พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 118 หน้าแดงผิดปกติ
บทที่ 118 หน้าแดงผิดปกติ
รพีพงษ์ พูดเสร็จ ทุกคนก็ทำหน้าตกตะลึง ไม่คิดว่าเขาจะพูดเข้ามาแบบนี้มา
ชรินทร์ทิพย์ไม่พอใจมากที่สุด พูดตรงๆ ไปว่า “มีสิทธิ์อะไรให้หล่อนมาเป็นผู้จัดการ? มันไม่ได้เก่งขนาดนั้นฉันไม่ตกลงที่จะให้หรอกนะเป็นผู้จัดการ”
รพีพงษ์ ยิ้มและพูดว่า “สิทธิ์ที่ถูกบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปเชิญไปทำงาน ถ้าเธอไม่พอใจก็ให้เขามาเชิญเธอไปทำงานสิ”
ชรินทร์ทิพย์ รู้สึกหงุดหงิดทันที เพราะหล่อนคิดว่าหล่อนเก่งกว่าอารีเก่ง ก็เลยมองผ่านทุกความสามารถของอารียา
ตอนนี้รพีพงษ์พูดแบบนี้ก็เหมือนกำลังเตือนเธอว่า เธอสู้อารียาไม่ได้เลย
“ไม่ต้องมาได้ใจแถวนี้เลย จะบอกให้ว่าฉันจะเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลลัดดาวัลย์นะ!” ชรินทร์ทิพย์ ตะโกนพูด
“ไม่ต้องเอาอันนี้เป็นข้ออ้างเลย นี่ก็ผ่านไปกี่เดือนแล้ว ไม่เห็นตระกูลลัดดาวัลย์จะมาหาเธอเลย ไม่มีความคิดที่อยากจะสู่ขอเธอหรือเปล่า” รพีพงษ์พูด
ชรินทร์ทิพย์ แทบจะเป็นบ้า หล่อนรู้สึกว่ารพีพงษ์เป็นคนที่ชอบพูดเรื่องที่ไม่ควรพูด ทุกคำพูดเหมือนเป็นน้ำเกลือไปสาดที่แผลของหล่อน
ตอนแรกเธอพูดถึงเรื่องนี้บ่อยจริงๆ เพราะเธอรู้สึกว่าเธอจะได้ไปอยู่ในตระกูลนั้น
คนในตระกูลก็คิดว่าของที่เอามาให้มาเพื่อที่จะสู่ขอชรินทร์ทิพย์ ต่างก็ไปปรับจบเธอ
แต่พอเวลาผ่านไป ทางตระกูลลัดดาวัลย์ไม่มีวี่แววแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้ชรินทร์ทิพย์ใจร้อน ในใจก็เริ่มสงสัยว่าตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ได้คิดอะไรกับเธอ
คนในตระกูลก็เริ่มใหม่ประจบเธอเหมือนเมื่อก่อน ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
ตอนนี้รพีพงษ์พูดเรื่องนี้ต่อหน้าทุกคนแบบนี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
“ฉันว่าแกอิจฉาฉันชัดชัด ค่อยรอดูนะ รอวันที่มาตระกูลลัดดาวัลย์ ฉันจะให้แกรู้ความดีของฉันเอง!” ชรินทร์ทิพย์พูด
รพีพงษ์ส่ายหัวละพูดใจใน “คงต้องหาเวลาให้ตาสีทอง มาพิสูจน์แล้ว ไม่ยังงั้นหล่อนคงจะคิดว่าคนในตระกูลลัดดาวัลย์ชอบร้อนจริงๆ”
“คุณปู่ ผมตกลงที่รพีพงษ์เสนอ ถ้าให้เขาหาหมอเทวดาชุมารักษาปู่จริง ถึงแม้จะให้อารียาเป็นผู้จัดการก็ไม่เป็นอะไร” ธายุกรพูด
ทุกคนต่างมองไปทางธายุกรด้วยสีหน้าที่ตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะยอมให้อารียาเป็นผู้จัดการ
นภทีป์พยักหน้า เขาไม่มีปัญหากับเรื่องที่อารียาจะเป็นผู้จัดการ เพราะผู้อำนวยการของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปก็ยอมรับความสามารถของอารียา คนแบบนี้เขาจะรั้งไว้ก็มีแต่ให้เป็นผู้จัดการแล้ว
ไม่อย่างนั้นอารียาอาจจะไปบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป สำหรับตระกูลฉัตรมงคลแล้ว นั่นจะเป็นการเสียหายครั้งใหญ่
ครั้งนี้เขาอยากให้รพีพงษ์หาชุติเทพมาจริงๆ เผลอๆเขาอาจจะมีชีวิตได้อีกหลายปี
ธายุกร ยิ้มแล้วมองไปทางทุกคนพูดว่า “อาการของปู่สำคัญที่สุด ไม่ว่าเขาจะหามาได้หรือไม่ ก็ควรจะให้เขาลองดู แต่ฉันก็มีข้อแม้ ถ้าหามาไม่ได้ แกและอารียาจะต้องออกจากตระกูลฉัตรมงคลและห้ามกลับมาอีก
ทุกคนได้ยินธายุกรพูดแบบนี้ก็รู้แล้วว่าเขาหมายความว่ายังไง
ธายุกรคิดว่ารพีพงษ์ไม่มีทางหามาได้ ถึงจะหามาได้จริงและรักษาหาย ตระกูลฉัตรมงคลก็ต้องฟังคำพูดของนภทีป์อยู่ดี
และตอนนี้โปรเจคได้หยุดลง เงินส่วนใหญ่ของตระกูลก็ลงทุนกับโปรเจคนี้ ตอนนี้ใครเป็นผู้จัดการก็ต้องมาจัดการเรื่องที่เหลือ
ธายุกร อยากจะเป็นคนครองอำนาจจริง แต่เขาไม่อยากจะไปเคลียร์เรื่องพวกนั้น ถ้ามีคนเคลียร์แทนเขา เขาก็ดีใจ
เพราะถ้าในอนาคตนภทีป์ไม่อยู่แล้ว เป็นไปได้ที่เขาจะได้เป็นผู้อำนวยการของตระกูลฉัตรมงคล ถึงเวลาใครจะมาเป็นผู้จัดการก็เป็นเรื่องของเขาแล้ว
ไม่นานก็มีคนรู้ว่าธายุกรกำลังคิดอะไรอยู่ พวกเขาต่างก็มองไปทางรพีพงษ์และอารียาด้วยสายตาที่มีความสุข
“ถ้ายังงั้นก็ตกลงกันแบบนี้ไปหา ถ้ารพีพงษ์หาหมอเทวดาชุมาไม่ได้ ก็รีบออกจากตระกูลฉัตรมงคล ไม่ต้องให้คุณท่านเห็นแล้วไม่สบายใจ”
“ให้อารียาเป็นผู้จัดการก็ได้ แต่ถึงเวลาจะต้องดูแลบริษัทให้ดี ถ้าเกิดปัญหาอะไรจะต้องรับผิดชอบคนเดียวทั้งหมด”
“รพีพงษ์ก็โง่จริงๆ เลย ให้อารียาเป็นผู้จัดการ เขาไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ตระกูลเราเป็นช่วงวิกฤต”
……
ศศินัดดา ก็รู้สาเหตุที่ธายุกรยอมรพีพงษ์ หล่อนรีบไปดึงตัวรพีพงษ์กลับมา “บ้าไปแล้วหรอ? ตอนนี้ตระกูลเราเป็นอะไรไม่เข้าใจหรือไง? ถ้าตอนนี้ให้เป็นผู้จัดการก็เป็นปัญหาสิ”
อารียาก็มองไปทางรพีพงษ์ด้วยสายตาที่สงสัยและถามว่า “รพีพงษ์ ถ้าฉันกลับไปเป็นผู้จัดการตอนนี้คงไม่ดีมั้ง”
รพีพงษ์ ยิ้มและพูดกับหล่อนว่า “สบายใจได้ เรื่องนี้ดีกับเธอมาก”
นภทีป์ ไม่อยากจะเสียเวลาต่อ ไม่ว่ายังไงชีวิตของเขาสำคัญที่สุด
“พอแล้ว เรื่องนี้ตกลงกันแบบนี้ ถ้ารพีพงษ์หาหมอเทวดาชุมาได้จริงๆ งั้นก็ให้อารีมาเป็นผู้จัดการของบริษัท”
“ออกไปได้แล้ว รพีพงษ์รีบไปหา หมอเทวดาชุ สุขภาพของฉันไม่มีเวลานานขนาดนั้น”
พูดจบนภทีป์ก็นอนลงไป
ผู้คนต่างออกจากห้อง มีคนไม่น้อยเดินผ่านรพีพงษ์และประชดประชันเธอ
“หน้าอย่างแกจะเชิญมาได้ฝันไปเถอะ”
“เห็นตัวเองเป็นผู้หลักผู้ใหญ่หรือไง หมอเทวดาชุเป็นคนอะไร แล้วแกเป็นคนอะไร ไม่รู้ตัวตน ฐานะตัวเองจริงๆ”
“ถ้าสามารถเชิญมาได้ ฉันจะกินเสื้อผ้าของฉันให้หมดเลย โกหกก็ไม่คิดดูดีดี”
ชรินทร์ทิพย์ เดินไปตรงหน้าของรพีพงษ์แล้วจิกตาใส่ “ถูกไล่ออกจากตระกูลเลย!”
รพีพงษ์ ไม่ได้สนใจคำพูดของคนพวกนี้เดินออกไปพร้อมอารียา
“รพีพงษ์ เชิญหมอเทวดาชุ มาได้จริงๆ หรอ?” อารียาถาม
รพีพงษ์ พยักหน้าและพูดว่า “ครั้งที่แล้วฉันเคยไปหาเขา ครั้งนี้ขอให้เขาช่วยอีกครั้งคงไม่ยาก”
อารียาได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ก็ไม่มีความเชื่อมั่นเลย คนอย่างหมอเทวดาชุไม่ใช่ว่าขอแล้วจะช่วยให้ทุกครั้ง
เธอถอนหายใจไม่ได้พูดอะไร ในใจคิดอยู่ว่า ถ้าถูกแล้วออกจากตระกูลจริงๆ เธอก็คงจะต้องตกลงการชวนไปทำงานของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป
เพราะสิ่งนี้ศศินัดดาก็เลยไม่ติรพีพงษ์ เพราะในสายตาของหล่อนได้ไปทำงานที่บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปเจริญกว่าอยู่ในตระกูล
“เดี๋ยวฉันจะไปหาชุติเทพ เธอจะไปด้วยไหม?” รพีพงษ์ถาม
ถึงแม้อารียาจะคิดว่าไม่มีโอกาส แต่ก็คิดอยู่ว่าไปกันเยอะจะได้มีโอกาสเพิ่มขึ้น เผลอๆ จะตกลงล่ะ ก็เลยพยักหน้าตอบกลับรพีพงษ์
ออกจากวิลล่าตระกูลฉัตรมงคล รพีพงษ์ขับรถส่งศศินัดดาและศักดากลับไปก่อน จากนั้นก็พาอารียาไปหาชุติเทพ
ทั้งสองคนขับเข้าไปในซอยแล้วเดินไปที่พักของชุติเทพ
ประตูถูกปิดและมีกระดาษแปะไว้ว่า “คิวรักษาในปีนี้เต็มแล้ว กรุณากลับ”
อารียา มองไปทั้งแผ่นกระดาษที่แปะไว้ ก็รู้สึกหมดหวัง เธอก็เคยได้ยินว่าเขาคนนี้รักษาเพียงปีละสามครั้ง ตอนนี้คิวเต็มแล้ว คงจะไม่ช่วยแล้วรพีพงษ์
“พวกเรากลับไปเถอะ เพราะเรื่องเกิดขึ้นแล้ว อย่างมากก็ไปทำงานที่บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป” อารียาพูด
รพีพงษ์ ยิ้มและพูดกับหล่อนว่า “ไหนๆ ก็มาแล้วจะกลับไปทำไม”
“บนนี้เขียนไว้ว่าคิวเต็มแล้ว” อารียาพูด
“นั่นคืออันที่เขียนไว้ให้คนนอก” รพีพงษ์ พูดจบก็ดันประตูเข้าไป
อารียาอึ้ง คนนอก? พวกเขาไม่ใช่คนนอกหรอ
เห็นรพีพงษ์ เปิดประตูเข้าไปแบบนี้ อารียาตกใจหมด จากนั้นก็รีบเดินตามไป
“รพีพงษ์ พวกเราเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตแบบนี้ จะทำให้เจ้าของบ้านไม่พอใจ พวกเรารีบออกไปเถอะ” อารียาพูด
“เข้ามาในบ้านเดินไม่ได้รับอนุญาตจากตายหรอ!” เสียงของเจสสิก้าดังขึ้น
อารียา ได้ยินแบบนี้ก็รีบจับแขนรพีพงษ์เดินไปดันนอก รพีพงษ์ ยืนอยู่ที่เดิมไม่คิดจะขยับ
“หล่อนไม่กล้าทำอะไร” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูด
อารียา รีบใจร้อนขึ้นมาทันที “หล่อนคือเจ้าของบ้านนะ คุณเข้ามาในบ้านแบบนี้ หล่อนจะทำอะไรคุณก็ได้”
เจสสิก้า เดินออกมาจากด้าน บนใบหน้ามีแต่ความโกรธและพูดว่า “ใครหน้าไหน……”
แล้วเธอยังไม่ทันพูดออกปาก พอเห็นรพีพงษ์ก็อึ้งไปเลย
“อา…… อาจารย์ปู่หรอ?”
รพีพงษ์ พยักหน้าและพูดว่า “ไปเรียกอาจารย์มาฉันมีธุระจะคุย”
เจสสิก้า ไม่กล้าชักช้า รีบไปเรียกชุติเทพ
อารียางงไปหมดเลย คนของชุติเทพ เรียกรพีพงษ์ว่าอาจารย์ปู่
นี่เกิดอะไรขึ้น?
“รพีพงษ์ หล่อนเรียกคุณว่าอาจารย์ปู่ ก็แปลว่าคุณเป็นอาจารย์ของชุติเทพ?” อารียาถาม
รพีพงษ์ เอามือไปเกาผม “เปล่าๆ ที่หล่อนเรียกฉันว่าอาจารย์ปู เพราะว่าเล่นหมากรุกสู้ฉันไม่ได้ก็เลยเรียกฉันว่าอาจารย์ปู่ ชุติเทพก็สู้ฉันไม่ได้ ฉันก็เลยเอาจุดนี้เอาเปรียบเพราะเขาถ้าเทียบความเป็นหมอแล้วชุติเทพถึงจะเก่งจริง”
อารียาเข้าใจแล้ว ไม่คิดว่ารพีพงษ์ยังจะเคยเล่นหมากรุกกับ
ถ้าคิดไม่ออกจริงๆ ว่ารพีพงษ์จะรู้จักคนชั้นสูงอย่างชุติเทพได้ยังไง
เห็นไม่ถูกไล่ออกไป อารียาก็โล่งอก
ผ่านไปไม่นาน เจสสิก้าและชุติเทพก็เดินมาดันนอก
เจสสิก้า มองไปที่อารียาไม่หยุด ทำให้อารีรู้สึกกริ่งเกรง
ชุติเทพมองไปทางอารียา “โอ๊ย คุณจะตั้งท้องละมั้ง มาให้ฉันดูหรอ? ได้นะเนี่ย แต่งงานนานขนาดนี้ทำให้สำเร็จได้สักที มา เดี๋ยวฉันดูให้ เด็กน้อยที่อยู่ในท้องก่อเรื่องใช่ไหม”
รพีพงษ์ รีบติดตามไปที่ชุติเทพ “ไม่ต้องมาล้อเล่น มาหาเพราะมีธุระ”
อารียา หน้าแดงไปหมดไม่รู้จะประเชิญหน้ากับพวกเขายังไง
คนนี้คือหมอเทวดาชุหรอ? ทำไมดูแล้วไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลย?
ชุติเทพได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ก็รีบทำสีหน้าผิดหวัง “ที่แท้ยังไม่สำเร็จหรอเนี่ย ให้ฉันดีใจไปป่าว ว่ามาครั้งนี้มีเรื่องอะไรอีก?”
“คุณท่านของตระกูลฉัตรมงคลป่วย อยากจะให้ไปดูหน่อย” รพีพงษ์พูด
อารียา เริ่มกลัว รู้สึกว่าที่รพีพงษ์พูดแบบนี้อาจจะทำให้คนอื่นไม่ตก
แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงคือชุติเทพส่ายมือและพูดว่า เรื่องเล็ก เดี๋ยวจัดการเอง”
อารียารีบทำหน้าอย่างมีความสุข “อารี ขอบคุณแทนคุณท่านค่ะ”
ชุติเทพมองไปที่อารียา และยิ้มแปลกๆ พูดกับรพีพงษ์ว่า “แกจะต้องเร็วๆหน่อยแล้วนะ แกไม่ใจร้อน แต่มีคนใจร้อน”
รพีพงษ์อึ้ง ไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่
เจสสิก้า ที่อยู่ข้างๆพูดตรงตรงว่า “ความหมายของอาจารย์ฉันก็คือ พี่ผู้หญิงสวยสวยคนนี้มีความต้องการด้านนั้น ดูจากสีหน้าของเธอแล้วแดงผิดปกติ”