พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 274 เป็นเมียน้อยรพีพงษ์
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 274 เป็นเมียน้อยรพีพงษ์
บทที่274 เป็นเมียน้อยรพีพงษ์
รวินท์ตกใจ ความจริงเธอคิดว่าตนเองจะชนะแล้ว เลยรู้สึกสะใจในใจ คิดว่าใช้เวลาอีกไม่นาน รพีพงษ์จะต้องแพ้การแข่งขันครั้งนี้แน่ แล้วเธอก็สามารถที่จะเยาะเย้ยรพีพงษ์ได้อย่างเต็มที่แล้ว
แต่เธอก็ไม่คาดคิด ว่าแค่รพีพงษ์วางหมากตัวเดียว ทำให้เธอไม่มีทางเดินอีกต่อไป ก่อนหน้านี้เธอบุกดุดัน ทำให้ไม่มีตัวเลือกมากนัก
แม้ตอนนี้การแข่งขันยังไม่จบ แต่รวินท์รู้ดี ไม่ว่าเธอจะทำอย่างไร การแข่งขันครั้งนี้ เธอไม่มีทางชนะได้แน่นอนแล้ว
นฤพลมองสถานการณ์บนกระดานโกะก็ตกใจขึ้นมาทันที การที่รพีพงษ์ทำแบบนี้ แม้แต่เขาเอง ก็คาดไม่ถึง
“ต้วน……ต้วนเซียงซือ! นี่มันต้วนเซียงซือ!” นฤพลกล่าวอย่างตะลึง
เจสสิกามองกระดานโกะอย่างสงสัย ถึงแม้เธอจะชอบเล่นโกะเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรคือต้วนเซียงซือ
“อาจารย์ อะไรคือต้วนเซียงซือ?” เจสสิกาหันไปถามชุติเทพ
ชุติเทพหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าว “ต้วนเซียงซือคือการวางหมากชนิดหนึ่งที่ยอดเยี่ยมของโกะ การวางหมากชนิดนี้ช่วงแรกอาจเหมือนเป็นการวางหมากธรรมดา แต่ในทุกๆครั้งที่เดิน ได้มีการวางแผนไว้ทุกอย่างก้าว ในสถานการณ์แบบนี้ คู่แข่งจะคิดว่าอีกฝ่ายใกล้จะแพ้แล้ว ดังนั้นจึงทำให้คนเลือกที่จะบุกอย่างดุดัน”
“แล้วต้วนเซียงซือใช้ปราบผู้ที่ชอบบุก เมื่อเดินตามเกมส์ของต้วนเซียงซือ มักจะต้องการแค่หมากตัวเดียว เพื่อทำให้คู่แข่งไร้ซึ่งทางเดิน”
สิ่งที่เจ๋งที่สุดของการวางหมากแบบนี้คือทำให้คุณหลุดเข้าไปในเกมส์ของฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่รู้ตัว คิดว่าตัวเองชนะแล้ว แต่นี่เป็นเพียงความคิดผิดๆเท่านั้น การแพ้ชนะที่แท้จริง จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณได้ตกหลุดเข้าไปแล้วต่างหาก ถึงจะรู้แน่ชัด”
“ต้วนเซียงซือถึงแม้จะเจ๋ง แต่วิธีการใช้นั้นก็ยากมากเช่นกัน ต้องใช้สมองอย่างมากในการวางแผน สมองของคนทั่วไป ไม่สามารถยืนหยัดได้ถึงช่วงพลิกเกมส์ ก็จะมั่วเสียก่อน”
เมื่อฟังชุติเทพอธิบายจบ ใบหน้าเจสสิกาเต็มไปด้วยความนับถือ แล้วกล่าว “ว้าว งั้นรพีพงษ์ก็เจ๋งมากเลยอะสิ?”
“ไม่ใช่แค่เจ๋ง การวางหมากแบบต้วนเซียงซือ ระดับปรมาจารย์ของโกะในประเทศมีเพียงไม่กี่คนที่ใช้วิธีนี้ได้ ถึงแม้จะเป็นญาทิป เมื่อหลายปีก่อนพยายามที่จะใช้มัน แต่เขาก็ใช้มันไม่สำเร็จ ดูๆแล้วรพีพงษ์ไม่ได้โม้นะ ถึงแม้ญาทิปจะออกโรงเอง ก็เกรงว่าจะไม่สามารถชนะเขาได้นะ” ชตุเทพกล่าว
นฤพลเห็นต้วนเซียงซือของรพีพงษ์ก็เกิดอาการตะลึงขึ้นมา แม้แต่ตัวเขาเอง เจอกับการเล่นแบบนี้ ก็ไม่สามารถพลิกเกมส์ได้
เขามองรพีพงษ์อย่างสับสน จนกระทั่งถึงเวลานี้ เขาเพิ่งจะรู้ตัว ว่ารพีพงษ์ไม่ได้โม้ ฝีมือของเด็กคนนี้ เกรงว่าจะเก่งกว่าเขาแล้ว
“การแข่งขันยังไม่จบ วางหมากต่อล่ะกัน” รพีพงษ์กล่าว
รวินท์อับอาย เธอไม่ทีอารมณ์ที่จะเล่นโกะต่อไปอีกแล้ว ตอนนั้นเธอดูถูกรพีพงษ์ขนาดนั้น ตอนนี้รพีพงษ์ได้ใช้ความสามารถพิสูจน์ตัวเองแล้ว เธอรู้สึกอายจนไม่มีที่จะยืนแล้ว
กระพันไม่ค่อยเข้าใจในโกะมากนัก เขารู้เพียงแค่ตอนนี้รวินท์ยังไม่แพ้ เห็นรวินท์ไม่ขยับ จึงได้พูดว่า “พี่ นิ่งไปทำไม พี่ยังไม่แพ้หนิ ฝีมือพี่ แค่ใช้สมองอีกสักนิดต้องชนะไอ้สวะนี่ได้สิ”
รวินท์จ้องไปที่กระพันทันที ตอนนี้เธอเกลียดน้องชายคนนี้ของเธอมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาที่พูดว่ารพีพงษ์เป็นไอ้สวะตั้งแต่แรก เธอก็ไม่มีทางดูถูกรพีพงษ์ตามหรอก
“ไม่ว่าแพ้หรือชนะ ก็เล่นให้จบ เป็นการให้เกียรติในการเล่นโกะ” รพีพงษ์พูดขึ้นมาอีก
เมื่อรวินท์ได้ยินคำพูดนี้ของรพีพงษ์ ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทันที จากนั้นก็พยักหน้าอย่างจริงจัง แล้วเล่นโกะกับรพีพงษ์ต่อไป
นฤพลส่ายหน้าอย่างเสียอารมณ์ เขารู้ดี ไม่ว่ารวินท์จะทำอย่างไร ก็ไม่มีทางชนะแล้ว
แต่เขาก็รู้สึกว่าที่รพีพงษ์พูดนั้น ฟังจากคำพูด เขาก็รู้ว่ารพีพงษ์เป็นคนอย่างไร
วัยรุ่นขนาดนี้ เยือกเย็นได้อย่างนี้ หาได้ยากในบรรดาคนรุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะคนที่มีฝีมืออย่างรพีพงษ์แบบนี้
กระพันแค่มีพรสวรรค์ด้านธุรกิจ แต่มั่นใจในตัวเองอย่างสุดโต่ง ในวงการโกะรพีพงษ์ ถือได้ว่าอยู่ขั้นสูงแล้ว กลับไม่เคร่งเครียดใดๆ นี่สิถึงจะถือเป็นคนที่ทำการใหญ่ได้
ชุติเทพเห็นรพีพงษ์จะชนะแล้ว ก็รู้สึกสะใจขึ้นมา แล้วเดินไปตรงหน้าของนฤพล กล่าว “ไง ผมบอกแล้วว่ารพีพงษ์ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่พวกคุณคิด ตอนนี้ยอมรับแล้วล่ะซิ?”
นฤพลอับอาย แล้วกล่าว “ยอมแล้วยอมแล้ว ผมคาดไม่ถึงจริงๆว่าคุณจะกาคนที่เก่งขนาดนี้มาแทนคุณได้ ในตอนแรกผมคิดว่าถึงแม้คุณหาคนมา ก็หาคนที่เก่งมาไม่ได้แน่นอน ผมประมาทไปจริงๆ”
ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์วางหมากตัวสุดท้าย รวินท์ยืนขึ้นทันใด มองไปที่รพีพงษ์แล้วคำนับให้ กล่าว “ฉันแพ้แล้ว ฉันขอโทษสำหรับการดูถูกคุณก่อนหน้านี้ หวังว่าคุณจะให้อภัย”
รพีพงษ์ยิ้ม ไม่คาดคิดว่ารวินท์เป็นคนง่ายๆ แพ้แล้วก็ยอมรับทันที ไม่มีข้ออ้างใดๆสักคำ นิสัยแบบนี้ดีกว่าพวกที่แพ้แล้วไม่ยอมรับอีก
“พี่ ขอโทษมันทำไม เขาก็แค่ชนะพี่ครั้งเดียวเอง พวกคุณเล่นกันอีกสักสองครั้ง สองในสาม บางนี้เขาก็ไม่มีทางชนะพี่แล้ว” กระพันพูดอย่างไม่แคร์
รวินท์มองไปที่หระพันอย่างโมโห แล้วตะคอก “ถึงแม้จะเล่นอีกสิบครั้ง ฉันก็ไม่ชนะเขา แกรีบขอโทษกับท่าทีที่แกทำกับเขาเมื่อกี๊เลยนะ!”
“ทำไมฉันต้องขอโทษไอ้สวะนี่ด้วย ฉันเป็นทายาทของตระกูลธนาพัชร์กุล สถานะของฉันสูงขนาดนี้ จะขอโทษคนแบบนี้ได้ยังไงกัน” กระพันไม่เข้าใจ
รวินท์ยื่นมือไปดึงหูของกระพันโดยตรง แล้วผลักไปที่ด้านหน้าของรพีพงษ์ แล้วกล่าวอย่างเรียบๆว่า “ขอโทษ!”
ในตระกูลกระพันถือว่าเป็นชายน้อยดื้อดึงที่ไม่มีใครขวางได้เลยทีเดียว แต่สิ่งเดียวที่เขากลัวคือ พี่สาวคนนี้ของเขา เพียงแค่รวินท์โกรธขึ้นมา กระพันก็จะนิ่งในทันที
“พี่ เบาๆหน่อยสิ หูของฉันถูพี่ดึงจนจะยานลงมาล่ะ ผมขอโทษยังไม่พออีกหรอ” กระพันกล่าวอย่างเร่งรีบ
รวินท์ปล่อยมือ มองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูดอย่างไม่สบายใจว่า “ขอโทษ”
“นี่เป็นท่าทีในการขอโทษของแกหรอ?” รวินท์เตะไปที่ร่างของกระพัน
กระพันได้ขอโทษรพีพงษ์อย่างตั้งใจอีกครั้ง รวินท์จึงได้ปล่อยเขาไป
นฤพลมองไปที่รวินท์อย่างแปลกใจ แล้วพูดกับตัวเองว่า “ทำไมวันนี้วินท์ดูแปลกๆ แม่จะแพ้โกะ แต่ก็ไม่น่าจะมีปฏิกิริยาแบบนี้นะ”
“นี่คุณดูไม่ออกหรอ นี่มันชัดเจนมากเลยนะ ว่าลูกสาวคุณชอบรพีพงษ์เข้าแล้ว” ชุติเทพพูดออกมา
นฤพลจ้องไป แล้วกล่าว “ชุติเทพ คุณอย่ามาล้อเล่นผมหน่อยเลย พวกเขาก็แค่แข่งโกะกันเท่านั้นเอง วินท์จะชอบเขาเร็วขนาดนี้ได้ไงกัน”
ชุติเทพหัวเราะ แล้วกล่าว “หรือคุณไม่รู้ว่าการเล่นโกะเป็นวิธีการเรียนรู้นิสัยคนๆนึงที่ดีที่สุดเลยนะ จะต้องการเวลาอะไรอีก รพีพงษ์นี้ถึงแม้จะมีฉายาไอ้สวะติดตัวมา แต่โชคของเขาไม่ธรรมดาเลยนะ ยังไง ลองทบทวนให้ลูกสาวคุณกับรพีพงษ์ไหม?”
“ไม่คาดคิดว่าหลายปีมานี้ คุณก็ยังคงไม่จริงจังอยู่เหมือนเดิม” นฤพลพูดกับชุติเทพ
แต่ทว่าตอนนี้รู้แล้วว่าฝีมือการเล่นโกะของรพีพงษ์นั้นเก่งขนาดไหน เขาก็รู้สึกถูกใจอยู่บ้าง เพราะอายุครานี้จะหาลูกเขยที่ดีได้นั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
“อาจารย์ พวกคุณพนันกันไว้ไม่ใช่หรอ ตอนนี้รพีพงษ์ชนะแล้ว งั้นพวกเราสามารถขออะไรจากพวกเขาก็ได้หนึ่งข้อแล้วใช่ไหม?” เจสสิกาพูดขึ้นมาทันใด
ชุติเทพตบที่ขา แล้วกล่าว “ใช่ นฤพล คุณอย่าโมเมนะ คุณพูดว่าเพียงแค่ผมชนะ ก็จะทำตามคำขอหนึ่งข้อ”
นฤพลมองไปที่ชุติเทพ แล้วกล่าว “แน่นอน ผมนฤพลพูดจริงทำจริง คุณว่ามา เพียงแค่ผมให้ได้ จะไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน”
ชุติเทพหัวเราะ แล้วกล่าว “ตอนนั้นคุณพูด ถ้าผมแพ้ ให้เจสสิกาเป็นภรรยาของลูกชายคุณ ในเมื่อตอนนี้ผมชนะ งั้นคุณให้ลูกสาวคุณเป็นเมียน้อยรพีพงษ์ล่ะกัน ว่าไง?”
“ไม่ได้!” รพีพงษ์ เจสสิกา และวินท์ทั้งสามพูดออกมาพร้อมกัน
ชุติเทพแปลกใจ แล้วมองไปที่เจสสิกา แล้วกล่าว “ทำไมแกไม่โอเค?”
ที่รพีพงษ์และรวินท์ทั้งคู่ไม่ยินยอมนั้น ชตุเทพเข้าใจ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจสสิกาถึงไม่ยินยอมด้วย
เจสสิกาเขินอายขึ้นมา มองไปมองมา แล้วกล่าว “เพราะ……เพราะว่ารพีพงษ์มีภรรยาอยู่แล้ว ฉันไม่เห็นด้วย ถึงได้ไม่โอเค”
ชุติเทพจ้องไปที่เจสสิกา แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย แสดงออกถึงท่าทีที่ว่าเข้าใจทุกอย่าง แล้วไม่พูดอะไรอีก
เมื่อนฤพลและรวินท์ได้ยินว่ารพีพงษ์มีภรรยาอยู่แล้ว รวินท์หน้าแดงขึ้นในทันที แต่เมื่อนานเธอก็กลับมาอยู่มนสภาพเดิม
รพีพงษ์เดินไปข้างๆชุติเทพ แล้วกัดฟันพูดว่า “ต่อไปถ้าแกยังกล้าหาเมียน้อยให้ฉันอีก ฉันจะเอาให้กระดูกแกหักเลย!”
ชุติเทพหัวเราะ แล้วรีบกล่าว “โอเคโอเค ไม่ล้อพวกคุณเล่นแล้ว การพนันครั้งนี้รพีพงษ์เป็นฝ่ายชนะ งั้นให้รพีพงษ์ผู้ชนะเลือกล่ะกัน รพีพงษ์ แกสามารถขอนฤพลได้แล้ว ความสามารถของตระกูลธนาพัชร์กุลไม่น้อยเลยทีเดียว แม้แกจะขอภูเขาทองจากเขา ไม่แน่เขาอาจจะให้แกได้นะ”
จากคำพูดที่ชุติเทพพูดเมื่อกี๊ รพีพงษ์จึงไม่ได้เกรงใจแต่อย่างใด แล้วรพีพงษ์ยังคิดอีกว่าถ้าได้ช่วยแก้แค้นให้กับธฤตญาณได้ ใช้อำนาจของเมืองริเวอร์อย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เพราะอยู่ห่างไกล รพีพงษ์จะต้องหาทางยืมมือคนในพื้นที่ให้ข่วยเหลือ
ตระกูลธนาพัชร์กุลเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
รพีพงษ์มองไปที่นฤพล แล้วถาม “ท่านหัวหน้าตระกูลธนาพัชร์กุล คุณรู้จักธฤตญาณไหม?”