พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 183 นั่นมันภรรยากู
บทที่183 นั่นมันภรรยากู
“พวกแกออกไปเดี๋ยวนี้ วันนี้พวกเราจะกินข้าวที่นี่ อีกแป็ปพวกแกค่อยมา” ผู้ชายที่เป็นหัวหน้ากล่าว
ครอบครัวทั้งสามที่นั่งอยู่บนโต๊ะทั้งหมดชะงักชั่วขณะ ไม่คิดว่ายังไม่ได้สั่งอาหาร ก็มีคนมาไล่ให้พวกเขาออกไปเสียแล้ว
ทุกคนมองไปที่โมไนย โมไนยก็งงไปตามๆกัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“พวกแกหูหนวกหรือไง? ไม่ได้ยินที่กูพูดหรอ? รีบออกไป วันนี้ห้องส่วนตัวนี้พวกเราจองแล้ว”ผู้ชายคนนั้นพูดอย่างรำคาญ
โมไนยยืนขึ้น แล้วมองไปที่พนักงาน แล้วกล่าว “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ห้องส่วนตัวนี่ผมจองแล้ว พวกเขาหมายความว่าไง?”
พนักงานอับอาย แล้วกล่าว “คืออย่างนี้ คุณสุภาพบุรุษเหล่านี้คือลูกค้าประจำของพวกเรา วันนี้ห้องส่วนตัวได้ถูกจองหมดแล้ว แต่คุณสุภาพบุรุษเหล่านี้ไม่อยากไปทานที่อื่น ดังนั้นจึง……”
“ดังนั้นจึงแย่งห้องส่วนตัวของพวกเรา?” โมไนยขมวดคิ้ว
“คุณผู้ชาย คุณเหล่านี้……” ใบหน้าของพนักงานเต็มไปด้วยความลำบากใจ แต่เขาก็ไม่กล้ยั่วโมโหคนเหล่านั้น
ผู้ชายคนนั้นดึงพนักงานไปอยู่หลังเขา แล้วชักตาไปที่โมไนย แล้วกล่าว “แม่ง จะบอกมึงไว้นะ กูเป็นคนที่สองที่ทำธุรกิจหยกใหญ่โตของอำเภอหยกนี้ ในอำเภอหยก กูจะกินข้าวที่ไหน ไม่มีใครห้ามกูได้ทั้งนั้น มึงรีบพาคนพวกนี้ออกไป มิเช่นนั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน”
โมไนยชักตาทันที แล้วกล่าว “กูเป็นคนของท่านยุด ธุรกิจหยกของมึงใหญ่เป็นอันดับสองแล้วไงวะ หรือแกกล้าเป็นศัตรูกับท่านยุด?”
เมื่อคนนั้นได้ยินคำพูดของโมไนยแล้ว ความโกรธหายไปไม่น้อย ในอำเภอหยก ก็ไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับท่านยุดจริงๆ
เขามองไปที่โมไนยอย่างสงสัย แล้วกล่าว “มึงเป็นคนของท่านยุดจริงๆหรอ?”
โมไนยยืดอก แล้วกล่าว “ถ้าจะให้ดีมึงรีบขอโทษกูซะ มิเช่นนั้น ให้ท่านยุดรู้เข้า แกจะไปไหนไม่ได้ล่ะ”
“ใช่ โมไนยเป็นคนของท่านยุด พวกแกอะเป็นใคร ยังกล้าจะมาแย่งห้องส่วนตัวกับพวกเราอีก” บจีเห็นคนพวกนั้นถูกชื่อเสียงของท่านยุดทำให้กลัวขึ้นมา ก็เริ่มยโสโอหังขึ้นมาทันที
ผู้ชายคนนั้นชำเลืองไปมองบจี แล้วไปมองโมไนย แล้วกล่าว “ลูกน้องหลายคนของท่านยุดกูรู้จักหมด ทำไมกูไม่เคยเห็นมึงวะ?”
จู่ๆโมไนยก็รู้สึกอายขึ้นมา ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ช่วยของจิรายุศ แต่ปกติแล้ว เขาก็ไม่เห็นจิรายุศ
จิรายุศก็แค่ให้เขาจัดการเรื่องของบริษัทเท่านั้น ปกติถ้าออกไปเลี้ยงสังสรรค์
หรือเกี่ยวข้องกับการรับรองแขกประเภทนี้ ก็ไม่ถึงมือเขา ดังนั้นคนพวกนี้ไม่รู้จักโมไนยก็เป็นเรื่องปกติ
ลูกน้องของท่านยุดต้องให้แกรู้จักทั้งหมดด้วยหรอ? กูบอกไว้นะถ้าจะให้ดีตอนนี้มึงขอโทษกูซะ มิเช่นนั้น กูโทรหาท่านยุดเมื่อไหร่ พวกมึงทั้งหมด อย่าคิดจะได้หนีไปไหนวันนี้” โมไนยโมโหเกรี้ยวกราด
ผู้ชายคนนั้นหัวเราอย่างเยือกเย็น แล้วกล่าว “งั้นกูก็จะรอดูมึงโทรหาท่านยุดตรงนี้นี่แหละ ถ้ามึงโทรติด พวกกูจะขอโทษมึง แต่ถ้ามึงโทรไม่ติด มึงเตรียมตัวได้เลย!”
ปรางทิพย์มองไปที่คนเหล่านั้นแล้วบึนปาก กล่าว “เหอะ ยังกล้าที่จะสงสัยในตัวแฟนฉันอีก รอตอนที่ท่านยุดมา แล้วพวกแกจะได้เห็นดีกัน”
“เหอะเหอะ ถ้าวันนี้มันเรียกท่านยุดมาไม่ได้ กูจะเอามึงกลับไป ให้ลูกน้องกูได้ลิ้มลองมึง” ผู้ชายคนนั้นเพ่งไปที่ปรางทิพย์ด้วยสายตาลามก
ปรางทิพย์มองคนพวกนั้นอย่างสะอิดสะเอียน ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
โมไนยหยิบมือถือของตนเองขึ้นมา เขาทนไม่ไหวแล้ว ยังไงวันนี้ก็ต้องสั่งสอนคนพวกนี้ให้ได้
ธีริทธิ์เพ่งไปที่โมไนย รู้สึกว่าโมไนยพึ่งไม่ได้ แล้วหันกลับไปหาอารียา “พี่สาว ผมบอกพี่เขยดีกว่า อย่าถึงเวลานั้นแล้วเกิดเรื่องขึ้นมา”
อารียาคิดๆแล้ว ก็พยักหน้าเห็นด้วย
บจีได้ยินคำพูดของธีริทธิ์ แล้วกล่าว “แกพูดกับไอ้สวะแล้วมีประโยชน์อะไร โมไนยโทรหาท่านยุดก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ถึงแม้ไอ้สวะนั่นจะมา ทำอย่างกับว่าจะช่วยพวกเราไล่พวกนี้ไปได้อย่างนั้น
ธีริทธิ์ไม่สนใจเธอ แล้วส่งข้อความไปหารพีพงษ์โดยตรง
“พี่เขย พวกเราอยู่ที่ร้านอาหารแซร์โฟ มีปัญหานิดหน่อย มีคนมาหาเรื่องพวกเรา คุณช่วยพวกเราหน่อยได้ไหม?”
“ฉันก็อยู่ร้านอาหารแซร์โฟ พวกแกอยู่ห้องส่วนตัวไหน?” รพีพงษ์ตอบกลับ
ดวงตาของธีริทธิ์เป็นประกาย ไม่คิดว่ารพีพงษ์ก็อยู่ที่ร้านอาหารแซร์โฟ ในใจก็คิดว่ารพีพงษ์จะต้องช่วยพวกเขาเคลียร์ปัญหาได้แน่ๆ
เขารีบบอกชื่อห้องส่วนตัวที่จองไว้ไป แล้วก็เล่าให้รพีพงษ์ฟังถึงประเด็นหลักๆของเรื่อง ไม่นาน รพีพงษ์ตอบกลับมา “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันให้คนไปจัดการให้”
โมไนยโทรหาจิรายุศ พูดตามตรงในใจเขาก็รู้สึกหวั่นๆ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยขอความช่วยเหลือจากจิรายุศเลย แล้วเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจิรายุศจะช่วยเขาไหม
“ขอโทษค่ะ โทรศัพท์ที่คุณโทรมาปิดเครื่อง” โมไนยได้ยินเสียงที่ออกมาจากมือถือ ร่างกายแข็งทื่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ
ยังไงเขาก็คิดไม่ถึง ว่าท่านยุดจะปิดเครื่องได้
ตอนนี้จิรายุศกำลังนั่งอยู่กับรพีพงษ์ในห้องส่วนตัวระดับท็อปของร้านอาหารแซร์โฟ เพราะกลัวคนอื่นจะรบกวน จึงได้ปิดมือถือไปเลย
ภรรยาของฉันก็กินข้าวที่นี่เหมือนกัน ห้องส่วนตัวของพวกเขาเหมือนจะมีปัญหา แกไปกับฉันหน่อยสิ”รพีพงษ์พูดกับจิรายุศ
จิรายุศยืนขึ้นทันที แล้วกล่าว “ยังมีคนกล้าหาเรื่องพี่สะใภ้ผมด้วยหรอ ผมจะไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่!”
จากนั้นรพีพงษ์และจิรายุศก็เดินไปพร้อมกัน
อารียาอยู่ในห้องส่วนตัว โมไนยมองไปที่ผู้ชายพวกนั้นที่อยู่ตรงหน้าตัวเองอย่างหน้าเสีย ตอนนี้ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
“มึงแม่งโทรติดยังวะ มึงแข็งทื่ออยู่นี่นานไปล่ะ ไม่เห็นมึงจะมีปฏิกิริยาอะไรเลยหวะ” ผู้ชายคนนั้นพูดอย่างรำคาญ
ปรางทิพย์ยืนขึ้นทันที แล้วกล่าว “หรือพวกแกคิดว่าแฟนฉันโทรหาท่านยุดไม่ติดหรือไง? ฉันขอล่ะให้พวกแกรีบออกไปซะ ไม่งั้นอีกแป็บท่านยุดมาถึง พวกแกเสียใจก็สายเกินไปล่ะ”
ผู้ชายคนนั้นหัวเราะดูแคลน แล้วแย่งมือถือของโมไนยมา พบว่าเขาไม่แม้แต่จะโทรออก ก็โมโหขึ้นมาทันที
“แย่งแม่ มึงกล้าหลอกกู!”
ผู้ชายคนนั้นตบเข้าไปที่หน้าของโมไนยทันที แล้วโยนมือถือของเขาไปบนโต๊ะ
ปรางทิพย์ชะงัก แล้วเพิ่งไปที่มือถือของโมไนย พบว่าเขาไม่ได้โทรออกจริงๆ แต่กลับถือมือถืออยู่ตรงนั้นตั้งห้านาที
“โมไนย ทำไมคุณไม่โทรหาท่านยุด?” ปรางทิพย์ถามอย่างไม่เข้าใจ
“ท่าน ท่านยุดปิดเครื่อง วันนี้โชคร้ายจริงๆ ต้องเป็นเพราะไอ้บ้ารพีพงษ์นั่นแน่ๆ” โมไนยจับไปที่หน้าของตน ใบหน้าเต็มไปด้วยความแค้น
ครอบครัวทั้งสามที่นั่งอยู่บนโต๊ะก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที พวกเขาคิดว่าโมไนยสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ตอนนี้เพิ่งจะรู้ โมไนยไม่ได้เก่งกาจอย่างที่ทุกคนคาดเอาไว้
พวกผู้ชายเหล่านั้นเห็นโมไนยไม่มีทางเรียกท่านยุดมาได้ ก็รีบพุ่งเข้าไป แล้วไปจับเขาไว้ ต่อยเขาอย่างรุนแรงหนึ่งหมัด
“พวกแกหยุดนะ พวกเราเอาห้องส่วนตัวนี้ให้พวกแก พวกแกหยุดเดี๋ยวนี้!” บจีพูดอย่างเคร่งเครียด
“แม่งเอ้ย กล้าขู่กู เมื่อกี๊กูก็นึกว่ามึงเรียกท่านยุดมาได้ จัดการมัน!”ผู้ชายคนนั้นตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
ตอนนี้สายตาเขามองไปที่ร่างกายของอารียา ตาลุกวาว ใบหน้าสะท้อนรอยยิ้มอันลามกออกมา
“ผู้หญิงคนนี้สวยดีนะ” ผู้ชายกล่าว “หยุดให้หมด”
โมไนยเห็นทุกคนวางมือ รีบเดินถอยไปข้างหลังสองก้าว แล้วนวดๆหน้าของตัวเอง
“มึงโกหกกู ตอนแรกว่าจะสั่งสอนมึงสักหน่อย แต่ตอนนี้กูให้โอกาสมึง เพียงแค่มึงตกลงรับข้อเสนอของกู กูจะปล่อยมึงไป” ผู้ชายกล่าว
โมไนยรู้ดีว่าตอนนี้เขาจะเป็นปฏิปักษ์กับคนพวกนี้ไม่ได้ ทำได้เพียงถาม “ข้อเสนออะไร?”
ผู้ชายคนนั้นชี้ไปที่อารียา แล้วกล่าว “ให้ผู้หญิงคนนี้ไปกับกู แล้วกูจะไม่ติดใจอะไรกับพวกมึงอีก แล้วห้องส่วนตัวนี้ก็คืนให้มึง”
อารียาขมวดคิ้ว ศศินัดดาก็พูดขึ้นมา ให้ลูกสาวฉันไปกับพวกแก ฝันไปเถอะ!”
ปรางทิพย์มองซ้ายมองขวา แล้วกล่าว “ให้อารียาไปกับพวกเขาสักครั้งเถอะ พวกผู้ชายพวกนี้ก็ไม่มีทางทำอะไรเธออยู่แล้ว อาจจะแค่ให้เธอไปกินกินดื่มดื่มอะไรประมาณนั้น”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ก็แค่ดื่มดื่มเหล้า ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร” ผู้ชายหัวเราะอย่างร้ายกาจ
อารียาชักตาไปที่ปรางทิพย์อย่างโมโหเกรี้ยวกราด แล้วกล่าว “งั้นทำไมแกไม่ไปเองล่ะ?”
ปรางทิพย์ชักตาไปที่เธอ แล้วกล่าว “เค้าพูดถึงแก ฉันจะไปทำไม”
“เธอพูดถูก ฉันเลือกแก เธอไม่สวยเหมือนแก ฉันไม่ชอบ” ผู้ชายคนนั้นกล่าว
ปรางทิพย์ท่าทีเหมือนกินช็อคโกแลตรสอึเข้าไป ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดี
ธีริทธิ์รีบหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกคลิปช่วงเวลานี้ไว้ แล้วส่งให้รพีพงษ์ เพราะเกี่ยวข้องกับอารียา รพีพงษ์จะต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก
“เร็วๆ พวกมึงรีบๆปรึกษากัน ให้ผู้หญิงคนนี้ไปกับกู หรือจะให้คนของกูจัดการกับพวกมึง กูไม่มีเวลาให้พวกมึงมากนักนะ”ผู้ชายกล่าวอย่างรำคาญ
บจีรีบพูดทันทีว่าให้อารียาไปกับผู้ชายคนนี้ แต่ศศินัดดาไม่เห็นด้วย สองฝั่งทะเลาะกันขึ้นมาทันที
ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังตกลงกันไม่ได้นั้น มีพนักงานหนึ่งคนเดินเข้ามา แล้วพูดกับผู้ชายคนนั้นว่า “คุณ……คุณพี่ ข้างนอกมีคนมาหา”
“ใครมันมาหาไม่ดูตาม้าตาเรือ มาหาทำมตอนนี้” ผู้ชายด่าออกมา
พนักงานพูดข้างๆหูของผู้ชาย สีหน้าของผู้ชายคนนั้นเปลี่ยนทันที ก็ไม่สนใจเรื่องห้องส่วนตัวอีกต่ไปแล้ว แล้วรีบหันกลับเดินออกไป
รพีพงษ์และจิรายุศได้ยืนอยู่ข้างๆห้องส่วนตัวแล้ว รพีพงษ์เห็นคลิปที่ธีริทธิ์ส่งให้เขาแล้ว เห็นว่าผู้ชายคนนั้นอยากให้อารียาไปกับเขา ใบหน้าก็ถอดสีทันที
“ท่านยุด คุณก็มาที่นี่หรอ ขอโทษจริงๆ ถ้ารู้ว่าคุณอยู่นี่ ผมจะต้องเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้คุณแน่นอน” หลังจากที่ผู้ชายออกมา เห็นจิรายุศ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
จิรายุศชักตาไปที่เขา แล้วหัวเราะ “ดรณ์ มึงชั่งกล้านะ คิดไม่ถึงว่าจะกล้ามาหาเรื่องห้องส่วนตัวนี้”
ในใจของดรณ์เต้นไม่เป็นจังหวะ คิดว่าแย่แล้ว หรือท่านยุดเป็นไอ้ผู้ชายคนนั้นเรียกมาจริงๆนะ?
“ท่านยุด ผมไม่รู้จริงๆว่าไอ้ผู้ชายข้างในนั้นเป็นคนของคุณ ผมจะไปขอโทษเขาเดี๋ยวนี้”ดรณ์กล่าวอย่างเคร่งเครียด
“ผู้ชายในห้องส่วนตัวคนไหน?” จิรายุศสงสัย
“ก็ที่ใส่แว่นสูงๆผอมๆ เขาบอกว่าเขาเป็นคนของคุณ หรือท่านนยุศไม่ได้มาเพราะเขาหรอกหรอ?”ดรณ์ถาม
“อะไรคนของกู กูมากับลูกพี่กู” จิรายุศก็ไม่รู้ว่าดรณ์หมายถึงใคร แล้วตะโกนออกมา
ดรณ์ตะลึง แล้วมองไปที่รพีพงษ์ ไม่คาดคิดว่าคนนี้จะเป็นลูกพี่ของจิรายุศ แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
“กูถามมึงหน่อย เมื่อกี๊มึงลวนลามผู้หญิงในห้องส่วนตัวนั้นด้วยใช่ไหม? รพีพงษ์ถาม
ดรณ์ยิ้ม แล้วกล่าว “ข้างในมีผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งจริงๆ หรือลูกพี่อยากได้ผู้หญิงคนนั้น? ผมจะไปลากเธอออกมาเดี๋ยวนี้……”
ดรณ์ยังพูดไม่จบ รพีพงษ์ได้ตบลงไปที่หน้าเขาหนึ่งฉาด แล้วใช้เท้าถีบไปที่เป้าของดรณ์ จนเขาล้มไปนอนกับพื้น
“นั่นเมียกู” รพีพงษ์กล่าว
ใบหน้าดรณ์ถอดสี จนลืมความเจ็บปวดบนร่างกายไปเลย แล้วรีบยืนขึ้นมา แล้วคุกเข่าอยู่ข้างหน้าของรพีพงษ์ แล้วร้องขอชีวิต“ลูกพี่ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าผู้หญิงท่านนั้นมีความสัมพนธ์กับคุณแบบนี้ ถ้ารู้ ผมก็ไม่มีทางไปหาเรื่องหรอก ลูกพี่ไว้ชีวิตผมด้วย ต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้ว”
จิรายุศเตะไปที่เขาอีกหนึ่ง แล้วด่า “มึงชั่งกล้าไปแล้วนะ แม้ภรรยาของลูกพี่กูมึงก็ยังกล้าแตะ ถ้าไม่ตัดอัณฑะมึง มึงไม่น่าจะรู้ว่าตัวเองทำผิดอย่างใหญ่หลวงขนาดไหน”
“ท่านยุด ผมผิดไปแล้ว คุณช่วยผมขอร้องหน่อยได้ไหม ผมผิดไปแล้วจริงๆ” ดรณ์ยื่นมือมาตบหน้าตัวเอง แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
รพีพงษ์ชำเลืองมองเขา แล้วกล่าว “ตอนนี้เข้าไปขอโทษ ถ้าต่อไปมึงยังไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้อีก ครั้งหน้าจะตัดอวัยวะเพศของมึงล่ะ”
ดรณ์รีบพยักหน้า แล้วรีบหันหลังวิ่งเข้าห้องส่วนตัวไปขอโทษ
“พี่รพี พวกเรายังต้องเข้าไปทักทายไหม?” จิรายุศถาม
รพีพงษ์ส่ายหัว แล้วกล่าว “พวกบ้านแม่ยายเขาไม่อยากเจอฉัน ฉันไม่เข้าไปล่ะ แก้ไขปัญหาก็โอเคแล้ว”
จิรายุศพยักหน้า แล้วเดินไปที่ห้องส่วนตัวของพวกเขาพร้อมกับรพีพงษ์
“ใช่ พี่รพี ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อหมาป่าดำ เดี๋ยวอีกแป็ปจะมา อยากพบกับคุณหน่อย คุณไม่รังเกียจใช่ไหม?” จิรายุศถาม
รพีพงษ์ส่ายหัว ไม่พูดอะไร
ในห้องส่วนตัว ศศินัดดาและบจีกำลังทะเลาะกันอยู่ ในขณะนี้ดรณ์รีบวิ่งเข้ามา ทั้งคู่ก็เงียบลง
ใบหน้าของโมไนยเต็มไปด้วยความเครียด คิดว่าดรณ์จะคลุ้มคลั่งอีก
อารียก็รู้สึกหวั่นๆเช่นกัน กำลังคิดว่าจะโทรหารพีพงษ์ดีไหม
แต่ใบหน้าของธีริทธิ์กลับรู้สึกผ่อนคลาย เขาเห็นท่าทีที่เคร่งเครียดของดรณ์ ก็รู้แล้วว่าโดนจัดการมาอย่างหนัก
“วางใจได้พี่สาว ไม่มีปัญหาหรอก” ธีริทธิ์ยิ้มให้กับอารียา
อารียาเม้มปาก หยุดกังวลไม่ได้
นขณะนี้เอง ดรณ์รีบพุ่งเข้าไปคุกเข่าต่อหน้าอารียา แล้วก้มหัวให้เธอสามครั้ง แล้วกล่าว “ผมผิดไปแล้ว ขอโทษครับ พวกคุณได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ผมไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณกับท่านยุดจริงๆ ต่อไปผมไม่กล้าอีกแล้ว”