พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 206 กลับเมืองริเวอร์
บทที่206 กลับเมืองริเวอร์
ระหว่างทางกลับไปยังเมืองริเวอร์ ศศินัดดาและศักดาทั้งสองคิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ในใจก็เกิดรู้สึกกลัวขึ้นมา
“ลูก พวกคนเมื่อวานนี้ ตกลงต้องการทำอะไร? ตรวจสอบรู้หรือยัง?”ศศินัดดาถามอารียา
“แม่ค่ะ แม่ก็ไม่ต้องไปคิดเรื่องนี้แล้วค่ะ คนพวกนั้นแค่ดูคนผิดไปเอง ไม่เกี่ยวกับเราค่ะ”อารียาพูดปลอบ
ศศินัดดาพยักหน้า แล้วก็ไม่คิดเรื่องนี้อีก แค่ไม่อะไรเป็นไร ก็ถือว่าโชคดีแล้ว
อยู่ที่อำเภอหยกเกิดเรื่องขึ้นมากมาย ศศินัดดากลัวถูกขับไล่ออกจากตระกูลเขมพงศ์ ซึ่งทำให้ศศินัดดาไม่สบายใจ
โชคดีที่สุดท้ายเป็นครอบครัวของบจีที่ถูกขับไล่ออกไปจากตระกูลเขมพงศ์ ถึงแม้ว่าศศินัดจะไม่ค่อยถูกกับครอบครัวบจี แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ เนื่องจากครอบครัวของบจีก็น่ารังเกียจ
ถ้าตอนนี้เธอรู้ว่าครอบครัวของบจีไปเป็นขอทานที่ข้างถนน เธอคงจะแปลกใจและพูดไม่ออกแน่
“นี่ก็จะกลับไปแล้ว น่าเสียดายที่ลูกแม่ไม่มีงานทำแล้ว อีกหน่อยไม่รู้ ว่าพวกเราใช้ชีวิตอย่างไร”ศศินัดดาพูดด้วยอารมณ์
“แม่ค่ะ ต่อให้หนูไม่มีงานทำก็ไม่เป็นไรค่ะ ยังมีรพีพงษ์ที่เลี้ยงดูพวกเราอยู่ค่ะ”อารียาพูด
ศศินัดดาก็หัวเราะเยาะทันที และกล่าวว่า: “แค่ตอนนี้เขายังมีเงินอยู่ แต่เขาเป็นเศษสวะสิ้นเปลือง และเขาใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก เงินแค่นั้นของเขา ไม่ช้าก็เขาใช้หมด”
มองไปที่ศศินัดดาอย่างไม่น่าเชื่อ เธอคิดไม่ถึงว่าในช่วงไม่กี่วันที่ไปอำเภอหยก การกระทำของรพีพงษ์จะเปลี่ยนมุมมองของศศินัดดาที่มีต่อเขาไม่ได้
“แม่ค่ะ การกระทำของรพีพงษ์ตอนที่อยู่อำเภอหยกแม่มองไม่เห็นเลยเหรอคะ? ถ้าเขาเป็นเศษสวะจริง แม่คิดว่าท่านยุดจะช่วยเขาแบบนี้เหรอคะ ที่สำคัญถ้าเกิดไม่มีรพีพงษ์ ตอนนี้เราก็ถูกขับไล่ออกจากตระกูลเขมพงศ์แล้วค่ะ”อารียาพูด
“เชอะ มันก็แค่โชคดีเอง ถ้าเกิดมันไม่ใช่เพื่อนสมัยเด็กของเขา ลูกคิดว่าเขาจะช่วยมันขนาดนี้เหรอ ท่านยุดเขาสุดยอดอยู่แล้ว เกี่ยวอะไรกับมันด้วย กลับถึงเมืองริเวอร์ มันก็ไม่มีอะไรแล้ว”ศศินัดดาวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล
อารียาถอนหายใจ เธอรู้ดีว่า การเปลี่ยนมุมมองของศศินัดดาที่มีต่อรพีพงษ์ นั้นยังเป็นเรื่องอีกยาวไกล
รพีพงษ์มองไปที่พวกเขาด้วยรอยยิ้ม แล้วพูด: “ยังไงแคลร์ก็หางานใหม่ได้แน่นอน เรื่องนี้ก็ไม่ต้องเป็นกังวล”
“อารีของเราเก่งขนาดนี้ ยังไงก็หางานใหม่ได้แน่นอน แล้วเกี่ยวอะไรกับแกด้วย แกก็ขับรถของแกไปดีๆ ถ้าไม่ใช่ว่าศักดาขับรถไม่เป็น ฉันไม่ยอมให้แกแตะต้องรถคันนี้แน่”ศศินัดดาพำพึม
ศักดามองไปที่ศศินัดดาอย่างระมัดระวัง เขาไม่กล้ามีปัญญากับศศินัดดา ไม่ว่าศศินัดดาจะพูดอะไร เขาทำได้เพียงแค่ยอมรับมันอย่างเงียบๆ
“ไร้ประโยชน์สิ้นดี ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ารพีพงษ์ยังดีกว่าซะคุณอีก คุณดูท่าทางของคุณสิ แม้แต่พูดยังไม่กล้าพูดเลย ไม่มีอะไรดีจริงๆ”ศศินัดดาจ้องมองไปศักดา
ศักดาถอนหายใจ คิดไม่ถึงว่าขนาดเขาไม่พูด ก็ถูกดุด่า
บริษัทของตระกูลฉัตรมงคล
ห้องประชุม ธายุกรสวมสูท และนั่งสบายๆ ที่เบาะตำแหน่ง เขาใช้เจลทาผม เพื่อให้ตัวเองดูดีมากขึ้น
เต็มไปด้วยผู้คนที่เป็นญาติของตระกูลฉัตรมงคล ตั้งแต่ที่ธายุกรกลายเป็นประธาน บริษัทของตระกูลฉัตรมงคล เขาได้เปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดในบริษัทให้เป็นคนของตระกูลฉัตรมงคลทั้งหมด คนที่ได้รับการจ้างมาก่อนนี้ถูกธายุกรไล่ออกไปทั้งหมด .
เหตุที่ธายุกรทำแบบนี้ ก็เพื่อจะสะดวกในการโกงเงินจากโครงการของบริษัท เมื่อก่อนนภทีป์เป็นผู้รับผิดชอบ เรื่องแบบนี้เป็นที่ต้องห้าม
ดังนั้นทุกคนก็ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องแบบนี้ในที่เปิดเผย และพวกเขาทำอย่างลับๆ และโกงเงินได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ที่สำคัญถ้าเปิดเผยออกมาแม้แต่นิดเดียว ก็จะถูกคนรายงาน แบบนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่
ตอนนี้ธายุกรเองก็โกงเงินได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ที่บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปร่วมลงทุนด้วย เขาเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดของบริษัทเป็นคนตระกูลฉัตรมงคล เพื่อให้ทุกคนมีเสียงที่เป็นหนึ่งเดียวกัน หากมีคนถามขึ้นมา พวกเขาจะสามารถตอบเป็นเอกฉันท์ได้ จะได้ไม่มีใครรบกวนแผนการโกงเงินครั้งใหญ่ของพวกเขาได้
ธายุกรก็จะไม่ผลาญเงินที่เขาโกงมาได้ เขาแค่เอาเงินเล็กน้อยให้แก่ญาติของตระกูลฉัตรมงคล ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาพอใจอย่างมาก
แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าดำเนินสิ่งนี้ต่อไป สำหรับบริษัท แต่ก็ใช้เวลาไม่นาน คนในตระกูลฉัตรมงคลก็เอาแต่คิดถึงแต่ตัวเอง ใครจะมาสนใจความอยู่รอดของบริษัทของตระกูลฉัตรมงคล ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถโกงเงินได้ พวกเขาจะไม่ไปสนใจสิ่งเหล่านี้
ดังนั้นทุกคนจึงพอใจกับการแต่งตั้งธายุกรเป็นประธานคนใหม่ และทุกคนเต็มใจที่จะให้ธายุกรดูแลกิจการบริษัทของตระกูลฉัตรมงคล
สำหรับนภทีป์ ภายใต้ข้อเสนอแนะของญาติทั้งหมดของตระกูลเป็นเอกฉันท์ เขาจึงเลือกที่จะเกษียณ และพักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของเขา
นภทีป์สูญเสียอำนาจที่มีอยู่พูดได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าสังเวช เมื่อก่อนผู้คนนับไม่ถ้วนจะเดินผ่านคฤหาสน์หลังนั้นของเขาทุกวัน และตอนนี้จะเห็นเงาคนยังยาก
“ธายุ มีคุณมาดูแลกิจการของบริษัท ถือเป็นความโชคดีของบริษัทเราจริงๆ คุณดูซิคุณเพิ่งขึ้นรับตำแหน่งประธานได้ไม่นาน พวกเราทุกคนขับรถหรู และอาศัยอยู่ในบ้านที่ดี”
“ใช่แล้ว ธายุเป็นประธานของพวกเรา ไม่มีอะไรจะติได้ ถ้ารู้ว่าเขามีความสามารถขนาดนี้ พวกเราน่าจะให้เขามารับช่วงดำรงตำแหน่งตั้งนานแล้ว”
“ธายุนำผลประโยชน์มาให้เราอย่างไม่รู้จบ ฉันเชื่อว่าตราบใดที่มีธายุอยู่ เราจะสามารถรุ่งโรจน์ต่อไปได้ตลอดไป ในปีหน้าเวลานี้ คาดว่าเราจะสามารถได้อยู่ในคฤหาสน์”
……
ธายุกรรับฟังคำชมของทุกคน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม
เขาลืมไปเสียสนิท ว่าเขาทำให้ทุกคนร่ำรวยจากการโกงเงินจากโครงการต่างๆของบริษัท ซึ่งไม่มีผลอะไรกับความสามารถของเขาเลย
แต่ใครจะสนใจเรื่องนี้ ตราบใดที่เขาสามารถทำเงินได้ เขาก็จะได้รับความเคารพจากคนอื่นๆ เขาเป็นฮีโร่ของตระกูลฉัตรมงคล และมีความสุขกับการได้รับความเคารพจากผู้อื่น
เขาเคยเป็นคู่แข่งกับอารียามาก่อน บางครั้งแม้แต่รพีพงษ์ยังเทียบไม่ได้ สิ่งนี้ทำให้เขาอยากพิสูจน์ตัวเองมาก ตอนนี้อารียาออกจากบริษัทแล้ว และตอนนี้เขาสามารถพูดได้ว่ามั่งคั่งร่ำรวย เขาคิดว่าในที่สุดก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นอารียาหรือเศษสวะอย่างรพีพงษ์ ก็เทียบเขาไม่ได้
“ทุกคนก็อย่าชมผมมาก เรามีความรุ่งโรจน์แบบนี้ มันขึ้นอยู่กับการทำงานหนักของทุกคน ไม่ใช่คุณงามความดีของผมเอง แน่นอน ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ก็เพราะว่าอารียาออกจากบริษัท เธอและสามีเศษสวะของเธอออกไปแล้ว ความโชคร้ายของพวกเราก็จะหายไป และพัฒนาดีขึ้นมาเอง”ธายุกรกล่าวด้วยรอยยิ้ม
พวกเขาก็เห็นด้วยไปพร้อมๆกัน และแสดงออกมาว่าธายุกรพูดถูก
“ใช้แล้ว ก่อนหน้านี้อารียาอยู่ที่บริษัทหยิ่งผยองมาก แต่ก็ไม่เห็นว่าหล่อนจะทำผลงานออกมาใหญ่ได้แบบนี้ ธายุก็คือดีต่อบริษัทอย่างแท้จริง”
“เมื่อคิดท่าทางของอารียาก่อนหน้านั้นฉันก็หงุดหงิด หล่อนคงคิดว่าถ้าบริษัทไม่มีหล่อน ก็จะไม่มีทางพัฒนาได้ น่าขำสิ้นดี”
“หล่อนเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในบริษัท หล่อนอยู่ในบริษัท ก็จะขัดขวางการพัฒนา บริษัท เราน่าจะไล่ออกหล่อนออกไปตั้งนานแล้ว”
……
ธายุกรเมื่อเห็นทุกคนพูดถึงอารียา ก็รู้สึกภาคภูมิใจอยู่ในใจ โดยคิดว่าในที่สุดเขาก็ได้เหยียบย่ำอารียา
ในขณะนี้ มีคนวิ่งเข้าไปในห้องประชุมอย่างเร่งรีบ
ธายุกรเห็นเขาตื่นตระหนก ก็พูดขึ้นทันทีว่า: “ตื่นตระหนกอะไร ดูไม่เหมือนพนักงานบริษัทเลย ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ยังไงคุณก็ไม่ควรตื่นตระหนกขนาดนี้”
ชายคนนั้นหายใจเข้าลึกๆ และกล่าวว่า: “คนจากบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปมาบอกว่า ต้องการพบกับอา…..อารียาและพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมลงทุนล่าสุด คนคนนั้นได้มาถึงบริษัทแล้ว”
ธายุกรเดิมคิดว่าตอนนี้ตัวเองเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ และไม่ควรตื่นตระหนกเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากได้ยินคำพูดของคนคนนั้น ก็รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้
“คุณว่าอะไรนะ? คนของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปต้องการพบอารียา? คุณไปบอกเขาว่าอารียาไม่อยู่ ให้คนอื่นไปคุยกับเขาเรื่องสถานการณ์ล่าสุด”ธายุกรพูด
ชายคนนั้นส่ายหัว แล้วพูด: “คนของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปยังบอกด้วยว่าอารียาเป็นคนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลความลงทุนในครั้งนี้ถูกเขียนไว้ในสัญญา ดังนั้นต้องให้อารียามาคุยด้วยตัวเองเท่านั้น”
ธายุกรรู้เรื่องสัญญานี้ เป็นเพราะสัญญาข้อนี้ ทำให้นภทีป์ไม่กล้าเปลี่ยนอารียา
แต่คราวนี้อารียาออกไปแล้ว คือหล่อนขอลาออกเอง และไม่ได้บังคับให้หล่อนออกไป ดังนั้นธาตุกรจึงไม่ได้คิดถึงเรื่องสัญญานี้
เมื่อเรื่องนี้ถูกพูดขึ้นมา เขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยในใจ ถ้าบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปต้องการทำให้เรื่องนี้มาเป็นข้อต่อรอง เขาก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ที่อารียาลาออก ถูกกดดันจากคนของตระกูลฉัตรมงคล
“พาฉันไปพบคนของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป อารียาเป็นคนของลาออกเอง ไม่เกี่ยวกับพวกเรา ถ้าบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปจะโทษ ก็โทษพวกเราไม่ได้”ธายุกรกล่าว และออกไปกับชายคนนั้น
หลายคนจากตระกูลฉัตรมงคลก็เดินติดตามออกไปเช่นกัน ท้ายที่สุดโครงการทำโกงเงินได้มากที่สุดของพวกเขา ก็คือบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป หากโครงการนี้มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น สำหรับพวกเขา มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
ทุกคนมาที่ห้องรับรอง และเธียรวิชญ์ก็นั่งอยู่ที่นี่แล้ว
“ประธานเธียรวิชญ์ คิดไม่ถึงว่าท่านจะมาด้วยตัวเองเลย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ท่านให้คนที่บริษัทมาเองก็ได้ครับ”ธายุกรเมื่อเห็นว่าเธียรวิชญ์มาด้วยตัวเอง ก็นึกแปลกใจ
เธียรวิชญ์ยิ้ม แล้วกล่าว: “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย คนในบริษัทของผมและผมเองก็ไม่เจออารียามาตั้งนาน เธอเป็นคนรับผิดชอบโครงการนี้ ทำไมนานขนาดนี้ถึงยังไม่แสดงตัวออกมา คุณว่าไหม ดังนั้นวันนี้ผมก็เลยมาดู ช่วงนี้เธอมัวแต่ยุ่งกับอะไร”
ธายุกรสีหน้าเต็มไปด้วยความอึดอัด แล้วพูด: “ประธานเธียรวิชญ์ คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้ไม่นาน อารียารู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอ จึงขอลาออกเอง เรื่องนี้ท่านสามารถถามเธอเองได้ บริษัทของเราจะหาคนที่ดีกว่ามาแทนที่เธออย่างแน่นอน ”
เดิมทีเธียรวิชญ์ยังคงยิ้มอยู่ หลังจากได้ยินคำพูดของธายุกร สีหน้าก็เย็นชาทันที
เขารู้ดีว่าอารียาไม่ได้อยู่ที่บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลแล้ว วันนี้ที่เขามา ก็มาตามความประสงค์ของรพีพงษ์ รพีพงษ์ก็กลับมาจากอำเภอหยกแล้ว ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะคิดวิธีหาทางซื้อกิจการบริษัทของตระกูลฉัตรมงคล
“สัญญาก่อนหน้านั้นของพวกเราก็เขียนไว้อย่างชัดเจน โครงการนี้ยังไงก็ต้องเป็นอารียารับผิดชอบ ผมไม่สนว่าเธอทำไมถึงลาออกจากบริษัทพวกคุณ ตอนนี้มาเปลี่ยนคนที่รับผิดชอบ พวกคุณก็ผิดสัญญา ถ้าเรื่องนี้จัดการไม่ได้ พวกคุณก็รอทีมทนายความของบริษัทเราได้เลย”เธียรวิชญ์กล่าวอย่างเย็นชา