พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 24 ลงมือจัดการกับคุณ
บทที่ 24 ลงมือจัดการกับคุณ
คนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในนั้นมองหน้ากันไม่คาดคิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้
ไตรทศเดินออกมาจากกลุ่มของคนชุดดำแล้วไปหยุดที่ตรงหน้า รพีพงษ์ ก่อนจะถามขึ้นอย่างเป็นกังวลว่า “ พี่รพี ไม่เป็นไรใช่มั้ย ? ”
รพีพงษ์ พยักหน้ารับ “ ไม่เป็นไร ”
เมื่ออินทัช เห็น ไตรทศสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยมีความขัดแย้งกันมาก่อนแล้ว หรือว่าที่เขามาในครั้งนี้จะมาเพื่อแก้แค้น ?
แต่ว่าผู้ชายคนนี้เวลาอื่นกลับไม่มา ทำไมถึงเลือกโผล่ออกมาเวลานี้กันนะ ?
“ ไตรทศคุณพาคนมาที่นี่ทำไมเยอะแยะเหรอ ? ”อินทัช เหลือบตามองอีกฝ่าย พลางคิดในใจว่าคงไม่ได้มาหาเขาเพื่อดื่มชาเป็นแน่
“ ทำอะไรน่ะเหรอ ? ก็มาลงมือจัดการคุณไง ” ไตรทศตอบกลับด้วยน้ำเสียงเดียวกับที่อินทัช ตอบ อารียา
ใบหน้าของอินทัชกระตุกเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ ไตรทศเรื่องคราวที่แล้วผมก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนัก คุณคงไม่ได้เป็นคนจิตใจคับแคบขนาดที่จะยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อจะมาสู้กับผมหรอกนะ ? ”
ไตรทศยิ้มเยาะก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ ใครเขาจะมาเพราะเรื่องก่อนหน้านั้นกันล่ะ ผมมาที่นี่เพื่อมาจัดการคุณแทน พี่รพี ต่างหาก ! ”
“ พี่รพี ? ”อินทัช มีสีหน้างงงวยปรากฏขึ้น จากนั้นในใจเขาก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมาก่อนจะหันหน้าไปมอง รพีพงษ์ “ คุณหมายถึงผู้ชายคนนี้อย่างนั้นเหรอ ? ”
“ ถูกต้อง ” ไตรทศตอบกลับมาอย่างเด็ดขาด
ใบหน้าของ อารียาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เธอเคยได้ยินชื่อของ ไตรทศมาก่อน และเขาก็เป็นหนึ่งในสามราชันฟ้าแห่งเมืองริเวอร์แห่งเมืองริเวอร์ด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเรียก รพีพงษ์ ว่า พี่รพี
“ ไตรทศไม่ใช่ว่าสมองคุณได้รับการกระทบกระเทือนหรอกนะ ผู้ชายคนนี้น่ะได้ชื่อว่าเป็นขยะไปทั่วทั้งเมืองริเวอร์ คุณยอมที่จะมาสู้กับผมเพื่อเขาอย่างนั้นเหรอ ? ”อินทัช พูดขึ้นด้วยสีหน้าเหมือนเห็นผี
“ คุณอยากตายรึไง ? ” เมื่อเห็นอินทัชพูดถึง รพีพงษ์ เช่นนั้น ไตรทศก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที
อินทัช หัวเราะขึ้นมาเสียงดังก่อนจะพูดว่า “ ไตรทศคุณอย่าคิดว่าผมโง่ไปหน่อยเลย รพีพงษ์ มันก็แค่ขยะไร้ค่าที่ถูกตระกูลฉัตรมงคล เลี้ยงไว้ไม่ต่างจากหมา คุณบอกว่าคุณจะทำเพื่อเขาอย่างนั้นเหรอ ต่อให้คุณฆ่าผมให้ตายยังไงผมก็เชื่อหรอก ? ”
“ อย่างนั้นคุณก็ตายซะเถอะ ! ” ไตรทศกำลังจะก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อจะได้ลงมือกับอินทัช แต่กลับถูก รพีพงษ์ ขวางไว้ก่อน
“ คุณพา อารียา ออกไปด้านนอกก่อนดีกว่า อย่าให้เธอต้องมาเห็นเรื่องพวกนี้เลย ” รพีพงษ์ พูดขึ้น
ไตรทศจ้องไปที่อินทัช อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้ รพีพงษ์ หลังจากนั้นก็หันกลับมาพา อารียา เดินออกไปด้านนอก
อินทัชมอง รพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ ไอ้โง่ ไตรทศเขาขอให้แกมาแสดงละครกับเขาใช่มั้ย ? อย่างแกเนี่ยนะ จะมีค่าพอให้เขาเรียกแกว่าพี่รพี ? ”
ในฐานะหนึ่งในสามราชันฟ้าอินทัช รู้สึกว่าการที่ ไตรทศเรียกขยะอย่าง รพีพงษ์ ว่าพี่ มันดูเหมือนกับเป็นการลดคุณค่าของเขาลงมา
“ เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว อีกเดี๋ยวก็จะถึงเวลาตายของคุณสักที ” รพีพงษ์ พูดข้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ โธ่เอ๊ย นี่แกแสดงละครจนติดใจรึไง ถ้าไม่ใช่เพราะ ไตรทศ แกยังจะกล้าพูดกับฉันแบบนี้รึเปล่า ? รอให้ฉันจัดการ ไตรทศให้เรียบร้อยก่อนเถอะ ฉันจะทำให้แกได้เห็นถึงความเก่งกาจของฉัน ! ”
รพีพงษ์ เบะปากเบา ๆ ก่อนจะเลิกสนใจเขา
ห่างออกไปไม่ไกลพนักงานสองคนก็ยังคงแอบดูอยู่ ในตอนแรกพวกเขาคิดว่า รพีพงษ์ คงต้องตายแน่ ๆ แต่กลับไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น
“ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ผู้ชายที่พาคนพวกนี้เข้ามาเมื่อครู่ดูเหมือนจะเป็น ไตรทศไม่ใช่รึไง ”
“ ใช่แล้วเขานั่นแหละ คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าสองในสามราชันฟ้าจะอยู่กับพวกเราที่นี่ วันนี้นี่มันผิดปกติจริง ๆ อีกอย่างนายเห็นท่าทางของเขาที่ปฏิบัติต่อ รพีพงษ์เมื่อครู่รึเปล่า เขาเรียก รพีพงษ์ว่า พี่รพี ไม่แน่ว่า รพีพงษ์ อาจจะไม่ธรรมดาอย่างที่เราคิดไว้ก็ได้นะ ”
“ ฉันว่านายคิดมากเกินไปแล้วล่ะ รพีพงษ์ น่ะเขาก็แค่ขยะไร้ค่า ฉันเดาว่าเขาแค่ร่วมมือกับ ไตรทศชั่วคราวเท่านั้นล่ะ พอ ไตรทศใช้งานเขาเสร็จก็คงจะเตะเขาทิ้งไป หลังจากนั้นอินทัช ก็คงไม่ปล่อยเขาไว้อย่างแน่นอน ฉันนึกภาพที่น่าเวทนาของเขาออกเลยล่ะ ”
“ ที่พูดมาก็ถูก ฉันว่าสุดท้ายแล้วคนที่ซวยที่สุดคงจะเป็น รพีพงษ์ นั่นแหละ คนไร้ค่าอย่างเขาฉันแทบจะทนมองต่อไปไม่ไหว ”
……
หลังจากนั้นไม่นาน ไตรทศก็เดินกลับเข้ามา เขาจัดคนของเขาสองสามคนให้ออกไปป้องกัน อารียาให้เธอรอได้อย่างสบายใจมากขึ้น
พอ รพีพงษ์ เห็น ไตรทศเดินกลับเข้ามา เขาจึงเอ่ยปากถามขึ้นว่า “ จัดการเสร็จรึยัง ? ”
“ เสร็จแล้วครับ รับประกันได้เลยว่าพี่สะใภ้จะต้องปลอดภัยหายห่วงแน่นอน ” ไตรทศตอบกลับ
รพีพงษ์ พยักหน้ารับ ในเมื่อ อารียา ปลอดภัยดีแล้วเขาก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีกต่อไป
คำพูดในตอนนั้นของอินทัชทำให้ รพีพงษ์ โกรธมากและแน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยอินทัช ไปง่าย ๆ แน่
“ ไตรทศคุณคิดว่ามันสมควรมั้ย คุณอยู่ที่นี่แล้วเรียกขยะแบบนั้นว่าพี่ ต้องการให้ผมรู้สึกรังเกียจรึไง คุณอยากลดตัวลงไปอยู่ระดับเดียวกับมันแต่ผมไม่อยาก…… ”อินทัช เริ่มเอ่ยปากพูด
รพีพงษ์ ตรงเข้าไปหาเขาทันทีพร้อมกับยกกำปั้นของเขาขึ้นมา
อินทัช เห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นด้วยความรังเกียจว่า “ แก แกคิดจะทำอะไร ? แกคงไม่นึกว่า…… ”
พูดยังไม่ทันจบ กำปั้นของ รพีพงษ์ ก็โดนเข้าที่หน้าของอินทัช อย่างจัง
อินทัช เป็นถึงหนึ่งในสามราชันฟ้าของโลกมืดแห่งเมืองริเวอร์ ถึงแม้ว่าเขาจะยังด้อยกว่า ไตรทศอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาที่ไหนจะเทียบกับเขาได้
แต่เมื่อครู่นี้เขามองไม่เห็นด้วยซ้ำว่ากำปั้นของ รพีพงษ์ นั้นพุ่งออกมาได้อย่างไร
เร็วเกินไปแล้ว !
อินทัช รู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าเป็นสีดำและพร่ามัวก่อนที่เขาจะเอนไปด้านหลัง
ลูกน้องของเขารีบเข้ามาพยุงทันที มิฉะนั้นเขาอาจจะล้มลงไปกองกับพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นมาอีกก็เป็นได้
อินทัช คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นขยะไร้ค่าอย่างที่คนอื่นพูดถึงจริงหรือ ? ทำไมหมัดของเขาถึงได้ทรงพลังมากขนาดนี้ แม้แต่หมัดของตัวเขาเองหากปล่อยออกไป ก็เกรงว่าอาจจะไม่ได้มีพลังมากขนาดนี้ก็เป็นได้
เขากลับมายืนมั่นคงเหมือนเดิมก่อนจะถ่มน้ำลายลงไปที่พื้น พร้อมกันตะโกนขึ้นว่า “ ไอ้บ้าเอ๊ย ฆ่ามันเดี๋ยวนี้ ! ”
คนของอินทัชรีบพุ่งเข้าหา รพีพงษ์ ทันที และคนของ ไตรทศก็พุ่งเข้าไปเช่นเดียวกัน นั่นส่งผลให้ไม่มีคนของอินทัชคนใดสามารถเข้าใกล้ รพีพงษ์ ได้เลย
“ พี่รพี ต้องการให้ผมช่วยรึเปล่า ? ” ไตรทศเอ่ยถามขึ้น
“ มันก็แค่สัตว์เลื้อยคลานตัวหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากฉันยังต้องขอความช่วยเหลือจากคุณอยู่ เกรงว่าคุณคงจะเรียกผมว่าพี่ไม่ได้แล้วล่ะ ” รพีพงษ์ ตอบ
ใบหน้าของ ไตรทศเต็มไปด้วยความชื่นชม รพีพงษ์ ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งเขาก็มีความหล่อเหลาออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
“ ให้ตายเถอะอย่างแกเนี่ยนะ จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน ? ”
อินทัช พุ่งเข้าหา รพีพงษ์ อย่างรวดเร็วกะว่าจะเอาคืนหมัดเมื่อครู่นี้
รพีพงษ์ ยกมือขึ้นและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วแต่กลับให้ความรู้สึกเชื่องช้า เช่นเดียวกับปรมาจารย์ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาเป็นเวลาหลายปีอย่างในโทรทัศน์ เขาสามารถควบคุมความเร็วและความแข็งแกร่งได้อย่างไร้ที่ติ
เขาคว้าหมัดของอินทัช ไว้ได้ และด้วยทักษะของเขาหมัดของอินทัช ถูกลดแรงลงไปเกินกว่าครึ่ง ไม่มีทางที่จะพุ่งเข้าไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว
“ เป็นไปได้ยังไงกัน ! ”อินทัช ร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ
และอีกวินาทีต่อมา รพีพงษ์ ก็กดเขาลงกับพื้นเสียแล้ว
รูปร่างของอินทัช ถือว่ามีขนาดใหญ่กว่า รพีพงษ์ ถึงสองเท่า แต่ในวินาทีที่ รพีพงษ์ หยุดหมัดของเขาไว้ได้ ทำให้เขารู้สึกว่าร่างกายของเขามันเหมือนกับไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป
“ คุณจะยอมรับผิดรึยัง ? ” ใบหน้าของ รพีพงษ์ นิ่งสงบและในน้ำเสียงของเขาก็ดูเหมือนกำลังพิจารณาอยู่
“ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นฉันจะ…. ”อินทัช พยายามขัดขืนอย่างเต็มที่แต่มันก็ไร้ประโยชน์
รพีพงษ์ ไม่ได้สนใจกลับพูดต่อว่า “ ความผิดของคุณก็คือการที่คุณคิดร้ายต่อผู้หญิงของผมยังไงล่ะ ”
เสียงคนร้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงของบางอย่างถูกหัก พริบตาเดียวแขนของอินทัช ก็ถูกรพีพงษ์ หักเสียแล้ว