พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 232 เนื่องจากระดับความสามารถเขาต่ำ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 232 เนื่องจากระดับความสามารถเขาต่ำ
บทที่ 232 เนื่องจากระดับความสามารถเขาต่ำ
ทุกคนมองไปที่โทรศัพท์มือถือของรพีพงษ์ หลังจากที่มองเห็นมือของญาธิปในวิดีโอ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความตะลึง
“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการส่งสัญญาณนะ มีการสั่นอยู่ตลอด มันไม่เหมือนปฏิกิริยาธรรมดาเลย”
“เฮ้ย ที่นวัสสัยสามารถเอาชนะญาดาได้ ก็เพราะได้การชี้แนะจากท่านอาจารย์ญาธิปเหรอ? ท่านอาจารย์ญาธิปคนที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ น่าจะไม่ทำเรื่องที่ทำลายชื่อเสียงตัวเองแบบนี้นะ?”
ญาธิปและนวัสสัยคิดไม่ถึงว่าการสื่อสารระหว่างทั้งสองคนจะถูกรพีพงษ์จับได้ และที่สำคัญยังถูกรพีพงษ์ถ่ายไว้บันทึกไว้ในโทรศัพท์ ตอนนี้ถ้าหากทุกคนรู้ว่าพวกเขาชนะด้วยวิธีนี้ ในอนาคตชื่อเสียงของญาธิปก็จะเสียหาย
ญาดาเดินไปตรงหน้ารพีพงษ์ แล้วจ้องที่หน้าจอโทรศัพท์ จากนั้นหันไปมองญาธิป และถามว่า: “ขอถามหน่อยนี่คืออะไรคะ?”
ญาธิปทำเสียงหึ ใบหน้าดูเคร่งเครียด และคิดไม่ออกว่าจะควรอธิบายยังไงดี
ในตอนนี้นวัสสัยก็กลอกตาไปมา และรีบพูดว่า: “นี่เป็นโรคที่ซ่อนอยู่ในตัวอาจารย์ในช่วงปีแรกๆ ในช่วงปีนั้นนิ้วมืออาจารย์เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน ปกติแล้วนิ้วก็จะสั่นโดยไม่ตั้งใจ รพีพงษ์ นายเอาเรื่องโรคของอาจารย์มาล้อเล่นเหรอ แบบนี้มันเกินไปหรือเปล่า?”
เมื่อทุกคนได้ยิน ก็คิดว่ามีความเป็นไปได้เล็กน้อย เนื่องจากพวกเขาไม่อยากเชื่อว่าญาธิปจะทำอะไรที่น่าขายชื่อเสียงตัวเอง
“ก็ใช่ๆ รพีพงษ์เกินไปแล้ว เอาเรื่องแบบนี้ของท่านอาจารย์มาล้อเล่น สมควรที่จะตาย”
“ฉันว่าเขาน่าจะอิจฉานวัสสัย จงใจจับผิดมากกว่า”
รพีพงษ์คิดอยู่แล้วว่าท่าทางของทุกคนต้องเป็นแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงยิ้ม จากนั้นก็พูดว่า: “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจท่านอาจารย์ญาธิปผิดไป แต่ฉันก็ยังค่อนข้างสงสัยในความสามารถของลูกศิษย์ท่านอาจารย์ญาธิป ระดับความสามารถอย่างนาย ไม่มีทางที่จะชนะญาดาได้”
นวัสสัยหรี่ตามอง แล้วพูดอย่างเย็นชา: “ทำไมล่ะ? นายจะหาเรื่องให้ได้ใช่มั้ย?”
“ก็ไม่ได้จะหาเรื่อง เพียงแค่สงสัยเอง ถ้าหากญาดาแต่งกับนาย ฉันคิดว่าอีกหน่อยเธอคงจะเสียใจ ไม่ว่ายังไงฉันก็ถือว่าเป็นพี่ชายเธอ คงไม่สามารถผลักเธอลงไปในหลุมไฟได้”รพีพงษ์กล่าว
“รพีพงษ์ นายเป็นเชี้ยอะไร ถึงกล้ามาสงสัยฉัน? นายไม่พอใจ ก็มาแข่งสักเกมกับฉัน ถ้านายสามารถเอาชนะฉันได้ วันนี้ฉันก็จะไม่ขอญาดาแต่งงาน นายกล้ามั้ย?”นวัสสัยตะโกนใส่รพีพงษ์
“มีความคิดที่เช่นนี้เหมือน”รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขาก็ต้องการจะแข่งขันกับนวัสสัยหนึ่งเกมอยู่แล้ว เพื่อให้ญาดาได้รู้ถึงระดับความสามารถที่แท้จริงของนวัสสัย มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ทุกคนถึงจะเชื่อ ไม่เช่นนั้นไม่ว่าเขาจะพูดยังไง ทุกคนก็ไม่เชื่อ
เมื่อญาดาได้ยินรพีพงษ์พูดว่าตัวเองเป็นพี่ชายของเธอ หัวใจของเธอก็กระตุก แม้ว่าเธอจะไม่อยากยอมรับ แต่นี่เป็นความจริงที่เธอต้องยอมรับ
นวัสสัยเห็นว่ารพีพงษ์ตอบตกลง ก็ส่งเสียตะโกนอย่างเย็นชา จัดการเก็บกระดานหมากรุกบนโต๊ะให้ดี และนั่งลงอีกครั้ง
เดิมทีรพีพงษ์ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย ในความคิดของเขา อยากจะเอาชนะรพีพงษ์ เป็นเรื่องที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
รพีพงษ์ก็ไม่ลังเล เดินไป นั่งตรงข้ามกับนวัสสัย
เมื่อทุกคนเห็นว่ารพีพงษ์กล้าที่จะแข่งขันกับนวัสสัยจริงๆ บนใบหน้าของพวกเขาสายตาก็แสดงถึงการดูถูก ในสายตาของพวกเขา รพีพงษ์เป็นเพียงเศษสวะที่ถูกขับไล่ออกจากบ้าน แม้ว่าเขาจะเคยเรียนรู้หมากล้อมมาบ้าง แต่เขาก็ไม่สามารถเทียบกับนวัสสัยลูกศิษย์ของญาธิปได้
“ไอ้เศษสวะนี่ยังกล้าท้าทายลูกศิษย์ท่านอาจารย์ญาธิป ตลกสิ้นดี เขาก็ไม่รู้จักตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเลย คงจะคิดว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ”
“ดูเหมือนว่ารพีพงษ์ถูกไล่ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์อย่างไม่มีเหตุผลด้วย ระดับสติปัญญาของเขา คงจะอยู่ที่ไหนได้ไม่นาน”
“อันที่จริงฉันชอบการแข่งขันแบบนี้ดี รพีพงษ์ก็อวดเก่งขนาดนี้ ฉันจะรอดูเขาโดนตบหน้า”
……
ญาธิปจ้องมองไปที่รพีพงษ์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด จากนั้นพูดกับนวัสสัย: “ถ้าวันนี้นายไม่สามารถเอาชนะเขาได้ นับแต่นี้ไปอย่าบอกว่าเป็นลูกศิษย์ของฉันญาธิป”
เมื่อกี้การกระทำของเขาและนวัสสัยเกือบถูกจับได้ ถ้าหากว่าถูกเปิดเผยจริงๆ หลังจากนี้ชื่อเสียงในแวดวงของหมากล้อมคงจะเสียหายหมด ยังดีที่ปฏิกิริยาของนวัสสัยไว ไม่อย่างนั้นวันนี้คงจะแย่มาก
ดังนั้นตอนนี้เขาก็ไม่พอใจรพีพงษ์มาก อยากจะเห็นรพีพงษ์พ่ายแพ้อยู่ใต้เงื้อมมือของลูกศิษย์ตัวเอง
ไม่ว่าจะยังไง ไปเป็นไม่ได้ที่ลูกศิษย์ของเขาจะสู้รพีพงษ์ลูกชายที่ถูกตระกูลลัดดาวัลย์ทอดทิ้งไม่ได้ ถ้าเขาแพ้ นั้นก็หมายความว่าระดับความสามารถของเขาเองมีปัญหา
รพีพงษ์เดินหมากดำก่อน ท่าทีของนวัสสัยเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม รพีพงษ์ไม่ได้อยู่ในสายตาเลย
รพีพงษ์เหลือบมองเขาด้วยรอยยิ้ม และพูดว่า: “ถ้านายยังคงมีท่าทีเช่นนี้ นานอาจจะแพ้อีกในไม่ช้า”
“อย่ามาโอ้อวด ระดับความสามารถอย่างนาย ต่อให้ฉันหลับตาเล่นก็ชนะได้!”นวัสสัยกล่าวด้วยความเหยียดหยาม
รพีพงษ์ก็ไม่ได้พูดอะไร เริ่มเล่นหมากรุกอยากจริงจัง
การเล่นหมากรุกก็เหมือนกับการต่อสู้การต่อสู้ มันไม่ใช่แค่การทดสอบทักษะการเล่นหมากรุกเท่านั้น แต่ยังเป็นการทดสอบนิสัยส่วนตัวด้วย ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะอยู่ในระดับใดก็ตาม ก็จะต้องได้เล่นด้วยอย่างจริงจัง
แม้แต่ผู้เล่นที่อ่อนแอที่สุด ก็ยังเป็นไปได้ที่จะย้อนกลับมาฆ่า ดังนั้นในการเล่น ต้องปรับความคิดของตัวเองให้ดีในระหว่างเกม
ยิ่งคู่ต่อสู้ที่มีบุคลิกภาพการทำตัวแบบนวัสสัย ก็เป็นสิ่งต้องห้ามทำในการเล่นหมากล้อม แม้ว่าเขาจะมีทักษะการเล่นหมากรุกที่ดีที่สุดก็ตาม แต่ถ้าบุคลิกภาพไม่ดี ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะไปถึงระดับดั้งมืออาชีพได้ยาก
แม้แต่รางวัลชนะเลิศที่เขาได้มา ก็ได้มาจากการพึ่งพาญาธิป
ห้านาทีต่อมา ทุกคนที่อยู่ในที่นี้รู้สึกได้แล้วว่านวัสสัยตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ แต่มีเพียงนวัสสัยที่ยังไม่ได้สติ โดยยังคงคิดว่าเขาสามารถเอาชนะรพีพงษ์ได้อย่างง่ายดาย
หลังจากที่ญาธิปเห็นความประมาทของนวัสสัย ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา และต้องการส่งสัญญาณชี้นำให้นวัสสัยอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากนวัสสัยแพ้ ชื่อเสียงของเขาก็จะเสียหายได้รับผลกระทบเช่นกัน
ญาดาเห็นว่ามือของญาธิปสั่นอีกครั้ง และเธอกลอกตาไปมา แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อในสิ่งที่รพีพงษ์พูด แต่เธอก็ยังคงชื่นชมญาธิปอยู่ แต่ก็เห็นว่ามือของญาธิปสั่นก็ต่อเมื่อตอนที่นวัสสัยแข่งขันเท่านั้น ในใจก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ
ดังนั้นเธอเลยเดินไปที่ข้างๆญาธิป แล้วจงใจปิดบังมือของญาธิปไว้โดยเฉพาะ
จนถึงในเวลานี้ นวัสสัยถึงค่อยรู้ตัว ว่าเขาทำผิดพลาดเหมือนกับเมื่อกี้ ขั้นตอนการเดินหมากของรพีพงษ์ เหมือนกับของญาดาทั้งหมด
นวัสสัยไม่พอใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมแค่ลูกที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง ทำไมถึงได้เก่งกาจขนาดนี้
เขาไม่อยากแพ้ ดังนั้นจึงขอความช่วยเหลือจากญาธิป
แต่เมื่อตอนที่เขาเหลือบมองไปที่ญาธิป ก็พบว่าญาดาไปบดบังมือของญาธิปไว้พอดี
ตอนนี้เขาก็ตื่นตระหนกจริงๆ และหากไม่มีความช่วยเหลือจากญาธิป เขาจะไม่มีวันเอาชนะรพีพงษ์ได้
สถานการณ์ที่เขากำลังเจอในครั้งล่าสุดนั้นเหมือนกับตอนนี้เลย แต่เขาก็เอาแต่สนใจแค่ชัยชนะเท่านั้น เลยจำไม่ได้ว่าญาธิปพลิกเกมให้มีชีวิตยังไง
รพีพงษ์จ้องมองไปที่นวัสสัยแล้วขำ แล้วพูด: “ รู้สึกมั้ยว่าเกมนี้มันคุ้นๆนะ ไม่รู้ว่ารอบนี้นายจะสามารถชนะได้หรือเปล่า”
“ฉันอยากชนะนายมันไม่ง่าย นายอยากมาอวดเก่งใส่ฉันที่นี่ ฉันมีวิธีเป็นร้อยๆวิธีที่ทำให้นายแพ้ได้!”ถึงขนาดนี้แล้วนวัสสัย ยังคิดว่าตัวเองจะสามารถชนะรพีพงษ์ได้
ผู้คนรอบข้างก็คิดเช่นเดียวกัน พวกเขาทุกคนมองออกความคล้ายคลึงกันระหว่างเกมนี้กับเกมก่อนหน้า และรู้สึกว่านวัสสัยสามารถเอาชนะเกมก่อนหน้านั้นได้ และเกมนี้ก็สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
“เกมนี้เหมือนกับเกมก่อนหน้าเลย นวัสสัยชนะอย่างแน่นอน เขาน่าจะเก่งในวิธีการประหารชีวิตด้วยวิธีนี้ รพีพงษ์ได้เห็นเกมก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ยังกล้าเล่นกับแบบนี้กับนวัสสัย ครั้งนี้เขาแพ้อย่างแน่นอน”
“พูดถูกแล้ว เหมือนกันทุกอย่าง นวัสสัยคงจะคิดหาวิธีอะไรเล็กน้อย ก็สามารถพลิกเกมได้”
นวัสสัยได้ยินคนรอบข้างพูดคุย สีหน้าก็เต็มไปด้วยความกังวล ถ้าหากว่าเป็นญาธิป สามารถพลิกเกมตานี้ได้อย่างแน่นอน แต่ระดับความสามารถอย่างเขายังไงก็ไม่พอ
เขาก็ยังไม่เข้าใจ ว่ารพีพงษ์ทำไมถึงมีระดับความสามารถที่สูงขนาดนี้ ถึงขนาดที่ว่าสามารถใช้วิธีเดียวกันกับญาดา
ถ้าหากเขารู้ว่าเกมนี้รพีพงษ์จงใจทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ การพัฒนาของทั้งกระดานหมากรุก ขึ้นอยู่กับการควบคุมทั้งหมดของรพีพงษ์ เขาก็คงตะลึงจนตาค้างแน่นอน
พรสวรรค์ในการเล่นหมากล้อมของรพีพงษ์ แสดงออกมาตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆที่เขาแสดงออกมาให้ญาดาเห็น ก็น่าจะตามทันความสามารถระดับของอาจารย์แล้ว
เพียงแต่ว่าญาดายังเด็กเกินไป เลยรู้เพียงแต่ว่ารพีพงษ์เก่ง แต่ไม่รู้ว่ารพีพงษ์เก่งขนาดไหน ตอนนี้เติบโตแล้ว ในสมองก็คิดแต่ว่าตอนนั้นตัวเองยังเด็กมากเกินไป ดังนั้นเลยคิดว่ารพีพงษ์เก่ง
อันที่จริงถ้าหากตอนนี้ให้เธอไปแข่งสักเกมกับรพีพงษ์ในเมื่อก่อน ก็ไม่รู้ว่าเธอจะชนะได้หรือไม่
ญาดาเฝ้าดูรพีพงษ์ทำให้เข้าสู่เหมือนกับเกมรอบก่อนหน้านี้ทีละขั้นตอน แล้วก็ค่อยๆขมวดคิ้ว
เธออยากจะรู้ว่าถ้าเกมเป็นเหมือนสถานการณ์เดียวกัน ไม่อย่างนั้นก็คือโชคดี เจอกับเหตุการณ์เรื่องเล็กน้อย ไม่ก็คือพวกเขาทั้งสองมีใครคนหนึ่งที่ทักษะหมากรุกที่ดีสามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงของบนกระดานได้
เห็นได้ชัดว่านวัสสัยไม่มีความสามารถนี่
หรือว่าจะเป็นไปได้ไหมว่า ว่ารพีพงษ์เป็นดั้งมืออาชีพหมากล้อม?
ญาดาไม่รู้เลยว่า ที่รพีพงษ์ทำให้เกมตรงหน้าเป็นเช่นนี้ เพื่อต้องการสอนให้เธอรู้ว่าจะชนะเกมนี้ได้อย่างไร
นวัสสัยกัดฟันแล้วนึกไปถึงรายละเอียดเกมก่อนหน้านั้น แทบจะไม่สามารถเผชิญหน้าต่อไปกับรพีพงษ์ได้อีก
ในช่วงเวลาช้าๆ ทุกคนคิดว่านวัสสัยจะพลิกเกมให้ฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง สีหน้าที่กังวลของญาธิปก็ผ่อนคลายลงมาก
อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเอง รพีพงษ์วางเม็ดหมากรุกลง และปิดล้อมทางรอดของนวัสสัยหมดเลย และยิ่งไปกว่านั้น นวัสสัยก็ไม่มีความหวังที่จะรอดชีวิต
ทุกคนก็ตกตะลึง พวกเขาคิดไม่ถึงเลย หมากรุกเกมนี้จะจบลงรวดเร็วขนาดนี้ ที่สำคัญเป็นวิธีการที่ฆ่าได้สะอาดเรียบร้อย ตามความคิดของคนทั่วไป จะคิดไม่ถึงเรื่องนี้เลย
ช่วงเวลาที่ญาดาเห็นรพีพงษ์วางหมาก ก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองแข็งทื่อ และมีแสงสว่างจ้าปรากฏขึ้นในจิตใจ ราวกับการตรัสรู้ของพระเจ้า และความสงสัยมากมายในใจ ก็คลี่คลาย
ที่แท้หมากล้อมก็สามารถลงหมากแบบนี้ได้? หน้าอกของญาดาขยับขึ้นลง ในใจก็ตื่นเต้น
แต่ใบหน้าของนวัสสัยซีดเซียวลง ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองไปที่กระดานหมากรุกบอกโต๊ะ อย่างไม่น่าเชื่อ เขาก็แพ้แบบนี้เลยเหรอ
ญาธิปเห็นว่านวัสสัยแพ้ให้กับการแข่งขันครั้งนี้ ก็กัดฟันด้วยความโกรธ แล้วด่า: “แกนี่มันไร้ประโยชน์สิ้นดี แม้แต่มันก็เอาชนะไม่ได้ อีกหน่อยอย่าบอกนะว่าเป็นลูกศิษย์ของฉันญาธิป!”
“แต่ฉันกลับรู้สึกว่าไม่ควรไปโทษเขา เนื่องจากระดับความสามารถของเขาต่ำ แล้วคุณก็ไม่ได้สอนเขาดีๆ แพ้ก็เป็นเรื่องปกติ”รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“แกพูดจาเหลวไหลอะไรของแก ฉันสอนนักเรียน ก็สอนอย่างพิถีพิถัน สติปัญญาของเขาโง่เอง ไม่สามารถเรียนรู้ได้ เกี่ยวอะไรกับฉัน”ญาธิปกล่าวด้วยใบหน้าแดงก่ำ
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูด: “พูดแบบนี้แสดงว่าระดับความสามารถของท่านอาจารย์ญาธิปอยู่สูง ไม่รู้ว่าจะกล้าแข่งขันกับคนที่ทุกคนเรียกว่าไอ้เศษสวะหรือเปล่า?”