พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 171 ของข้างทางทั้งนั้น
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 171 ของข้างทางทั้งนั้น
บทที่171 ของข้างทางทั้งนั้น
ดงเย็น ในวิลล่าของบ้านรพีพงษ์
ศศินัดดาและแม่ของเจน พรภากำลังนั่งอยู่ด้วยกัน
บนคอของพรภากำลังใส่สร้อยทองเส้นหนึ่ง บนข้อมือและนิ้วมือใส่เครื่องประดับที่เป็นทองประกายทั้งนั้น แลดูมีชีวิตชีวา
ศศินัดดานั่งบนโซฟา ด้วยความอับอายเต็มบนในหน้า บนร่างกายของเธอแม้แต่เครื่องประดับสักอย่างยังไม่มี เทียบกับพรภาแล้ว แสดงออกอย่างชัดเจนว่าติดดินมากๆ
“นัดดา ฉันจะบอกอะไรให้เธอรู้ ตอนนี้เจนกตัญญูต่อฉันจริงๆ ไม่เพียงซื้อเครื่องประดับมากมายขนาดนี้ให้ฉัน ยังวางแผนก็ซื้อวิลล่าสักหลังข้างๆพวกเธอ พวกเราวางแผนว่ารอให้ครั้งนี้ตระกูลลัดดาวัลย์มาสู่ขอก่อน แล้วจึงซื้อวิลล่า ยังไงในอนาคตเจนของฉันก็ต้องเป็นคนที่แต่งเข้าครอบครัวเศรษฐีอยู่แล้ว ที่อยู่อาศัยจะแย่ไม่ได้ คุณว่าไหม” พรภากล่าวอย่างภูมิใจ
ศศินัดดารีบพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ใช่ใช่ ควรจะซื้อสักหลังจริงๆ”
พรภากำลังมองท่าทีอับอายขายหน้าของศศินัดดา ในใจก็เกือบจะหัวเราะออกมา ก่อนหน้านี้ตอนที่ศศินัดดาจะซื้อวิลล่านั้น ตอนนี้เธอยังจำท่าทีที่อวดเก่งของศศินัดดาได้
ตอนนี้เห็นสภาพของศศินัดดาแล้ว ในใจพรภาก็รู้สึกได้ผ่อนคลายความโกรธลงบ้าง
“เออใช่ ให้คุณดูหยกนี่ของฉัน อันนี้ซื้อจากร้านเครื่องประดับที่แพงที่สุดของเมืองริเวอร์ของเราเลยนะ ฉันจำได้ว่าร้านนั้นน่าจะชื่อร้านเครื่องประดับแสงดาว เครื่องประดับที่นั่นล้วนแต่เป็นพวกระดับท็อปทั้งนั้นเลยนะ หยกอันนี้ของฉันราคาหลายแสนเลยนะถึงจะซื้อมาได้
พรภาเห็นศศินัดดาไม่พูดกับเธอเรื่องวิลล่า ก็เลยกลับไปคุยเรื่องเครื่องประดับของตัวเองต่อ
ร้านเครื่องประดับแสงดาวที่เธอกล่าวถึงนั้น ก็คือร้านที่วันนี้รพีพงษ์พวกเขาไปมาพอดี
หลังจากที่ศศินัดดาได้ฟังคำพูดของพรภาแล้วก็ตาโตขึ้นมาทันที คาดคิดไม่ถึงว่าหยกนี้จะราคาหลายแสน
“เธอนี่ชีวิตดีจังนะ มีลูกสาวที่ดีอย่างเจน อีกไม่นานก็จะแต่งเข้าตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว ชั่งน่าอิจฉาจริงๆ ฉันไม่ได้แล้ว มีลูกเขยสวะอย่างรพีพงษ์ แม้แต่เครื่องประดับแบบนี้ยังไม่มีเลย” ศศินัดดากล่าวอย่างไม่มีทางเลือก
ได้เห็นท่าทีนี้ของศศินัดดา ในใจพรภายิ่งสะใจ สิ่งที่เธออยากได้ยินที่สุด ก็คือศศินัดดาเห็นพ้องกับคำพูดของเธอ
“ก็โอเคนะ เจนก็ถือว่าโชคดี หากไม่ใช่เพราะอารีของเธอแต่งกับรพีพงษ์ บางทีตระกูลลัดดาวัลย์เค้าอาจจะชอบเธอก็ได้” พรภาตั้งใจพูดออกมา
ศศินัดดาถอนหายใจอย่างเสียอารมณ์ ถึงแม้รู้ว่าครั้งนี้พรภาตั้งใจบีบเธอ แต่ในใจเธอก็รู้สึกว่าถ้าอารียาไม่แต่งงานกับรพีพงษ์จริงๆล่ะก็ คนที่ตระกูลลัดดาวัลย์หมายปองนั้น ต้องเป็นลูกสาวของเธอแน่ๆ
“ใช่ล่ะ อารีล่ะ ทำไมไม่เห็นเธอ” พรภาถาม
“ตอนนั้นรพีพงษ์บอกว่าจะพาอารีไปซื้อเครื่องประดับให้ได้ ยังไม่กลับมาเลย คุณว่าสวะอย่างเขา จะซื้อของดีๆอะไรกลับมาได้ ฉันล่ะเบื่อที่จะว่าเขาล่ะ” ศศินัดดากล่าว
พรภาแสดงออกถึงจิตใจที่รังเกียจทันที แล้วกล่าว “ก็จริงอยู่ ไม่มีอะไรดีจริงๆ เขาคงไม่พาอารีไปซื้อของริมถนนหรอกนะ นี่ลดคุณค่าของตระกูลเราลงเลยนะ”
“ถูก รอให้พวกเขากลับมา ฉันจะว่าเขาไม่หยุด” ศศินัดดากล่าว
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตนเองไม่มีความมั่นใจเอามากๆ ทำได้เพียงคล้อยตามคำพูดพรภา
“ใช่ จู่ๆฉันก็นึกออก ช่วงนี้เจนของฉันวางแผนจะซื้อรถอยู่นะ ได้ยินมาว่ารถคันนั้นของครอบครัวเธอราคาหนึ่งล้านกว่า? เจนของฉันคิดว่าจะซื้อเบนท์ลี่ย์สักคน ถูกที่สุดก็สองล้านกว่านะ” พรภากล่าวต่อ
ศศินัดดาเกลียดจนอยากจะขุดหลุมเจาะดินหนีแล้ว ที่พรภามานี้ก็ตั้งใจที่จะมายั่วโมโหเธอ นั่งอยู่ตรงนี้สักพัก เธอรู้สึกว่าตอนเองไม่ว่าจะเรื่องไหนก็เทียบกับพรภาไม่ได้
“แม่ พวกเรากลับมาแล้ว คุณช่วยออกมาถือของให้พวกเราหน่อย “ตอนนี้มีเสียงของอารียาดังออกมาจากนอกวิลล่า
ศศินัดดารีบยืนขึ้น ราวกับได้พบดวงดาวแห่งการช่วยเหลืออย่างไรอย่างนั้น แล้วรีบเดินออกไปข้างนอก
ความจริงพรภายังอยากจะพูดกับอีกสักหน่อยว่าพวกเธอกำลังจะซื้อรถ ศศินัดดาออกไปแล้ว ก็ทำได้แค่หุบปากเท่านั้น
ความจริงเรื่องการซื้อรถก็แค่ชรินทร์ทิพย์วันนั้นเอ่ยปากขึ้นมาเฉยๆเท่านั้นเอง วันนั้นพวกเขาผ่านโชว์รูมรถยนต์พอดี ก็เข้าไปดูข้างในสักหน่อย ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะซื้อจริงๆ
พรภาพูดแบบนี้ ก็แค่อยากให้ศศินัดดาอิจฉาเท่านั้น
“ไปดูว่าไอ้สวะรพีพงษ์ซื้ออะไรมาบ้าง แล้วก็ฉวยโอกาสหัวเราะเยาะเย้ยพวกเขาไปด้วยเลย”
พรภาพึมพำ จากนั้นก็ยืนขึ้น แล้วเดินออกไปนอกวิลล่า
หลังจากที่ศศินัดดาถึงด้านนอกแล้ว เห็นรถที่จอดอยู่ด้านนอกไม่ใช่ของครอบครัวเธอ ก็นิ่งไปสักพัก
ตอนนี้พรภาก็เดินตามออกมา หลังจากที่เธอเห็นรถปอร์เช่คันนั้นที่จอดอยู่ที่ประตูแล้ว ก็ตกใจตาลุกวาวขึ้นมาทันที
รถคันนี้ เหมือนกับรถวันนั้นที่เธอเห็นที่โชว์รูมรถนั้นเลย พนักงานของโชว์รูมบอกกับเธอว่ารถคันนี้คือปอร์เช่911 แล้วยังเป็นรถรุ่นท็อป ราคาสี่ล้านกว่า
รถคันนั้นของครอบครัวศศินัดดาไม่ใช่เลนจ์โลเวอร์ราคาล้านกว่าบาทหรอ? ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นปอร์เช่สี่ล้านกว่าแล้วล่ะ?
พรภารู้สึกว่าสมองตัวเองเริ่มไม่ทำงาน
ใบหน้าของศศินัดดาก็เต็มไปด้วยความมึนงง ไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?
แล้วเธอก็ไม่รู้ราคาของเราคันนี้ด้วย ในใจคิดว่ารพีพงษ์ได้พังรถคันนั้นทิ้งแล้วแน่ๆ แล้วเปลี่ยนรถที่ถูกกว่ากลับมา
“รพีพงษ์ รถนี้ทำไมเปลี่ยนแล้ว แกทำรถคันนั้นเสียแล้วใช่ไหม แล้วเปลี่ยนเอาของถูกกลับมา?” ศศินัดดารีบชักตาแล้วกล่าว
รพีพงษ์มองไปที่อารียา แล้วกล่าว “รถคันนั้นมีปัญหานิดหน่อย ดังนั้นผมจึงเปลี่ยนเป็นรถคันนี้เลย”
“แกนี่มันไม่เอาถ่านจริงๆ รถคันนั้นเป็นรถหรูราคาล้านกว่าเลยนะ รถห่วยแตกนี่จะราคาเท่าไหร่เชียว แกเอารถคันนั้นคืนกลับมาให้ฉันนะ!” ศศินัดดาโมโหเกรี้ยวกราด
พรภามองไปที่ศศินัดดา แล้วกล่าว “นัดดา เธอเป็นบ้าอะไร นี่มันปอร์เช่911เลยนะ ตั้งสี่ล้านกว่า รถของครอบครัวเธอคันก่อนนั้นแค่ล้านกว่าเอง”
ศศินัดดาตะลึงไปสักครู่ แล้วหายใจอย่างตื่นตระหนกออกมา พูดอย่างตกใจว่า “อะไรนะ? รถคันนี้สี่ล้านกว่า?!!”
พรภาพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก แต่สีหน้าเริ่มเปลี่ยนไป
ครอบครัวเธอก็แค่พูดว่าวางแผนจะซื้อรถสักคัน แต่เพราะไม่อยากใช้เงิน เลยไม่ซื้อ ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะขับกลับมา นี่ทำให้เธอรู้สึกจิตใจไม่สงบเป็นอย่างมาก
“อารี รถคันนี้มันมีที่มาที่ไปยังไง? รถคันนี้เป็นของครอบครัวเรา?” ศศินัดดามองไปที่อารียา
อารียามองไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “ฉันไม่รู้จะอธิบายคุณยังไงดี แต่ต่อไปรถของเราเปลี่ยนเป็นคันนี้แล้วจริงๆ”
ศศินัดดาเปลี่ยนเป็นยิ้มมีความสุขทันที แล้วหันไปพูดกับพรภา “เธอดูลูกคนนี้สิ ไม่คิดที่จะประหยัดเลย ออกไปหนึ่งครั้งก็เปลี่ยรรถกลับมาซะงั้น ฟุ่มเฟือยจริงๆเลย”
พรภาหัวเราะอย่างเยือกเย็นเต็มใบหน้า ดูออกชัดเจนว่าไม่มีความสุขเป็นอย่างมาก
“ลูกสาว เมื่อกี๊เธอบอกให้ฉันมาช่วยเธอถือของ ถืออะไรหรอ” ศศินัดดาหัวเราะแล้วเดินไปที่รถตรงนั้น
อารียาเอาเครื่องประดับที่อยู่ในกล่องเหล่านั้นหยิบออกมาทันที แล้วส่งให้ศศินัดดา
ศศินัดดาดูไปที่กระเป๋าใบใหญ่ใบน้อยนั้น ในใจคิดของพวกนี้ต้องเป็นของข้างถนนแน่ๆ ไม่งั้นไม่มีทางซื้อมามากขนาดนี้ได้หรอก
“รพีพงษ์ ครั้งหน้าแกอย่างซื้อของข้างถนนกลับมาบ้านได้ไหม ถึงแม้มันไม่มีราคาแต่แกก็อย่าเก็บๆไว้แล้วเอามาวางที่บ้านสิ” ศศนัดดากล่าวอย่างไม่พอใจ
“แม่ คุณพูดอะไรของเหล่านี้ราคาแพงนะ คุณต้องถือให้ดี อย่าให้ร่วงหล่นล่ะ” อารียาเตือน
ศศินัดดาบึนปากแล้วบึนปากอีก แล้วกล่าว “ของที่เขาซื้อ มันจะแพงได้ไง ฉันเห็นมันก็แค่ของริมถนนที่ราคาสิบยี่สิบหยวนทั้งนั้น แล้วยังเอากลับมาเยอะขนาดนี้”
ขณะพูด ศศินัดดาก็ถือของเดินเข้าไปในวิลล่า
นึกขึ้นได้ว่าพรภายังดูอยู่ตรงนี้ ศศินัดดารู้สึกเสียศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก
พรภาได้ยินศศินัดดาว่ารพีพงษ์เรื่องซื้อของข้างทางกลับมาบ้าน ในใจก็รู้สึกดีขึ้นมานิดนึง
“ฉันช่วยคุณถือล่ะกัน ซื้อมาเยอะขนาดนี้เลยหรอ ครั้งนี้รพีพงษ์คงจ่ายหนักมากเลยนะ” พรภาหัวเราะพลางกล่าว
“ไม่ต้องไม่ต้อง เป็นของที่ไม่มีราคาทั้งนั้น นับถือไอ้สวะนี่จริงๆ ของแบบนี้เอามาไว้ที่บ้านทำไมตั้งมากมาย เขาคงคิดว่าฉันจะไม่มีใส่จริงๆสินะ” ศศินัดดาพึมพำ
พรภาเพ่งมองไปที่ถุงเหล่านั้น หลังจากที่มองเห็นโลโก้ที่ติดอยู่บนนั้นเหมือนกับโลโก้ที่ชรินทร์ทิพย์ซื้อหยกให้เธอแล้ว ทันใดนั้นแววตาก็ลุกวาวขึ้นมา
“น่ารำคาญจริงๆ ฉันว่าของพวกนี้โยนลงถังขยะไปเลยจะดีกว่า ดีกว่าเอาเข้าไปในบ้านทำลายสายตาของฉัน” ศศินัดดารู็สึกอับอายขายหน้าคน เอาหยิบเอาถุงพวกนั้นโยนทิ้งขยะไปทันที
พรภารีบเอ่ยปาก “เดี๋ยวก่อน!”
ศศินัดดามองไปที่พรภา แล้วกล่าว “พรภา คุณอย่าหัวเราะพวกเราอีกเลย รพีพงษ์เป็นคนยังไงคุณก็รู้ๆอยู่ ของพวกนี้ฉันไม่ให้เขาซื้อเขาก็จะซื้อมาให้ได้”
พรภากำลังเพ่งไปที่โลโก้บนถุงอย่างตั้งใจดู กล่าวอย่างตกใจว่า “นี่มันเครื่องประดับของร้านเครื่องประดับแสงดาวทั้งนั้นนี่ ดูแล้วไม่เหมือนของปลอมนะ ข้างบนนี้ยังมีป้ายห้อยด้วยนะ เครื่องประดับนี้ราคาสองแสนกว่าเลยนะ”
ศศินัดดาตะลึงขึ้นมา แล้วรีบก้มหน้ามองลงไปดูป้ายห้อยบนถุงเหล่านั้น พบว่าสิ่งของเหล่านั้นมีราคาสองสามแสนทั้งนั้น ไม่มีอันไหนราคาต่ำกว่าหนึ่งแสนเลย
“นี่เป็นของจริงทั้งหมดเลยหรอ? ถ้าเป็นของจริงทั้งหมด งั้นรวมๆก็เป็นราคาล้านกว่าๆเลยอ่ะสิ?” พรภากล่าวด้วยใบหน้าที่ตะลึง
หน้าของศศินัดดาก็ดูมึนงงไปตามๆกัน เธอรีบขว้าถุงเหล่านั้นอย่างแน่นๆ ในใจยังแอบๆหวั่น หากเมื่อกีธเธอเอาถุงเหล่านี้โยนลงไปในถังขยะจริง ก็เหมือนกับโยนสิ่งของในราคาหลักล้านทิ้งเลยนะ
ศศินัดดาหันไปมองอารียาและรพีพงษ์ แล้วกล่าว “ของเหล่านี้ ราคาสูงขนาดนั้นจริงหรอ?”
อารียาถือถุงที่เหลืออยู่เข้ามา แล้วกล่าว “ไม่งั้นล่ะ ถ้าคุณอยากจะโยนพวกมันทิ้ง ก็โยนไปเถอะ ยังไงข้างในก็มีของไม่น้อยที่ซื้อให้คุณ”
ศศินัดดาหายใจลึกๆ ยังไงเธอก็คิดไม่ถึง รพีพงษ์กับอารียาจะซื้อของที่แพงมากมายขนาดนี้กลับมา เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันไป
“พรภา คุณช่วยฉันดูหน่อยสิ นี่เป็นร้านเครื่องประดับที่เธอบอกว่าชื่อแสงดาวอะไรนั่นไหม? คงไม่ใช่ของปลอมหรอกนะ ไม่แน่รพีพงษ์อาจจะซื้อมาหลอกๆฉันก็ได้นะ” ศศินัดดากล่าว
ในใจพรภาก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย แล้วรับถุงหนึ่งใบมาทันที แล้วมองของที่อยู่ในถุง หลังจากที่เห็นสัญลักษณ์ห้ามลอกเลียนแบบข้างบนเหมือนกับหยกอันนั้นของเธอแล้ว ร่างกายก็ชะงักสักครู่
“จริง……ของจริง ของเหล่านี้เป็นของจริงทั้งนั้น ปลอมไม่ได้” พรภากล่าว
ศศินัดดาตื่นเต้นขึ้นมาทันที ไม่คาดคิดว่าของเหล่านี้จะราคาแพงได้ขนาดนี้ รีบกอดถุงเหล่านั้นเอาไว้แน่นๆแล้วเดินเข้าไปในวิลล่า
รพีพงษ์และอารียาก็เดินตามเข้าไปในวิลล่า แล้วยังเรียกพรภาที่ยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นให้เดินเข้าไปพร้อมกันด้วย
ศศินัดดานำถุงเหล่านั้นทั้งหมดเปิดออกมาดู แล้วเอาเครื่องประดับในนั้นออกมาดูทั้งหมด หลังจากได้ดูเครื่องประดับที่สวยงามอย่างหาที่เปรียบเหล่านั้นไม่ได้แล้ว ดวงตาสองข้างของศศินัดดาไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆ
“ของเหล่านี้รพีพงษ์เป็นคนซื้อทั้งหมด?” ศศินัดดาถาม
อารียามองไปที่รพีพงษ์ แล้วพยักหน้า
ตอนขากลับรพีพงษ์ได้เน้นย้ำอารียาว่าห้ามพูดเรื่องของโยษิตาออกมา ดังนั้นอารียาจุงพูดว่าของเหล่านี้รพีพงษ์เป็นผู้ซื้อ โยษิตาให้หรือรพีพงษ์ซื้อ ในสายตาของอารียา ก็มองว่าไม่ต่างกัน
ใบหน้าของศศินัดดาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ แล้วกล่าว “อารี แกกำลังหลอกฉันอีกแล้ว เขาจะซื้อของแพงแบบนี้ได้ยังไง?”
“คุณจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ คุณก็ไม่เชื่อว่ารพีพงษ์ซื้อรถซื้อวิลล่าได้ ก็ไม่ใช่ว่าซื้อมาแล้วหรอ” อารียากล่าว
ศศินัดดาคิดดูก็จริงอยู่ รพีพงษ์จะต้องมีเงินซ่อนไว้อีกมากมายเป็นแน่ ดังนั้นเธอก็ไม่สงสัยอะไรอีก
เมื่อมีของเหล่านี้แล้ว ศศินัดดาก็สะใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เธอมองไปที่พรภา แล้วกล่าว “พรภา รีบมาดูหยกนี่ของฉันเร็ว สองแสนกว่า เทียบกับอันนั้นของเธอ น่าจะไม่ดีเท่าของเธอนะ”
ใบหน้าพรภาเต็มไปด้วยความอับอาย หยกนั้นของเธอก็แค่แสนกว่าๆ แย่กว่าของศศินัดดามาก
ขณะนี้ ตำแหน่งระหว่างเธอทั้งคู่เริ่มมีการสับเปลี่ยนอีกครั้ง ครั้งนี้ศศินัดดาเป็นฝ่ายได้เปรียบแล้ว
ในใจพรภาได้แต่กัดฟันไว้ ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะซื้อของแพงเหล่านี้ได้ ในใจคิดว่าเงินเหล่านี้ต้องมาจากการที่อารียาทำงานเก็บสะสมไว้แน่ๆ
แล้วเธอยังสงสัยอีกว่าศศินัดดาตั้งใจแกล้งโง่ เสแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่ารพีพงษ์จะซื้อของเหล่านี้กลับมา เพียงเพราะจะหัวเราะเยาะเย้ยเธอ
ผ่านไปไม่นาน พรภาก็อยู่ไม่ได้แล้ว รีบหาเหตุผลออกจากวิลล่า
ศศินัดดาเต็มไปด้วยความสะใจ แม้แต่ตนเองก็คิดไม่ถึง วันนี้จะเกิดสถานการณ์กลับกันเช่นกัน เหมือนตบหน้าพรภาอย่างรุนแรง
“ลูกสาว ต่างหูคู่นี้ไม่เลว ฉันขอนะ” ศศินัดดาหยิบต่างหูหนึ่งคู่ไป
รพีพงษ์เห็นดังนั้น รีบแย่งกลับมาทันที แล้วกล่าว “อารียาชอบต่างหูคู่นี้ อย่างอื่นคุณเลือกได้ตามสบาย ต่างหูคู่นี้ไม่ได้”