พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 29 ผมมีหลักฐาน
บทที่ 29 ผมมีหลักฐาน
“ ฉันกำลังอยากเจอพวกเขาอยู่พอดี ให้พวกเขาเข้ามา ” นภทีป์ พูดขึ้นอย่าโมโห
ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์ทั้งสองคนสบตากัน ในแววตามีแต่ความประหลาดใจ ถ้าพูดกันตามเหตุผลแล้ว ตอนนี้อารียา จะต้องนอนอยู่บนเตียงของอินทัช ไม่ใช่รึไง
หรือว่า อารียา จะทนอินทัช ไม่ได้เลยหนีออกมาเอง
ไม่นาน อารียา และ รพีพงษ์ ก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกัน
“ คุณปู่คะ คุณปู่ต้องฟังหลานก่อนนะคะ ธายุกร คนชั่วนั่นเขาต้องการจะใส่ร้ายหลานค่ะ ” พอ อารียา เข้ามาถึงก็พูดขึ้นทันที
“ อารียา พูดบ้าอะไร ตัวเองซ่อนผู้ชายเอาไว้เอง ยังจะมาบอกว่าฉันใส่ร้ายอีก หน้าไม่อายจริง ๆ ” ธายุกร แย้งขึ้นมาทันที
เมื่อ อารียา เห็นทั้ง ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์อยู่ที่นี่พร้อมกัน แค่ดูก็รู้แล้วว่าพวกเขาทั้งสองคนคงมาที่นี่เพื่อจะฟ้องเรื่องของเธอ
พอคิดถึงตรงนี้ ในใจของ อารียา ก็เหมือนถูกเติมความโกรธเข้าไปมากกว่าเดิมอีก เมื่อวานนี้ถ้าไม่ได้ รพีพงษ์ ช่วยไว้ละก็ เธอคงถูกย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดีแล้วแน่ ๆ
อีกทั้งตอนนี้ ธายุกร ยังจะมาใส่ร้ายเธอว่าเธอซ่อนผู้ชายเอาไว้อีก ต่อให้เธอจะอารมณ์เย็นแค่ไหน แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงทนต่อไปไม่ไหวแน่
“ ธายุกร พูดจาว่าร้ายคนอื่นให้มันน้อย ๆ ลงหน่อยนะ ตัวเองทำอะไรเอาไว้ ก็คงรู้แก่ใจดีจริงรึเปล่า ? ” หน้าอกของ อารียา สั่นไหวอย่างแรง เธอล่ะอยากจะเข้าไปทุบ ธายุกร สักทีจริง ๆ
“ พูดจาว่าร้ายคนอื่น ? เธอมีหลักฐานรึไง ? แต่ตรงกันข้ามนะ ฉันน่ะมีหลักฐานที่เธอเข้าไปประจบสอพลออินทัช อยู่ด้วยล่ะ ”
ธายุกร พูดขึ้นพร้อมกับดึงรูปถ่ายออกมาจากกระเป๋าเสื้อหนึ่งใบ ในรูปนั้นเป็น อารียา และอินทัชจริง ๆ แต่รูปนี้คงเป็นตอนเมื่อวานที่ ธายุกร ตั้งใจหามุมถ่ายออกมา
พอ นภทีป์ เห็นรูปใบนั้นเข้า เขาก็เชื่อ ธายุกร จนหมดใจ เขาตบโต๊ะอย่างแรงแล้วตะคอกขึ้นว่า “ อารียา ตอนนี้ยังมีอะไรจะพูดอีกมั้ย เธอไปกับคนเลว ๆ อย่างอินทัชนี่ถือเป็นความอับอายขายขี้หน้าต่อตระกูลฉัตรมงคล มากจริง ๆ ! ”
“ คุณปู่คะ หลานไม่ได้ทำนะคะ ธายุกร ใส่ร้ายหลานค่ะ เขาวางยาใส่ในเหล้า เพื่อหวังจะให้อินทัช ลงมือกับหลาน คุณปู่ลืมไปแล้วเหรอคะ ว่า ธายุกร สมรู้ร่วมคิดกับอินทัช เพื่อขโมยวัตถุโบราณเมื่อครั้งก่อน ” อารียา พยายามอธิบายออกมา
“ เธออย่ามาหลอกคุณปู่หน่อยเลย แค่คำพูดของเธอมันจะพูดยังไงก็ได้ ฉันมีหลักฐานที่เธอไปเจอกับอินทัช มา เธอยังจะอธิบายอะไรอีก ? ” ธายุกร พูดพร้อมรอยยิ้มเย็นชา
เขามั่นใจเต็มที่ว่า นภทีป์ จะต้องเชื่อเขามากกว่า ดังนั้นต่อให้มีบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่เป็นกังวลอยู่แล้ว
ใบหน้าของ อารียา เต็มไปด้วยความร้อนรน ในช่วงเวลาแบบนี้เธอกลับไม่มีวิธีตอกกลับธายุกร
เธอไม่ได้เป็นคนทำเรื่องแบบนั้นแท้ ๆ แต่คนอื่นกลับคิดว่าเธอเป็นคนทำ พอคิดแบบนี้มันทำให้เธอแทบจะคลั่งขึ้นมาทันที
ในตอนนี้เอง รพีพงษ์ ก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ อารียา ไม่ได้โกหกครับ เรื่องเมื่อวานนี้เป็น ธายุกร กับอินทัช ที่วางแผนหลอก อารียา จริง ๆ ครับ แต่แผนของพวกเขาทำไม่สำเร็จ ”
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมองไปที่ รพีพงษ์ ด้วยสีหน้าดูถูก
“ รพีพงษ์ นี่มันมีอะไรให้แกพูดด้วยรึไง ? หรือแกคิดว่าคุณปู่จะเชื่อคำพูดของขยะอย่างแก ? ” ชรินทร์ทิพย์พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มเย็นชา
“ ในตอนที่ผู้หญิงของแกไปนอนร้องอยู่บนเตียงกับผู้ชายคนอื่น ทำไมแกไม่ออกมาอย่างนี้ล่ะ หรือที่แกออกมาพูดตอนนี้เพราะกลัวว่าตัวเองจะขายหน้ารึไง ? ” สีหน้า ธายุกร เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
“ อย่างเขาเนี่ยนะ จะขายหน้า ? แค่นี้เขาก็แทบจะทำให้ตระกูลเราขายหน้าจนจะไม่เหลือแล้ว จากที่ฉันเห็นในตระกูลทั้งหมดเนี่ย ที่หน้าไม่อายที่สุดก็มีแต่เขานั่นแหละ ” ชรินทร์ทิพย์เบะปากพูดขึ้น
“ พอแล้ว ! พวกเธอสองคนทำให้ตระกูลฉัตรมงคล ได้รับความอับอาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเธอสองคนออกไปจากตระกูลฉัตรมงคล ซะ แล้วอย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก ! ” นภทีป์ ตะโกนขึ้นมา
รพีพงษ์ ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ รูปนั่นสามารถอธิบายได้จริงว่าเมื่อวานเราไปพบอินทัช มา แต่ก็ไม่สามารถพูดถึงอย่างอื่นได้อีก และที่ผมบอกว่า อารียา ไม่ได้โกหก ก็เพราะว่าผมก็มีหลักฐาน ”
พูดจบเขาก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าพร้อมกับหยิบปากกาอัดเสียงแท่งหนึ่งขึ้นมา
นี่คือที่ ไตรทศนำมาให้เขาเมื่อวานนี้
“ ชิ อย่างแกน่ะเหรอจะเอาหลักฐานอะไรมาได้ ที่ฉันเห็นมันก็แค่ของไร้สาระเท่านั้นแหละ ” เห็นได้ชัดว่าชรินทร์ทิพย์ไม่เชื่อคำพูดของ รพีพงษ์
รพีพงษ์ จึงกดเปิดปากกาอัดเสียงขึ้น เพื่อให้เสียงด้านในนั้นดังออกมา
“ เธอคิดว่าฉันต้องการจะเลี้ยงข้าวเธอจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ ฉันก็แค่พยายามจะดึงเธอให้ติดกับดักของฉันเท่านั้นแหละ….. ” เสียงของ ธายุกร ดังขึ้นมา
โดยเฉพาะเนื้อหาเมื่อวานตอนบ่าย ที่ ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์ทั้งสองคนพูดคุยกันที่ร้านอาหาร
เรื่องเมื่อวานที่พวกเขาพูดกันนั้น ได้พูดถึงแผนการทั้งหมดออกมาด้วย รวมทั้งวิธีที่จะใส่ร้าย อารียา อีก
นี่เป็นเสียงที่ ไตรทศให้คนของเขาอัดมาโดยเฉพาะ เพื่อเอาไว้ใช้ป้องกันคนเลว ๆ อย่าง ธายุกร ที่คิดจะเอาเรื่องนี้มาฟ้องก่อน
พอ ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์ทั้งสองได้ยินเสียงที่อัดมา หน้าก็ถอดสีทันที คิดไม่ถึงเลยว่าสิ่งที่พวกเขาคุยกันทั้งหมด จะถูกคนอื่นอัดเก็บไว้ได้
ธายุกร กำลังจะเข้าไปคว้าปากกาออกจากมือ รพีพงษ์
“ กลับมานี่ ให้ฉันฟังก่อนสิว่าพวกแกพูดอะไรไปบ้าง ” นภทีป์ ขัดขึ้นมา
ทั้ง ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์ต่างสบตากัน หน้าผากของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ
รูปภาพนั้นยืนยันอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเนื้อหาในเครื่องอัดเสียงละก็ต้องเป็นหลักฐานได้แน่ เสียงของ ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์ชัดเจนมาก นภทีป์ ได้ยินทั้งหมดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
อารียา มอง รพีพงษ์ ด้วยความประหลาดใจ เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าเขาจะมีเครื่องอัดเสียงแบบนี้อยู่ด้วย
“ พวกเขาสองคู่สมรู้ร่วมคิดที่จะหลอก อารียา ทั้ง ๆ ที่เป็นคนในตระกูลฉัตรมงคล เช่นเดียวกัน นี่เป็นการไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอย่างมาก หากคุณยังมีประโยชน์อยู่ละก็ อย่าไปถูกสองคนนี้หลอกอีกเลย ” รพีพงษ์ พูดพร้อมกับจ้องไปที่ นภทีป์
ใบหน้าของ นภทีป์ เปลี่ยนเป็นสีครึ้ม เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเหตุการณ์นี้จะถูกวางแผนโดย ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์
“ คุณปู่ครับ อย่าไปฟังเขานะครับ เขากำลังใส่ร้ายพวกอยู่ครับ ! ” ธายุกร ละล่ำละลักออกมา
“ แกคิดว่าฉันเป็นตาแก่เลอะเลือนรึไง เขามีเครื่องบันทึกเสียงอยู่ในมือ อีกอย่างเสียงที่พูดออกมานอกจากจะเป็นพวกแกสองคนแล้ว จะเป็นใครได้อีก ? ”
“ ปกติฉันคงตามใจแกมากเกินไปสินะ ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าแกจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ น่าโมโหจริง ๆ ! ”
ใบหน้าของ ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์เต็มไปด้วยความตึงเครียด รู้ดีว่าครั้งนี้ต่อให้จะพูดยังไง นภทีป์ ก็ไม่มีทางจะเชื่อพวกเขาสองคนอีกแล้ว
“ คุณปู่ครับ แต่ไม่ว่ายังไง อารียา ก็ไปนอนกับอินทัช แล้วนะครับ เธอก็ทำให้ตระกูลเราขายหน้าอยู่ดี ยังไงก็ต้องไล่เธอออกไปนะครับ ” ธายุกร กัดฟันพูดขึ้น
นภทีป์ เหลือบไปมอง อารียา แต่ก็ยังไม่เห็นว่าเธอนั้นเป็นผู้ถูกกระทำ
“ คุณปู่คะ หลานไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีต่อตระกูลฉัตรมงคล นะคะ ” อารียา รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ ชิ เรื่องนี้แก้ตัวไปยังไงก็ไม่รอดหรอกอินทัช น่ะเป็นถึงหนึ่งในสามราชันฟ้าแห่งเมืองริเวอร์ ถ้าเมื่อวานนี้เธอถูกเขาจับตาดูอยู่ เธอจะหนีไปไหนรอด ! ” ธายุกร พูดขึ้น
นภทีป์ รู้ดีถึงพลังอำนาจของอินทัช ถ้าหากเขาอยากจะเก็บ อารียา เอาไว้จริง ๆ เธอก็หนีไม่รอดหรอก
และในขณะนั้นเอง ก็มีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาและเดินไปหยุดที่ด้านหน้า นภทีป์ พร้อมกับพูดบางอย่างด้วยเสียงเบา
ทั้ง ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์มองไปที่ อารียา ด้วยสีหน้าที่มั่นใจ พวกเขาแน่ใจแล้วใจว่าเธอนั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่สะอาดอีกต่อไป
ในเวลานี้เอง นภทีป์ มองไปที่พวกเขาสองคนด้วยท่าทางโกรธจัดพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาขึ้นว่า “ เมื่อคืนนี้อินทัช ถูกคนของ ไตรทศจัดการไปแล้ว เขาจะเอาอะไรมาลงมือกับ อารียา ได้ ? พวกแกสองคนนี่มันเลวจริง ๆ ครั้งนี้ฉันจะทำให้พวกแกทั้งคู่ได้รู้ซึ้งถึงกฎเกณฑ์สักที ! ”