พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 230 เด็กสาวโตขึ้นแล้วนะ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 230 เด็กสาวโตขึ้นแล้วนะ
บทที่230 เด็กสาวโตขึ้นแล้วนะ
สนามหญ้าคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์
หลังจากที่นิรมัทอ้วกออกมาเป็นเลือกแล้ว ทุกคนในเหตุการณ์ก็เงียบกริบ ความจริงพวกเด็กๆที่กำลังรอนิรมัทสั่งสอนรพีพงษ์ในตอนนั้นแต่ตอนนี้ได้จ้องไปที่รพีพงษ์อย่างอ้ำอึ้ง แต่ล่ะคนอ้าปากค้างจนแทบจะใส่ไข่ไก่ไปในปากได้หนึ่งฟองแล้ว
นิรมัทกัดฟันบืนขึ้นมาจากพื้น แล้วจ้องไปที่รพีพงษ์อย่างโกรธแค้น กำหมัดไว้แน่น แล้วตะคอกไปว่า “มาอีก ฉันไม่เชื่อว่าไอ้สวะอย่างแกจะชนะฉันได้!”
“โอ้ว? ทำจนแกอ้วกออกมาเป็นเลือก ยังไม่ถือว่าชนะแกอีกหรอ?” รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ
นิรมัทร้อนใจขึ้นมาทันที แล้วด่า “มึงหยุดมั่นใจได้ล่ะ กูจะเอาคืนมึงเอง!”
พูดจบ นิรมัทก็พุ่งไปที่รพีพงษ์อีกครั้ง
รพีพงษ์เห็นนิรมัทไม่ยอมแพ้ ก็ไม่ได้เกรงใจเขา ในตอนที่นิรมัทพุ่งเข้ามาหาเชานั้น ก็ได้ถีบเขาออกไป
ครั้งนี้นิรมัทไม่ได้ถูกรพีพงษ์ถีบ เขาคิดเสมอว่าก่อนหน้านี้ที่ถูกรพีพงษ์เล่นงานนั้น เป็นความผิดของเขาเอง เพียงแค่เขาระวัง เขาก็จะไม่ถูกรพีพงษ์เล่นงานแล้ว
ตอนนี้เห็นรพีพงษ์ใช้วิทยายุทธเดียวกับเมื่อกี๊ นิรมัทก็เปล่งเสียงฮึออกมา คิดว่ากูไม่มีทางพลาดให้กับวิทยายุทธเดียวกันถึงสองครั้งหรอก ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงเพิ่มท่าขึ้นมาหนึ่งท่า เพื่อให้วิทยายุทธนี้ของรพีพงษ์ทำอะไรเขาไม่ได้
แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงคือ หลังจากที่เขาได้หลบขาของรพีพงษ์แล้ว วิทยายุทธของรพีพงษ์ได้ถูกเปลี่ยนไป จากเตะขึ้นเป็นเตะตรง นิรมัทไม่ทันได้ระวัง ขาของรพีพงษ์ก็ได้ถีบไปที่เอวของเขาแล้ว
นิรมัทล้มลงอีกครั้ง แล้วก็ได้อ้วกออกมาเป็นเลือกอีกแล้ว ครั้งนี้เขาไม่มีแรงที่จะต่อสู้กับรพีพงษ์อีกต่อไปแล้วจริงๆ ในเวลาเดียวกันในใจเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ความจริงเขาคิดว่าแม้รพีพงษ์จะเก่งกาจ ความสามารถของเขาก็ไม่น่าจะต่างกันมาก แต่หลังจากที่รพีพงษ์ได้เปลี่ยนวิทยายุทธนั้น เขาเข้าใจมากขึ้น แม้จะให้เวลาเขาสิบปี เกรงว่าเขาก็ยังตามรพีพงษ์ไม่ทัน
เจตดิลกเห็นนิรมัทโดนเล่นงานจนอ้วกเป็นเลือดอีกครั้ง ก็รีบพุ่งเข้าไปด้านหน้าของรพีพงษ์ แล้วมองไปที่เขา กล่าว “แกก็แค่ประลองกันเท่านั้น แกออกแรงมากเกินไปหรือเปล่า”
รพีพงษ์จ้องไปที่เจตดิลก แล้วกล่าว “ประลองก็เหมือนต่อสู้ ถ้าไม่ใช้กำลังทั้งหมดที่มี รอให้ถึงอันตราย ก็กลายเป็นไม่มีแรงไปแล้ว นี่เป็นสิ่งที่คุณสอนมาไม่ใช่หรอ? แล้วตอนนั้นนิรมัทก็ใช้กำลังเต็มที่ ถ้าผมอ่อนข้อให้ ก็เหมือนไม่ให้เกียรติเขา”
“แก!” เจตดิลกไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะเอาคำพูดที่เขาสอนไว้มาย้อนหาเขาเอง รู้สึกโมโหขึ้นทันที โดยเฉพาะเมื่อเห็นท่าทีของรพีพงษ์ที่ไม่เป็นเดือนเป็นร้อนแต่อย่างใด ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าโดนท้าทายเป็นอย่างมาก
“ตั้งแต่ผมยังเล็กคุณก็มองว่าผมเป็นคนที่เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ไม่สำเร็จ ตอนนี้ลูกศิษย์ที่คุณภูมิใจนักภูมิใจหนาโดนผมโจมตีจนแพ้ ทำให้คุณรับไม่ค่อยได้ใช่ไหม?”
เจตดิลกเปล่งเสียงเหอะออกมา เดินหน้าไปหนึ่งก้าว แล้วกล่าว “แกกำลังท้าทายฉันใช่ไหม? แกชนะลูกศิษย์ฉัน ไม่ได้หมายความว่าจะชนะฉันได้ ฉันว่าแกยังไม่รู้ว่าตัวเองควรอยู่ตรงไหนนะ ให้ฉันลองมือเองไหมเผื่อแกจะเข้าใจขึ้น?”
“ยินดีครับ” รพีพงษ์ไม่กลัวแม้แต่น้อย
เจตดิลกจะลงมือ ขณะเดียวกันท่านคทาก็รีบเดินเข้ามา ยืนระหว่างทั้งคู่ ห้ามพวกเขาเอาไว้
“วันนี้เป็นวันที่คุณผู้หญิงและลูกศิษย์ญาทิปต้องแข่งขันกัน พวกแกประลองแค่นี้ล่ะกัน ถ้ายังลงมือต่อ เกรงว่าจะทำลายความสัมพันธ์ลง ถึงเวลานั้นถ้ากระทบกับการแข่งขันของคุณผู้หญิง จะต้องวุ่นวายแน่ๆ” ท่านคทากล่าว
เจตดิลกได้ยินท่าคทาพูดดังนี้ ก็เปล่งเสียงเหอะออกมา ปัดกางเกง แล้วกล่าว “รพีพงษ์ วันนี้ฉันปล่อยแกไปก่อน แต่แกจำเอาไว้นะ ในสายตาฉัน แกก็เป็นได้แค่ไอ้เด็กที่ไม่เรียนศิลปะการป้องกันตัว ไม่มีความสามารถจริงๆ แค่ใช้วิธีสกปรก ยากที่จะสำเร็จ!”
เจตดิลกคิดว่าที่รพีพงษ์ชนะนิรมัทได้นั้น ต้องใช้วิธีสกปรกอย่างอื่นเป็นแน่ มิเช่นนั้นจะไม่ลงเอยแบบนี้
“เด็กที่ไม่เรียนศิลปะการต่อสู้ก็เก่งกว่าศิษย์ที่เรียนอย่างจริงจังก็แล้วกัน ฉันไม่สำเร็จ นิรมัทล่ะสำเร็จไหม?” รพีพงษ์ถามกลับ
เจตดิลกเกือบจะระเบิดออกมาแล้ว ท่านคทาเห็นดังนี้ แล้วรีบกล่าว “รพีพงษ์ แกก็หยุดกระตุ้นเขาได้แล้ว คิดเสียว่าให้เกียรติคุณผู้หญิงญาดา แกหยุดบีบให้เขาลงมือได้แล้ว ถ้าถูกญาทิปเห็นเข้าล่ะก็ เกรงว่าจะกระทบต่ออนาคตของคุณผู้หญิงญาดานะ”
เมื่อรพีพงษ์ได้ยินคำพูดของท่านคทาแล้ว ก็ชะงัก ในสมองผุดขึ้นมาด้วยภาพของเด็กผู้หญิงที่เรียกเขาว่าพี่รพีแล้วอยู่ข้างกายเขาไม่ห่างนั้น
ญาดาหรอ ไม่เห็นหลายปี ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นไงบ้างแล้ว
ฟังท่านคทาพูดแล้ว เรื่องคืนนี้ต้องสำคัญกับญาดามากเป็นแน่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่ใส่ใจเจตดิลกแล้ว
เมื่อก่อนรพีพงษ์ก็ได้ยินชื่อเสียงของญาทิปมาก่อน ขึ้นชื่ออย่างมากเรื่องโกะในปีนั้น ดูๆแล้วหลายปีที่ผ่านมาญาดาก็ได้รู้เกี่ยวกับโกะบ้างแล้ว ในตอนนั้นที่รพีพงษ์เล่นโกะกับญาดา เพื่อทำให้เธอมีความสุข ทุกครั้งก็จะให้เธอเป็นฝ่ายชนะ ไม่รู้ว่าหลายปีมานี้ ฝีมือการเล่นโกะของญาดาจะพัฒนาไปถึงไหนแล้ว
ท่านคทารีบเรียกพวกเด็กๆของตระกูลลัดดาวัลย์มา ให้พวกเขายกนิรมัทขึ้นมา ส่งโรงพยาบาล
เจตดิลกส่งเสียงเหอะไปที่รพีพงษ์ สบัดกางเกงแล้วเดินจากไป
ท่านคทามองไปที่รพีพงษ์ ด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าว “ดูแล้วหัวหน้าวงศ์ตระกูล เมื่อก่อนพวกเราดูถูกแกเกินไป”
รพีพงษ์ยิ้มไปที่ท่านคทา แล้วกล่าว “ท่านคทาเห็นด้วยแล้ว”
“แกคงอยากเห็นญาดาสินะ พวกเราไปดูญาดาแข่งขันด้วยกันเถอะ วันนี้เธอต้องแข่งกับลูกศิษย์ของญาทิป น่าสนใจไม่เบา” ท่านคทากล่าว “เพียงแต่ในช่วงหลายปีมานี้นั้นเธอเปลี่ยนแปลงไปมาก เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่ตามก้นแกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แกต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้นะ”
รพีพงษ์พยักหน้า แล้วกล่าว “ตามที่คิดไว้ ชื่อเสียงของผมในช่วงหลายปีมานี้แย่ขนาดนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะมีอคติกับผม” ทั้งคู่เดินไปที่ห้องโถงด้วยกัน
ขณะนี้ในห้องโถงมีคนจำนวนไม่น้อย คนเหล่านี้เป็นแขกที่ตระกูลลัดดาวัลย์เชิญมาร่วมงาน เพราะศิษย์ของญาทิป ก็ถือเป็นวันรุ่นที่มีความสามารถคนหนึ่ง เขาเทียบกับญาดาแล้ว แน่นอนว่าต้องดึงดูดสายตาของคนตระกูลใหญ่ๆไม่น้อย
ในห้องโถงมีผู้ชายวัยกลางคน คนนี้คือญาทิปผู้มีฝีมือระดับประเทศ เป็นระดับเทพแห่งวงการหมากล้อม
ขณะนี้คนที่อยู่รอบๆญาทิป ล้วนเป็นคนที่อยากจะสร้างสัมพันธไมตรีกับเธอ
ตระกูลใหญ่จะให้ความสำคัญกับการอบรมสั่งสอนของครอบครัว โกะก็ถือเป็นการปลูกฝังของทุกๆตระกูลอย่างหนึ่ง ญาทิปในฐานะที่เป็นปรมจารย์โกะ แน่นอนว่าต้องได้รับความนิยมก็คนเหล่านี้
ข้างๆญาทิปเป็น วัยรุ่นที่สง่างาม ใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ แล้วทักทายกับคนรอบข้างๆ
เขาคือลูกศิษย์ของญาทิป นวัสสัย ดาวดวงใหม่ของโกะแห่งเกียวโต เคยได้รับเกียรติแข่งขันโกะของเอเชีย เพราะอายุยังน้อย เรื่องนี้ถึงได้เป็นความภูมิใจของนวัสสัย
“นวัสสัยเป็นวัยรุ่นที่มีความสามารถ แล้วยังหล่อ ความจริงฉันมองว่า นวัสสัยเข้ากันได้ดีกับคุณผู้หญิงของตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่ว่าแพ้หรือชนะ ญาทิปก็น่าจะรับคุณผู้หญิงตระกูลลัดดาวัลย์ไว้เป็นศิษย์” คนวัยกลางคนพูดขึ้นมา
ญาทิปหัวเราะ แล้วกล่าว “ตระกูลลัดดาวัลย์เป็นตระกูลใหญ่ คุณผู้หญิงของตระกูลเขา ก็เหมาะสมกับลูกศิษย์ของญาทิป”
ความจริงวันนี้ที่เขามา ก็เพื่อมาสู่ขอญาดา เขาให้นวัสสัยและญาดาแข่งขันกันก่อน ให้นวัสสัยใช้ความสามารถทั้งหมด อย่างนี้ญาดาจะได้เคารพเขา ถึงเวลานั้นเมื่อทั้งสองตระกูลดองกัน ก็ง่ายขึ้นแล้ว
เพราะตระกูลลัดดาวัลย์ในเกียวโตก็ถือว่าเป็นตระกูลชั้นนำ ถ้าสามารถดองกับตระกูลลัดดาวัลย์ได้ ก็จะได้ประโยชน์อย่างมหาศาล
นวัสสัยก็มั่นใจไม่น้อย เขามั่นใจเหลือเกินว่าคู่ควรกับญาดา ญาดาก็เป็นคนสวยขึ้นชื่อของเกียวโต นวัสสัยอยากได้มาครอบครองนานแล้ว
“คุณผู้หญิงตระกูลลัดดาวัลย์มาแล้ว” มีคนตะโกนออกมา
ทุกคนหันไปดู เห็นญาดาสวมใส่ชุดทางการเดินมาคู่กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
ท่าทางของญาดาดูโดดเด่น สวยงาม บอกกับฝีมือโกะ และเสน่ห์เฉพาะตัว ทำให้ทุกคนที่มองรู้สึกชอบ ต่างรู้สึกว่าเธอเหมือนเทพธิดาจุติมายังโลกก็มิปราณ
ญาดาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ วันนี้เธอมา เพื่อชนะนวัสสัย ในสายตาของเธอ มีเพียงโกะทั้งนั้นที่จะแสดงความเป็นตัวตนของเธอ
ในขณะนี้รพีพงษ์และท่านคทาก็เดินเข้าไปในห้องโถง หลังจากที่รพีพงษ์เห็นญาดาแล้ว ก็ยิ้มออกมา ญาดารู้สึกเฉยๆ แล้วหันไปมองรพีพงษ์
สายตาสี่คู่ประสานกัน สายตาของญาดาเยือกเย็น แล้วหันกลับไปอย่างเร็ว เธอมองรพีพงษ์ดังเช่นมองคนทั่วไปอย่างนั้น
รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเสียอารมณ์ ดูๆแล้วเด็กผู้หญิงคนนั้น สุดท้ายก็ได้โตขึ้นแล้ว
แต่ความอคติที่เธอมีต่อรพีพงษ์นั้น ก็เป็นเพราะได้รับผลกระทบจากคนรอบข้าง เธอไม่รู้ความเป็นจริง ว่ารพีพงษ์ตอนนี้จะเก่งกล้ามากกว่าในตอนนั้นที่เธอเดินตามก้นเสียอีก