พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 307 ความโกรธเคืองของปิยังกูร
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 307 ความโกรธเคืองของปิยังกูร
บทที่307 ความโกรธเคืองของปิยังกูร
อาคารTG
ปิยังกูรนั่งอยู่กลางห้องทำงาน เวลานี้ปิยังกูรยังคงค้นหาว่าลูกชายตนเองที่ไม่รู้หายไปไหนด้วยความร้อนใจ เริ่มตั้งแต่เมื่อวานที่เขาไม่สามารถติดต่อไตรวิทย์ได้มาโดยตลอด
ตอนแรกเขายังคิดว่าเป็นเพราะลูกชายตนเองเล่นสนุกกับภรรยาของรพีพงษ์สุดเหวี่ยงเกินไป ดังนั้นจึงไม่มีเวลาสนใจตนเอง แต่ว่าปัจจุบันนี้ผ่านมาเป็นเวลาวันกว่าๆ ถึงแม้ไตรวิทย์จะเล่นสนุกมากแค่ไหน ก็น่าจะมีเวลาดูมือถือสักหน่อยถึงจะถูก ทำให้ปิยังกูรเริ่มสงสัยอย่างอดไม่ได้ ไตรวิทย์เกิดเรื่องขึ้นหรือเปล่า
ถ้าไตรวิทย์เกิดเรื่องขึ้นจริง คนที่สมควรให้สงสัยมากที่สุดก็คือรพีพงษ์ โดยเฉพาะตอนที่รพีพงษ์แข่งขันไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องของเขา อย่างหนึ่งอาจเป็นเพราะเดิมทีรพีพงษ์ไม่สนใจภรรยาของเขาเองเลย อีกอย่างหนึ่งมีความเป็นไปได้มากว่าเขารู้แล้วว่าภรรยาของตนเองจะไม่เป็นอะไร
แต่เรื่องที่ทำให้ปิยังกูรคิดไม่ออกอยู่บ้างคือรพีพงษ์ไม่ใช่แค่สวะคนหนึ่งเท่านั้นเหรอ เป็นไปได้อย่างไรที่จะทำให้ภรรยาของเขาหนีรอดไปจากเงื้อมมือลูกชายตนเองได้
มีความเป็นไปได้มากว่ามีคนมีคนกำลังช่วยรพีพงษ์ แต่เขาคิดไม่ออกว่าจะมีใครช่วยรพีพงษ์เจ้าสวะแบบนี้ โดยเฉพาะที่เมืองริเวอร์ คนที่กล้าขัดแย้งกับบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส เดิมทีไม่มีสักกี่คน ถึงแม้จะเป็นตระกูลกุลสวัสดิ์ก็ยังไว้หน้าให้บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สด้วยเช่นกัน
พอคิดไม่ออกว่าสรุปแล้วมันเรื่องอะไรกัน ในใจปิยังกูรก็หงุดหงิดอยู่บ้าง แต่เขาไม่ได้รีบร้อน โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ลูกชายเขาออกไปเที่ยว สถานการณ์ที่ไม่รับโทรศัพท์หลายวันก็ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น
เขารู้ว่าหากไม่มีเรื่องอะไรไตรวิทย์มักจะชอบเข้าร่วมงานสังสรรค์บางอย่าง งานสังสรรค์แบบนั้นไม่อนุญาตให้นำมือถือเข้าไป มาตรฐานด้านในงานสังสรรค์แบบนี้ เดิมทีไม่ใช่คนทั่วไปสามารถจินตนาการได้ ไม่แน่ว่าไตรวิทย์อาจจะพาอารียาไปงานสังสรรค์แบบนั้นก็ได้
ตอนที่เขากำลังคิดไปเรื่อย ชายที่ใส่แว่นคนนั้นก็เดินเข้ามาในห้องทำงานแบบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน
ปิยังกูรเงยหน้ามองเขาทีหนึ่ง เอ่ยปากถาม “มีอะไรแล้ว? เป็นรพีพงษ์เจ้าสวะนั้นโดนเก็บกวาดแล้วเหรอ? ทำตามข้อเรียกร้องของฉัน ให้ชาตินี้มันได้แต่นอนใช้ชีวิตบนเตียงใช่มั้ย?”
ชายใส่แว่นตารีบส่ายๆ หน้า เอ่ยปากบอก “ประธานครับ เกิดเรื่องแล้ว ดีที่สุดคุณลงไปดูด้วยตัวเองสักหน่อยเถอะครับ”
ในใจปิยังกูรสั่นไหว รีบลุกขึ้นมา เอ่ยปากถาม “เกิดเรื่องอะไรแล้ว เป็นไตรวิทย์เหรอ?”
“ไม่เกี่ยวกับคุณชายครับ เป็น……เป็นไทล์พวกเขาครับ ตอนนี้พวกเขาอยู่หน้าประตูบริษัท คุณลงไปดูด้วยตัวเองหน่อยเถอะครับ” ชายใส่แว่นตาเอ่ยปาก
ปิยังกูรชายตามองเขาทีหนึ่ง ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน จากนั้นรีบขึ้นลิฟต์ลงไปด้านล่างตึก
ผ่านมาไม่นาน ปิยังกูรกับชายใส่แว่นคนนั้นก็มาถึงที่หน้าประตูอาคาร เวลานี้ด้านหน้าอาคารมีคนกลุ่มใหญ่รวมตัวกันอยู่ คนเหล่านี้มุงกันแบบไม่มีช่องโหว่ที่หน้าประตูอาคารเลย
หลังจากที่ปิยังกูรเดินออกไป ก็รีบเข้าไปก่อน มองไปทางฝูงชนทีหนึ่ง พบว่าตรงกลางคนเหล่านี้มีเปลหามหลายอันอยู่ บนแปลหามก็คือพวกของไทล์กลุ่มหนึ่งที่ถูกตีจนแขนขาหัก
เวลานี้ไทล์และคนอื่นๆ ล้วนนอนอยู่บนเปลหามร้องโอดโอย คนโดยรอบต่างร้องประหลาดใจ คาดไม่ถึงหน้าประตูอาคารTGจะเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น ยังคิดว่าคนเหล่านี้มาหาผลประโยชน์ที่บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส
หลังจากปิยังกูรมองเห็นฉากนี้เข้า สีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ เขาเคยนึกถึงที่ไหนว่าอันธพาลยอดเยี่ยมกลุ่มเล็กที่ตนเองเลี้ยงดูลับๆ คาดไม่ถึงจะต้องใช้เปลหามยกกลับมา
เขารีบเบียดเข้าไปในฝูงชนทันที จ้องมองไทล์ที่อยู่บนเปลหามทีหนึ่ง เอ่ยปากถาม “นี่มันเรื่องอะไรกัน ฉันไม่ได้ให้พวกนายไปเก็บกวาดรพีพงษ์เหรอ พวกนายถูกแบกกลับมาได้ยังไง?”
ไทล์มองเห็นปิยังกูร หน้าเต็มไปด้วยความจำใจ เอ่ยปากบอก “ประธาน เดิมทีรพีพงษ์คนนั้นไม่ใช่สวะอะไร ความสามารถของเขาแกร่งมาก พวกเราหลายคนรวมกันขึ้นมายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย พวกเราโดนเขาหักแขนหักขามาหมด รีบส่งพวกเราไปโรงพยาบาลเถอะ”
หลังจากปิยังกูรได้ยินคำพูดของไทล์ ในใจยิ่งโกรธหนัก ตะโกนบอก “แม่งเอ๊ย พูดว่าอะไรนะ พวกนายโดนรพีพงษ์ทำแขนขาหัก? มันตัวคนเดียวเนี่ยนะ?”
ไทล์รีบพยักหน้าแล้ว
ปิยังกูรรีบกุมหมัดแน่น เดิมทีไม่เชื่อว่ารพีพงษ์จะเก่งกาจขนาดนี้
เวลานี้ชายที่ใส่แว่นคนนั้นเดินมาด้านข้างของปิยังกูร ยื่นมือถือเข้าไปให้ปิยังกูรดูสักหน่อย บอกว่า “ประธานครับ คุณดูอันนี้หน่อย แพร่ออกมาจากในเน็ตครับ”
ปิยังกูรรับมือถือเข้ามา มองเห็นภาพในมือถือ คือคลิปวิดีโอที่ประลองฝีมือระหว่างรพีพงษ์กับพวกของไทล์กลุ่มหนึ่งที่โถงใหญ่สนามบิน
ภายในคลิปวิดีโอ รพีพงษ์ฝีมือว่องไว ลงมือรวดเร็วก็เก็บกวาดไทล์และคนอื่นได้แล้ว ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสให้โต้กลับ
ปิยังกูรดูคลิปวิดีโออยู่ สีหน้าชั่วขณะนั้นเปลี่ยนไปเขียวปัดขึ้นมา อย่างหนึ่งคือตกใจฝีมือของรพีพงษ์ อีกอย่างหนึ่งคือประหลาดใจที่อันธพาลยอดเยี่ยมที่ตนเองเสียเงินจำนวนมากเลี้ยงดู คาดไม่ถึงจะอ่อนแอเช่นนี้ คนมากขนาดนี้สู้กับรพีพงษ์คนเดียว ยังโดนตีกลับมาสภาพนี้ แม้กระทั่งเขายังสงสัยอยู่บ้างว่าเรื่องที่ไทล์พวกเขาตีหมีตัวหนึ่งตายตอนแรกนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่
“ฉันเลี้ยงดูพวกแกมาอย่างยากลำบาก แม้แต่รพีพงษ์คนเดียวพวกแกยังจัดการไม่ได้ แม่งเอ๊ยเงินที่เอามาลงบนตัวพวกแกเสียเปล่าแล้วรึไงวะ?” ปิยังกูรตะคอกอย่างโมโห
หน้าไทล์เต็มไปด้วยการไม่ได้รับความเป็นธรรม เอ่ยปากบอก “ประธาน ไม่ใช่พวกเราอ่อน เป็นรพีพงษ์คนนั้นช่างแกร่งเสียจริง ความสามารถของเขา เดิมทีไม่ใช่แบบที่พวกเราจินตนาการ ถึงแม้จะเปลี่ยนเป็นคนอื่น ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน”
ปิยังกูรถีบไปบนตัวของไทล์โดยตรง ไทล์ร้องโหยหวนขึ้นมาทันที
ถึงแม้ปิยังกูรจะรู้ว่าเป็นเพราะตนเองประเมินความสามารถของรพีพงษ์ต่ำไป แต่ในใจยังมีอารมณ์ จึงต้องระบายสักหน่อย ดังนั้นเลยทำได้เพียงถีบไทล์แล้ว
“ส่งขยะพวกนี้ไปโรงพยาบาล ให้เงินเลี้ยงดูกับพวกมันคนละก้อน ต่อไปฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกมันอีก” ปิยังกูรตะโกนไปทางชายที่ใส่แว่น
ชายที่ใส่แว่นพยักหน้า หลังจากนั้นเอ่ยปากขึ้น “ประธานครับ คนของพวกเราพึ่งค้นหาเจอ ปกติรพีพงษ์คนนี้ไปมาหาสู่กับธฤตญาณอยู่บ่อยๆ ยังมีคนหาคลิปบางอย่างที่เมื่อก่อนรพีพงษ์อยู่ที่สนามมวยใต้ดินด้วยครับ ดูแล้วคนคนนี้น่าจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับธฤตญาณ”
ปิยังกูรหรี่ตาขึ้น ในสายตาเผยแรงอาฆาตนิดๆ ออกมา พูดเสียงเย็น “มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับธฤตญาณแล้วยังไง ธฤตญาณเป็นบอสใหญ่ เขามายุ่งถึงหัวโลกธุรกิจไม่ได้ ถึงแม้จะใช้กำลังจัดการมันไม่ได้ งั้นก็ลงมือจากบริษัทของตระกูลฉัตรมงคล ฉันจะทำให้บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลล้มละลาย ให้พวกมันแบกรับหนี้สินจำนวนมหาศาล ถึงตอนนั้นต่อให้มันสู้ได้แล้วยังไง พอไม่มีเงิน มันก็เป็นได้แค่ตุ่นที่โดนคนเหยียบย่ำตัวหนึ่ง
ชายที่ใส่แว่นรีบพูดประโยคหนึ่ง “ประธานฉลาดหลักแหลมมากครับ”
“ใช่แล้ว เรื่องเงินหมุนเวียนของบริษัทเป็นยังไงบ้าง ประธานคนนั้นว่ายังไง?” ปิยังกูรเริ่มถามขึ้น
“ประธานคนนั้นเต็มใจให้เงินทุนหมุนเวียนกับบริษัทพวกเรามากครับ หลังได้รับเงินทุนหมุนเวียนก้อนนี้ บริษัทพวกเราจะสามารถขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งได้ครับ” ชายใส่แว่นตาเอ่ยปากบอก
“เวลานี้ต้องติดตามการเคลื่อนไหวของประธานท่านนี้ ไม่ว่าเขาจะพูดถึงข้อเรียกร้องอะไรก็ตอบรับไปทั้งหมด เงินทุนหมุนเวียนก้อนนี้สำคัญกับบริษัทอย่างมาก บริษัทจะสำเร็จหรือล้มเหลว ก็ต้องดูที่ครั้งนี้แล้ว แม้แต่ฉันยังคาดไม่ถึงว่าจะมีประธานใหญ่อยากให้เงินทุนหมุนเวียนกับพวกเรากะทันหัน ดูแล้วบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สของฉันก็จะถึงเวลาทะยานขึ้นแล้ว” ปิยังกูรเอ่ยปากพูด