พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 152 คนที่สองประเภทที่ฉันเกลียดที่สุดในชีวิตฉัน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 152 คนที่สองประเภทที่ฉันเกลียดที่สุดในชีวิตฉัน
บทที่ 152 คนที่สองประเภทที่ฉันเกลียดที่สุดในชีวิตฉัน
ทุกคนตกตะลึง จ้องมองไปที่รพีพงษ์
คนที่อยู่ข้างๆพงศ์เทพก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ หลังจากนั้นก็หัวเราะ คิดว่ารพีพงษ์เหมือนตัวตลก
ฝั่งทีมชีพนนท์ใบหน้าก็ลำบากใจเล็กน้อย พวกเขาคิดว่ารพีพงษ์เล่นเกมนี้ไม่เป็น เขาจะมาเล่นก็จะขึ้นเลยตำแหน่งJungleทันที ซึ่งแบบนี้ก็เท่ากับทำให้พวกเขาแพ้
แต่ทุกคนก็คิดว่าการเดิมพันนี้เป็นของรพีพงษ์ ถ้าแพ้เขาก็สูญเสียของเขาเอง ถ้ารพีพงษ์อยากเล่นตำแหน่งJungle ก็ให้เขาเล่น
“ก็ได้ ถ้าอย่างงั้นทุกคนในทีมให้ความร่วมมือกับคุณรพีพงษ์ด้วย พวกเรายังมีโอกาสพลิกล็อก!”ชีพนนท์ตะโกนขึ้น
“โจ๊กเกอร์ รอบนี้ให้พวกแกยอมแพ้ภายในหกนาทีเลย!”พงศ์เทพยิ้มอย่างเย็นชา
เกมระหว่างสองทีมเริ่มขึ้น รพีพงษ์จ้องไปที่จอโทรศัพท์มือถือ หลังจากวันนั้นที่เขาเล่นไปแล้วหนึ่งรอบ เขาก็รู้ว่าเกมนี้จะเล่นชนะได้อย่างไร
สำหรับรพีพงษ์ที่สามารถมองเห็นแก่นแท้ของเกมเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว มันไม่ใช่เรื่องยาก ที่จะหาทางชนะ
แค่ตอนแรกเริ่มรพีพงษ์ไม่ค่อยคุ้นเคยกับทักษะขั้นเทพของฝั่งตรงข้าม แค่ขึ้นเล่นก็แจกเลย ทำให้ทีมคนของชีพนนท์นั้นกังวล
“น่าขำสิ้นดี ฝีมือแค่นี้ ยังกล้าเล่น Jungle พวกเราใช้เวลาไม่ถึงหกนาทีหรอก สามารถผลักดันที่สูงของพวกเขาได้”คนข้างๆพงศ์เทพกล่าวขึ้น
สีใบหน้าของชีพนนท์และธีริทธิ์เคร่งเครียด เมื่อกี้ที่รพีพงษ์แจกเขาไปทำให้พงเทพเขาแน่ใจว่า รพีพงษ์เล่นเกมนี้ไม่เป็นจริงๆ
“พี่เขย ผมก็บอกแล้วว่าพี่เล่นไม่เป็น พี่ก็ยังดึงดัน”ธีริทธิ์พึมพำ
“รีบร้อนอะไร เพียงคุ้นเคยเดียวแป๊บเดียวเอง เดี๋ยวก็พลิกล็อกได้แล้ว”รพีพงษ์พูด
ธีริทธิ์แบะปาก เห็นได้ชัดว่ารพีพงษ์ไม่เชื่อคำพูดของเขา และยังคงก้มศีรษะลงเล่นเกมอย่างจริงจัง
อีกประมาณห้านาทีให้หลัง รพีพงษ์ได้รับการSupportจากชีพนนท์ ตรงเข้าดับเบิ้ลคิวป้อมของฝ่ายตรงข้าม ถึงได้ทำให้ทางด้านชีพนนท์กับพวกเขาฮึกเหิมมากขึ้นมาหลายเท่า
“สุดยอดเลยพี่เขย ดับเบิ้ลคิวป้อมเลยเหรอ!”ธีริทธิ์พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
ชีพนนท์ยังมองไปที่รพีพงษ์ อย่างไม่น่าเชื่อเมื่อกี้ฝีมือของรพีพงษ์นั้นสามารถพูดได้ว่าค่อนข้างดี แม้แต่เขาเอง ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมีความเร็วที่รวดเร็วแบบนี้
“คุณรพี ดูเหมือนว่าคุณจะมีพรสวรรค์ในการเล่นเกมนี้ เพียงเคยเล่นครั้งเดียว ก็เชี่ยวชาญทักษะนี้แล้ว”ชีพนนท์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
รพีพงศ์ก้มหน้าก้มตาเล่นเกม และไม่พูดจา
สีหน้าของพงศ์เทพเคร่งเครียด และเขาก็บ่นพึมพำ: “ก็แค่โชคช่วย อย่าคิดว่าแค่…..
พวกแกก็จะชนะได้ นัดนี้ของพวกแก ยังไงก็แพ้แน่นอน! ”
เวลาผ่านไปแล้วนาทีแล้วนาทีเล่า เดิมทีแรกเริ่มเพราะรพีพงษ์ใช้พลังแฝง ก็เลยโดนไล่ตามเข้ามาทีละนิด ที่สำคัญคือชีพนนท์และธีริทธิ์ร่วมมือกับรพีพงษ์ และยังตีป้อมของฝั่งตรงข้าม ทำให้ฝั่งตรงข้ามไม่สามารถฟื้นฟู่ได้
รพีพงษ์ยิ่งอยู่ยิ่งเก็บจำนวนคนได้เยอะ ไม่นานก็เข้าสู่อันดับหนึ่ง
จนถึงเวลานี้ ทีมพงศ์เทพทั้งห้าคนก็ตระหนัก ว่ารพีพงษ์ไม่จัดการง่ายอย่างที่พวกเขาคิดไว้เลย
ตอนที่แรกเริ่มพวกเขาคิดว่าฝั่งตรงข้ามก็มีรพีพงษ์ ต่อให้เล่นแบบโง่ๆก็ชนะได้ ก็เลยไม่ได้ตั้งใจเล่น แต่ตอนที่พวกเขาเริ่มตั้งใจที่จะเล่นก็เพิ่งรู้ตัว ว่าพวกเขาไม่มีโอกาสแล้ว
ท้ายที่สุด รพีพงษ์ก็นำพาคนทั้งสี่ของทีม เข้าไปตีป้อมจนแตก และชนะในนัดนี้
ผู้คนที่อยู่ข้างหลังชีพนนท์ ต่างจ้องมองไปที่รพีพงษ์อย่างชื่นชม เพียงแค่ในเวลาสั้นๆ ก็สามารถเล่นเกมได้ดีขนาดนี้ ไม่สามารถเปรียบเทียบกับอัจฉริยะได้แล้ว
นี่มันคือตัวประหลาด!
“พี่เขย คิดไม่ถึงว่าพี่จะเล่นได้เก่งขนาดนี้ ผมก็นึกว่าคืนนั้นที่พี่เก็บได้penta kill เพราะโชคช่วย”
ทางด้านชีพนนท์ก็เบิกตากว้างทันที แล้วถาม: “penta kill? ก็คือคืนนั้นที่ฉันเล่นกับนายเหรอ?”
“ใช่แล้ว คืนนั้นพี่เขยฉันแย่งมือถือฉันไปเล่น แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าจะ penta kill” ธีริทธิ์อธิบาย
ชีพนนท์มองไปที่รพีพงษ์อย่าชื่นชม เขาคิดมาเสมอว่าที่ penta killคือธีริทธิ์เป็นคนทำได้ แล้วยังคิดว่าทำไมทักษะของธีริทธ์วันนี้ทำไมแย่ คิดไม่ถึงคือรพีพงษ์เป็นคนเล่น
ได้ยินคำพูดของธีริทธิ์ ชีพนนท์รู้สึกโล่งอกขึ้นมาก รู้สึกว่าวันนี้พวกเขาสามารถชนะได้
ใบหน้าของพงศ์เทพเคร่งเครียดแล้วเหงื่อแตก เขาเหลือบไปมองรพีพงษ์อย่างโหดเหี้ยม กัดฟันพูด: “แมร่ง อย่าเพิ่งดีใจไปเลย พวกแกก็แค่โชคช่วย แค่เมื่อกี้พวกเราไม่ได้ตั้งใจเล่นเอง รอบต่อไปพวกแกอย่าคิดแม่แต่จะชนะ!”
เมื่อพูดจบ เขาก็ยังหันหน้าไปมองชายที่อยู่ข้างๆชีพนนท์
ชายคนนั้นมองกลับมาที่ และดวงตาของเขาก็สั่น
การแข่งขันรอบที่สามกำลังเริ่มขึ้น ทีมพงศ์เทพทั้งห้าคนจริงจังมาก ต้องการเอาชนะทั้งห้าคนของทีมชีพนนท์มาก
แต่พวกเขากลับพบว่า หลังจากที่รพีพงษ์ปรับตัวเข้ากับเกมนี้ได้ ทักษะที่แสดงออกมาพูดได้ว่าสูงมาก บางทักษะก็เทียนเท่ากับมืออาชีพ
ตอนนี้ต่อให้พวกเขาจริงจังขึ้นมา ก็ไม่สามารถเอาชนะพวกชีพนนท์ได้
สิ่งนี้ทำให้พงษ์เทพกังวลมาก เขาเอาแต่ด่าว่าเพื่อนร่วมทีมที่ไม่ให้ความร่วมมือ และเขาก็ขึ้นไปแจกจำนวนคนออกไป
หลังจากสิบห้านาทีผ่านไป เกมที่สามก็จบลง ทีมชีพนนท์ก็ชนะในการแข่งขัน ในช่วงแรกบรรยากาศของทั้งสองฝ่ายกลับกันอย่างสิ้นเชิง
ในขณะนี้ทุกคนฝั่งพงศ์เทพรู้สึกหดหู่ใจ แต่คนที่อยู่ฝั่งชีพนนท์ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น หายไปจากช่วงเวลาแห่งความหดหู่ใจนั้น
“พงศ์เทพ แกคงต้องตั้งใจมากกว่านี้นะ ไม่อย่างงั้นละก็ สมบัติที่มีค่าที่สุดในบ้านของพวกแก่ ก็จะสูญเสียไปเพราะแก”ชีพนนท์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
พงศ์เทพกําหมัดแน่น แล้วพูดอย่างเย็นชา: “เชี่ยเอ้ย ต่อไปยังไงพวกแกก็ไม่มีทางชนะหรอก!”
การแข่งขันรอบที่สี่เริ่มต้นขึ้น เพราะมีรีพงษ์นำทาง รวมทั้งธีริทธิ์ทักษะขั้นเทพแรงค์ Conqueror 30 ดาว ฝั่งชีพนนท์ริเริ่ม ก็มีตำแหน่งที่เหนือกว่า
พงษ์เทพเหงื่อแตก ดูว่าเหมือนจะความกังวล
แข่งไปครึ่งชั่วโมง พงศ์เทพก็เงยหน้าขึ้น มองชายที่นั่งอยู่ด้านข้าง และส่งสายตาให้เขา
ชายคนนั้นก็ลังเล จากนั้นหายใจเข้าลึก ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้โดยตรง แล้วพูดว่า: “ฉันปวดท้องกะทันหัน ขอไปห้องน้ำก่อนนะ”
เมื่อพูดจบ เขาก็วางมือถือไว้บนเก้าอี้ ก็วิ่งไปที่ห้องน้ำ
ทันใดนั้นชีพนนท์ก็ตะโกนด่า: “ เย็*แม่ง แกไปห้องน้ำ แล้วเกมจะเล่นต่อยังไง?”
ชายคนนั้นก็ไม่ตอบ ก็เดินเข้าห้องน้ำโดยไม่หันกลับมา
พงศ์เทพยิ้มอย่างเย็นชา แล้วกล่าว: “ เกมก็เริ่มแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องเล่นต่อ พวกเราดูแค่ผล เพื่อนร่วมทีมไม่ให้ความร่วมมือกับแก เรื่องนี้โทษพวกเราไม่ได้”
“แต่พวกฉันก็เหลือแค่สี่คน ก็เท่ากับว่าพวกแกชนะแล้ว และไม่สามารถชนะได้! ”ชีพนนท์กัดฟันพูด
“แต่พวกฉันไม่สนใจเรื่องนี้ รีบเล่นเกมเลย ไม่อย่างงั้นเดี๋ยวพวกแกแพ้มันจะแย่กว่านี้”พงศ์เทพยิ้ม แล้วเล่นเกมต่อ
รพีพงษ์เหลือบมองไปที่ชีพนนท์ และกล่าวว่า: “นั่งลงและเล่นเกมก่อน ยังมีโอกาสที่จะชนะ”
ชีพนนท์นั่งลงและเล่นเกมต่อ
เพราะขาดไปหนึ่งคน ชีพนนท์ก็รู้สึกกดดัน แต่ทีมพงศ์เทพก็เริ่มมีโอกาสพลิกเกม จากนั้นไม่นาน ก็สามารถไล่ทัน
“ฉันก็ไม่เชื่อว่าพวกแกสี่ต่อห้าจะสามารถชนะพวกเราได้ แบล็คการ์ดของธนาคารโลก เป็นของฉันแน่นอน”พงษ์เทพกล่าวด้วยยิ้ม
“พวกเราขาดไปหนึ่งคน พยายามอย่าแยกจากกัน เดี๋ยวดูตำแหน่งของฉันนะ”รพีพงษ์กล่าว
ชีพนนท์ธีริทธิ์ทั้งสามคนพยักหน้า รับรู้ๆได้ว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้พวกเขาไม่สามารถแยกออกจากกันได้ง่ายๆ
แต่ฝั่งทีมพงศ์เทพก็พยายามที่จะทำให้พวกเขาแยกออกจากกัน
“โจมตีพร้อมกัน พวกเขาทั้งหมดอยู่ในป้อมแน่นอน แยกพวกเขาออกจาก พวกเราก็ชนะแล้ว!”
พงศ์เทพตะโกน ทั้งห้าก็รีบวิ่งเข้าไปที่ป้อม
ชีพนนท์กับอีกคนก็ตรงเข้าไปตีกับพงศ์เทพ ทั้งสองคนก็มีเนื้อชนเนื้อ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาสองคนก็ถูกกำจัดทันที
“ฮ่าฮ่า ชีพนนท์ พวกแกแพ้แน่ รอบนี้พวกแกไม่สามารถพลิกเกมได้แน่!”พงศ์เทพหัวเราะเสียงดัง
ในเวลานั้น รพีพงษ์ก็พุ่งออกมาจากพุ่มไม้ข้างๆ ธีริทธิ์ก็Supportรพีพงษ์ ทั้งสองคนสูญเสียสกินกรอบสองชิ้นที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทันที จากนั้นเผชิญหน้าตีป้อม เพราะพวกเขาเพิ่งทำให้ชีพนนท์สูญเสียคนไปสองคนต่างสลัดทักษะทั้งหมดออกมา
ในเวลานี้รพีพงค์ก็ออกมาฆ่า และพวกเขาไม่มีทางที่จะจัดการรับมือได้
ในพริบตาทีมชีพพนนท์ทั้งสี่คนก็เสียชีวิต
ชีพนนท์หันมาควบคุมฮีโร่ของตัวเองเพื่อโจมตีรพีพงษ์ แต่ว่าความเสียหายทั้งหมดก็มีธีริทธิ์มาสกัดกั้นไว้
ธีริวธิ์ใช้ตัวเองซื้อเวลาให้รพีพงษ์เพื่อเกราะเกิดใหม่ หลังจากที่ถูกพงศ์เทพฆ่าตาย ได้ปลดปล่อยทักษะของเขาอีกครั้ง และคอมโบชุด ก็ได้ผลที่ดี
หลังจากจัดการพงศ์เทพได้ รพีพงษ์ก็เหลือเพียงเลือดแค่ขีดเดียว
“penta kill!”
หลังจากได้ยินเสียงนี้ ทีมพงษ์เทพทั้งห้าคนก็ตกตะลึง
รพีพงษ์ผลักทหารขึ้นไปบนที่สูงด้วยเลือดขีดเดียว และระเบิดป้อมคริสตัลตรงข้ามและเกมก็จบลง
คนทีมชีพนนท์ก็เดือดดาล เพราะเมื่อกี้รพีพงษ์แสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก พวกเขาอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงเชียร์
ชีพนนท์และธีริทธิ์ก็กระโดดด้วยความดีใจ และจ้องมองรพีพงษ์อย่างชื่นชม
“พี่พงษ์ พี่นิสุดยอดมากเลย พาพวกเราชนะด้วยสี่ต่อห้า!”ชีพนนท์เปลี่ยนสรรพนามที่เรียกรพีพงษ์
“พี่เขย ต่อไปผมจะไม่เรียกพี่ว่าแมงดาแล้ว พี่คือไอดอลของผมเลยครับ!”ธีริทธิ์พูดอย่างตื่นเต้น
รพีพงษ์ยิ้ม มองไปกลุ่มคนฝั่งตรงข้ามใบหน้าซีดเซียว
พงศ์เทพมือไม้สั่นไปหมด เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ทีมฝั่งรพีพงษ์นั่นขาดไปหนึ่งคน ก็ยังแพ้การแข่งขันนี้ได้
เขาก็โยนมือถือตัวเองลงพื้น และด่าว่าเพื่อนร่วมทีมตัวเองว่าขยะ
“พวกมึงแดกเหี้*อะไรเข้าไป! พวกมันขาดคนไปหนึ่งคนก็ยังแพ้ได้ พวกมึงเป็นหมูกันเหรอ?”พงศ์เทพด่าอย่างไม่บันยะบันยัง
“วันนี้ฉันจะไม่เอาความพวกแก ฉันกลับก่อน พวกแกคิดให้ดีๆว่าวันนี้พวกแกทำอะไรลงไป!”
เขาพูดอีกครั้ง แล้วหันหน้าเดินจากออกคลับไป
คนของชีพนนท์ก็รีบรั้งเขาไว้ แต่ละคนก็จ้องมองเขาด้วยสีหน้าไม่ดี
“พวกแกจะทำอะไร?ฉันจะออกไป พวกแกขว้างฉันไว้ทำไม?”พงศ์เทพจ้องมองแล้วพูด
“คุณชายพง คุณช่างเป็นคนที่มีเกียรติที่ลืมอะไรได้ง่ายๆจริงเหรอ คุณอย่าบอกผมนะ คุณลืมเดิมพันเมื่อกี้แล้วเหรอ”ชีพนนท์แสยะยิ้ม
“เย็*แม่ง นี่มันก็แค่เกมการพนัน เดิมพันถือเป็นจริงไม่ได้ พวกแกหลีกทางให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะกลับไป!”
“เหอะ เหอะ พงศ์เทพ แกนี่มันไร้ยางอายจริงๆ กล้าที่จะโกงกันหน้าด้านๆ เพื่อนร่วมทีมของฉัน ก็คงถูกแกซื้อตัวแล้วใช่มั้ย?”ชีพนนท์พูด
เวลานั้นคนของชีพนนท์ก็ไปลากตัวคนที่วิ่งไปเข้าห้องเมื่อกี้ออกมา แล้วโยนลงบนพื้น ก็ถูกเตะต่อย
คนนั้นมองไปที่พงศ์เทพ แล้วของความช่วยเหลือ: “พี่พงศ์เทพ ช่วยผมด้วยครับ พี่ให้ผมแบบนี้เอง ช่วยด้วยช่วยผมด้วยครับ”
พงศ์เทพก็บ่นด่าในใจ คิดว่าขนาดกูก็ยังแข่งแพ้ จะช่วยมึงได้ยังไง
“ใช่ฉันเป็นคนสั่งให้มันทำแบบนี้เองแล้วจะทำไม? ชีพนนท์ นี่มันก็แค่เกมเดิมพันเอง แล้วถ้าฉันไม่ยอมรับ แล้วแกจะทำอะไรฉันได้?”พงศ์เทพท่าเหมือนหมูตายที่ไม่กลัวน้ำร้อนลวก
ชีพนนท์สีหน้าเคร่งขรึม ถ้าเกิดพงศ์เทพไม่ยอมรับการวางเดิมพัน เขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรพงศ์เทพได้
ในเวลานั้นเองรพีพงษ์ก็ทนขึ้น เขาจ้องมองไปดวงตาของคนที่นอนลงบนพื้น แล้วพูด: “ในช่วงชีวิตของฉันเกลียดคนอยู่สองประเภท ประเภทหนึ่งคือทรยศพี่น้อง “
“แกเป็นน้องชายของชีพนนท์ แต่กลับมาทรยศเขาในช่วงที่วิกฤตที่สุด เป็นคนไม่ควรหน้าด้าน ควรได้รับบทลงโทษ”
พูดอยู่ รพีพงษ์ก็เตะขาของชายคนนั้น และหักขาของเขาไปข้างหนึ่ง
คนฝั่งของพงศ์เทพก็สั่นสะเทือนด้วยความตกใจ ใครจะคิดถึงว่ารพีพงษ์จะหักคนคนนั้นโดยไม่พูดจาสักคำ นี่ก็โหดเกินไป
“แล้วที่ฉันเกลียดคนแบบที่สองที่สุด คือคนที่ผิดสัญญา และไม่รักษาสัญญา”รพีพงษ์มองไปที่พงศ์เทพ แล้วกล่าว
“คุณชายพง ผมเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนแบบนี้ใช่มั้ยครับ?”