พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 36 พวกเขาเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ของร้านเรา
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 36 พวกเขาเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ของร้านเรา
บทที่ 36 พวกเขาเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ของร้านเรา
บุษบากรโกรธจนหน้าดำหน้าแดง อารียาเป็นคนเก็บความรู้สึก ยังไงก็ไม่มีเรื่องกับคนประเภทนี้แน่นอน แต่ตัวเธอเองนั้น ไม่มีเรื่อง ไม่ได้
เธอจ้องผู้หญิงตรงหน้าตาเขม็ง เปิดปากพูด “ทำไมคุณถึงพูดจาแบบนี้ มีสิทธิ์ิ์อะไรมาไล่พวกเรา ห้างนี้คุณเป็นเจ้าของหรือไงกัน”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มเย็นๆ พูดออกไป “มีสิทธิ์อะไรอย่างนั้นหรอ ก็สิทธิ์ิ์ที่ฉันสามารถซื้อเครื่องสำอางร้านนี้ได้น่ะสิ แต่พวกเธอซื้อไม่ได้!”
บุษบากรได้ยินก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนคิดไม่ออกว่าจะตอกอะไรกลับไปดี
ผู้หญิงคนนั้นเห็น บุษบากรไม่พูดอะไร ความจองหองก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น พูดอย่างได้ใจ “คนจนอย่างพวกเธอน่ะ ไม่ควรมาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว พวกเธอไปซื้อเครื่องสำอางที่ลดราคาจะดีกว่านะ จะได้ไม่ทำให้ทุกคนที่นี่เสียเวลา”
“นี่คุณ!” บุษบากรโกรธจนไฟสุมอก
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดอะไรแม้แต่น้อย การประพฤติตัวกับคนจน มันก็ต้องแบบนี้แหละ
“ดูพวกเธอแล้ว หน้าตาก็ไม่ได้แย่อะไร ถ้าไปหาผู้ชายรวยๆล่ะก็ ไม่แน่อาจจะซื้อเครื่องสำอางแบรนด์นี้ไหวก็ได้นะ แต่ดูท่าแล้ว คงจะหาผู้ชายแบบนั้นไม่ได้สักคนเลยสินะ”
พูดไป ก็หันไปมองทางรพีพงษ์ ความดูถูกดูแคลนในสายตายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
“ผู้ชายแบบนี้ แค่ดูก็รู้ว่าไม่เท่าไหร่ พวกเธอน่ะ ใครแต่งกับเขา ทั้งชีวิตนี้ก็อย่าหวังจะซื้อเครื่องสำอางแบรนด์นี้เลย“ ผู้หญิงคนนั้นกระซิบออกมา
บุษบากรถึงจะไม่ชอบผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ามากแค่ไหน แต่คำพูดพวกนั้นที่เธอพูดออกมา บุษบากรเองก็รู้สึกว่าพูดไม่ผิด
เธอหันหน้าไปมองรพีพงษ์ พลางพูด “เขาก็พูดไม่ผิดนะ ถ้านายมีดีจริงล่ะก็ แคลร์ก็คงไม่ต้องมาขายหน้าในที่แบบนี้หรอก”
รพีพงษ์ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ไม่ว่าเขาจะเดินไปไหน จะกินจะนอนจะนั่งก็ผิดไปหมด
อารียาดึงๆแขนของบุษบากร พลางพูด “พอแล้วล่ะบุษ พวกเราอย่าลดตัวลงไปต่อปากต่อคำเลย ถ้าตอนนี้ยังไม่อยากซื้อ ไว้คราวหน้าค่อยมาใหม่ก็ได้”
“แหม ไว้คราวหน้าค่อยมาใหม่ ยังไงพวกเธอก็ซื้อไม่ได้อยู่ดี หน้าตาสวยแล้วยังไง ถ้าไม่มีแฟนซื้อเครื่องสำอางให้พวกเธอ” ผู้หญิงคนนั้นยังคงพูดไม่หยุด
พอถึงตอนนี้ ผู้จัดการร้านแชนแนลก็เดินตรงเข้ามา ผู้หญิงคนนั้นเห็นดังนั้น ก็รีบเดินเข้าไป เอ่ยปากพูด “พวกเธอรีบไล่คนจนสามคนนี้ออกไปให้พ้นหูพ้นตาฉันสักที จะได้ไม่มารบกวนอารมณ์ช้อปปิ้งของฉัน”
ผู้จัดการร้านมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแวบหนึ่ง ไม่ได้แสดงท่าท่างกระตือรือร้นที่จะบริการออกมามากนัก แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “ต้องขออภัยด้วยนะคะ ถ้าคุณยังทำตัวไม่มีมารยาทกับลูกค้ากิตติมศักดิ์ของเราอีกล่ะก็ คนที่พวกเราจะไล่ออกไป ก็คือคุณ”
ผู้หญิงคนนั้นได้ยินคำพูดของผู้จัดการร้าน ก็อึ้งไปสองสามวิ บุษบากรเอง กับอารียาทั้งสองคนมึนงงไม่แพ้กัน
ลูกค้ากิตติมศักดิ์อย่างนั้นหรอ
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
“เธอหมายความว่ายังไง คนจนสามคนนี้ ให้ตายยังไงก็ซื้อเครื่องสำอางของที่นี่ไม่ไหวหรอก ทำไมถึงกลายเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ไปได้ล่ะ ฉันต่างหากที่จะซื้อเครื่องสำอางของร้านเธอ แต่ถ้ามารยาททรามแบบนี้ล่ะก็นะ ฉันไม่ซื้อหรอกย่ะ” ผู้หญิงคนนั้นโกรธขึ้นมาทันที
อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการร้านไม่ได้สนใจอะไรเธอนัก ผู้หญิงคนนี้ ถ้าเทียบทางรพีพงษ์แล้ว ไม่ได้นับว่าเป็นลูกค้าคนสำคัญอะไรสักนิด
ส่วนทางรพีพงษ์นั้น มีคนมาติดต่อไว้เรียบร้อย ขอแค่ทำให้พวกเขามีความสุขได้ ก็ทำธุรกิจต่อไปได้
“ลูกค้ากิตติมศักดิ์ทั้งสามท่านคะ ต้องขออภัยจริงๆนะคะ ที่ทำให้พวกคุณต้องยุ่งยาก ร้านของพวกเราไม่เคยปฏิเสธลูกค้าท่านไหน เพื่อเป็นการไถ่โทษ ทางร้านของเราขอมอบเครื่องสำอางสองชุดนี้ให้ค่ะ”
ผู้จัดการร้านพูดไป พลางหันหลังไปเรียกพนักงานในร้าน ให้หยิบชุดเครื่องสำอางในหีบห่อหรูหรามาสองชุด ก่อนจะส่งให้อารียากับบุษบากร
สองคนรับเครื่องสำอางไปอย่างงงๆ ก่อนจะเบิกตาโตด้วยความตกใจ
“นี่มัน……ชุดเครื่องสำอางที่ออกใหม่ล่าสุดของแชนแนลใช่มั้ย” บุษบากรพูดตะกุกตะกัก
“ใช่ค่ะ เครื่องสำอางชุดนี้เหมาะที่สุดกับสไตล์ของคุณผู้หญิงทั้งสอง เชื่อว่าถ้าคุณผู้หญิงทั้งสองได้ลองใช้ดูแล้ว ความมีเสน่ห์สวยงามจะถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น” ผู้จัดการร้านเอ่ยปากยิ้ม
“แต่ว่า เครื่องสำอางชุดนี้ต้องกี่หมื่นเนี่ย เธอจะยกให้พวกเราแบบนี้เลยน่ะหรอ” บุษบากรพูดอย่างตกใจ
“ใช่ค่ะ เครื่องสำอางสองชุดนี้มอบให้แก่คุณผู้หญิงทั้งสองท่านค่ะ ฝากดูแลพวกเขาด้วยนะคะ” ผู้จัดการร้านพูดอย่างนอบน้อม
ผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างๆอดที่จะอิจฉาตาร้อนไม่ได้ เดินเข้าไปหาผู้จัดการร้าน ก่อนจะพูดว่า “เธอก็ต้องใช้ฉันชุดหนึ่งด้วยสิ”
ผู้หญิงคนนี้ ถึงจะมีเงินไม่น้อย แต่พูดถึงเครื่องสำอางแบรนด์ระดับท็อปอย่างแชนแนลแล้ว เธอเองก็ตัดใจซื้อไม่ลงเหมือนกัน เธอมาที่นี่ก็เพียงที่จะซื้อเครื่องสำอางธรรมดาๆเท่านั้น
พอได้เห็นผู้จัดการร้านอยู่ๆก็ให้พวกบุษบากรสองคนฟรีๆไปเลยแบบนี้ แน่นอนว่าเธอก็อิจฉาจนตาลุกเป็นไฟ
“ต้องขออภัยด้วยค่ะ ไม่มีของคุณ” ชั่วพริบตา น้ำเสียงและท่าทางของผู้จัดการร้านก็เปลี่ยนกลับเป็นเย็นชา
“ทำไมพวกเธอถึงได้ล่ะ แต่ฉันไม่ได้ ฉันเป็นลูกค้าประจำของร้านพวกเธอนะ พวกเธอทำแบบน้ อยากจะเสียลูกค้าแบบฉันไปหรือไง พวกเธอสองคนเป็นลูกค้าประจำของร้านเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ” ผู้หญิงคนนั้นสำคัญตัวใหญ่
“ต้องขออภัยจริงๆ ยังไงก็ไม่มีของคุณค่ะ เครื่องสำอางของคุณผู้หญิงทั้งสอง มีคนจ่ายเงินไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณอยากได้ ก็ใช้เงินตัวเองซื้อสิคะ” ผู้จัดการร้านตอบกลับ
“มีคนจ่ายเงินไว้แล้วหรอ ใครกัน” บุษบากรถามอย่างเร่งรีบ
“ขออภัยค่ะ เรื่องนี้พวกเราไม่สามารถบอกได้ “ ผู้จัดการร้านพูด พลางเหลือบมองรพีพงษ์เล็กน้อย
อารียาเองก็หันไปมองทางรพีพงษ์ ในความรู้สึกของเธอแล้ว เงินส่วนตัวของรพีพงษ์คงไม่ได้เยอะขนาดนั้น
ก่อนหน้าผู้หญิงคนนั้นยังหาว่า บุษบากรหาผู้ชายที่เต็มใจซื้อเครื่องสำอางให้เธอไม่ได้ ไม่ทันแหงะหน้ามอง ก็มีคนซื้อชุดเครื่องสำอางราคาแพงให้เธอกับอารียาคนละชุด นี่มันตบหน้ากันชัดๆ
เธอมองเครื่องสำอางในมือของบุษบากรกับอารียา อิจฉาจนกัดฟันกรอดๆ
“วันนี้ ยังไงพวกเธอก็ต้องให้เครื่องสำอางฉันฟรีเหมือนพวกเขา ไม่อย่างนั้นล่ะก็……ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่ซื้อเครื่องสำอางร้านพวกเธออีก” ผู้หญิงคนนั้นยืนเคาะเท้าเกาะอก เริ่มเล่นแกมโกง
ผู้จัดการร้านเห็นดังนั้น ก็รีบไปเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัย พลางพูด “เอาผู้หญิงก่อกวนคนนี้ออกไป ให้ฉันที แจ้งร้านแชนแนลสาขาอื่นด้วย ว่าต่อไปนี้แบรนด์ของเรา แม้แต่ชิ้นเดียวก็ห้ามขายให้เธอ”
พนักงานรักษาความปลอดภัย รีบไล่ผู้หญิงเจ้าปัญหาคนนั้นออกไปอย่างไร้เยื่อใย
บุษบากรกับอารียาเห็นท่าทางอับอายขายขี้หน้าของเจ้าหล่อน ก็อดแอบหัวเราะในใจไม่ได้ คิดว่าเธอเจอแบบนี้ก็สมควรแล้ว
“ เหอะ ดูสิ เมื่อกี้ยังด่าฉอดๆๆอยู่เลย ตอนนี้ทำไมถึงไม่กล้าซะแล้วล่ะ ทำตัวหัวสูงซะจริงๆ ตอนนี้ร้านทุกสาขาของแชนแนลไม่ต้อนรับหล่อนซะแล้ว อยากรู้จริงๆ ว่าคราวหน้ายังจะกล้าไปอวดเบ่งที่ไหนอีกไหม” บุษบากรพูดอย่างได้รับชัยชนะ
หลังจากที่เห็นผู้หญิงคนนั้นถูกไล่ออกไปจากร้าน บุษบากรก็อดไม่ได้ที่จะมองเครื่องสำอางในมือตัวเอง ก็คิดถึงเรื่องของขวัญที่ได้ตอนถ่ายทอดสดวันนี้ อยู่ๆก็มีความคิดแปลกประหลาดโผล่ขึ้นมาในหัว
หรือว่าจะเป็น ผู้ชายคนนั้น เขาจะมาหาฉันแล้วสินะ
เธอมองไปทางอารียา พร้อมถามอย่างตื่นเต้น “เธอว่า คนที่จ่ายเงินให้พวกเรา จะใช่เจ้าชายขี่ม้าขาวของฉันไหม”