในห้องรับรองนี้ บริษัทลานคอนกรุ๊ปเป็นแขกสำคัญ ความจริงเขาต้องเป็นคนที่ทุกคนให้ความเคารพที่สุดถึงจะถูกสิ
ตอนนี้เพื่อนรักของวิไลพรตบเขาอย่างไร้เหตุผล แล้วยังให้เขาขอโทษคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาอีก ให้ความสำคัญตัวเองเกินไปหรือเปล่า
“มึงเป็นใคร กล้าสั่งกู กูก็แค่เยาะเย้ยไม่กี่ประโยคป่ะวะ แล้วยังให้กูขอโทษอีก? คนที่ควรขอโทษควรจะเป็นมึง!” พสธรตะคอกไปที่รพีพงษ์
วิไลพรที่อยู่ข้างกายเห็นเหตุการณ์ ก็รีบพูดกับพสธรว่า “ท่านประธานพสธร คำพูดเมื่อกี๊ที่คุณพูดมันไม่ถูกต้อง ควรจะขอโทษจริงๆ หยุดใส่อารมณ์ได้แล้ว ขอโทษก่อนแล้วค่อยว่ากัน ไม่งั้นจะจัดการเรื่องที่จะเกิดต่อไปยากแล้วนะ”
พสธรได้ยินวิไลพรพูด คิดว่าตัวเองเป็นลูกค้าของบริษัทลานคอนกรุ๊ป วิไลพรไม่มีทางทำให้เขาขายหน้าแน่นอน แล้วกล่าว “ให้กูขอโทษไอ้เชี้ยนี่? ไม่มีทาง! มันก็แค่ไอ้ตกงาน ดูมันใส่เสื้อผ้ายับเยินขนาดนั้น จะมีต่อแค่ขอทานที่ใส่ชุดแบบมันนี่แหละ! วันนี้กูนั่งร่วมโต๊ะกับมันในห้องรับรองนี้ก็ถือว่าให้เกียรติมันมากแล้ว มันยังกล้าตบกูอีก ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ!”
“วิไลพร คุณเป็นคนเรียกมันมา คุณรีบให้มันขอโทษผมเดี๋ยวนี้เลยนะ มิเช่นนั้นการค้าระหว่างเรา ไม่จำเป็นต้องคุยอีก!”
ทุกคนในห้องล้วนรู้สึกว่าเรื่องนี้ควรจะเป็นฝ่ายรพีพงษ์ขอโทษพสธร เพราะพสธรเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม เพื่อนรักของวิไลพรคนนี้ ยังไงก็ไม่ควรลงมือกับพสธร
“ประธานวิไลพร คุณให้เพื่อนรักของคุณขอโทษท่านประธานพสธรเถอะ เรื่องนี้ถ้าเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ไม่มีอะไรดีต่อบริษัทเลยนะ”
“ใช่ ท่านประธานพสธรก็แค่พูดหยอกเย้าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาไม่กี่คำเอง ไม่เห็นจำเป็นไรเลย เพื่อนรักคนนี้ของแกคงไม่ชอบคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาหรอกนะ ถึงได้มีปฏิกิริยาแบบนี้?”
“เด็กน้อย แกรีบขอโทษท่านประธานพสธรเถอะ เรื่องของคุรหนูตระกูลพงศ์ธนธดา ไม่เกี่ยวอะไรกับแก แม้แกจะชื่นชอบในตัวของคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา แกต้องรู้ฐานะของตัวเอง
……
ทุกคนพูดแทนพสธร เพราะพสธรคือคอนเน็คชั่นของพวกเขา ทำผิดต่อเขาไม่ได้
“พอแล้ว!” รพีพงษ์ยังไม่พูด วิไลพรก็ตะโกนออกมา
ทุกคนล้วนคิดว่าวิไลพรจะออกหน้าแทนพสธร สีหน้าก็มีความสุขขึ้นมา
แต่ทว่าพวกเขาคิดไม่ถึงก็คือ วิไลพรโมโหต่อทุกคน แล้วตะคอกว่า “พวกแกเป็นใคร กล้าพูดจาพล่อยๆต่อคุณชายของฉัน?”
ทุกคนงงงวย มองไปที่วิไลพรอย่างคิดไม่ถึง
วิไลพรหันไปมองพสธร ยื่นมือไปที่เขา แล้วด่า “แกก็เหมือนกัน วันๆเอาแต่คิดเรื่องลามกอะไรก็ไม่รู้ คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาเป็นคนที่แกจะเหยียดหยามยังไงก็ได้งั้นหรือ? คุณชายของฉันตบแกไป แล้วให้แกขอโทษก็ถือว่าให้เกียรติแกมากแล้ว แกยังได้คืบจะเอาศอกอีก แกคิดว่าจะเอาการค้าเล็กๆนี้มาข่มขู่ฉันได้หรือไง?”
พสธรถูกวิไลพรด่าจนงง ไม่นานจึงรู้สึกตัว ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมวิไลพรถึงไม่ร่วมกันด่ารพีพงษ์กับคนอื่น แต่เขารู้ดี ว่าวิไลพรกำลังช่วยเพื่อนรักของเขาอยู่
“วิไลพร คุณแน่ใจนะว่าแกจะทำแบบนี้กับผม?” พสธรถาม
“พูดแบบนี้กับแกแล้วจะทำไม ในหัวมีแต่เรื่องสกปรกโสโครก” วิไลพรด่า
เธอดื่มเหล้าไปไม่น้อย ขณะนี้ก็รู้สึกปลดปล่อย ลักษณะนั้น กำลังช่วยรพีพงษ์แก้ไขปัญหาอยู่
รพีพงษ์ไม่คาดคิดว่าวิไลพรจะช่วยเขา จึงรู้สึกแปลกใจ แต่คิดๆดูแล้วบริษัทลานคอนกรุ๊ปวิไลพรก็แค่การปลอมตัวมาเท่านั้น ฐานะนักสังคมหญิงของเธอนั้น จำเป็นต้องรู้จักคนแบบนี้อยู่แล้ว
ในฐานะที่เทือกเขากิสนาจัดให้เป็นผู้รับผิดชอบของเมืองเซี่ยงไฮ้ วิไลพรก็มีอารมณ์เช่นกัน ปกติเธออดทน ไม่ใส่ใจคนเหล่านี้ แต่ในสถานการณ์ที่รพีพงษ์อยู่ในเหตุการณ์ด้วยล่ะก็ เธอไม่ใส่ใจการค้าเล็กๆแบบนี้
“ได้ คุณรนหาเรื่องเองนะ สิ่งที่บริษัทเราทำการค้ากับพวกคุณ ยุติทั้งหมด ไม่มีข้อแม้ใดๆ ต่อไปถ้าคุณเสียใจ ก็ไม่ต้องมาหาผม!” พสธรโมโห
วิไลพรบึนปาก แล้วกล่าว “ใครเสียดายธุรกิจเล็กๆแบบนั้น พวกคุณที่นั่งอยู่ ที่พูดแทนพสธรเมื่อกี๊ ทุกคน ถูกบริษัทลานคอนกรุ๊ปแบล็คลิสต์ทั้งหมด ต่อไปเราจะไม่มีทางทำธุรกิจกับพวกคุณอีก”
ทุกคนตะลึง ไม่คาดคิดว่าวิไลพรจะเกินไปได้ขนาดนี้ กล้าเอาธุรกิจทั้งหมดของพวกเขาทุกคน ยกเลิกทั้งหมด คนที่อยู่ในห้องรับรองนี้ ที่ทำการค้ากับบริษัทลานคอนกรุ๊ป รวมกันทั้งหมด ก็เป็นจำนวนไม่น้อย วิไลพรทำแบบนี้ก็เหมือนกับทำลายอนาคตของบริษัทลานคอนกรุ๊ป
“ประธานวิไลพร คิดดีๆนะ ถ้าคุณทำแบบนี้จริงๆ ความเสียหายต่อบริษัทลานคอนกรุ๊ปของคุณ ไม่น้อยเลยนะ คุณไม่จำเป็นต้องตัดความสัมพันธ์ เพื่อผู้ชายธรรมดาคนนี้” มีคนหนึ่งพูดขึ้นมา
วิไลพรเยาะเย้ย แล้วกล่าว “ตลก ธุรกิจเล็กๆของพวกคุณ รวมกันยังไม่ได้ขี้เล็บของบริษัทลานคอนกรุ๊ปเลย ฉันคุยธุรกิจกับพวกคุณ ก็แค่เพื่อรักษาภาพพจน์ คิดหรอว่าบริษัทลานคอนกรุ๊ปของเราต้องการพวกคุณจริงๆ”
คนนั้นโดนคำพูดของวิไลพรตอกเข้าไปจนหน้าชา จากนั้นก็ไม่ห้ามวิไลพรอีก ในเมื่อเธออยากรนหาเรื่องเอง งั้นก็จะไม่ยื้อไว้
พสธรก็มองวิไลพริย่างไม่พอใจ แล้วกล่าว “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่ต้องคุยอะไรกันแล้ว พรุ่งนี้บริษัทของเราจะยกเลิกสัญญา วิไลพร ผมรู้ว่าคุณยังเด็กอยู่ บางเรื่องคุณยังไม่เข้าใจ แต่การทำลายอนาคตของบริษัทคุณ ไม่ช้าก็เร็วจะทำให้คุณรู้ว่าความเสียใจมันเป็นยังไง”
พูดจบ พวธรยืนขึ้นจากโซฟา หลังจากที่หันไปแล้วชักตาไปที่รพีพงษ์ ก็เดินออกจากห้องรับรองไป
ในขณะเดียวกันนี้เอง รพีพงษ์ขวางอยู่ที่ประตูห้องรับรอว แล้วพูดกับพสธรว่า “เรื่องที่แกดูถูกคถณหนูตระกูลพงศ์ธนธดายังไม่จบ ฉันอนุญาตให้แกไปแล้วหรอ?”