พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 175 ชรินทร์ทิพย์ที่สิ้นหวัง
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 175 ชรินทร์ทิพย์ที่สิ้นหวัง
บทที่175 ชรินทร์ทิพย์ที่สิ้นหวัง
เห็นท่าทีของอารียาที่หนักแน่นนั้น นภทีป์ก็รู้สึกจนปัญญา ตอนที่เขาพูดว่าจะไล่อารียาออกนั้น ก็ไม่ได้ให้เกียรติใดๆกับเธอ
“อารียา แกนี่มันคนอกตัญญู ตอนนี้ตระกูลฉัตรมงคลเจอวิกฤต แกแม้แต่ปัญหานี้ก็ไม่คิดที่จะช่วย คุณปู่เลี้ยงแกเสียข้าวสุกจริงๆ” ชรินทร์ทิพย์โมโหเกรี้ยวกราด
“ถูก ตระกูลฉัตรมงคลเลี้ยงไอ้คนอกตัญญูไว้” ธายุกรก็กล่าวออกมา
อารียาหัวเราะขึ้นมา เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนพวกนี้จะหน้าด้านได้ถึงขั้นนี้ เมื่อกี๊แต่ล่ะคนยังพูดว่าเธอกับตระกูลฉัตรมงคลไม่มีสัมพันธ์ใดๆต่อกันอีกต่อไป ตอนนี้กลับมาว่าเธออกตัญญู
“ชรินทร์ทิพย์ เหตุการณ์ในครั้งนี้เธอเป็นผู้ก่อเรื่องขึ้นมาเพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับฉันเลยสักนิด พูดได้ว่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่ติดร่างแหเธอไปด้วย แกยังมีหน้ามีมากล่าวหาคนอื่นอีก?”
“การตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับตระกูลฉัตรมงคล ก็เป็นแกนั่นแหละที่บีบบังคับ ตอนนี้แกกลับว่าฉันว่าอกตัญญู แต่ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณแกจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะแก เกรงว่าฉันก็ต้องช่วยแบ่งภาระแปดสิบล้านนี่ด้วยกัน”
อารียามองไปที่ชรินทร์ทิพย์อย่างหัวเราะเยาะเย้ย
ความจริงทุกคนกำลังจะว่ากล่าวอารียาตามชรินทร์ทิพย์แล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเธอ ก็กลับลำทันที ผู้ร้ายของเรื่องนี้จริงๆก็คือชรินทร์ทิพย์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับอารียาเลย
อารียาตัดความสัมพันธ์กับตระกูลฉัตรมงคล ก็เป็นเพราะชรินทร์ทิพย์บีบบังคับ เค้าไม่ออกเงิน ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ทุกคนเอาต้นเหตุของเรื่องไปที่ชรินทร์ทิพย์ทันที
“ชรินทร์ทิพย์ แกหยุดว่าคนอื่นได้แล้ว แกรีบๆบอกมาเหอะ แปดสิบล้านนี้ จะเอาไงกันแน่!”
“ใช่ อีกนิดเดียวเกือบจะถูกแกทำให้ไขว้เขวแล้ว แปดสิบล้านนี้ทำไมพวกเราต้องช่วยรวบรวม นี่เป็นความผิดของแกเอง ครอบครัวแกควรจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปขายแล้วรวบรวมเอา”
“ครึ่งค่อนชีวิตของฉันยังไม่ทันได้เสพสุขเลย ก็ต้องถูกแกตุ๋นเข้าให้แล้ว แกอย่าคิดจะเปลี่ยนเรื่องคุย!”
……
ชรินทร์ทิพย์ตกใจขึ้นมาทันที ไม่คาดคิดว่าทุกคนจะไม่ด่าอารียาเหมือนกับที่เธอด่า แต่กลับเริ่มมาว่ากล่าวเธอแล้ว
เธอมองไปที่อารียาอย่างเกลียดชัง แล้วหันไปมองทุกคน แล้วกล่าว “ตอนนี้เป็นวิกฤตของตระกูลฉัตรมงคล พวกแกควรจะเอื้อมมือเข้ามาช่วย หรือพวกแกอยากให้คุณปู๋รับผิดชอบแปดสิบล้านนี่คนเดียว?”
ทุกคนคาดไม่ถึงว่าชรินทร์ทิพย์จะหน้าด้านขนาดนี้ เกลียดเธอถึงขั้นอยากจะเอาน้ำกรอกปากให้ตายไปเลย
ศศินัดดาและศักดาทั้งคู่เห็นเหตุการณ์กลับตาลปัตร ก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที เมื่อกี๊ความตกต่ำที่เกิดจากการที่อารียาถูกไล่ออกนั้นตอนนี้ได้ถูกลบออกหมดแล้ว
“สมน้ำหน้าจริงๆ ให้พวกแกสะใจได้ ก็ให้พวกแกขมขื่นได้เช่นกัน” ศศินัดดากล่าว
อารียาไม่อยากได้ยินคนเหล่านี้ทะเลาะกันแล้ว แล้วเดินออกไปจากวิลล่าทันที
ศศินัดดาและศักดาเห็นดังนั้น ก็รีบเดินตามออกไป
ถึงแม้รู้ว่าจากไปตอนนี้นั้นค่อนข้างที่จะไม่ถูกต้องอย่างชัดเจน เพราะศักดาก็เป็นลูกชายของนภทีป์ แต่คิดดูแล้วช่วงหลายปีมานี้ของศักดาทำดีต่อครอบครัวเขา ศักดาก็ถือว่าไม่มีอะไรติดค้างแล้ว
อีกทั้งนภทีป์เป็นคนผู้เองว่าจะตัดความสัมพันธ์กับอารียา นี่ก็โทษเขาไม่ได้
ไม่สามารถร่วมสุข แต่กลับอยากให้ร่วมทุกข์ด้วยกัน นี่มันชั่งเป็นเรื่องตลกขำขันอย่างมาก
“เดี๋ยวก่อน” เห็นครอบครัวอารียาทั้งครอบครัวกำลังจะเดินออก โยษิตาก็ตะโกนออกมา
ทุกคนหันกลับไปดู ไม่รู้ว่าทำไมโยษิตาถึงให้อารียาหยุดรอก่อน
ชรินทร์ทิพย์และธายุกรเห็นเหตุการณ์นี้ ก็หัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา
“เค้าจะต้องหาเรื่องเธอเป็นแน่ เธอคิดว่าตัดความสัมพันธ์กับพวกเราแล้วจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วหรอ ฝันไปเถอะ” ชรินทร์ทิพย์กล่าว
ตอนนี้เธอถึงจุดที่หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าอารียาโชคร้ายเฉกเช่นเดียวกับเธอล่ะก็ เธอจะมีความสุขอย่างมาก
“หวังว่าคนของตระกูลลัดดาวัลย์จะไม่ปล่อยเธอไป ไม่งั้นถ้าเธอผ่านเรื่องนี้ไปได้ ก็ง่ายเกินไปสำหรับเธอแล้ว” ธายุกรกัดฟันแล้วกล่าว
อารียามองโยษิตา ไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร แต่เธอรู้เพียงว่าความสัมพันธ์ของรพีพงษ์และโยษิตานั้นไม่สามารถพูดตามใจได้ ดังนั้นจึงทำเป็นไม่รู้จักโยษิตา
ศศินัดดาจริงใจร้อนรุ่ม เธอยังกลัวผู้หญิงที่ตอนแรกตบเธอไปหนึ่งฉาดนี้อยู่ เห็นโยษิตาเรียกให้พวกเขาอยู่ก่อน ในใจของเธอก็ตกใจชะงักงัน
โยษิตาเห็นมองอย่างเป็นมิตร หัวเราะพลางกล่าว “ฉันมองเธอแล้วเจริญหูเจริญตามาก วัตถุโบราณเหล่านี้ ให้เธอล่ะกัน”
เมื่อธายุกรพวกนั้นที่เตรียมตัวจะหัวเราะเยาะเย้ยได้ยินคำพูดขอโยษิตาแล้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นด้านชาขึ้นมาทันที ใบหน้าของแต่ล่ะคนเริ่มดูไม่ดี
วัตถุโบราณที่ล้ำค่าเหล่านี้ล้วนราคาไม่ต่ำกว่าร้อยล้านทั้งนั้น ชรินทร์ทิพย์ขายไปสองชิ้น อยากได้คืนมา ต้องแลกกับเงินแปดสิบล้าน ตระกูลฉัตรมงคลทุกคนต้องโชคร้ายไปตามๆกัน
แต่ทว่าคำพูดเดียวของโยษิตา ที่จะมอบวัตถุโบราณเหล่านี้ให้กับอารียา ทำให้ในใจพวกเขารู้สึกไม่สงบขึ้นมาทันใด
ตอนแรกพวกเขาคิดว่า อารียาถูกไล่ออกจากตระกูลฉัตรมงคลนั้น ชีวิตในภายภาคหน้าจะต้องสาหัดสากันอย่างแน่นอน
แต่ความพยายามในพริบตาเดียวนั้น อารียาไม่เพียงแค่ไม่ต้องรับผิดชอบแปดสิบล้านนี้ แล้วยังได้รับวัตถุโบราณที่ล้ำค่ามากมายขนาดนี้ นี่เทียบกับพวกเขาแล้ว ต่างกันราวกับฟ้าราวกับเหวกันเลยทีเดียว
“มี……มีสิทธิ์อะไร คุณไม่ใช่พูดว่าฉันไม่คู่ควรกับของเหล่านี้ไม่ใช่หรอ เธอก็เป็นคนของตระกูลฉัตรมงคลเหมือนกัน คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะเอาของเหล่านี้ให้เธอ?” ชรินทร์ทิพย์ตาแดงกล่ำแล้วพูด
โยษิตาหันไปมองเธอ แล้วกล่าว “แกไม่คู่ควรจริงๆ แต่ฉันไม่เคยพูดว่าเธอไม่คู่ควรหนิ ถ้าเด็กผู้หญิงคนนี้กับเธอยืนอยู่ด้วยกัน มาเปรียบเทียบกัน หรือแกจะสงสัยในดวงตาที่เฉียบแหลมในการดูคนของฉัน?”
ชรินทร์ทิพย์หมดคำพูดในทันที เธอรับรู้ได้ถึงความพ่ายแพ้ลึกๆในจิตใจ เธอแข่งกับอารียามานานหลายปี แม้อารียาจะแต่งกับไอ้สวะรพีพงษ์นั่น เธอก็ยังคงเทียบกับอารียาไม่ได้
อารียามองไปยังวัตถุโบราณเหล่านั้น ครุ่นคิดอยู่สักพัก เวลานี้ศศินัดดารีบยืนข้างหน้า แล้วกล่าว “งั้นฉันก็ขอบคุณคุณแทนลูกสาวฉันล่ะกัน”
โยษิตาให้บอดี้การ์ดสองสามคนนำเอาวัตถุโบราณนั้นช่วยถือไปให้อารียา ศศินัดดากลัวว่าอารียาจะไม่เอา จึงรีบดึงแขนเธอเดินออกไป บอดี้การ์ดพวกนั้นก็เดินตามกันออกไป
รอให้อารียาออกไปแล้ว โยษิตาก็หันกลับไปดูทุกคนในตระกูลฉัตรมงคล แล้วกล่าว “ฉันให้เวลาพวกแกหนึ่งวัน ถ้าหลังจากหนึ่งวันแล้ว ฉันยังไม่เห็นวัตถุโบราณสองชิ้นนั้น ตระกูลฉัตรมงคลของพวกแก ก็รอถูกลบชื่อออกจากเมืองริเวอร์ได้เลย
พูดจบ เธอก็หันหลังเดินออกไป
ตอนนี้ทุกคนของตระกูลฉัตรมงคลได้ล้อมครอบครัวชรินทร์ทิพย์เอาไว้ แล้วก็โจมตีขับไล่พวกเขาไม่หยุด
ชรินทร์ทิพย์ถูกคนพวกนี้พูดจนรำคาญ แล้วตะโกนออกมาว่า “คุณปู่พูดแล้ว เงินเหล่านี้ทุกคนช่วยๆกันรวบรวม แล้วพวกแกมาเพ่งแต่ครอบครัวฉันทำไม”
“ปัญหานี้เป็นสิ่งที่แกสร้างขึ้นมา แกมั่นหน้าอยู่ตรงนี้อีก” มีคนกล่าวออกมา
“ในบัตรฉันมีสิบล้านกว่า ฉันออกเยอะขนาดนี้แล้ว ที่เหลือพวกแกรวบรวมล่ะกัน” ชรินทร์ทิพย์นำบัตรนั้นของเธอออกมา
“แกจะบ้าหรอ! นี่เป็นเงินที่แกขายวัตถุโบราณไป ยังไงก็ต้องเอาออกมา” อีกคนตะโกนขึ้นมาอีก
“ยังไงครอบครัวฉันก็มีเงินเท่านี้แหละ พวกแกจะทำไงก็ทำ” ชรินทร์ทิพย์กล่าวด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งความกลัวใดๆ
พรภาและคิมหัตต์ทั้งคู่รู้สึกว่าชรินทร์ทิพย์พูดแบบนี้ก็ไม่ค่อยเหมาะสม แต่จะห้ามก็สายเกินไปแล้ว
“ในเมื่อแกหน้าด้านขนาดนี้ งั้นก็อย่าว่าพวกเราไม่เกรงใจล่ะกัน ครั้งที่แล้วพ่อแกพูดกับฉันว่า เขาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สามล้านกว่า ให้เขาเอาเงินนี้ออกมา!”
ใบหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แล้วเริ่มพูดถึงทรัพย์สินที่ครอบครัวชรินทร์ทิพย์แอบเอาไว้
“ร้านที่ถนนศิวิไลซ์ของครอบครัวแก ต้องขาย!”
“วันนั้นแม่แกบอกฉันว่าบ้านหลังเก่าของพวกแกขายได้ล้านกว่า เงินก้อนนี้ต้องเอาออกมา”
“แล้วยังมีเครื่องประดับบนตัวแกอีก ขายออกให้หมด”
“วันนั้นพ่อแกบอกฉันว่าบ้านแกยังเก็บพระเลี่ยมทองเอาไว้ ตอนนี้ต้องเอาออกมาจำนำ!”
……
ชรินทร์ทิพย์มึนงงขึ้นมาทันที แม้แต่เธอก็ไม่รู้ว่าในครอบครัวเธอยังมีทรัพย์สินมากมายขนาดนี้
นภทีป์ก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย ไม่คิดก็พอจะรู้ ทรัพย์สินพวกนี้ ต้องเป็นสิ่งที่คิมหัตต์แอบขโมยออกจากตระกูลฉัตรมงคลแน่ๆ
สีหน้าเขาบึ้งตึง แล้วกล่าว “ทำตามที่พวกเขาพูด ปัญหานี้แกเป็นคนก่อ เอาสิ่งของที่มีค่าของครอบครัวแกไปขายก่อน เหลือเท่าไหร่ค่อยให้ทุกคนช่วยรวบรวม”
คิมหัตต์มองไปที่ชรินทร์ทิพย์อย่างไม่สบอารมณ์กับการกระทำของเธอ ถ้าตอนนั้นเธอพูดจาสุภาพสักหน่อย ก็น่าจะไม่จบแบบนี้
เค้าตบไปบนหน้าของชรินทร์ทิพย์โดยตรง แล้วด่าว่า “แกนี่มันไร้สมองจริงๆ ตอนนี้เป็นเพราะแก ครอบครัวของเราจะไม่มีอะไรกินกันอยู่แล้ว!”
ชรินทร์ทิพย์เกิดความมึนงง เธอคิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะเล่นงานครอบครัวของเธอ เมื่อนึกถึงหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว ครอบครัวของเธอก็จะไม่เหลืออะไรซักอย่าง ในใจของชรินทร์ทิพย์เครียดขึ้นมาทันที
แม้ว่าตอนนี้เสียใจ แต่ก็สายไปเสียแล้ว
หลังจากที่อารียาเดินออกจากวิลล่าของตระกูลฉัตรมงคลแล้ว ก็เดินไปทางที่รพีพงษ์อยู่
รพีพงษ์นั่งอยู่บนที่นั่ง ไม่รู้สึกเนื้อไม่รู้สึกตัวก็หลับไป อารียาเคาะกระจกเขาจึงตื่นขึ้นมา
ลงมาจากรถ รพีพงษ์มองไปที่อารียา แล้วถาม “ เสร็จแล้วหรอ?”
อารียาพยักหน้า จากนั้นรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ อดไม่ได้ที่จะกอดรพีพงษ์ แล้วกล่าว “ ฉันกับพวกเขาตัดขาดความสัมพันธ์กันแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรื่องของตระกูลฉัตรมงคล ก็จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันอีก”
รพีพงษ์ โอบกอดอารียาไว้ แล้วกล่าว “ ไม่เป็นไรนะ คุณมีผมอยู่ จะไม่ให้คุณไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมใดๆ”
อารียาพยักหน้าอย่างจริงจัง ไม่เกิดความสงสัยในคำพูดของรพีพงษ์แต่อย่างใด
“พวกแกหยุดสวีทกันตรงนี้จะได้ไหม รีบเอาของพวกนี้วางบนรถให้ฉันโดยเร็ว” ศศินัดดาพึมพำ
รพีพงษ์มองไป พบว่าบนพื้นได้วางวัตถุโบราณเหล่านั้นที่ตอนแรกตระกูลลัดดาวัลย์ได้ให้ไป รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย แล้วกล่าว “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
อารียาทั้งเอาวัตถุโบราณเหล่านั้นวางไว้บนรถ ทั้งยังเล่าให้รพีพงษ์ฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวิลล่า
หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินแล้ว หัวเราะพลางกล่าว “ นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาทำผิดแล้วต้องได้รับผลกรรมนั้น ครั้งนี้ชรินทร์ทิพย์ต้องไม่กล้าที่จะโวยวายอีกเป็นแน่
อารียาไม่ได้ใส่ใจในผลลัพธ์ที่ชรินทร์ทิพย์ได้รับ แต่กลับใส่ใจในความจริงเรื่องที่รพีพงษ์เป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์
“คุณ……คุณคือคนของตระกูลลัดดาวัลย์จริงหรือ?” อารียากล่าว
รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าว “ รอให้กลับไปก่อนแล้วฉันจะบอกให้เธอฟัง เรื่องนี้ห้ามให้พ่อกับแม่รู้” อารียาพยักหน้า แล้วนั่งลงบนรถ
วันนี้ ศศินัดดาอารมณ์ดี ดังนั้นจึงไม่ได้หาเรื่องรพีพงษ์ ตอนเดินทางกลับหัวเราะไม่หยุดตลอดทาง
ขณะนี้เธอนึกถึงครั้งที่แล้วที่โยษิตาไปบ้านของพวกเขาขึ้นมา ไปหารพีพงษ์ เธอรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นในใจ แล้วถามรพีพงษ์ “รพีพงษ์ คนของตระกูลลัดดาวัลย์ที่ไปวิลล่าในวันนี้ก็คือคนครั้งที่แล้วที่ไปหาแก แกกับเธอเป็นอะไรกัน?”