พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 17 คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเขา
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 17 คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเขา
บทที่ 17 คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเขา
เมื่ออารียาเห็นสร้อยคอหัวใจวีตัส เธอก็ตาโต เธอตามสร้อยคอเส้นนี้มาเป็นเวลานาน เธอมั่นใจได้เลยว่ามันเป็นสร้อยเส้นที่อยู่ในทีวี
สร้อยแพงขนาดนี้มาอยู่ในมือของรพีพงษ์ได้ยังไงกัน
อีกอย่างคนที่มาต้อนรับเธอควรจะเป็นเจ้าของ วิลล่าฟ้าอนงค์ ไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงเป็น รพีพงษ์ล่ะ
จนกระทั่งตอนนี้ เธอยังไม่สามารถเชื่อมโยงรพีพงษ์กับเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ได้
รพีพงษ์ถือสร้อยคอวีตัสเดินเข้ามาหาอารียา เขาเตรียมมันมานานขนาดนี้ ก็เพื่อชดเชยให้กับช่วงเวลาหลายปีที่ทำให้เธอถูกรังแก
เมื่อเธอเห็นเขาเดินเข้ามา จิตใต้สำนึกบอกให้เธอก้าวถอยหลัง
“นะ นายอย่าเข้ามา นายอธิบายให้ฉันเข้าใจก่อนว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น รพีพงษ์ ฉันรู้ว่านายอยากให้ฉันมีความสุข แต่นายก็ห้ามไปทำเรื่องผิดกฎหมาย” อารียาพูดด้วยความตึงเครียดเล็กน้อย
จู่ๆ เธอก็สงสัยขึ้นมาว่า เขาจะไปขโมยสร้อยเส้นนั้นมา
รพีพงษ์หัวเราะพรวดออกมา เขาไม่คิดว่าเธอจะคิดว่าเขาทำเรื่องผิดกฎหมายเพื่อเอาสร้อยเส้นนี้มา
“ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ผมใช้เงินซื้อสร้อยเส้นนี้มา แล้วก็วิลล่าฟ้าอนงค์นี่ผมก็ยืมมาจากเพื่อน ผมใช้ชื่อของเขา เพื่อที่จะทำเซอร์ไพรส์คุณ” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เดิมทีเขาอยากจะบอกว่าที่นี่ก็เป็นของเขาเหมือนกัน แต่คิดๆ ดูแล้วอาจจะทำให้เธอรับไม่ได้ เลยบอกว่าเป็นของเพื่อน
“ผมไม่มีความจำเป็นต้องหลอกคุณ ถ้าผมทำเรื่องผิดกฎหมายจริง ผมคงไม่มายืนอยู่ที่นี่หรอก” รพีพงษ์พูดเสริม
อารียาไม่ได้โง่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเชื่อภาพที่อยู่ตรงหน้า เธอคิดว่าเขาทำอะไรผิดกฎหมายเพื่อที่จะใช้ที่นี่ แต่มันก็เห็นได้ชัดว่า ที่นี่ได้รับการประดับประดาอย่างสวยงาม ถ้าไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของ รพีพงษ์ก็คงจะไม่สามารถทำแบบนี้ได้
อีกอย่างคนที่พาเธอมาที่นี่ก็เป็นคนของ วิลล่าฟ้าอนงค์ ดังนั้นการที่เขาทำแบบนี้ เจ้าของที่นี่ก็คงจะรู้ดี
ถ้านี่มันเป็นเรื่องจริง แล้วสร้อยเส้นนั้นเขาเป็นคนซื้อมาจริงๆ อย่างนั้นเหรอ
แม้ไม่กี่ปีมานี้เธอเมินเฉยใส่เขา แต่การที่เธออยู่กับเขามานาน เธอรู้จักนิสัยของเขาดี เขาคงไม่โง่ทำเรื่องผิดกฎหมายเพื่อสร้อยเส้นเดียวหรอก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใจเธอก็สับสนไปหมด
ที่แท้รพีพงษ์ไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่เธอจินตนาการไว้ ผู้ชายคนนี้ทำเหมือนตัวเองเป็นคนไร้ประโยชน์ตอนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น เขาเพียงแค่จงใจทำเช่นนั้น
แต่ก็เพราะการที่เขาเป็นแบบนี้เลยทำให้เธอโดนรังแกไม่น้อย ไม่กี่ปีมานี้เธอโดนคนอื่นมองด้วยสายตาเย็นชามาโดยตลอด แบกรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่นอย่างเงียบๆ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ความเสียใจที่เธออัดอั้นอยู่ก็ระเบิดออกมาทันที อยู่ๆ เธอก็รู้สึกแสบจมูกขึ้นมา
น้ำตาคลออยู่ที่เบ้าตาของเธอ เธอกัดปากตัวเอง ทำให้คนรู้สึกเห็นใจ
รพีพงษ์เห็นท่าทีของเธอ เขาก็ตกใจขึ้นมาทันที เขาเดินเข้าไปเพื่อจะยื่นสร้อยคอให้เธอ วันนั้นเขาเห็นสายตาที่เธอมองสร้อยเส้นนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเมื่อเธอได้รับสร้อยเส้นนี้เธอจะต้องมีความสุขแน่นอน
อารียายื่นมือออกไปผลักเขาออก น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
“รพีพงษ์ นายหลอกฉันมาตลอดเลยใช่ไหม นายไม่ได้เป็นเหมือนที่คนอื่นพูดใช่ไหม” อารียาถามซักไซ้
รพีพงษ์ถอนหายใจ เขาไม่ได้ปฏิเสธ
“นายรู้ไหมว่าไม่กี่ปีมานี้ เพราะนายฉันต้องโดนรังแกมากแค่ไหน”
“นายรู้ไหมตอนฉันได้ยินคนพวกนั้นพูดลับหลังใส่ฉัน ฉันเจ็บขนาดไหน”
“ฉันต้องเผชิญกับสายตาเย็นชาของคนอื่นทุกวัน”
อารียายิ่งสะเทือนใจขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกที่เธออัดอั้นมาในเวลาไม่กี่ปี ถูกระบายออกมาทั้งหมด
รพีพงษ์ ตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูด เขาไม่คัดค้านสักคำ จากนั้นเขาก็รวบเธอเข้ามากอดไว้ในอกแกร่ง
อารียาไม่ได้ขัดขืน เขาซบอยู่บนไหล่ของเขาแล้วร้องไห้ออกมา
“ผมสัญญาว่าต่อจากนี้ผมจะไม่ให้คุณโดนรังแกอีก ผมบอกแล้วไงว่าผมจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อคุณ” รพีพงษ์พูดอย่างแน่วแน่
อารียาไม่ได้พูดอะไรต่อ จู่ๆ เธอก็คิดได้ว่าตัวเองก็ยังมีไหล่ให้พิง ผ่านไปสักพักเธอก็สงบสติอารมณ์ของตัวเองได้ เธอปรายตามองรพีพงษ์ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
รพีพงษ์ยิ้มให้เธอ จากนั้นก็เดินไปข้างหลังของหญิงสาว แล้วเอาสร้อยเส้นนั้นใส่ให้เธอ จู่ๆ ก็มีกลีบดอกไม้สีชมพูนับไม่ถ้วนร่วงลงมาจากข้างบน ทั้งคู่เหมือนคู่รักที่เหมาะสมกันเป็นอย่างมาก ภาพที่เกิดขึ้นโรแมนติกจนไม่มีอะไรมาเปรียบได้
“ชอบไหม” รพีพงษ์เอ่ยขึ้นมาเบาๆ
อารียามองสร้อยคอหัวใจวีตัสที่อยู่บนคอของตัวเอง เธอรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าสร้อยที่งดงามเช่นนี้จะมาประดับอยู่บนคอของเธอ
“ชอบ”
ภายในสวนดอกไม้วิลล่าฟ้าอนงค์
ชรินทร์ทิพย์ยืนสีหน้าหงุดหงิดอยู่ที่ริมสระน้ำ สายตาอาฆาตของเธอแทบจะฆ่าปลาทั้งหมดที่อยู่ในสระ
“หึ ทีแรกก็คิดว่าเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์จะเป็นว่าที่สามีในอนาคต แต่ผิดคาดแฮะ แต่คิดไปคิดมา แต่คิดไปคิดมา วัตถุโบราณที่ว่าที่สามีในอนาคตของฉันส่งมาให้ ราคาของแต่ละชิ้นก็สามารถซื้อที่นี่ได้เหมือนกัน เจ้าของที่นี่ไม่สามารถเทียบกับว่าที่สามีในอนาคตของฉันได้หรอก” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยท่าทางมั่นใจ คนที่ส่งของขวัญมาให้ตระกูลไม่ใช่คนเดียวกับเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์
“อีกอย่างเจ้าของที่นี่ก็ตาบอด กลับไปชอบผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอย่างอารียา ตาบอดจริงๆ”
เพราะว่าวันนี้เธอต้องขายหน้าเป็นอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงจัดเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์เข้าไปในรายชื่อบุคคลที่เป็นแบล็กลิสต์ อารียาก็เช่นเดียวกัน รอให้เธอได้แต่งงานเข้าไปอยู่ในบ้านคนรวยก่อนเถอะ เธอจะจัดการคนที่อยู่ในแบล็กลิสต์ทั้งหมด
“น้องพูดถูก เจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์มันเพี้ยนไปแล้ว ไปต้อนรับคนอย่างอารียา” คนที่ยืนอยู่อีกด้านอย่างธายุกรพูดขึ้น “วันนั้นฉันว่าฉันเดาถูกแล้ว อารียาต้องมีอะไรกับเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์แน่ๆ ไม่อย่างนั้นพวกนั้นคงไม่ให้มันยืมสถานที่หรอก”
“หึ มิน่าล่ะวันนี้ไอ้สวะรพีพงษ์ ถึงไม่โผล่หน้ามา สงสัยว่ามันคงจะรู้แล้วว่าเมียมันมีชู้ ก็เลยหลบหน้าหลบตา ไอ้นี่มันไร้ประโยชน์ถึงขนาดที่ทนยอมให้เมียตัวเองมีชู้” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง
“คนไร้ประโยชน์อย่างมันก็ขึ้นชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว เมียมันมีชู้มันจะทำอะไรได้ล่ะ” ธายุกรเอ่ยขึ้นมา
ชรินทร์ทิพย์มีสีหน้าไม่พอใจ “วันนี้นังอารียามันได้หน้าไปเต็มๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมันฉันก็คงไม่ต้องขายหน้าแบบนี้”
ธายุกรเผยยิ้มมีเลศนัยออกมา แล้วพูดขึ้นมาว่า “น้องสาววางใจเถอะ ถึงวันนี้มันจะได้หน้าไปเต็มๆ ฉันก็จะไม่ปล่อยให้มันอยู่อย่างเป็นสุขแน่นอน”
“มันเป็นคนรับผิดชอบงานนิทรรศการนี้ ถ้าวัตถุโบราณหายไป คุณปู่ไม่ปล่อยมันไว้แน่ คนที่ฉันหาไว้คงใกล้จะถึงแล้วล่ะ”