พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 119 ชรินทร์ทิพย์ถูกตบหน้า
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 119 ชรินทร์ทิพย์ถูกตบหน้า
บทที่119 ชรินทร์ทิพย์ถูกตบหน้า
รพีพงษ์หันหน้าไปมองอารียาทันที และไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ
เขารู้ว่าหน้าของอารียาแดงเพราะคำพูดของชุติเทพในเมื่อสักครู่ ทว่า โดยปกติที่อารียาหน้าแดงก็เป็นแบบนี้แหละ
“ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?” รพีพงษ์เอ่ยถาม
“คุณดูสีหน้าของเธอสิ ภายใต้ผิวสีแดงแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะเป็นอิสระ เกรงว่าร่างกายของเธอรอไม่ไหวตั้งนานแล้ว เสียดายที่เธอไม่ได้รับสิ่งที่ควรได้รับ” เจสสิก้าพูดออกมาอย่างจริงจัง
ภายในใจของรพีพงษ์เหมือนกำลังพังทลาย หรือว่า ที่จริงแล้วอารียาต้องการมาโดยตลอด?
ไม่เช่นนั้น ทำไมหน้าของอารียาแดงถึงเพียงนี้ทุกครั้ง?
เขาคิดมาโดยตลอดว่าสีหน้าของอารียาเป็นแบบนี้ ตอนนั้นเขายังรู้สึกว่าสีหน้าที่แดงของอารียาก็สวยดี ทำให้เขามีแรงกระตุ้นที่อยากจะทำผิด
ที่แท้อารียานั้นอดทนมาโดยตลอด
อารียารู้สึกทำอะไรไม่ถูก เธอไม่คิดว่าเจสสิก้าจะสามารถมองทะลุความคิดของเธอได้ภายในพริบตา ถ้ารู้แบบนี้ตั้งแต่แรก เธอก็ไม่มาพร้อมกับรพีพงษ์แล้ว
ชุติเทพมองไปยังเจสสิก้า แล้วถามขึ้นว่า “เรื่องพวกนี้คุณรู้ได้อย่างไร ผมไม่เคยสอนคุณมาก่อน”
บนในหน้าของเจสสิก้าแสดงความภาคภูมิใจออกมาเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “คุณจะรู้อะไร นี่มันเป็นเซนส์ของผู้หญิง มีแค่ผู้หญิงที่สามารถดูออกได้”
รพีพงษ์ พูดอะไรไม่ออก ที่แท้เจสสิก้าก็แค่พูดมั่ว
“งั้นที่คุณรู้ว่าเธอเป็นแบบนี้ ก็แสดงว่า คุณก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เช่นนั้นคุณจะสามารถอธิบายอย่างชัดเจนแบบนี้ออกมาได้อย่างไร?” รพีพงษ์ถามกลับ
สีหน้าของเจสสิก้าก็แดงขึ้นมาทันที ไม่ค่อยต่างจากสีหน้าของอารียาเลย
รพีพงษ์ หัวเราะออกมาทันที แล้วพูดขึ้นว่า “คุณดูตัวเองสิ สีหน้าของคุณแดงขนาดนี้ หรือว่า ภายในใจของคุณ ตอนนี้ก็กำลังคิดเรื่องพวกนี้เหมือนกัน?”
เจสสิก้าถลึงตาใส่รพีพงษ์ จากนั้นก็รีบหันหลังแล้วเข้าไปข้างในทันที
ชุติเทพหัวเราะออกมาอย่างจนปัญญา รพีพงษ์คงคิดว่าเจสสิก้ากำลังพูดเล่น แต่เขารู้ว่า ช่วงนี้เจสสิก้าต้องมาบ่นเรื่องของรพีพงษ์ข้างๆ หูของเขาทุกวันแน่นอน
ถึงแม้ปากของเจสสิก้าจะบอกว่ารพีพงษ์น่าเกลียดชัง ต้องบ่นถึงเขาทุกวัน ทว่า ชุติเทพรู้จักเจสสิก้าดี เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้หวั่นไหวกับรพีพงษ์แล้ว
รพีพงษ์ ไม่ได้ตระหนักถึงปัญหานี้ ทำเพียงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงคนนี้อารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรงจริงๆ พูดหยอกเล่นนิดหน่อยก็ไม่ได้”
“คุณอยากให้ผมไปดูอาการเมื่อไหร่?” ชุติเทพเอ่ยถามขึ้น
“พรุ่งนี้” รพีพงษ์ตอบ
ชุติเทพ ก็ไม่มีความคิดเห็นใดๆ พอถามที่อยู่ที่ชัดเจนกับรพีพงษ์แล้ว ก็บอกว่าพรุ่งนี้เขาจะไปอย่างแน่นอน
รพีพงษ์ ก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น หลังจากนั้นเขาก็พาอารียาจากไป
ระหว่างทางกลับบ้าน สีหน้าของอารียายังคงแดงก่ำ และชอบเหล่ไปมองรพีพงษ์อยู่บ่อยๆ ในใจก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ทว่า รพีพงษ์ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้ เขาคิดว่าเจสสิก้าแค่กำลังพูดเล่น
วันต่อมา ณ วิลล่าตระกูลฉัตรมงคล
ธายุกับชรินทร์ทิพย์นั่งอยู่ในห้องรับแขก ญาติๆ ของตระกูลฉัตรมงคลก็ทยอยกันมาถึงแล้ว
“พี่ธายุ พี่คิดว่ารพีพงษ์จะสามารถพาหมอเทวดาชุมาได้ไหม?” ชรินทร์ทิพย์ถามขึ้น
ธายุ หัวเราะออกมาทันที แล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้เธอไม่ต้องไปคิดมากหรอก เมื่อวานพี่ไปดูหมอเทวดาชุทางนั้นมา วันนี้เขามีตรวจสามเคส ตารางงานเต็มแล้ว และพี่ก็ยังลองเปิดประตูเข้าไปดู จนเกือบถูกสาวน้อยที่ร้อนแรงใช้มีดไล่ฟัน”
“พี่ไปที่นั่น พวกเขายังไม่ค่อยไว้หน้าเลย เศษสวะอย่างรพีพงษ์ ก็น่าจะถูกพวกเขาไล่ฟันตายไปแล้ว ที่มันพูดว่าสามารถเชิญหมอเทวดาชุมาได้ ก็คงจะขี้โม้ และถ้าถึงเวลาจริงก็คงจะพาตัวปลอมมาหลอกพวกเรา”
หลังจากที่ชรินทร์ทิพย์ได้ยิน ก็หัวเราะแล้วพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ฉันก็คิดว่าแบบนั้นแหละ เศษสวะอย่างรพีพงษ์แบบนั้น จะเชิญหมอเทวดาชุมาได้อย่างไร”
ในตอนที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน รพีพงษ์และอารียาก็เดินเข้ามาในวิลล่า
คนรวมตัวกันทันที
ชรินทร์ทิพย์จ้องไปยังรพีพงษ์ แล้วพูดขึ้นด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ว่า “รพีพงษ์ หมอเทวดาชุล่ะ แกบอกว่าจะเชิญหมอเทวดาชุมาไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้มีแค่พวกแกสองคน?”
“เดี๋ยวหมอเทวดาชุจะตามมาทีหลัง” รพีพงษ์พูดขึ้น
ทุกคนไม่เชื่อคำพูดของรพีพงษ์ ต่างก็รู้สึกว่าเขากำลังโกหก
“ฉันว่าแกคงชอบโกหกจนติดเป็นนิสัยสินะหมอเทวดาชุไปตรวจอาการให้คนอื่นแค่ปีละสามครั้ง และโควต้าสามครั้งนี้ใช้หมดไปนานแล้ว แกคิดว่าแกเป็นใคร หมอเทวดาชุถึงจะต้องยกเว้นให้แก?”
“ฮ่าๆ มันก็คงกำลังฝันกลางวันอยู่ ถ้าหมอเทวดาชุจะออกตรวจเพื่อคนแบบนี้ พระอาทิตย์คงขึ้นจากทิศตะวันตก”
“ไม่เช่นนั้นมันก็คงจะหาตัวปลอมมาแอบอ้าง”
ธายุกรยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วมองไปยังรพีพงษ์ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “รพีพงษ์ ถ้าแกไม่สามารถเชิญหมอเทวดาชุมาได้ ก็พูดออกมาตรงๆ เถอะ ไม่ต้องทำให้ทุกคนเสียเวลา ชอบหลังจากนี้ไม่ว่ายังไง แกก็จะถูกไล่ออกจากตระกูลฉัตรมงคลอยู่ดี”
“รู้จักท่าทีของแกแล้วคงไม่อยากให้ปูหายดีน่ะสิ ธายุกร แกไม่อยากให้หมอเทวดามาใช่ไหม?” รพีพงษ์ยิ้มแล้วถาม
สีหน้าของธายุกรดูแย่ลงทันทีพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ไม่ต้องมาพูดมั่วแถวนี้ ฉันก็หวังว่าอาการของปูจะดีขึ้น”
รพีพงษ์ แค่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไร
“เฮอะ เสแสร้งต่อเถอะ วันนี้พวกเราจะรอเป็นเพื่อนทั้งวัน ถ้าวันนี้หมอเทวดาชุไม่ปรากฏพวกแกก็ออกจากตระกูลไปเลย!” ธายุกร กัดฟันแล้วพูด
รพีพงษ์และอารียา ไม่สนใจเค้าแล้วไปหาที่นั่งรอ
ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงเสียงกริ่งของวิลล่าดังขึ้น อารียารีบเดินไปแล้วเปิดประตู พบว่าผู้มาคือชุติเทพและเจสสิก้า
“หมอเทวดาชุมาแล้ว!” อารียาพูด
คนที่อยู่ในห้องรับแขกลุกขึ้นทุกคนและมองไปทางประตู
พวกเขาต่างก็คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะหาชุติเทพมาได้
ชุติเทพและเจสสิก้าเดินไปทางวิลล่า ทั้งสองมีความเยอะหญิงที่คนธรรมดาไม่มีไม่เหมือนที่ได้พบเมื่อวานเลย
อารียาหันไปมองรพีพงษ์ ในใจคิดอยู่เพราะเค้าคงจะเป็นมิตรเฉพาะตอนที่อยู่หน้ารพีพงษ์มั้ง?
แต่รพีพงษ์ทำได้ยังไง?
หลังจากที่ชรินทร์ทิพย์และธายุกร ได้ยินคำพูดของอารียาก็รีบเดินไปดู พอเห็นทางประตูมีคนเดินเข้ามาจริงๆ ต่างก็ตกใจ
ล
ธายุกรมองไปทางเจสสิก้า จากนั้นสูดหายใจเข้าลึกๆ เมื่อวานคนที่จะเอามีดฟันเขาก็คือเจสสิก้า คนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็คงจะเป็นชุติเทพ
เค้าหันไปมองรพีพงษ์ ในใจคิดอยู่ว่ารพีพงษ์ใช้วิธีไหนถึงจะเชิญชุติเทพมาได้ เมื่อวานตอนที่เค้าไปเกือบโดนฟันตาย
ชรินทร์ทิพย์ มองไปทางทั้งสองด้วยสีหน้าที่น่าสงสัย รู้สึกว่าสองคนนี้เป็นคนที่รพีพงษ์เรียกมาหรอกเพราะเขา
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่รู้ว่าหน้าตาของชุติเทพเป็นยังไง หลังจากที่ชุติเทพมาถึงก็รีบ ไปต้อนรับอย่างเคารพ
“หมอเทวดาชุ คุณยอมมาที่นี่เป็นบุญวาสนาของตระกูลเราจริงๆ”
“ใช่ รีบชงชาให้หมอเทวดาชุ”
“ไปชงให้หมอหน่อย”
ทุกคนเริ่มเดินไปพูดคุยเพื่อจะให้ภาพที่ดีแก่ชุติเทพ ต่อไปมีปัญหาจะได้ไปให้ชุติเทพช่วย
ไม่ว่าสมัยไหน คนแบบไหน ก็จะไม่มีทางไปเป็นศัตรูกับหมอเทวดา
ชรินทร์ทิพย์ เห็นทุกคนไปต้อนรับ บนใบหน้าก็ปรากฏความพอใจ
เดี๋ยวจองไปทางชุติเทพและเจสสิก้า “สองคนนี้ไม่เหมือนหมอเทวดาเลย อาจจะเป็นพวกต้มตุ๋นที่รพีพงษ์หามาไม่ต้องถูกเขาหลอก”
ทุกคนได้ยินคำพูดของชรินทร์ทิพย์ต่างก็ตกใจกันหมด นี่เป็นตัวจริงนะ จะเป็นพวกต้มตุ๋นได้ยังไง
ธายุกร ขมวดคิ้ว เขาก็แค่ล้อเล่นกับชรินทร์ทิพย์ไม่คิดว่าหล่อนจะจริงจัง
โง่จริงๆ เลย
หลังจากที่เจสสิก้าได้ยินคำพูดของชรินทร์ทิพย์ ก็จิกตาไปทางชรินทร์ทิพย์ จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าของหล่อนและตบไปที่หน้าของหล่อน
เพี๊ย!
ชรินทร์ทิพย์อึ้งไปเลย ใครจะคิดว่าจะมีผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าเธอจะแรงขนาดนี้ ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
“เธอทำอะไร! เธอรู้มั้ยฉันคือใคร เธอกล้าตบฉันหรอพี่ธายุ รีบไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไป” ชรินทร์ทิพย์โกรธ
“เฮอะ กล้าบอกว่าอาจารย์ฉันคือพวกต้มตุ๋น นี่คือปฏิกิริยาการหาหมอของครอบครัวเธอหรอ?” เจสสิก้า พูดดำน้ำเสียงที่เยือกเย็น
บนใบหน้าของธายุกร เต็มไปด้วยความหน้าแตก รีบเดินไปตรงหน้าของชรินทร์ทิพย์และทำหน้าทำตาให้เธอ จากนั้นมองไปทางเจสสิก้า “ขอโทษจริงๆ น้องสาวของฉันไม่เคยเข้าสังคม หวังว่าทั้งสองจะไม่โกรธ ต้องขอโทษแทนน้องสาวด้วย”
ชรินทร์ทิพย์อึ้งไปสักแป๊บ ทำไมธายุกร เคารพสองคนนี้ขนาดนั้น เมื่อกี้ผู้หญิงคนนี้ตบหน้าตัวเองนะ
“พี่ธายุ ทำไมต้องเคารพพวกเขาขนาดนั้น เป็นพวกต้มตุ๋นชัดๆ!” ชรินทร์ทิพย์พูด
ญาติที่เหลือทนดูไม่ไหวไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับชรินทร์ทิพย์ก็เลยไปว่าชรินทร์ทิพย์
“เจน ทำไมไม่เคารพหมอเทวดาชุและลูกศิษย์เขา เค้าเป็นคนที่มารักสาตัวคุณท่านนะ ถ้าทำให้เขาโกรธเธอรับผิดชอบไหวหรอ?”
“รีบขอโทษหมอเทวดาชุ สะเพร่าจริงๆ เลย”
“เจนเอ้ยเจน ถ้าอาการของคุณท่านมีดีทุกอย่างก็จะลงโทษที่เธอนะ”
……
ชรินทร์ทิพย์ ไม่คิดว่าทุกคนจะมาว่าเธอ
แต่ไม่มีใครคอยหนุนหลังเธอ เค้าก็ไม่กล้าพูดอะไร
อารียาเห็นชรินทร์ทิพย์เสียเปรียบ ก็รู้สึกสะใจ
ปกติเธอรู้สึกว่าชรินทร์ทิพย์คือน้องสาวของเธอก็เลยทำอะไรเธอไม่ได้ แต่เจสสิก้าไม่เห็นหล่อนอยู่ในสายตา หล่อนคือลูกศิษย์ของชุติเทพก็ต้องมีความเย่อหยิ่งของตัวเอง ไม่ใช่คนอย่างชรินทร์ทิพย์จะมารังแกได้
รพีพงษ์เดินไปตรงหน้าชุติเทพ “ขึ้นไปชั้นบนเถอะ”
ชุติเทพ พยักหน้าแล้วขึ้นไปชั้นบนพร้อม
คนในตระกูลก็เริ่มเดินตามไป
ชรินทร์ทิพย์ เอามือปิดหน้าตัวเอง โกรธแต่ไม่รู้จะไปปลดปล่อยที่ไหน ก็เลยต้องเดินตามขึ้นไปชั้นบน
เข้าไปในห้องของนภทีป์ หมอกำลังตรวจสุขภาพให้นภทีป์อยู่
ธายุกรรีบเดินไปพูด “ปู่หมอเทวดาชุมาแล้ว ปู่รอดแล้ว!”
นภทีป์ได้ยินคำพูดของธายุกร ก็ลุกขึ้นทันที
คนที่อยู่รอบข้างต่างก็ตกใจหมด ไม่คิดว่านภทีป์ที่ป่วยหนักขนาดนี้แล้วยังลุกขึ้นได้อีก
นภทีป์ หันไปดูหลังจากที่พบชุติเทพก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นว่า “หมอเทวดาชุ เป็นบุญวาสนาของตระกูลเราจริงๆ ที่คุณยอมมารักษาตัวผม”
ชุติเทพส่ายมือให้กับนภทีป์ “แค่เห็นแก่หน้ารพีพงษ์เอง”
ทุกคนต่างก็มองไปทางรพีพงษ์ด้วยสีหน้าที่ตกใจ ไม่คิดว่าเค้าจะมีอำนาจขนาดนี้ ชุติเทพบอกว่าเพราะเห็นแก่หน้ารพีพงษ์ก็เลยมา
นภทีป์ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะเชิญมาได้จริงๆ แต่เวลาแบบนี้เค้าไม่มีเวลาคิด เพราะจะต้องรักษาตัวก่อน
“หมอเทวดาชุรบกวนแล้ว ครั้งนี้รักษาเสร็จผมจะจ่ายให้หนักเลยครับ หวังว่าคุณจะรักษาผมให้ดีที่สุด” นภทีป์ พูดดำน้ำเสียงที่จริงจัง
ชุติเทพ ไม่ได้พูดอะไรแต่เจสสิก้าที่อยู่ข้างๆพูดมาว่า “โถ่ อาจารย์ พวกเราไม่ควรจะรักษาเขา เพราะว่าคนบ้านนี้เยื่อหยิ่งเกินไป บอกว่าพวกเราคือคนหลอกลวง รักษาเขาให้ตายเลย”
นภทีป์ได้ยินที่เจสสิก้าพูดก็อึ้งไปเลย ถามอย่างสงสัยว่า “ไม่รู้ว่าคุณเป็น?”
ธายุกร รีบพูดไปว่า “ปู่ เมื่อกี้เจนไม่ทันไประวังไปรบหรู่สองท่านนี้”
สีหน้าของชรินทร์ทิพย์เปลี่ยนไปทันที ถ้าชุติเทพไม่รักษานภทีป์ เพราะเธอ เธอก็จะกลายเป็นคนบาป
“เฮอะ นั่นเรียกว่าไม่ทันระวังหรอ ฉันว่าไม่จริงใจมากกว่า ไม่มีแม้กระทั่งคำขอโทษ” เจสสิก้า พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
นภทีป์พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ไอ้สาระเลว! ยังไม่ขอโทษอีก!”
“ปู่ หนูผิดไปแล้ว ให้อภัยหนูเถอะ” ชรินทร์ทิพย์ขอร้องนภทีป์
นภทีป์ จะเป็นลม กัดกรามแล้วพูดว่า “ฉันให้ขอโทษกับฉันหรอ?ให้ขอโทษหมอเทวดาชุและสาวน้อยคนนี้! ผิดไม่รู้จักแก้ ขอโทษหมอเทวดาเดี๋ยวนี้!”