พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 330 ผลกรรมของวีธรา
บทที่ 330 ผลกรรมของวีธรา
330 ผลกรรมของวีธรา
เมื่อวีธราเห็นสภาพเหี่ยวแห้งของจักรพันธ์ สีหน้าก็เปลี่ยนไป และจะรีบพุ่งไปหาจักรพันธ์”
“จักรพันธ์ ทำไมลูกถึงกลายเป็นแบบนี้? พวกเขาทำอะไรกับลูก? ลูกบอกแม่มานะ แม่จะจัดการแทนลูกเอง!”วีธรากล่าวด้วยความกังวล
ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว หัวใจของรพีพงษ์จึงสั่นไหว จากนั้นก็หายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ ในใจของเขารู้ดี ตั้งแต่วินาทีที่ตัวเองเกิดมา ก็แน่ใจได้ว่า วีธราไม่มีทางที่จะเป็นห่วงตัวเอง
ในเวลานี้ใจก็อิจฉา เป็นเพียงการเสียความรู้สึกเท่านั้น
หลายคนยืนขวางอยู่ตรงหน้าจักรพันธ์ จ้องมองวีธราอย่างโกรธๆ ทำให้เธอไม่สามารถเข้าใกล้จักรพันธ์ได้
วีธราหันไปมองรพีพงษ์ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ และตะโกน: “รพีพงษ์ ใครให้แกทำแบบนี้กับจักรพันธ์ของฉัน เขาเป็นแก้วตาดวงใจของฉัน แกทำแบบนี้กับเขา ฉันจะทำให้แกไม่ตายดีแน่!”
รพีพงษ์ยังไม่ได้พูด จักรพันธ์ก็พูด: “แม่ หรือแม่ยังเห็นรูปแบบนี้ตอนนี้ไม่ชัดเจนเหรอ? แม่จะเอาอะไรไปทำให้เขาตาย? แม่ก็ประเมินรพีพงษ์ต่ำไป เขาไม่ได้ธรรมดาอย่างที่แม่คิด ถ้าแม่ไม่ได้ดูถูกเขา ผมก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้”
หลังจากที่วีธราได้ยิน ก็ไม่ได้ตอบโต้ แต่รีบขอโทษจักรพันธ์:ใช่ใช่ใช่ โทษแม่ มันเป็นความผิดของแม่ ถ้าไม่ใช่แม่ ลูกชายของแม่จะกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร”
เมื่อทุกคนเห็นว่าวีธราเชื่อฟังจักรพันธ์มาก ไม่กล้าแม้แต่จะพูดโต้แย้ง ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่รพีพงษ์
แววตาของรพีพงษ์เย็นชา ความคาดหวังของเขาที่มีต่อวีธรา เมื่อช่วงเวลาสิบกว่าปีก่อน ก็ดับวูบไปแล้ว เขาไม่เคยคิดว่าจะได้อะไรมาจากวีธรา
เป็นเพราะเหตุนี้ หัวใจของรพีพงษ์จึงแข็งกร้าวอย่างมาก ต่อให้วีธราจะรักจักรพันธ์แค่ไหน ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับรพีพงษ์ พวกเขาก็ไม่มีความผูกในครอบครัวต่อกันมานานแล้ว แม้ว่าในร่างกายจะมีเลือดเดียวกัน
“คุณไม่สมควรที่จะเป็นแม่คนเลย รพีพงษ์ก็เป็นลูกของคุณ และคุณคิดแต่จะทำร้ายเขา แต่กับจักรพันธ์คนนี้ที่ไร้ประโยชน์ นอกจากสร้างความเดือดร้อนให้คุณ แล้วยังไม่มีความสามารถอะไร แต่คุณกลับดีกับเขามากมายขนาดนี้ หรือว่าคุณจะแยกไม่ออกว่าอันไหนดีอันไหนชั่ว?”อารียากล่าวอย่างโกรธเคืองแทนรพีพงษ์
วีธราเงยหน้าขึ้นมามองรพีพงษ์ พูดอย่างโกรธๆ: “หึ เขาเป็นลูกของฉันแล้วยังไงล่ะ ฉันให้กำเนิดเขา ก็แค่ถูกตระกูลลัดดาวัลย์บังคับเท่านั้นเอง ก็เป็นสิ่งที่ถูกบังคับให้คลอดออกมาเท่านั้น ไม่ยอมรับแล้วยังไงล่ะ?”
“คุณ!”อารียาโกรธจนตัวสั่นไปทั่ว บาดแผลบนร่างกายก็เจ็บ และริมฝีปากของเธอก็ซีดลงมาก
รพีพงษ์รีบโอบกอดพยุงอารียาไว้ แล้วพูด: “อย่าไปสนใจหล่อนเลย บางคน เกิดมาเป็นปีศาจ พูดอะไรไปก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้”
จากนั้นเขาก็ให้ชนิสราพยุงอารียาไว้ เดินไปที่ข้างๆจักรพันธ์ ดวงตาทั้งสองข้างมองไปที่วีธราอย่างอาฆาต พูดอย่างเย็นชา: “คุณก็เห็นแล้วว่าคนพวกนี้ที่ล้อมรอบตัวคุณอยู่ ในเมืองริเวอร์ คุณไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของฉันได้ ตอนนี้เหลือคุณอยู่คนเดียวในที่นี้ พูดได้ว่าชีวิตคุณอยู่ในกำมือของฉัน”
“เอาตราสัญลักษณ์นายใหญ่ออกมา ไม่อย่างนั้นคุณก็น่ารู้จุดจบของตัวเองดีว่าจะเป็นยังไง!”
หลังจากที่วีธราได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็ยังคงแสดงท่าทางที่ดูถูกรพีพงษ์ แล้วพูด: “แกมีสิทธิ์อะไรมาให้ฉันเอาตราสัญลักษณ์นายใหญ่ให้? ที่นี่มีฉันเพียงคนเดียวแล้วยังไงล่ะ ถ้าแกกล้าทำอะไรฉัน ทั้งตระกูลลัดดาวัลย์ไม่มีทางปล่อยแกแน่!”
เมื่อเห็นว่าวีธราไม่ยอมเอาตราสัญลักษณ์ออกมา รพีพงษ์ก็บีบแขนของจักรพันธ์ และพูดอย่างเย็นชา: “ถ้ายังไม่เอาออกมา ฉันก็จะหักแขนเขาเดี๋ยวนี้”
จักรพันธ์ก็ร้องโอดโอยขึ้นมา แล้วตะโกนพุ่งไปที่วีธรา: “แม่ก็รีบเอาตราสัญลักษณ์ของนายใหญ่ออกมาเถอะ แขนของผมจะหักอยู่แล้ว แม่ยังยืนเฉยอยู่ทำไม หรือว่าอีกหน่อยแม่ต้องการให้ผมกลายเป็นพิการเหรอ?”
เมื่อวีธราเห็นจักรพันธ์ร้องโอดโอย ก็กังวลขึ้นมาทันที แล้วรีบพูด: “จักรพันธ์ นั้นมันคือตราสัญลักษณ์นายใหญ่เลยนะ จะเอาให้ง่ายๆแบบนี้ได้อย่างไร…..”
“แม่แม่งอย่ามัวแต่พูดจาเหลวไหลกับฉัน รีบๆเอาตราสัญลักษณ์นายใหญ่ออกมา แขนของกูจะหักแล้ว!”จักรพันธ์ตะโกนใส่หน้าวีธรา
วีธราถูกตะโกนใส่แบบนี้ จนไม่กล้าละเลย รีบหยิบตราสัญลักษณ์หนึ่งแผ่นออกมาจากเสื้อผ้าของตัวเอง และเอื้อมมือยื่นไปให้รพีพงษ์ แล้วพูด: “ฉันให้ ฉันให้ แกปล่อยตัวลูกชายนะ ฉันก็จะเอาตราสัญลักษณ์ให้แก”
เมื่อเห็นตราสัญลักษณ์นายใหญ่ รพีพงษ์ก็ปล่อยมือ
“ตราสัญลักษณ์นายใหญ่นี้ฉันสามารถให้แกได้ แต่ว่าแกต้องปล่อยตัวฉันและจักรพันธ์ไป”วีธรากล่าว
รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูด: “คุณไม่มีสิทธิ์มาเจรจาต่อรองกับฉันแล้ว ต่อให้คุณไม่ให้ ฉันฆ่าคุณ ก็สามารถเอาแผ่นตราสัญลักษณ์นี้มาได้”
“แกกล้าเหรอ!”วีธราก็ตะโกน “ชีวิตของแกฉันเป็นคนให้ แกกล้าฆ่าฉันเหรอ?”
“มีอะไรที่ไม่กล้า? คุณก็ไม่เคยเห็นชีวิตของฉันอยู่ในสายตาอยู่แล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจคุณ ที่สำคัญครั้งนี้คุณทำร้ายผู้หญิงที่ฉันรักที่สุดด้วย ไม่ให้คุณลิ้มลองความสุดยอดของฉัน คุณก็จะไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดขนาดไหน!”รพีพงษ์กล่าว
เมื่อวีธราได้ยินคำพูดที่อาฆาตของรพีพงษ์ ในใจก็เต้นแรง เธอรู้ดีว่าวันนี้ตัวเองคงจะหนีไม่รอดแน่ รพีพงษ์เกลียดเธอฝังลึกเข้าไปในกระดูก โอกาสที่ดีขนาดนี้ในตอนนี้ รพีพงษ์จะปล่อยเธอไปได้ยังไง
“รพีพงษ์ ฉันก็ช่วยนายได้ตราสัญลักษณ์นายใหญ่มาแล้ว ตามที่เราตกลงกัน นายต้องปล่อยตัวฉัน นายอย่าพูดแล้วทำไม่ได้นะ”จักรพันธ์หันหน้าไปมองรพีพงษ์
หลังจากที่วีธราได้ยินคำพูดของจักรพันธ์ สีหน้าก็แสดงความสงสัยออกมาเล็กน้อย แล้วถาม: “จักรพันธ์ ลูกกำลังพูดอะไร? ทำไมลูกต้องช่วยเขาเอาตราสัญลักษณ์นายใหญ่ด้วยล่ะ? ลูกและเขาคุยอะไรกัน?”
จักรพันธ์ไม่สนใจวีธรา ในเวลานี้เขาต้องการเพียงแค่ให้ตัวเองมีชีวิตรอด และก็ไม่ได้สนใจวีธรา
รพีพงษ์ยิ้มให้วีธราเล็กน้อย แล้วพูด: “คุณคงคิดไม่ถึงสินะ ว่าลูกชายสุดที่รักของคุณ ก่อนหน้าที่ยังไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็ทรยศแฉคุณออกมาหมดแล้ว เขาบอกว่าจะช่วยฉันหลอกล่อคุณมา ถ้าได้ตราสัญลักษณ์ในใหญ่แล้ว ให้ฉันปล่อยตัวเขา คิดไม่ถึงแผนก็ยังไม่ทันได้ใช้ คุณก็ส่งตัวเองมาถึงประตูเองเลย”
เมื่อวีธราได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ใบหน้าของเธอก็ซีดลงในทันที ดวงตาของเธอสบตาเข้ากับจักรพันธ์ แววตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
ใบหน้าของจักรพันธ์เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ไม่กล้าสบตากับวีธรา หันหน้าไปด้านข้าง
“จักรพันธ์ มันไม่ใช่อย่างนั้น เขาโกหกฉันใช่ไหม? ลูกจะทรยศแม่ได้อย่างไร ทั้งหมดนี้เขาสร้างเรื่องโกหกขึ้น ใช่มั้ย?”วีธราถาม
สีหน้าจักรพันธ์เต็มไปด้วยความหงุดหงิด แล้วพูด: “แม่ไม่รู้ว่าผมอยู่ที่นี่ต้องทนทุกข์ทรมานขนาดไหน ผมทำเช่นนี้ก็ไม่มีทางเลือกเท่านั้นเอง ผมเชื่อว่าแม่ต้องเข้าใจ”
ร่างกายของวีธราถอยหลังสองก้าวอย่างช่วยไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าการยอมรับจริงๆของจักรพันธ์เป็นกับการบดขยี้ความเชื่อของเธอให้แหลก ทันใดนั้นเธอก็เปลี่ยนเป็นหดหู่ขึ้นมา
“อย่างนั้นลูกเอาตราสัญลักษณ์นายใหญ่แลกเปลี่ยนกับรพีพงษ์ แล้วแม่ล่ะ? ลูกคิดวิธีช่วยแม่ออกไปยังไง แล้วใช่ไหม?”วีธรายังคงมีความหวังอันริบหรี่ต่อจักรพันธ์ เพียงแค่จักรพันธุ์บอกว่าคิดแล้วว่าจะช่วยเธอออกไปยังไง เธอก็จะยังคงปฏิบัติต่อจักรพันธ์เหมือนเดิม
“ผมเองยังเอาตัวรอดยาก จะมีกะจิตกะใจที่ไหนไปคิดถึงแม่ล่ะ ยังไงก็ตามตราบใดที่ช่วยรพีพงษ์ได้ตราสัญลักษณ์นายใหญ่มา ผมก็ไม่ต้องอยู่ในห้องมืดและชื้นอีกต่อไป สำหรับแม่รพีพงษ์จะจัดการยังไง มันขึ้นอยู่กับดวงชะตาของแม่ ไม่มีเกี่ยวอะไรกับผม”จักรพันธ์กล่าว
วีธรารู้สึกเพียงว่าหัวใจของตัวเองเจ็บปวด ยังไงเธอก็คิดไม่ถึง ว่าลูกชายที่รักของตัวเอง จะโหดเหี้ยมขนาดนี้ และไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง
จักรพันธ์เป็นความเชื่อในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ของเธอมาโดยตลอด และตอนนี้ความเชื่อนั้นก็พังทลายลง วีธรารู้สึกสิ้นหวังทั้งร่างกาย
ทุกคนรอบข้างมองไปที่วีธราด้วยสายตาเย็นชา ไม่มีใครเห็นอกเห็นใจเธอ แต่หลายคนคิดว่านี่คือสิ่งที่วีธราสมควรได้รับ
เนื่องจากท่าทางที่วีธราแสดงต่อรพีพงษ์และจักรพันธ์ทั้งสองคนแตกต่างกันราวกับฟ้ากับดิน ทุกคนรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับรพีพงษ์ แต่ตอนนี้วีธราทำอะไรมากมายเพื่อจักรพันธ์ แต่สิ่งที่ได้รับมาคือถูกจักรพันธ์ทรยศ นี่ถือว่าเป็นผลกรรมที่เทวดาฟ้าดินให้กับวีธรา
“จักรพันธ์ ลูกทำแบบนี้กับแม่ ในใจไม่มีความรู้สึกผิดเลยเหรอ?”ดวงตาทั้งสองข้างของวีธรามีน้ำตาก็หลั่งไหลออกมา ดูแล้วเสียใจมาก
จักรพันธ์ก้มหน้าลง และไม่พูดอะไร
“คุณมีค่าพอที่จะพูดถึงความรู้สึกผิดเหรอ? คุณก็ทำแบบนี้กับฉัน ก็ไม่เคยรู้สึกผิด จักรพันธ์ก็เป็นเพียงแค่ผลกรรมของคุณเท่านั้นเอง”รพีพงษ์กล่าวเบาๆ
เมื่อวีธราเห็นว่าจักรพันธ์ไม่ตอบ ก็ยิ่งร้องไห้เสียใจใหญ่ ในใจของเธอรู้คำตอบอยู่แล้ว แม้แต่เธอก็คิดไม่ถึง ลูกชายที่เธอเฝ้าเลี้ยงดูมาหลายปี จะเป็นคนอกตัญญู
น่าเสียดายตอนที่รู้ ก็สายไปแล้ว
เธอหันไปมองรพีพงษ์ พร้อมกับรอยยิ้มที่ฝืนยิ้ม แล้วพูด: “แกพูดถูก นี่จะเป็นผลกรรมที่สวรรค์มอบให้กับฉัน แต่น่าเสียดายที่แกคิดว่าทำแบบนี้ก็สามารถแย่งตระกูลลัดดาวัลย์กลับไปได้เหรอ? มันเพียงแค่แผ่นตราสัญลักษณ์นายใหญ่แผ่นเดียวเท่านั้นเอง นี่อาจจะทำให้แกกลายเป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัยได้ อย่างไรก็ตามแกจะไม่มีทางได้รับความมั่งคั่งของตระกูลลัดดาวัลย์ หากไม่มีรหัสผ่านของบัญชีของตระกูลลัดดาวัลย์ แกก็จะไม่สามารถใช้เงินของตระกูลลัดดาวัลย์ได้เช่นกัน นายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์แบบนี้ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าแค่ของตกแต่ง”
ตอนนี้เธอก็มีใจที่จะไปตายอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่กลัวหลังจากที่รพีพงษ์รู้จะข่มขู่ถามจากเธอ ไม่ว่ายังไงก็ตาม เธอไม่มีทางที่จะบอกรหัสผ่านของบัญชีของตระกูลลัดดาวัลย์ให้กับรพีพงษ์
รพีพงษ์ยิ้มให้วีธราเล็กน้อย แล้วพูด: “ทำให้คุณผิดหวังจริงๆ ลูกชายสุดที่รักของคุณ บอกรหัสผ่านกับฉันแล้ว ดังนั้นสามารถเอาความมั่งคั่งของตระกูลลัดดาวัลย์ได้หรือไม่ได้ คุณก็ไม่ต้องกังวล”
สีหน้าของวีธราเปลี่ยนไป จากนั้นก็กลายเป็นความสิ้นหวังและความผิดหวัง สักพัก ใบหน้าของเธอก็แสดงรอยยิ้มที่ผิดหวัง รู้สึกว่าทุกอย่างไม่มีความหมาย
“รพีพงษ์ นายก็ได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่จะปล่อยฉันไปได้แล้วล่ะ?”จักรพันธ์หันหน้าไปมองรพีพงษ์
ดวงตาของรพีพงษ์หรี่ลง แววตาก็แสดงพร้อมกับความหมายที่ลึกซึ้ง
“วันนี้พวกคุณสองคน มีเพียงหนึ่งคนที่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ นายต้องการให้ฉันเก็บชีวิตนายไว้ ก็ได้”รพีพงษ์ชี้ไปที่วีธรา “ฆ่าหล่อนซะ ฉันก็จะปล่อยแกไป”