พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 197 มึงเป็นใคร
บทที่197 มึงเป็นใคร
สีหน้าของศศินัดดาก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึง เธอไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างรพีพงษ์และจิรายุศ ดังนั้นจึงคิดว่าเมื่อเธอถูกไล่ออก ตระกูลเขมพงศ์ก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นทันที
อารียามองรพีพงษ์อย่างแปลกใจ เธอรู้ความสัมพันธ์ระหว่างรพีพงษ์และจิรายุศ ถ้าดูตามสถานการณ์แล้ว จิรายุศไม่มีทางเอาตระกูลเขมพงศ์ไว้ในสายตา ตอนนี้จิรายุศมาร่วมฉลองวันเกิดให้กับไวทยุต น่าจะเป็นเพราะให้เกียรติรพีพงษ์
“พวกแก รีบไปยืนตรงนั้น อย่าขวางทางของท่านยุด” ตุลยวัตเดินมา ให้ศศินัดดาพวกเขาหลบไปข้างๆ
ศศินัดดาโมโห แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ทำได้เพียงพาอารียาพวกเขาไปยืนข้างๆ
หลายวันมานี้ที่อยู่ในอำเภอหยก ศศินัดดาก็ได้รู้ถึงความเก่งกาจของท่านยุดแล้ว รู้ว่าพวกเขาแตะต้องไม่ได้ ดังนั้นถ้าจะให้ดีตอนนี้แอบๆหน่อยดีกว่า
ไม่นาน นอกประตูก็มากลุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา คนเดินนำคือจิรายุศ และมีผู้เฒ่าผมขาวเดินอยู่ข้างๆเขา ผู้เฒ่าสวมใส่เครื่องแต่งกายในราชวงศ์ถัง ซึ่งแลดูมีความงามซึ่งเป็นอมตะ
ท่านนี้เป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณที่มีชื่อเสียงของอำเภอหยก ทัตพงศ์
ในขณะนี้ในมือของทัตพงศ์ได้ถือรูป《ตกปลาใต้เขาเขาซี》ที่ถูกบจีโยนออกไป
ไวทยุตตื่นเต้น ไม่คาดคิดว่าไม่เพียงแค่ท่านยุดมาเท่านั้น อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณทัตพงศ์ก็มาด้วย
เขาเดินทางข้างหน้า ด้วยใบหน้ายินดี แล้วกล่าว “ท่านยุดท่านทัตพงศ์ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วย ไม่คาดคิดว่าพวกคุณจะมาร่วมงานฉลองวันเกิดของฉันด้วย ชั่งเป็นเกียรติให้กับตระกูลเขมพงศ์ของเราจริงๆ
จิรายุศมองไปที่รอบๆสวน หารพีพงษ์ ถึงแม้ตระกูลเขมพงศ์จะถือว่าเป็นตระกูลที่ไม่เล็ก แต่เทียบกับจิรายุศแล้วยังห่างกันไกล ดังนั้นจิรายุศไม่มีทางเอาพวกเขาไว้ในสายตาแน่นอน
เขามาที่นี่ เป็นเพราะทำตามคำสั่งของรพีพงษ์
หลังจากเห็นรพีพงษ์ยืนอยู่ในมุมแล้ว จิรายุศต้องการจะไปทักทายทันที รพีพงษ์ส่งสายตาให้เขา จิรายุศรู้ ก็ไม่ได้เดินเข้าไป
เพราะไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างรพีพงษ์และไวทยุต ดังนั้นจิรายุศจึงกล่าวอย่างเคารพว่า “ร่างกายของท่านไวทยุตชั่งแข็งแรงจริงๆ อยู่ได้ถึงร้อยปีไม่น่าจะมีปัญหา”
ไวทยุตยิ้ม แล้วกล่าว “ท่านยุดช่างอารมณ์ขันเหลือเกิน คนแก่อย่างผม จะจากไปวันไหนก็ได้”
“ท่านไวทยุต ครอบครัวคุณชั่งฟุ่มเฟือยเหลือเกิน เอาภาพจิตรกรรมของแท้ของTang Yinทิ้งไว้นอกประตู หรือของล้ำค่าแบบนี้พวกคุณไม่มีที่วางแล้ว ดังนั้นจึงทิ้งไว้ข้างนอก?”ทัศพงศ์ยิ้มพลางกล่าว
บจีรีบวิ่งเข้ามาใกล้ๆกับจิรายุศและทัตพงศ์ หัวเราะพลางกล่าว “ท่านอาจารย์ทัตพงศ์อย่าพูดตลกหน่อยเลย รูปนี้เป็นของปลอม ของจริงอยู่ที่ท่านไวทยุตนู่น มีไอไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนหนึ่งเอารูปนี้มาหลอกท่านไวทยุต แต่ไม่สำเร็จเพราะท่านไวทยุตมีของจริงอยู่แล้ว ดังนั้นจึงโยนรูปภาพปลอมนี่ออกไป”
“พูดถูกแล้ว ของแท้นั้นผมได้ไปตลาดโบราณสวรรค์ซื้อกลับมาเมื่อสองสามวันก่อน พูดๆไปก็เหมือนได้ของดีแต่ถูกมา รูป《ตกปลาใต้เขาเขาซี》ของTang Yin ถูกผมซื้อมาในราคาสามแสน ถือว่าโชคดีเอามากๆเลยล่ะ” ไวทยุตกล่าวอย่างมั่นใจ
“เอารูปนั้นของฉันออกมา ให้ท่านทัตพงศ์ดูหน่อย”
หลังจากทัตพงศ์ได้ยินคำพูดของไวทยุต แล้วขมวดคิ้วขึ้นมาทันที แล้วรีบเพ่งไปที่รูปในมือของตน เมื่อกี้เขาได้ดูอย่างละเอียดแล้ว รูปนี้เป็นจิตรกรรมของTang Yinจริงๆ ถึงแม้เขาจะเป็นแค่อาจารย์เชี่ยวชาญวัตถุโบราณของอำเภอเท่านั้น แต่จิตรกรรมของTang Yin เขาก็แยกออกชัดเจน
ไวทยุตให้คนเอารูปนั้นถือออกมา แล้วส่งไปยังทัตพงศ์
“ท่านทัตพงศ์ ขอท่านได้โปรดดูให้หน่อย จากที่ผมดูมา รูปนี้จึงจะเป็นจิตรกรรมจริงของTang Yin รูปที่อยู่ในมือท่านนั้น ไม่แน่ว่าซื้อมาจากข้างทางที่ไหนก็ได้นะ ไม่มีค่าใดๆ” ไวทยุตกล่าว
ทัตพงศ์เอารูปนั้นของไวทยุตมา แล้วดูอย่างละเอียด จากนั้นก็แสดงรอยยิ้มอันดูถูกออกมา แล้วกล่าว “ท่านไวทยุต คุณอย่ามาเล่นตลกกับผมอีกเลย การผลิตของรูปนี้ดูออกอย่างชัดเจนว่าใช้เครื่องเลียนแบบออกมา บางรอยเส้นมีการขาดตอนอย่างชัดเจน และน้ำหนักมือก็อ่อนยิ่งนัก นี่จะเป็นจิตรกรรมของTang Yinได้อย่างไร”
เมื่อเขาพูดคำนี้ออกมา ไวทยุตก็ตาโต พวกคนของตระกูลเขมพงศ์นั้นก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าทัตพงศ์จะบอกว่ารูปที่ไวทยุตซื้อกลับมานั้นเป็นของปลอม
“ท่านทัตพงศ์ ท่านลองดูให้ละเอียดอีกสักครั้ง ดูผิดไปบ้างไหม รูปนี้เป็นรูปที่ออกมาจากมือของTang Yinเลยนะ ผมใช้เวลานานในการดู มั่นใจมากๆด้วย” ไวทยุตกล่าวอย่างซีเรียส
ในขณะนี้ทัตพงศ์ก็ตบไปที่หัวทันที แล้วกล่าว “รูปนี้ของคุณซื้อจากไอ้เด็กคนหนึ่งที่ชื่อกุศะในตลาดโบราณสวรรค์ใช่ไหม?”
สายตาของไวทยุตประกายขึ้นมาทันใด รีบพยักหน้า เขาคิดว่าเมื่อกี๊ทัตพงศ์ดูผิดไป ในใจเริ่มมีความหวังขึ้นมา
“ถูกต้อง เขานั่นแหละ ไม่รู้คุณค่าของมัน เอาแต่บอกว่าเป็นของปลอม ผมเลยซื้อมาได้ในราคาสามแสน ท่านทัตพงศ์รู้ว่าจอตรกรรมของจริงนี้อยู่ที่เขา?”ไวทยุตกล่าว
ทัตพงศ์หัวเราะอย่างดัง แล้วกล่าว “ท่านไวทยุต สายตาของคุณนี่ไม่โอเคเลยนะ รูปนี้ของคุณเป็นของปลอมจริงๆ ไอ้เด็กกุศะนั่นผมรู้จัก ขายรูปปลอมโดยเฉพาะ เฉกเช่นรูปนี้ของคุณ ในหนึ่งวันเขาสามารถผลิตออกมาได้เป็นร้อยๆใบ รูปล่ะสามร้อยผมยังว่าแพง แล้วเขาก็พูดแล้วว่าเป็นของปลอม คุณยังจ่ายให้สามแสนอีก นี่คุณไม่ใช่ซื้อของดีในราคาถูก แต่เป็นการหลอกลวงผู้บริโภคนะ ดูๆแล้วท่านไวทยุตน่าจะไม่มีอะไรทำจริงๆ หรือที่ทำแบบนี้เพื่อสร้างบุญสร้างกุศลหรอ อยากจะช่วยไอ้เด็กกุศะนั่น?”
ไวทยุตแข็งเป็นหิน ทัตพงศ์พูดถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าเขายังหาข้ออ้างบอกว่ารูปนี้ของเขาเป็นของจริงอีกล่ะก็ ไม่มีความหมายใดๆอีกต่อไป ไม่ว่าจะยังไง ความเชี่ยวชาญต่อวัตถุโบราณของเขา ก็เทียบไม่ได้กับทัตพงศ์
ยิ่งกว่านั้นตอนแรกกุศะก็บอกแล้วว่าเป็นของปลอม เป็นเขาเองที่อยากให้สามแสน ไม่งั้นถ้ากุศะพบว่ารูปนี้เป็นของจริงแล้วต่อไปจะมาหาเรื่องเขาได้
ตอนนี้คิดๆดูแล้ว สมงสมองเขาไปหมดแล้วจริงๆ จ่ายสามแสนเพื่อซื้อภาพปลอมในราคาสามร้อยหยวน แล้วยังจะให้เงินเค้ามากขนาดนั้นอีก เกิดเป็นความอับอายขายขี้หน้าขึ้นมาทันที
ทุกคนของตระกูลเขมพงศ์ต่างเงียบสงัด รู้สึกว่าไวทยุตทำแบบนี้ มันค่อนข้างบ้าจริงๆ
“รูปนี้จึงจะเป็นจิตรกรรมของTang Yinอย่างแท้จริง รูปนี้ถ้าเอาออกไปขาย เกรงว่าจะขายได้ในราคาหลักร้อยล้านนะ”ทัตพงศ์ดูรูปนั้นที่ศศินัดดานำมาอีกครั้ง แล้วรู้สึกหดหู่
สีหน้าของไวทยุตบึ้งตึง ภาพนี้ความจริงแล้วศศินัดดาให้เขาเป็นของขวัญ แต่ตอนนั้นเขาได้ไล่ศศินัดดาออกจากตระกูลเขมพงศ์แล้ว รูปนี้ก็ถูกบจีโยนออกไปแล้ว รูปนี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับเขาอีกต่อไป
บจีก็เสียใจ ไม่คิดว่ารูปที่ศศินัดดาเอามานั้นจะเป็นของจริง ตอนนั้นเธอได้โยนของราคาร้อยล้านออกไป ตอนนี้คิดๆดูแล้ว ในใจก็เกิดกลัวขึ้นมา
เธอหันไปมองรอบๆ แล้วเดินไปข้างหน้าของทัตพงศ์ ยื่นมือไปหยิบรูปนั้นที่ไวทยุตซื้อมาแล้วโยนออกไป ยิ้มพลางก่าว “ท่านทัตพงศ์เข้าใจผิดแล้ว ภาพนี้ถึงจะเป็นภาพที่ท่านไวทยุตของพวกเราซื้อกลับมาต่างหาก ภาพนั้นเป็นของปลอมจริงๆ ก่อนหน้านี้ฉันโยนผิด”
ไวทยุตมองไปที่บจีอย่างตกใจ ไม่คาดคิดว่าเธอจะทำแบบนี้
ศศินัดดาเห็นดังนี้ ก็รีบขึ้นมาทันที วิ่งไปที่บจีนั้น แล้วด่า “บจี แกไอ้หน้าด้าน นั่นมันรูปของฉัน แกเอามาคืนฉันนะ!”
บจีชักตาไปที่ศศินัดดา แล้วกล่าว “อะไรเป็นของแก นี่เป็นของท่านไวทยุต เกี่ยวข้องอะไรกับแก?”
ฉันมีหนังสือรับรอง ไม่เชื่อพวกแกดู!”
ทัตพงศ์เห็นดังนี้ ก็รีบเดินเข้าไปดู
“อะไรหนังสือรับรอง นั่นแกปลอมขึ้นมา ศศินัดดา แกหยุดไร้สาระได้ล่ะ หรือแกได้ยินว่าภาพนี้ขายได้ในราคาหลักร้อยล้าน ก็เอารูปนี้เป็นของตนแล้วหรอ? บจีกล่าว
“รูปนี้เป็นของเธอจริงๆ ในหนังสือรับรองนี้เป็นรายเซ็นของปรมัตถ์ท่านปรมัตถ์ อันนี้ปลอมแปลงไม่ได้แน่นอน ทำไมคุณเป็นแบบนี้ หนังสือรับรองอยู่ในมือของเธอ ทำไมคุณถึงพูดว่าเป็นของท่านไวทยุต?” ทัตพงศ์ขมวดคิ้วแล้วกล่าว
บจีอับอาย ยังไงเธอก็ไม่คาดคิด ว่าทัตพงศ์จะดูหนังสือรับรองของศศินัดดาออก
ใบหน้าของไวทยุตเริ่มดูไม่ดี บจีทำเช่นนี้ ทำให้สถานะของตระกูลเขมพงศ์ที่มีต่อจิรายุศและทัตพงศ์นั้นลดลงอย่างไม่ต้องพุดถึง
“บจี แกหยุดพูดจากมั่วๆแถวนี้ได้แล้ว ภาพนี้ศศินัดดาเป็นคนเอามา คืนให้เธอ”ไวทยุตกล่าวอย่างนิ่งสงบ
บจีไม่เต็มใจ นี่เป็นภาพราคาหลักร้อยกว่าล้านเลยนะ แม้แบ่งให้เธอเพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอที่จะให้ครอบครัวเธอมีชีวิตอย่างสุขสบายตลอดไปแล้ว
“ท่านไวทยุต ตอนนั้นศศินัดดาก็พูดด้วยตัวเองแล้ว นี่เป็นของขวัญที่เธอให้กับคุณ ของที่ให้ไปแล้วจะเอากลับได้ไง แล้วเธอเป็นลูกสาวของคุณ มอบภาพนี้ให้ก็เหมาะสมแล้วนี่”บจีกล่าว
“เหอะเหอะ เมื่อกี๊ตอนที่แกบีบให้ท่านไวทยุตไล่ฉันและครอบครัวออกไป ไม่ได้พูดแบบนี้หนิ ตอนนี้เห็นประโยชน์ ก็รีบหาข้ออ้างขึ้นมา แกคิดว่าครอบครัวเราโง่หรอไง?”
“พวกเราไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับตระกูลเขมพงศ์ของพวกเธออีกต่อไป ภาพนี้ให้พวกแก แต่เสียดายที่ถูกพวกแกโยทิ้งไป ดังนั้นพวกแกไม่คู่ควรกับภาพวาดนี้”
รพีพงษ์ยืนขึ้นมา แล้วกล่าว
ไวทยุตเสียใจ รพีพงษ์พูดไม่ผิด เขาได้ไล่ศศินัดดาทั้งครอบครัวออกจากตระกูลเขมพงศ์แล้ว ตอนนี้ศศินัดดาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับเขาอีกแล้ว ภาพนั้นก็รับไว้ไม่ได้อีกแล้ว
บจีเห็นคนที่พูดคือรพีพงษ์ ก็มองอย่างเหยียดหยามทันที “ไอ้สวะอย่างแก แกมีสิทธิ์พูดด้วยหรอ แกรีบไสหัวไปซะ มิเช่นนั้นฉันจะให้ยามของตระกูลเขมพงศ์ของเรามาลากตัวแกออกไป!”
ตอนนี้จิรายุศทนไม่ไหวแล้ว ตอนที่บจีตะโกนใส่ศศินัดดานั้น เขาอยากที่จะสั่งสอนบจีขึ้นมาในทันที เพราะยังไงศศินัดดาก็คือแม่ยายของรพีพงษ์ แต่ก็ได้อดทนไว้
ตอนนี้เห็นบจีแม้แต่รพีพงษ์ก็เริ่มด่าแล้ว เขาอดทนไม่ได้แล้วจริงๆ แล้วเดินไปที่ด้านหน้าของบจี แล้วตบเธอสองฉาด
“แม่งเอ้ย มึงเป็นใคร ก็ตะโกนใส่คุณรพี มึงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรอ?”