พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 353 หาความยุติธรรมให้เขา
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 353 หาความยุติธรรมให้เขา
บทที่353 หาความยุติธรรมให้เขา
“รพีพงษ์! มันกลับมาแล้ว!”
“ไอ้ป่าเถื่อน! ยังกล้ากลับมาอีก มันมีสิทธิ์อะไรที่จะมาคัดค้าน!”
“มันกลับมาก็ดี จับมันไว้ ไอ้ป่าเถื่อน แม้แต่แม่ตัวเองยังฆ่าได้ มันไม่ควรจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!”
……
หลังจากที่คนของตระกูลลัดดาวัลย์เห็นรพีพงษ์แล้วนั้น ก็เกิดความโกรธแค้นขึ้นมา พวกเขาเชื่อโยษิตา จึงได้คิดว่าวีธราได้ถูกรพีพงษ์ฆ่าไปแล้ว
โยษิตาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะกลับมาเกียวโตเร็วขนาดนี้ แล้วดูจากท่าทีของเขาแล้ว ชัดเจนว่ามาเพื่อหาเรื่องแน่นอน
เธอกลอกตาไปมา รีบตะโกนไปที่รพีพงษ์ “รพีพงษ์ แกไอ้ป่าเถื่อน พี่สาวฉันอยากจะทำดีกับแก แต่คิดไม่ถึงว่าแกจะใจดีอำมหิต ฆ่าเธอได้ลงคอ อยากที่จะกุมอำนาจของตระกูลลัดดาวัลย์ เลยทำทุกวิถีทาง แกคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะกุมอำนาจทั้งหมดได้หรอ หยุดคิดได้ล่ะ ไม่มีใครยอมรับแกหรอก!”
“แล้วแกยังฆ่าพี่สาวอีก ต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำลงไป แกกล้ากลับมา งั้นก็อย่าคิดจะมีชีวิตรอดออกไป!”
ทุกคนของตระกูลลัดดาวัลย์ถูกคำพูดของโยษิตาครอบงำจนโกรธแค้นขึ้นมา ตอนนี้รพีพงษ์คือศัตรูของพวกเขา พวกเขาจะให้รพีพงษ์รับผิดชอบต่อการตายของหัวหน้าตระกูล
ทุกคนมองไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาดุดัน ราวกับจะสามารถพุ่งไปที่รพีพงษ์ได้ทุกเมื่อ
รพีพงษ์มองไปที่ทุกคน ด้วยสายตาที่นิ่งสงบ จากนั้นก็เดินไปด้านหน้า ราวกับไม่ได้ใส่ใจคนของตระกูลลัดดาวัลย์อย่างไรอย่างนั้น
คนของตระกูลลัดดาวัลย์ก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงได้รู้สึกโมโหอย่างมาก ทุกย่างก้าวที่รพีพงษ์เดิน ยิ่งเพิ่มไฟความโกรธแค้นให้พวกเขามากขึ้น
เพราะความโกรธแค้น คนนับร้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย
“โยษิตา แกแสดงละครเก่งจริงๆ จนแยกไม่ออกเลยล่ะ แกอยากจะล้างแค้นแทนวีธรา หรือจะยืมมือของคนตระกูลลัดดาวัลย์กำจัดฉัน แล้วกุมอำนาจไว้ในมือเองล่ะ?” รพีพงษ์กล่าวว่านิ่งสงบ
โยษิตาเกลียดชัง แล้วกล่าว “อย่ามาแก้ตัว ฉันถามแก พี่สาวฉันอยู่ไหน!”
“เธอตายแล้วจริงๆ” รพีพงษ์กล่าว
คนของตระกูลลัดดาวัลย์เสียงดังขึ้นมา ถึงแม้ตอนนั้นที่โยษิตาพูดเรื่องนี้ทำให้พวกเขามีความโมโหขึ้นมาแล้วก็ตาม แต่เมื่อได้ยินจากปากรพีพงษ์เอง ก็ตกใจขึ้นอีก
วีธรา ตายแล้วจริงๆหรอ!
“แต่เธอไม่ได้ตายเดี๋ยวน้ำมือของฉัน” รพีพงษ์พูดเสริม
“แกคิดว่าพวกเราโง่หรือไง? พี่สาวหาแกไปเมืองริเวอร์ ไม่มีข่าวคราวมาหลายวัน คนที่ฉันจัดไปตามหาก็ไม่ส่งข่าวใดๆกลับมา ตอนนี้แกมาปรากฏกายที่นี่ ถ้าแกไม่ได้เป็นคนทำ แล้วจะเป็นใครทำ!” โยษิตาตะโกนอย่างเสียใจสุดซึ้ง ในเมื่อต้องแสดงละคร ก็ต้องแสดงให้ถึงที่สุด
โยษิตาและวีธราเป็นพี่น้องกัน โยษิตาผูกพันกับพี่สาวของตนจริงๆ วีธราเสียชีวิต เธอก็ต้องเกลียดรพีพงษ์เป็นธรรมดา
แต่โยษิตาถึงจะถือเป็นคนที่ใจดำอำมหิตตัวจริง คนแบบนี้ คำนึงแต่ผลประโยชน์เป็นหลัก การเสียชีวิตของวีธรามากสุดก็แค่ทำให้เธอเสียใจ เป้าหมายหลักของเธอ คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลักจากการตายของวีธรา
ทุกคนไม่เชื่อคำพูดของรพีพงษ์ ถ้ารพีพงษ์ไม่ได้ฆ่าวีธรา งั้นทำไมเขาจึงมาปรากฏตัวที่นี่?
“ไอ้อกตัญญู! คิดไม่ถึงว่าตระกูลลัดดาวัลย์ของเราจะมีไอ้เหี้ยมโหดอย่างแก วันนี้ฉันจะเปิดโปงความร้ายกาจของแก ไอ้อกตัญญูฆ่าได้แม้แต่แม่ของตัวเอง ตายสักร้อยครั้งก็ยังไม่พอ!”
เจตดิลกที่ยืนอยู่หลังโยษิตาเก็บความโกรธแค้นไว้ไม่ไหวอีกต่อไป เขาอยากจะสั่งสอนรพีพงษ์ตั้งแต่ครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ไม่ว่าจะยังไงจะไม่มีทางปล่อยรพีพงษ์ไปแน่
เขาพุ่งไปที่รพีพงษ์ ด้วยสายตาอำมหิต และอาฆาต
“อาเจตออกโรงเอง ต้องจัดการกับไอ้เหี้ยมแน่ได้แน่นอน มันกล้ากลับมาคนเดียว โง่จริงๆ” นิรมัทเห็นเจตดิลกลงมือเอง ก็ยิ้มออกมา
ทุกคนคิดว่าเจตดิลกจะปรามรพีพงษ์ได้แน่นอน แม่การ์ดฝีมือดีของวีธราจะไม่กลับมา แต่ไม่มีใครรู้ว่ารพีพงษ์ใช้วิธีไหนต่อกรกับพวกเขา ไม่ว่าจะยังไง รพีพงษ์ก็ไม่มีทางเก่งกว่าคนเฒ่าคนแก่ของตระกูลลัดดาวัลย์ไปได้
“เด็กน้อย เอาชีวิตมา!”
เจตดิลกปล่อยหมัดไปที่อกของรพีพงษ์
รพีพงษ์หลับตา หลังจากนั้นร่างกายก็ขยับอย่างรวดเร็ว แล้วหลบหมัดของเจตดิลกได้อย่างสบาย
“โยษิตาให้ข้อเสนออะไรกับคุณ? ถึงได้มาลงมือกับผม คุณแน่ใจหรอว่าที่เธอพูดนั่นคือความจริง?”
“เหอะ ความจริงก็อยู่ตรงหน้า เธอพูดจริงไม่จริง แกก็ต้องตาย!” เจตดิลกลงมือกับเขาอีกครั้ง ด้วยท่าที่รุนแรง ดูเหมือนจะทำให้รพีพงษ์ตายอย่างใดอย่างนั้น
ตอนนี้รพีพงษ์แน่ใจแล้ว ว่าเจตดิลกถูกโยษิตาครอบงำแล้ว
ในเมื่อเขาอยากฆ่าตนเอง งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีกต่อไป
หลังจากที่เจตดิลกปล่อยหมัดแล้วนั้น รพีพงษ์ก็เตะไปที่ขาของเจตดิลก เจตดิลกถลำไปด้านหลังอย่างเร็ว จากนั่นรพีพงษ์ก็พุ่งและเตะเข้าไป เจตดิลกไม่มีแม้กระทั่งเวลาที่จะหลบ
เขาตกใจ คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะจู่โจมได้เร็วขนาดนี้
“เป็นไปได้ไง! ทำไมมันเคลื่อนไหวเร็วได้ขนาดนี้!”
ในตอนที่เจตดิลกกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ขาของรพีพงษ์ได้ถีบไปยังร่างของเขาแล้ว ร่างของเจตดิลกบินขึ้น แล้วตกลงมาที่พื้นอย่างจัง เลือดในปากพุ่งกระจายออกมา จากนั้นหน้าก็ซีดลงทันใด
ที่รพีพงษ์ถีบไปเมื่อกี๊ได้ทำลายภายในของเจตดิลก ทำให้เขาหมดสิ้นกำลังโดยสิ้นเชิง
ทุกคนตะลึง ไม่คาดคิดว่าแม้แต่เจตดิลกก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของรพีพงษ์ ไม่แปลกที่รพีพงษ์กล้ามาคฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์โดยลำพัง
“ทุกคนรีบมา ถึงกำลังของไอ้เด็กนี่มันจะมากเกินกว่าที่คิดไว้ แต่พวกคุณช่วยกัน มันจะไม่มีทางต่อกรได้ เพียงแค่ร่วมมือกันถึงจะจัดการมันได้!” เจตดิลกตะโกนออกมา จากนั้นเลือดก็กระอักออกมาจากปาก
“อาเจตพูดถูก พวกเราร่วมมือกัน มันไม่มีคนช่วย รับมือพวกเราไม่ไหวหรอก! สิ่งที่เร่งด่วนในตอนนี้คือเอาชนะรพีพงษ์ให้ได้ ไม่งั้นเขาจะสร้างปัญหาอย่างมากให้กับตระกูลลัดดาวัลย์ของเรา” นิรมัทตะโกนออกมา
ทุกคนตัดสินใจพุ่งไปที่รพีพงษ์ เพื่อที่จะเอาชนะเขา
ในขณะนี้เอง กลุ่มคนสวมชุดดำพุ่งเข้ามาทันใด ขวางหน้ารพีพงษ์ไว้ จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา
“ไม่คาดคิดว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะมีพวกไร้น้ำยามากมายขนาดนี้ ยังไม่รู้ความจริงก็ลงมือแล้ว ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ตระกูลลัดดาวัลย์เติบโตอย่างเชื่องช้า ดูๆแล้วน่าจะเป็นเพราะพวกไร้น้ำยาอย่างพวกแกถ่วงไว้
ธีรศานติ์เดินเข้ามาในสวน ยื่นข้างรพีพงษ์
เมื่อโยษิตาเห็นธีรศานติ์ ก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าอีกฝั่งมาเพื่อช่วยรพีพงษ์ มิน่ารพีพงษ์ถึงได้กล้ามาคฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์คนเดียว ที่แท้ก็มีธีรศานติ์คอยหนุนหลังอยู่นี่เอง
“ธีรศานติ์ นี่เป็นเรื่องของตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่ว่ายังไง ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับแก ฉันว่าแกอย่าเข้ามายุ่งเลยจะดีกว่า มิเช่นนั้นคนมากมายของตระกูลลัดดาวัลย์นี้ ก็ไม่กลัวพวกหอการค้าสมน.หรอกนะ!” โยษิตาตะโกนออกมา
ธีรศานติ์ยิ้มดูแคลน แล้วกล่าว “ยุ่งเรื่องคนอื่น? ตอนที่แกกับวีธราทำร้ายลูกสาวฉัน ทำไมถึงไม่คิดว่าฉันจะเข้ามายุ่งล่ะ? พูดง่ายๆ รพีพงษ์คือผู้ชาวบชีวิตลูกสาวฉันเอาไว้ ฉันมาหาความยุติธรรมให้เขา ผิดหรอ?”
คำพูดของธีรศานติ์ทำเอาทุกคนตกตะลึง ไม่คาดคิดว่านายกหอการค้าสมน.จะพูดว่าวีธราและโยษิตาสองพี่น้องทำร้ายลูกสาวของเขา พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
สีหน้าของโยษิตาดูไม่ดี เริ่มเคร่งเครียดขึ้นมา วันนี้ที่ธีรศานติ์มา เกิดพูดเรื่องของจารุณีขึ้นมา ถึงเวลานั้นจฝก็จะปิดบังตัวตนของจักรพันธ์ไม่ได้อีกต่อไป สำหรับเธอแล้วไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีเลย
“ทุกคนอย่างฟังเขาพูดจาเลอะเทอะ ฉันและพี่สาวฉันไม่เคยทำร้ายลูกสาวของเขา วันนี้ที่เขามาช่วยรพีพงษ์ ต้องฉวยโอกาสนี้ทำลายตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกเราแน่นอน ไม่แน่พี่สาว อาจจะถูกธีรศานติ์และรพีพงษ์ฆ่าตายก็ได้นะ เขาก็แค่หาข้ออ้างให้ตัวเองเท่านั้น!”
“คนของหอการค้าสมน.ที่มานั้นมีจำนวนไม่มาก พวกเราคนเยอะ และมีฝีมือ ช่วยๆกัน ก็ยังคงฆ่ารพีพงษ์ได้เหมือนเดิม นี่เป็นเรื่องของตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกเรา ถ้าถูกคนของหอการค้าสมน.กีดขวาง ต่อไปพวกเขาต้องเล่นหัวพวกเราแน่นอน!”
โยษิตาตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่มีพลัง ตอนนี้เธอรีบร้อนที่จะฆ่ารพีพงษ์เป็นอย่างมาก เพียงแค่ฆ่ารพีพงษ์ แม้จะเป็นศัตรูกับหอการค้าสมน. เธอก็ไม่กลัว
“แกนี่นะแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ล่ะ ไม่แปลกที่คนของตระกูลลัดดาวัลย์อยู่ในอานัดของพี่น้องทั้งสองอย่างพวกแก” ธีรศานติ์กล่าวอย่างดูแคลน
“ลุย ฆ่ารพีพงษ์แล้วค่อยว่ากัน แม้จะเป็นคนของหอการค้าสมน.ก็ขัดขวางพวกเราไม่ได้!”
นิรมัทตะโกนออกมา จากนั้นก็นำคนไปที่รพีพงษ์ ดูเหมือนกำลังจะปะทะกันแล้ว
รพีพงษ์และธีรศานติ์ทั้งสองยืนนิ่ง มองไปที่นิรมัทอย่างสงบ
ในขณะเดียวกันนี้เอง มีร่างลอย มาที่ตรงหน้าของนิรมัทโดยตรง จากนั้นก็มีเท้าพุ่งมา เตะไปยังนิรมัทจนลอยไป
ความจริงคนที่อยู่ด้านหลังของนิรมัทกำลังจะลงมือ แต่เมื่อมีการปรากฏกายของคนๆหนึ่งที่ถีบเขา จากนั้นเห็นนิรมัทระทมแล้วนั้น ก็ไม่มีใครก็เข้าไปอีกเลย
“ฉันไม่ได้มาช้าไปนะ คนเยอะขนาดนี้ สำนักบูโดวงแสงก็มาร่วมด้วยล่ะกัน”
หลังจากที่จันทร์ไชยมองไปยังทุกคนแล้วนั้น ก็เดินไปยังข้างๆรพีพงษ์
หลังจากที่โยษิตาและคนชั้นสูงของตระกูลลัดดาวัลย์เห็นจันทร์ไชยมาแล้วนั้น หน้าตาถอดสี ถ้าการที่รพีพงษ์พาคนของหอการค้าสมน.มาแล้วทำให้ทุกคนตะลึงล่ะก็ งั้นที่คนของสำนักบูโดวงแสงมานั้น ก็ทำให้พวกเขากลัวได้เลยล่ะ
เพราะความน่าเกรงขามของสำนักบูโดวงแสงนั้นคนของเมืองริเวอร์ย่อมรู้ดี และหลายปีแล้วที่พวกเขาไม่ได้ข้องเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทใดๆเลย รพีพงษ์เชิญให้พวกเขามาได้นั้น แม้จะมีแค่จันทร์ไชยคนเดียวที่มา พวกเขาก็รับรู้ได้ถึงความร้ายแรง
จันทร์ไชยอยู่ที่นี่อย่างน้อย ทุกคนก็รู้ ว่าจะใช้กำลังในการกำจัดรพีพงษ์นั้น เป็นไปไม่ได้แล้ว
“จันทร์ไชย สำนักบูโดวงแสงของพวกคุณจะไม่เกี่ยวข้องกับการทะเลาะวิวาทใดๆไม่ใช่หรอ คุณมานี่หมายความว่ายังไง? หรือคิดว่าตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกเรารังแกได้ง่ายๆงั้นหรอ?” โยษิตาชักตาไปที่จันทร์ไชยแล้วถาม
จันทร์ไชยหัวเราะ แล้วกล่าว “ผมไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทจริง แต่ก็จะมีช่วงที่ทนดูไม่ไหวจริงๆ คุณป้ายความผิด ใช้วิธีสกปรก ผมดูต่อไปไม่ไหวจริงๆ อยากจัดการสักหน่อย ต้องดูอารมณ์คุณด้วยหรอ?”