พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 157 รพีพงษ์ได้รับการอภัย
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 157 รพีพงษ์ได้รับการอภัย
บทที่ 157 รพีพงษ์ได้รับการอภัย
โยษิตาปิดใบหน้าของเธอไว้ มองไปที่รพีพงษ์ด้วยความไม่น่าเชื่อ เธอไม่เคยคิดเลยว่ารพีพงษ์จะกล้าตบเธอ
"รพีพงษ์ คุณบ้าไปแล้วเหรอ! คุณกล้าตบฉัน!" หลังจากดึงสติกลับมา โยษิตาก็ตะโกนใส่รพีพงษ์โดยตรง
"นี่เป็นบทเรียนที่ผมให้กับคุณ ผมหวังว่าคุณจะจำไว้ ต่อไปอย่าได้คิดทำร้ายอารียาอีกมิฉะนั้น แม้ว่าคุณจะหนีกลับไปที่เกียวโต ผมก็จะทำให้คุณรู้ว่าอะไรคือเสียใจทีหลัง" รพีพงษ์กล่าวอย่างหนักแน่น
โยษิตาตกตะลึง คนที่ถูกเธอเตะออกอย่างง่ายดายในตอนนั้น กลับกล้าที่จะตบหน้าเธอในตอนนี้
อีกอย่าง อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เธอไม่มีทางสู้รพีพงษ์ได้เลย
บอดี้การ์ดทั้งสองของเธอก็ตกอยู่ในมือของรพีพงษ์ เธอเป็นแค่ผู้หญิงตัวน้อย จะเอาอะไรไปสู้กับรพีพงษ์ละ
“ คุณได้ยินสิ่งที่ผมพูดหรือเปล่า?” รพีพงษ์พูดอย่างเคร่งขรึม
มีกลิ่นอายแห่งความอาฆาคในน้ำเสียงของเขา ราวกับว่าหากโยษิตาตอบคำว่าไม่ เขาก็จะกำจัดเธอทันที
ความกลัวในใจของโยษิตาถูกปลดปล่อยออกมา เธอไม่สามารถรักษาความสงบต่อหน้า รพีพงษ์ได้อีกต่อไป พยักหน้าโดยไม่รู้ตัวแล้วพูดว่า "เข้า … เข้าใจแล้ว"
เมื่อเห็นโยษิตาตอบกลับ รพีพงษ์จึงค่อยเก็บสายตาและหันไปมองบุษบากร
บุษบากรยังคงจมอยู่ในความตกตะลึงและยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้ เมื่อกี้เห็นรพีพงษ์สั่งสอนบอดี้การ์ดและได้ตีบหน้าโยษิตา ทำให้เธอรู้สึกตกตะลึงมากยิ่งขึ้น
โยษิตาเพิ่งบอกว่าเธอคือคนของตระกูลลัดดาวัลย์ในเกียวโต แค่ชื่อนี้ก็สามารถกดทับบุษบากรจนแทบหายใจไม่ออก แต่แล้วรพีพงษ์กลับตบหน้าโยษิตา นี่แสดงให้เห็นว่าตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ได้อยู่ในสายตาของรพีพงษ์เลย
นี่คือรพีพงษ์ที่ทุกคนหัวเราะเยาะเย้ยหยันว่าเป็นไอ้ขี้ขลาดใช่ไหม?
ความรู้สึกของบุษบากรซับซ้อน ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมรพีพงษ์ถึงมีแรงดึงดูดใจเธอได้มากขนาดนี้
ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่เก่งอยู่แล้ว ไม่ว่าเขาจะถ่อมตนแค่ไหน เขาก็จะเป็นที่ดึงดูดใจของคนอื่นอย่างมาก
“ ผมจะบอกคุณชัดๆนะ แม้ว่าคุณจะใช้วิธีนี้เพื่อบังคับให้อารียาหย่ากับผม ผมก็ไม่มีวันชอบคุณหรอก การกระทำของคุณทำให้ผมรู้สึกรังเกียจและคุณจะสูญเสียอารียาเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ คุณคิดว่ามันคุ้มค่าหรือที่ทำแบบนี้? "รพีพงษ์ถาม
บุษบากรเริ่มโทษตัวเองทันที เธอถูกโยษิตาหลอก จึงไปทำเรื่องแบบนี้ ตอนนี้ลองคิดดูดีๆ ทำแบบนี้ กับเธอและอารียามีแต่ข้อเสีย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ รพีพงษ์เกลียดคนเจ้าเล่ห์แบบนี้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงกลายเป็นคนที่ รพีพงษ์เกลียด
"รพีพงษ์ ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรทำแบบนี้ คุณยกโทษให้ฉันได้ไหม?ฉันสัญญาว่าต่อไปฉันจะไม่ทำเรื่องโง่ๆแบบนี้อีก คุณอย่าเกลียดฉันเพราะเรื่องนี้ได้ไหม?" บุษบากรร้องขอ
"คนที่คุณควรขอโทษไม่ใช่ผม แต่คืออารียา คุณไปพบอารียากับผมในตอนนี้และอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง" รพีพงษ์กล่าว
บุษบากรพยักหน้าทันทีและกล่าวว่า "ฉันจะไปกับคุณ ฉันจะไปขอโทษอารี ฉันจะไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้อีกแล้ว"
ทั้งสองคนออกจากชุมชนด้วยกันและนั่งแท็กซี่ไปที่บริษัทของอารียา
โยษฺตายืนอยู่ที่เดิม ปิดหน้าของเธอไว้ ไม่สามารถตอบสนองได้เป็นเวลานาน
ผ่านไปนานพอสมควร เธอก็มองลงไปที่บอดี้การ์ดสองคนที่พื้นแล้วเตะพวกมัน
"ขยะ ไร้ประโยชน์! พวกคุณทำให้ฉันถูกรพีพงษ์ตบหน้า ต่อไปไม่ต้องตามฉันอีกแล้ว!"
โยษิตาโมโหแทบบ้า แต่เธอก็ไม่รู้จะทำยังไง
"รพีพงษ์ ปีกของคุณแข็งแล้วใช่ไหม แต่อย่าได้ใจมากนักเลย ตอนนี้ภารกิจหลักของฉันคือพาคุณกลับเกียวโต เมื่อฉันพาคุณกลับไปที่เกียวโตแล้ว คุณลำบากแน่!"
…
ห้องทำงานของอารียา
เนื่องจากเพิ่งร้องไห้ไป ดวงตาของอารียาจึงเป็นสีแดง ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ซีดเซียวมาก
เธอกำลังเหม่อและคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอถูกคนอื่นรังแก ก่อนหน้านี้เธอยังสามารถบ่นกับรพีพงษ์ได้รพีพงษ์จะช่วยแก้แค้นให้เธอได้แน่นอน ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่าสิ่งที่รพีพงษ์ทำเพื่อเธอ ล้วนเป็นการแสดงดังนั้นเธอจึงไม่อยากบอกถึงสิ่งที่เธอเจอให้กับรพีพงษ์
วันนี้ถูกโสรธัสรังแก เธอรู้สึกว่ามันยากเกินไปสำหรับเธอที่จะอยู่คนเดียว ความคิดที่จะหย่ากับรพีพงษ์ก็ผุดขึ้นมาในใจของเธอแล้ว
อย่างน้อยหลังจากหย่าเสร็จ เธอไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องที่ตนเองมีสามีแต่พึ่งไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้เธอก็ไม่ต้องแบกรับความเจ็บปวด
แต่เมื่อเธอคิดถึงการหย่าร้างอารียาก็รู้สึกเศร้า เธอรู้สึกว่ารพีพงษ์จงใจที่จะทำเช่นนี้ด้วยซ้ำ มาทำเช่นนี้ในเวลาที่เธอไปจากเขาไม่ได้
ถ้าเป็นเมื่อก่อน อารียาจะหย่ากับรพีพงษ์โดยไม่ลังเลและจะไม่มีความเจ็บปวดใดๆ แต่จะรู้สึกโล่งใจ
ตอนนี้เธอไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้ แม้ว่าเธอจะไม่พูดอะไรเลย แต่ อารียาก็รู้สึกว่าเธอรักรพีพงษ์มากถึงขนาดที่เธอไม่สามารถจากเขาไปได้
ในเวลานี้ให้เธอแยกจากรพีพงษ์ ก็เหมือนตัดเนื้อของเธอ
ในขณะที่อารียากำลังคิดเรื่องนี้ จู่ๆก็มีคนมาเคาะประตูห้องทำงาน
อารียาหายใจเข้าลึกๆ ปรับสภาพของเธอและพูดว่า "เชิญเข้ามา"
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกรพีพงษ์และบุษบากรก็เดินเข้ามา
อารียาตะลึงไปชั่วขณะ เธอคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์และบุษบากรจะปรากฏตัวต่อหน้าเธอด้วยกัน
หรือว่าสองคนนี้มาเพื่อเผยความจริง?
ความเสียใจในใจของอารียาพุ่งขึ้นอีกครั้งและเธอไม่เคยคิดมาก่อนว่ารพีพงษ์และบุษบากรจะมาหาเธอด้วยตนเอง
เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความเสียใจ หายใจเข้าลึกๆ เธอคิดว่าเธอจะต้องไม่แสดงความเจ็บปวดต่อหน้าพวกเขา เธอจะไม่ยอมให้พวกเขาเปิดเผย แต่เธอจะเอ่ยปากขอหย่าก่อน
"อารี เรามีบางอย่างจะพูดกับคุณ" บุษบากรสำนึกผิด
เมื่อเห็นบุษบากรพูดแบบนี้ อารียาก็ยิ่งแน่ใจว่าทั้งสองคนมาที่นี่เพื่อเผยความสัมพันธ์ของเขาทั้งสอง น้ำตาเธอแทบร่วง
"พวกคุณมาได้ทันเวลาพอดีเลย พอดีฉันก็มีธุระจะคุยกับรพีพงษ์" อารียากล่าว
รพีพงษ์มองไปที่อารียาและพูดว่า "อารี เรามา … "
อารียาขัดจังหวะเขาโดยตรง โดยไม่ให้โอกาสเขาพูด "รพีพงษ์ หย่ากันกันเถอะ ฉันขอให้คุณกับบุษบากรมีความสุข"
รพีพงษ์ตกตะลึง เขาคิดไม่ถึงว่าอารียาต้องการหย่ากับเขาจริงๆ ยังขอให้เขาและบุษบากรมีความสุข
โชคดีที่วันนี้ตนเองรู้ความจริง ไม่เช่นนั้น อารียาคงหย่ากับตนเองแน่ๆ“ อารี ฟังผมก่อน ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด” รพีพงษ์เริ่มกังวล
"ไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดและมันเป็นยังไง? พวกคุณสองคนทำแบบนั้นกันแล้ว ยังจะพูดอะไรอีก รพีพงษ์ ฉันจะถือว่าฉันตาบอดละกัน คุณและบุษบากรไปจากที่นี่เถอะ อย่าให้ฉันเห็นอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะ……"
อารียาเริ่มร้องไห้ขณะที่เธอพูด เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้เลย
"ผมไม่ไปกับเธอหรอก ผมมากับเธอเพื่ออธิบายเรื่องนี้กับคุณ เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิด!" รพีพงษ์แทบจะบ้า เฉพาะเมื่อเขาเผชิญหน้ากับอารียา รพีพงษ์จึงจะกลายเป็นแบบนี้
“ มีอะไรเข้าใจผิด คุณสองคน … ขึ้นเตียงกันแล้ว ยังเรียกว่าเข้าใจผิดอีกเหรอ?” อารียาร้องไห้หนักกว่าเดิม
บุษบากรก้าวไปข้างหน้าและอธิบายว่า "อารี เหตุการณ์นี้เป็นความเข้าใจผิดจริงๆ ฉันถ่ายภาพนั้นโดยเจตนา รพีพงษ์ไม่ได้ทำอะไรกับฉันจริงๆ"
อารียาตะลึงเมื่อเธอได้ยินคำพูดของบุษบากร แต่แล้วเธอก็คิดได้ว่าถ้ารพีพงษ์ไม่ไปที่โรงแรมกับเธอ เธอจะมีโอกาสถ่ายภาพแบบนี้ได้ยังไง?
"บุษ อย่าโกหกฉัน ถ้าเขาไม่ไปที่โรงแรมกับคุณ คุณจะถ่ายภาพนี้ออกมาได้อย่างไรพวกคุณร่วมมือกันมาหลอกฉันใช่ไหม?" อารียาจ้องไปที่ทั้งสองคนและพูด
รพีพงษ์เอื้อมมือไปคว้าผมของตนเอง คิดไม่ถึงว่าอารียาไม่เชื่อพวกเขา เสียดายที่ไม่สามารถไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อพืสูจน์ว่าเขากับบุษบากรไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ
"อารี ผมไม่มีอะไรกับเธอจริงๆ ในวันนั้นเธอเมาและผมก็ไม่รู้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหน ผมจึงส่งเธอไปที่โรงแรม รูปถ่ายรูปนั้นผมพึ่งรู้ภายหลัง" รพีพงษ์อธิบาย
เมื่อเห็นอารียาทำหน้าไม่เชื่อ เธอก็หายใจเข้าลึกๆและพูดว่า "อารี คุณอย่างพึ่งรีบร้อนใจ ฉันจะอธิบายเรื่องนี้ให้คุณฟังตั้งแต่ต้นจนจบ หลังจากฟังแล้วคุณจะรู้ว่าฉันไม่ได้โกหกคุณ”
แม้ว่าอารียายังคงทำหน้าไม่อยากฟัง แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ
บุษบากรเล่าเรื่องนี้ใหม่หนึ่งรอบอย่างละเอียด ตั้งแต่ตอนที่เธอคิดว่าเธอชอบรพีพงษ์จนถึงวันที่เธอไปดื่มเหล้าที่สถานบันเทิงสตาร์กาย จนถึงเธอแอบถ่ายรูป จากนั้นโยษิตาก็มาหาเธอ ให้เธอใช้รูปนี้ทำให้อารียากับรพีพงษ์หย่าร้างกัน
ในตอนท้าย จนรพีพงษ์รู้แผนการทั้งหมดของพวกเธอ
เนื่องจากก่อนหน้านี้รพีพงษ์เคยบอกกับบุษบากร ให้เธออย่าพูดตัวตนที่แท้จริงของรพีพงษ์และโยษิตา ดังนั้นบุษบากรจึงไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
อารียายังคงสงสัยเล็กน้อยหลังจากฟังจบ แต่ตอนนั้นเธอไม่วู่วามเหมือนตอนแรกแล้ว "สิ่งที่พวกคุณพูดเป็นความจริง?" อารียาถาม
“ ถ้ามีการโกหกแม้แต่น้อย ผมยอมให้ฟ้าผ่า” รพีพงษ์สาบาน
“ แล้วทำไมคุณถึงไปสถานบันเทิงสตาร์กาย คุณไปก็เพื่อ … ” อารียาสะอื้นอีกครั้ง
“ ผมไปที่สถานบันเทิงสตาร์กายก็เพื่อช่วยเพื่อนทำธุระ ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมจะเรียกพวกเขามาถามต่อหน้าคุณ” รพีพงษ์กล่าว
"อารี รพีพงษ์ไม่ได้โกหกคุณจริงๆเขายอมตบหน้าของเน้าของเขาเพื่อคุณและปฏิเสธความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่ง เพียงเพื่อได้อยู่กับคุณในเมืองริเวอร์" บุษบากรกล่าว
อารียาหายใจเข้าลึกๆแล้วเชื่อคำพูดของทั้งสองคน เธอคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะตบหน้าน้าตนเองเพื่อตัวเธอ
ที่รพีพงษ์เป็นคนรวยอารียารู้ บุษบากรบอกว่ารพีพงษ์ปฏิเสธความมั่งคั่ง อารียาไม่สงสัย
“ ผมจะโทรหาเพื่อนของผมให้เขามาอธิบายให้คุณฟัง” รพีพงษ์หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา
"ไม่จำเป็น" อารียากล่าว
“ ถ้าอย่างนั้น คุณตั้งใจจะหย่ากับผมจริงๆใช่ไหม?” รพีพงษ์มองไปที่อารียาด้วยความกังวล
"ยังไม่หย่า คุณออกไปก่อน ฉันมีอะไรจะคุยกับบุษก่อน" อารียากล่าว
รพีพงษ์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พยักหน้าอย่างรวดเร็วและออกจากห้องทำงาน
เขายืนอยู่ที่หน้าประตูอยู่นาน ก่อนที่บุษบากรจะออกมาจากข้างใน
“ เป็นอย่างไรบ้าง?” รพีพงษ์ถามอย่างกังวล
บุษบากรเหลือบมองเขาและถอนหายใจ
รพีพงษ์รู้สึกกังวลในทันทีและพูดว่า "เธอยังไม่เชื่อเหรอ?"
บุษบากรยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า "แน่นอนว่าเธอเชื่อแล้ว เธอตัดสินใจที่จะให้อภัยคุณแล้ว"
“ แล้วทำไมคุณถึงยังคงถอนหายใจ?” รพีพงษ์ถาม
"อารียกโทษให้คุณ มันหมายความว่า ชีวิตนี้ฉันจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว"บุษบากรกล่าว
รพีพงษ์พึ่งเข้าใจ ว่าบุษบากรคิดเช่นนี้นี่เอง
"อารีให้คุณกลับไปก่อน ถ้าคุณมีอะไร เดี๋ยวตอนกลางคืนค่อยว่ากัน" บุษบากรพูดเสริม สีหน้าของเธอมีร่องรอยผิดหวังเล็กน้อย
รพีพงษ์พยักหน้าทันทีและออกจากบริษัทพร้อมกับบุษบากร
ตอนที่พวกเขาแยกทางกันรพีพงษ์บอกกับบุษบากร ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี เธอจะได้พบคนที่เหมาะสมกับเธออย่างแน่นอน
บุษบากรพยักหน้า แต่เธอฟังเข้าไปไหมก็ไม่รู้
ในตอนค่ำ รพีพงษ์ทำอาหารภายใต้การดุของศศินัดดา รอให้อารียากลับมากิน
เขายังคงกังวลเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าอารียาได้ยกโทษให้เขาจริงๆไหม
ไม่นาน อารียาก็กลับบ้าน สีหน้าของเธอดีขึ้นย่างเห็นได้ชัด
เธอไม่ได้พูด เธอแค่นั่งที่โต๊ะและเริ่มกินข้าว ระหว่างทานอาหารศศินัดดาให้เธอหย่ากับรพีพงษ์ แต่เธอปฏิเสธ
"ลูกสาว ถ้าคุณหย่ากับไอ้ขยะนี้ เขาต้องให้เรา 10 ล้าน ทำไมคุณไม่หย่าละ เขานอกใจลูกนะ และยังไปสถานบันเทิงแบบนั้นอีก" ศศินัดดากล่าวอย่างกังวล
“พอละ แม่ ต่อไปไม่ต้องพูดถึงเรื่องการหย่าอีก ฉันเหนื่อยนิดหน่อย ฉันขอตัวกลับห้องนอนก่อนนะ
หลังจากพูดจบอารียาก็ลุกขึ้น แทนที่จะเดินขึ้นไปชั้นบน เธอกลับไปที่ห้องที่เธอและรพีพงษ์อยู่ด้วยกัน
รพีพงษ์รู้สึกดีใจมาก เมื่อรู้ว่าอารียายกโทษให้เขาจริงๆ
อารียาหันกลับมามองรพีพงษ์และถามว่า "คุณไม่มาเหรอ?"