พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 155 ความร้ายกาจของธายุกร
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 155 ความร้ายกาจของธายุกร
บทที่ 155 ความร้ายกาจของธายุกร
ได้ยินธายุกรพูด ใบหน้าของชรินทร์ทิพย์ก็แสดงออกมาอย่างชื่นชม
“ตามที่พี่ธายุ คาดไว้ อารียาก็คงได้ใจอีกไม่นาน”ชรินทร์ทิพย์ยิ้มแล้วพูด
“ก็คงต้องอย่างงั้น ต่อไปบริษัทตระกูลฉัตรมงคล ก็ต้องฟังฉัน แล้วหล่อนคือตัวอะไร ยังกล้ามาแย่งสมบัติกับฉันอีก”ธายุกรพูดขึ้นอย่างเย็นชา
“อีกอย่างคือ ผู้จัดการโรงงานโสรธัสมันคือคนบ้ากาม ยังไงรอบนี้เขาก็ต้องตอบตกลงกับฉัน ก็เป็นเพราะว่าฉันบอกกับเขาว่าเขาสามารถเอาเรื่องนี้มาต่อรองกับอารียา ให้อารียาขึ้นเตียงกับเขา หลังจากที่เขาพอใจในตัวอารียา ค่อยมอบโครงการนี้ให้กับฉัน อารียาจบเห่แน่”ธายุกรพูดต่อ
ชรินทร์ทิพย์ก็หัวเราะ เขามีความสุขมากเมื่อเห็นสภาพอนาถของอารียา
“พี่ธายุ แฟนของพี่สุดยอดไปเลย แม้แต่ฉันยังเขียนชื่นชมพี่เลย”ชรินทร์ทิพย์ปีแล้วพูด แล้วหยิบกระจกเล็กๆใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าตัวเอง แล้วเติมหน้า
ธายุกรเหลือบมองที่กระเป๋าและลิปสติกของชรินทร์ทิพย์ แล้วพูด: “ช่วงนี้ชีวิตของเธอดูมีรสชาตินะ กระเป๋าใบนี้ละสองหมื่น ลิปสติกก็เป็นรุ่นลิมิเต็ด”
“โห้ ก็ปกตินะ กระเป๋าแบบนี้และลิปสติก ที่บ้านฉันยังมีเยอะ”ชรินทร์ทิพย์ยิ้มแล้วพูด
ธายุกรเบิกตากว้างทันที แล้วถาม: “เธอไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะขนาดนี้?”
ชรินทร์ทิพย์ยิ้มแฮ่ะๆ แล้วพูด: “ฉันเอาของเก่าแก่ที่ตระกูลลัดดาวัลย์มอบให้ไปขาย จะว่าไป ของเก่าแก่พวกนั้นก็มีราคานะ ฉันไม่คิดเลยว่าจะขายได้เงินมากมายขนาดนั้น”
“นี่เธอเอาของเก่าแก่ของคุณปู่ไปขาย!”ธายุกรอุทาน
ชรินทร์ทิพย์ทำหน้าเฉยเมย พูด: “เดิมทีของเก่าแก่พวกนั้นก็ให้ฉันอยู่แล้ว ฉันเอาไปขายชิ้นเดียวแล้วจะทำไม ยังไงก็ตามฉันก็จะแต่งงานเข้าบ้านตระกูลลัดดาวัลย์อยู่ มีความสุขตอนนี้ก่อน ดีกว่าอีกหน่อยแต่งเข้าบ้านเขา เขาจะหาว่าฉันยากจน”
ธายุกรมองไปที่ชรินทร์ทิพย์มีความชื่นชม ยิ้มแล้วพูด: “พูดถูก ของพวกนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องตกเป็นของเธออยู่ดี เจน เธอขายของเก่าแก่ได้เงินมาเท่าไหร่ แบ่งให้ฉันหน่อยได้มั้ย ช่วงนี้ฉันร้อนเงินนะ”
“ไม่มีปัญหา ฉันขายขวดหยกสี ได้ในราคาแปดล้าน แต่ฉันเกือบจะใช้หมดแล้ว ฉันก็เลยว่าช่วงนี้จะขายรูปไม้แกะสลัก ฉันมีคนรู้จัก เขาให้ในราคาสิบล้าน”ชรินทร์ทิพย์รอด้วยความตื่นเต้น
ดวงตาของธายุกรก็สว่างขึ้นมาทันที แล้วพูด: “สุดยอดไปเลย ถึงเวลาฉันไปกับเธอ”
ชรินทร์ทิพย์พยักหน้า แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ชรินทร์ทิพย์ไม่รู้เลยว่า ขวดหยกขาวที่หลอนขายไปนั้น มีมูลค่ามากกว่าร้อยล้าน รูปไม้แกะสลักมีราคาสูงกว่า
เมื่อคนที่ซื้อของเก่าแก่จากหล่อนเห็นว่าเธอไม่รู้จักสินค้า จึงโกงเธออย่างรุนแรง
……
เช้าของวันรุ่งขึ้น รพีพงษ์ยืนพิงอยู่ที่ข้างประตูหน้าห้องอารียา เพื่อรออธิบายเรื่องที่สถานบันเทิงสตาร์กาย
ไม่นาน ประตูห้องนอนก็เปิด ดวงตาบวมแดง สีหน้าไม่ค่อยดีของอารียาก็เดินออกมาจากด้านใน
เธอเห็นว่ารพีพงษ์ยืนรออยู่ที่หน้าประตู ก็ไม่แปลกใจอะไร คิดว่าจะเดินผ่านรพีพงษ์ ลงไปล้างตัวข้างล่าง
รพีพงษ์มองไปที่ใบหน้าของอารียาเห็นเช่นนี้แล้ว เจ็บปวดทั้งใจ เอื้อมมือไปจับไหล่ของเธอไว้
“อารี เมื่อวานที่ฉันไปสตาร์กาย ฉันไปหาเพื่อนเพื่อจัดการธุระจริงๆ ถ้าเกิดเธอไม่เชื่อ ฉันจะเรียกเพื่อนของฉันมา พวกเรามาคุยกันต่อหน้า”รพีพงษ์อธิบาย
“ไม่ต้อง”อารียาพูดอย่างเย็นชา
รพีพงษ์คิดไม่ถึงว่าอารียาจะแสดงได้เย็นชาขนาดนี้ แม้แต่โอกาสอธิบายเธอยังไม่ให้
“เธอไม่เชื่อฉันเหรอ?”รพีพงษ์ถาม
อารียายิ้ม โดยไม่มีอารมณ์ใดๆ
“เชื่อไม่เชื่อนายมันก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันจะลงไปล้างตัว ไม่งั้นเดี๋ยวฉันไปทำงานสาย”อารียาพูด
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว พูดกันตามตรงเขาไปที่สตาร์กายแค่ครั้งเดียว ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับอารียาได้มากขนาดนี้ ไม่งั้นอารียาจะกลายเป็นแบบนี้ หรือว่าจะมีเหตุผลอื่น?
แต่ว่าเขาคิดมานาน ก็คิดไม่ออกว่ายังเหตุผลอะไร ที่ให้อารียากลายเป็นแบบนี้
อารียาไม่ได้สนใจรพีพงษ์ ลงไปข้างล่างล้างตัว ระหว่างที่ทานอาหารเช้า เธอได้รับโทรศัพท์ จากใบหน้าที่ซีดเซียว ก็กลายเป็นเคร่งเครียด
“คุณแม่ พวกคุณทานไปก่อนนะ ที่บริษัทมีเรื่องด่วน ฉันต้องไปแล้ว”เธอลุกขึ้น ตรงไปหยิบเสื้อคลุมและออกจากบ้าน
“ลูก มีเรื่องด่วนอะไรงั้นเหรอ วันนี้เรายังมีเรื่องที่ต้องไปหย่ากับรพีพงษ์นะ”ศศินัดดาพูดขึ้นทันที
อารียาไม่ได้สนใจเธอ
รพีพงษ์กำลังคิดว่าจะไปบริษัทกับอารียาไหม ในตอนนั้นศศินัดดาก็เดินมาตรงหน้าเขา แล้วพูดขึ้น: “อารีมีเรื่องด่วนที่บริษัท เรื่องหย่าาของพวกเธอทำทีหลังก็ได้ แต่ว่าแกต้องให้เงินสิบล้านกับฉันก่อน”
“แม่ครับ หยุดสร้างปัญหาสักทีเถอะครับ อารีไม่ทางหย่ากับผม”รพีพงษ์พูดไม่ออก ในเวลาแบบนี้ ศศินัดดายังคิดแต่เรื่องจะเอาเงินของเขา
“ใครบอกว่าไม่หย่า เมื่อวานอารีเป็นคนบอกกับฉันเอง ว่าแกนอกใจเธอ เธอไม่สามารถทนอยู่กับแกได้แล้ว เงินสิบล้านั้นถือว่าชดเชยความเสียใจของลูกสาวฉัน”ศศินัดดาพูดออกมาอย่างหมดเปลือก
“นอกใจ?”รพีพงษ์อึ้ง ก็นึกออกว่าต้องเป็นรูปใบนั้นที่บุษบากรแอบถ่ายแน่ๆ
แต่ว่าบุษบากรส่งรูปภาพใบนั้นส่งให้อารียาจริงเหรอ?
ถ้าเกิดเป็นแบบจริงล่ะก็ ก็เข้าใจเลยว่าทำไมท่าทางของอารียาถึงแบบนั้น
เขาบ่นด่าในใจ แล้วไม่สนใจศศินัดดา แล้วเดินออกจากบ้านไป
ศศินัดดาตะโกนด่า: “ แกนี่มันไอ้ดาบทุกข์นับพันเล่ม ได้ยินฉันพูดเรื่องเงินยังจะกล้าหนี ฉันรู้ดีว่าแกไม่เต็มใจจะให้เงินสิบล้านกับลูกสาวฉัน”
ในเวลานั้นธีริทธิ์ก็เดินออกมา หลังจากที่คำพูดได้ยินของศศินัดดา ก็พูดขึ้น: “คุณป้าครับ อย่ามาดูถูกพี่เขยผมนะ เงินสิบล้านไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา”
ศศินัดดาเบะปาก แล้วพูด: “อย่างมันเหรอ?อย่ามาตลกนะ มันก็แค่ขยะ แค่เงินสิบล้านนี้ต้องแลกกับชีวิตมันล่ะ”
“คุณป้า ถ้าพี่เขยผมแค่สิบล้านก็ไม่มี แล้วเขาจะมีปัญญาซื้อคฤหาสน์นี้ได้เหรอ”ธีริทธิ์ยิ้มแล้วพูด
แต่ธีริทธิ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขารู้สึกเงินของรพีพงษ์นั้นไม่ได้หามาด้วยตัวเอง คิดแค่ว่าเงินของรพีพงษ์นั้นได้จากคุณย่า
“มันซื้อคฤหาสน์นี้ก็ไม่ใช่เงินของมัน นั่นมันคือเงินที่คุณย่าฉัตรให้มา ไม่การได้ล่ะ เดียวฉันจะต้องให้มันเอาเงินสิบล้านออกมาให้ได้ ไม่รู้ว่าคุณย่าให้เงินมันไปตั้งเท่าไหร่”ศศินัดดาพึมพำ
……
อารียามาถึงที่บริษัท เมื่อกี้เลขาเป็นคนโทรหาเธอ บอกว่าผู้จัดกการโรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์มีเรื่องด่วนจะพบเธอ ให้เธอรีบมา
หลังจากที่มาถึงห้องทำงาน อารียาก็พบว่าโสรธัสอยู่รอที่ห้องทำงานแล้ว
โสรธัสอายุสี่สิบกว่า ถึงแม้ว่าจะวัยกลางคน แต่ว่าผมนั้นขาวไปครึ่งหัวแล้ว
เขาคือพ่อเขาพงศ์เทพ เรื่องเมื่อวานที่พงษ์เทพแพ้พนันเสียโรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์ไปไม่ได้เขาบอก เกิดเขารู้ เขาก็คงหักขาพงศ์เทพทิ้ง ดังนั้นพงศ์เทพอยากยื้อเวลา
ณตอนนี้ โสรธัสยังคิดว่าโรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์เป็นสมบัติของเขา ดังนั้นถึงมาคุยข้อเสนอกับอารียา
“ผู้จัดการโรงงานโสรธัส ให้คุณรอนานแล้ว เชิญนั่งค่ะ เดี๋ยวให้พวกเขาไปชงชาให้คุณค่ะ”อารียาพูด
ผู้จัดการโรงโสรธัสยิ้ม เดินไปปิดประตูห้องทำงาน แล้วพูด: “ดื่มชาก็ไม่จำเป็นแล้ว เราเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ผมมาหาคุณ ก็เพื่อคุยเรื่องวัสดุก่อสร้าง”
อารียาเห็นว่าผู้จัดการโสรธัสปิดประตู ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“ผู้จัดการโรงงานโสรธัส สัญญาของพวกเราใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าผู้จัดการโรงงานโสรธัสมีเรื่องอะไรจะคุยเหรอคะ?”อารียาถาม
“ช่วงนี้ฉันเพิ่งจะรู้ วัสดุก่อสร้างที่พวกคุณได้รับจากพวกเรา สำหรับโครงการของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป โครงการนี้ผมได้ยินมาว่า ได้กำไรมาก ผู้จัดอารียาก็คงได้ไม่น้อย คุณก็น่าจะรู้ดีว่า ภายใต้โรงงานวัสดุก่อสร้างของผมนั้น มีคนที่ต้องเลี้ยงอีกมากมาย ดังนั้นผู้จัดการอารียาควรจะขึ้นราคาให้ผมหน่อย ก็น่าจะให้ผมได้มีกำไรหน่อย?”โสรธัสกล่าว
อารียาขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าโสรธัสจะมาเพื่อขึ้นราคาของ
“ผู้จัดการโรงงานโสรธัส คุณก็จัดหาวัสดุก่อสร้างให้กับบริษัทอื่น ในราคานี้ หากคุณต้องการเพิ่มราคา คุณก็ควรเพิ่มทั้งหมดไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงขึ้นแค่บริษัทพวกเรา?”อารียาถาม
โสรธัสเดินไปตรงหน้าอารียา แล้วพูด:“ผมก็พูดอยู่แล้วว่า โครงการนี้ของพวกคุณกำไรดี ผมเองก็อยากดื่มน้ำซุปร้อนด้วย”
“อย่างงั้นคุณอยากขึ้นซักเท่าไหร่?”อารียาถาม
วัสดุก่อสร้างเป็นส่วนสำคัญของโครงการบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป หากไม่สามารถจัดการวัสดุก่อสร้างได้ จะไม่สามารถดำเนินการอื่น ๆ
ดังนั้นอารียาก็ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาอะไรเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง โสรธัสก็คงจะเห็นความสำคัญตรงนี้ ก็เลยมาของขึ้นราคากับเธอ
หากว่าราคาของโสรธัสไม่แพงมากเกินก็ยังดีต่อพวกเขา ก็ไม่เป็นไร
“เพิ่มเป็นสองเท่า”โสรธัสยิ้มแล้วพูด
เขามาที่นี่ ไม่ได้ต้องการที่จะเพิ่มราคา แต่มาทำตามที่ธายุกรบอกเพื่อ สร้างความลำบากใจให้กับอารียา
เขาปรารถนาความงามในตัวของอารียา ถ้าเกิดอารียาเสียสละตัวเองเพื่อบริษัทละก็ เขาก็ได้มัน
สีหน้าของอารียาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และเธอกล่าวว่า: “ผู้จัดการโรงงานโสรธัส คุณอย่ามาล้อเล่นน่ะ ขึ้นเป็น สองเท่า แบบนี้บริษัทพวกเราก็ไม่สามารถดำเนินการได้ต่อไป”
โสรธัสมทำหน้าเฉยเมย แล้วพูด: “ขึ้นราคาเป็นสองเท่า สำหรับพวกคุณแล้ว ก็แค่ว่ากำไรน้อยลงหน่อยนึ่ง ผมคิดว่าผู้จัดการอารียาก็พอรับได้อยู่”
“เป็นไปไม่ได้! เงื่อนไขของคุณมันมากเกินไป!”สีหน้าอารียาเคร่งเครียด
ตอนแรกเพราะเรื่องขอรพีพงษ์ทำให้รู้สึกรำคาญคิดมากอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าเขามาถึงบริษัทก็เจอเรื่องแบบนี้ เธอก็รู้สึกอึดอัด
โสรธัสยิ้ม แล้วพูด: “ผู้จัดการอารียาถ้าหากในยินยอมให้ขึ้นราคาเป็นสองเท่า ผมยังมีวิธีอื่น ขอแค่คุณยอมผม ผมก็จะไม่พูดถึงเรื่องขึ้นราคา”
“วิธีอะไร?”อารียาถาม
โสรธัสโน้มตัวไปเข้าหาอารียา ยื่นมือไปจับที่คางของเธอ พูดด้วยรอยยิ้ม: “คุณก็สวยขนาดนี้ น่าเสียดายไม่น่าแต่งงานกับไอ้ขยะนั้นเลย ถ้าคุณยอมขึ้นเตียงกับผม ผมรับรองจะไม่ขึ้นราคากับคุณ ว่าไง?”
อารียาถอยหลังทันที สีหน้าไม่พอใจแล้วมองไปที่โสรธัส
“ผู้จัดการโรงงานโสรธัส ให้เกียรติกันด้วย ที่นี่มันบริษัทของฉัน”อารียากล่าว
“หือ?คุณหมายความว่า ถ้าไม่อยู่ในบริษัทของคุณก็ได้งั้นเหรอ?งั้นเราออกไปเปิดห้องกันตอนนี้เลย”โสรธัสยิ้มแล้วพูด
“คุณอย่าเข้าใจผิดฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คำขอนี้ฉันไม่สามารถทำได้”ความโกรธของอารียาทวีเพิ่มขึ้นในใจ
ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่า คนที่จริงจังแบบโสรธัส จะพูดเรื่องแบบนี้กับเธอ
“ไม่ตกลงอย่างงั้น ผมจะหยุดการจัดหาวัสดุก่อสร้างให้กับบริษัทของคุณตอนนี้ ถึงเวลานั้นโครงการไม่สามารถดำรงต่อไปได้ พวกคุณจะต้องสูญเสียมากแค่ไหน คุณก็น่าจะรู้ดีแก่ใจ”โสรธัสขู่
“คุณโสรธัส มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”อารียาตะโกนใส่หน้าโสรธัส
“นี่มันเกินไปละเหรอ? ฉันก็แค่ต้องการช่วยคุณ ได้ยินว่าคุณแต่งงานกับไอ้ขยะรพีพงษ์แล้ว เขาไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวคุณเลย นี่สำหรับผู้หญิงแล้ว มันคือความอัปยศไม่ใช่เหรอ?ไอ้แมงดานั้นไม่สามารถที่จะตอบสนองคุณได้ ฉันมาตอบสนองความพอใจให้เอง ที่สำคัญไม่มีผลกระทบต่อสัญญาของเรา มันก็เป็นสองเรื่องที่ดีที่สุดของไม่ใช่เหรอ”โสรธัสกล่าว
เมื่อได้ยินโสรธัสพูดสิ่งนี้ อารียาก็กัดริมฝีปากตัวเอง ในใจก็เกิดอารมณ์มากมาย
“เรื่องของครอบครัวฉันคุณไม่ต้องยุ่ง ถ้าคุณยังไม่หยุดสร้างปัญหา ฉันจะเรียกรปภขึ้นมาเดี๋ยวนี้”อารียาพูดอย่างโกรธๆ
“ฟังจากที่คุณพูดแล้วหมายความว่า ไอ้เศษสวะอย่างพีรพงษ์ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวคุณจริงเหรอ จุจุจุ ช่างน่าสงสารจริงๆ ไม่งั้นคุณก็ยอมผม ผมรับรองว่าจะทำให้คุณฟินแน่”โสรธัสเต็มไปด้วยการแสดงออกที่เลวร้ายพร้อมกับยื่นมือไปจับใบหน้าของอารียา
อารียาสะบัดมือออก โดยตบเสียงดังเพี๊ยะไปที่หลังโสรธัส
“คุณอย่าคิดว่าถ้าไม่มีโรงงานของคุณแล้ว โครงการของฉันจะไม่สามารถดำเนินต่อไป คนเลวทรามแบบแก ตอนนั้นฉันไม่น่าร่วมลงทุนกับแก!”อารียาด่า
โสรธัสจ้องมองอารียา แล้วพูด: “อวดดีนัก ฉันจะคอยดู ไม่มีโรงงานของฉันแล้ว พวกแกจะดำเนินโครงการต่อยังไง!”
หลังจากพูดจบ โสรธัสก็หันกลับออกไปและกระแทกประตู
อารียานั่งลงที่โต๊ะทำงาน และก้มลงบนโต๊ะแล้วร้องไห้เสียใจ