พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 114 ฉีกหน้ากาก
บทที่ 114 ฉีกหน้ากาก
ทีแรกศศินัดดาคิดว่าข้ออ้างที่ตัวเองพูดจะทำให้ทุกคนเชื่อใจได้ เพราะคุณหญิงตายตั้งนานแล้ว ไม่มีใครที่จะสามารถไปพิสูจน์ว่านี่เป็นความจริงหรือไม่
บ้านและรถของพวกเขาก็จะได้มาอย่างสมเหตุสมผลแล้ว
แต่เธอคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่านภทีป์จะให้พวกเขาเอาบ้านและรถให้ธายุกร
ถ้าทั้งสองอยู่ภายใต้บารมีของรพีพงษ์ เธอกับ ศักดา จะอยู่จะใช้ยังไงก็ได้ แต่ถ้าให้ธายุกรไปพวกเขาคงจะไปแตะต้องไม่ได้ด้วยซ้ำ
ศศินัดดาโวยวายทันทีและเสียใจกับคำพูดที่พูดไปเมื่อกี้ เธอมองไปทางศักดา อยากจะให้ศักดา ช่วยพูดอะไรหน่อย แต่เขายืนเหมือนไม่รู้เกิดอะไรขึ้นและไม่กล้าขัดคืนคำสั่งของนภทีป์
“ไม่ได้เรื่องจริงๆ !” ศศินัดดา ด่าไปตรงๆ
ธายุกร ที่กำลังเศร้าเรื่องถูกตรวจบัญชีอยู่ แต่พอได้ยินแบบนี้ก็รีบยิ้มบานทันที ถึงแม้เขาจะไม่ได้ยุ่งเรื่องบริษัท แต่ถ้าได้อยู่ในวิลล่าที่หรูพร้อมกับรถที่หรูๆ แปลว่าเขาได้เปรียบแล้ว
“ปู่นี่ฉลาดจริงๆ เลย ของในตระกูลพวกเราจะไปอยู่ในมือคนนอกไม่ได้” ธายุกรยิ้มปนพูด
อารียามองไปทางนภทีป์อย่างเหลือเชื่อ ทั้งทั้งที่เป็นสองคนที่ทำความผิด แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นรพีพงษ์ที่เสียเปรียบ
อยากใจเธอรู้ดีว่าเงินและเวลาใช้เงินของรพีพงษ์ซื้อมา ไม่ใช่เงินที่คุณหญิงให้มา แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรให้ธายุกร
“ปู่จะทำแบบนี้ไม่ได้ รถและบ้านจะให้ธายุกรไม่ได้!” อารียาอ้าปากพูด
นภทีป์ สีหน้ามืดครึ้มทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ทำไม สมบัติของตระกูลเราควรจะให้คนนอกถืออำนาจหรอ?”
“เขาคือสามีของฉันไม่ใช่คนนอก เงินพวกนั้นก็เป็นของเขา มีสิทธิ์อะไรที่จะให้ธายุกร” อารียา พูดดำน้ำเสียงที่เร่งรีบ
“กล้านัก!” นภทีป์ตะคอก “อะไรคือเงินของเขา ไม่มีการงาน เงินที่ใช้ก็เป็นของตระกูลเรา ถึงแม้จะเป็นที่ดยายเฒ่าเคยให้ไว้ นั่นก็เป็นเงินของตระกูลเรา รถและบ้านจะต้องโอนชื่อ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีก”
ที่เขาจะเอาบ้านและรถให้ธายุกร เพราะเขาเองก็อยากย้ายไปอยู่ตรงนั้น
ถึงแม้ที่เขาอยู่ในตอนนี้ก็เป็นวิลล่าเหมือนกัน แต่ตำแหน่งไม่ค่อยดี เทียบกับดงเย็นไม่ได้เลย
นภทีป์ เป็นคนที่ชอบอวดโอ้ครั้งที่แล้วได้รับของโบราณที่ตระกูลลัดดาวัลย์เอามาให้ เขาได้จัดงานโชว์ด้วย ครั้งนี้มีโอกาสจะเข้าไปพักที่ดงเย็นเขาจะไม่มีทางพลาดแน่นอน
“รีบไปโอนชื่อ ฉันก็จะเข้าไปอยู่ในนั้น เห็นแกนี่เป็นเงินที่ยายเฒ่าให้ไว้ ฉันอนุญาตให้พวกแกพักอยู่ที่นั่น แต่ถ้าทำปฏิกิริยาไม่ดี ฉันก็จะไล่ออกไปทันที”
นภทีป์ พูดเหมือนวิลล่ากลายเป็นของเขาแล้ว ใครจะพักในนั้นจะต้องขออนุญาตเขาเท่านั้น
พวกญาติๆมองไปทางครอบครัวศศินัดดาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ในใจรู้สึกสบายใจมาก เพราะพวกเขาไม่ได้เข้าไปอยู่คนอื่นก็ห้ามเข้าไปอยู่
อารียา รีบร้อนจนจะร้องไห้เธอมองไปทางรพีพงษ์ รพีพงษ์เดินไปหนึ่งก้าว พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นนชา “วิลล่าหลังนี้เป็นของฉัน ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง อยากจะให้ฉันกลับบ้านโอนชื่อหรอ ฝันไปเถอะ!”
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจกันหมด ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะกล้าขัดคำสั่งของคนท่าน
ธายุกรมองไปทางรพีพงษ์ ด้วยสายตาที่เย็นชาและพูดว่า “อยากจะต่อต้านหรอ? แม้กระทั่งคำสั่งของปู่ก็ไม่ฟัง อยากจะถูกไล่ออกจากตระกูลใช่ไหม?”
รพีพงษ์ ยิ้มและพูดว่า “เมื่อกี้เขาก็พูดแล้วว่าฉันเป็นเพียงคนนอก ทำไม คนนอกยังจะกลัวถูกพวกเธอไล่หรอ?”
นภทีป์ ตบไปที่โต๊ะแรงๆและพูดด้วยความโมโห “นี่แกกับพูดแบบนี้กับฉันหรอ? วิลล่าหลังนี้ต้องโอนชื่อมา พรุ่งนี้ฉันจะไปพัก!”
รพีพงษ์ ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ปู่ อายุเยอะแล้ว ไม่ควรที่จะย้ายบ้าน ฉันว่าพักอยู่ที่นี่ก็ดีนะ อยู่ที่นี่เถอะ ที่นั่นไม่เหมาะกับปู่”
นภทีป์ โกรธจนตัวเริ่มสั่น ตาทั้งคู่ต้องไปทางรพีพงษ์ “แก……แกบ้าไปแล้ว! สมบัติของตระกูลเราแกมีสิทธิ์อะไรจะมาพูด!”
“ปู่ ทั้งวินล่านะรถต่างก็เป็นชื่อของฉัน ทางกฎหมายนี้เป็นของของฉัน ใครจะเอาไปก็ไม่ได้” รพีพงษ์พูด
อารียาเห็นรพีพงษ์และนภทีป์เริ่มโต้เถียงกัน อยากจะไปห้าม แต่นภทีป์ทำเกินไปจริงๆ ก็เลยปล่อยให้ทั้งสองทะเลาะกัน
อย่างมากก็เธอออกจากตระกูลแล้วไปหาที่พักกับรพีพงษ์
ครั้งนี้ศศินัดดาไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะนี่เกี่ยวข้องและเป็นสิ่งตัดสินว่าเธอจะได้อยู่ในวิลล่าต่อไหม ถ้ารพีพงษ์อดทนได้ เธอก็จะได้อยู่ต่อ
ไม่ว่ายังไงคนที่ทะเลาะกับคุณท่านก็คือรพีพงษ์ ถ้าจะโทษก็ไม่โทษเธอ
นภทีป์เห็นรพีพงษ์ กล้าเถียงกลับ แถมยังจะใช้กฎหมายมาพูด เขาก็ยิ่งโกรธไปใหญ่
“อารียา หาสามีได้ดีจริงๆ ครอบครัวเธอเก่งจริงๆ ไม่เห็นหัวหน้าครอบครัวอยู่ในสายตาแล้วใช่ไหม ดีเลยดีจริงๆ ,!” นภทีป์ พูดด้วยคำพูดที่แปลกประหลาด
“ปู่ อารียา กินบนเรือนขี้บนหลังคา ไล่ออกจากตระกูลเลยจะได้ไม่ต้องเกิดเรื่องแบบนี้อีก” ชรินทร์ทิพย์ พูดพึมพำ
“หุบปาก! เธอมีสิทธิ์มาพูดหรอ!” ตอนนี้นภทีป์ กำลังโกรธอยู่ ไม่ว่าใครจะพูดก็จะทำให้เขารู้สึกไม่พอใจฃ
สีหน้าของชรินทร์ทิพย์เปลี่ยนไปทันทีจิกตาไปทางรพีพงษ์ ที่เธอโดนด่าเพราะเขาคนเดียว
“ใสหัวออกไปเลย ต่อไปมีเรื่องอะไรจะให้ฉันช่วยก็ไม่ต้องมาหา พวกเธอเก่งแล้ว ฉันจะว่าอะไรไม่ได้แล้ว!” นภทีป์ ตะโกนเสียงดัง
ทุกคนรู้แล้วว่าเขาโกรธจริงๆ ก็เลยรีบเดินออกไป
พวกเขาต่างก็มองไปทางครอบครัวศศินัดดาด้วยสายตาที่น่าสงสาร เรื่องที่รพีพงษ์ ทำในวันนี้มันเป็นการฉีกหน้าเปิดสึกกลับนภทีป์ ถึงแม้จะไม่ไล่พวกเขาออกจากตระกูลแต่ถ้าต่อไปอยากจะได้ดีอะไรจากนภทีป์คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
รพีพงษ์ เดินไปจูงมือของอารียา แล้วเดินออกไปด้านนอก
เขาไม่อยากจะเถียงอะไรกับนภทีป์ ที่เขาอดทนอยู่ในบ้านหลังนี้ก็เพราะอารียา
ตอนนี้นภทีป์ไม่ยุติธรรมกับอารียา เขาก็จะไม่เกรงใจอีก
ตระกูลเล็กๆ ยังไม่อยู่ในสายตาของเขา แค่เขาอยากจะทำให้ตระกูลนี้พังทลายก็เป็นได้
ศศินัดดาและศักดาเห็นรพีพงษ์พาอารียาเดินไป ก็รีบเดินตาม
“นี่ทำกรรมอะไรไว้เนี่ย ต่อไปพ่อของฉันจะไม่ดีกับครอบครัวเราอีกแน่” ศักดาพูด
ศศินัดดา จิกตาไปทางเขาและพูดว่า “เพราะแกไม่ได้ประโยชน์ไง อย่างน้อยตอนนี้ก็มีบ้านและรถ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีอะไรทั้งนั้น”
ศักดา ได้ยินเราก็คิดว่าเป็นยังงั้น ถ้ารพีพงษ์ เอารถและบ้านโอนไปจริงๆ พวกเขาก็คงไม่ปรับทัศนคติ เป็นแบบนี้ยังจะดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียอะไรไป
แค่พริบตาเดียวในวิลล่าก็เหลือเพียงแต่นภทีป์และธายุกรสองคน
ชรินทร์ทิพย์ เพราะโดนด่าเมื่อกี้ก็ไปกับคิมหัตต์แล้ว
“ปู่ รพีพงษ์ จะเกินไปแล้วจริงๆ กล้าขัดคำสั่งของปู่ต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ผมว่าต้องเป็นเพราะอารียาสอนแน่นอน” ธายุกรพูด
"ครอบครัวเขาไม่มีใครดีเลย!” นภทีป์พูด
“ผมว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเพราะอารียาแน่ๆ เลย ตอนนี้เธอกำลังรับผิดชอบรถเจ็ดของบริษัทอยู่บอกได้เลยว่านี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของตระกูล ก็เลยคิดว่าปู่จะไม่กล้ายุ่งอะไรกับเธอ” ลูกตาของธายุกรหมุนไปมาและพูด
นภทีป์ เหมือนจะคิดอะไรได้และพูดว่า “รู้จักที่สำคัญของบริษัทจะให้หล่อนรับผิดชอบคนเดียวไม่ได้แล้ว”
“ใช่สิปู่ ว่ายังไงก็เป็นสะใภ้บ้านคนอื่น ถึงแม้รพีพงษ์จะเข้ามาอยู่ในบ้านแต่ก็จะให้รับผิดชอบโปรเจคสำคัญแบบนี้ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นสมบัติของตระกูลบ้านเราก็จะต้องไปอยู่ในมือคนนอก” ธายุกร พูดจุดประสงค์ที่แท้จริงของตัวเองออกมา
นภทีป์หรี่ตา “พรุ่งนี้ไปที่บริษัทกับฉันโปรเจคนี้จะต้องเปลี่ยนคนรับผิดชอบจะให้อารียาทำต่อไม่ได้แล้ว”
บนใบหน้าของธายุกรเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แผนเป็นจริงสายตาก็เต็มไปด้วยความสุข
อารียา ถ้าไม่มีโปรเจคของบริษัทอยู่ในตระกูลเราแกก็ไม่ช่วยอะไรเลย!
……
กลับไปถึง ดงเย็น ศศินัดดา เหมือนอารมณ์จะดีมาก วิลล่าไม่ได้เสียไปเป็นเรื่องที่ดีและสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่น
“รพีพงษ์ วันนี้ทำได้ดีมาก แต่ก็อย่าดีใจไป เพราะวิลล่านี้ก็ยังเป็นของตระกูลเรา ว่างๆ หาเวลาโอนชื่อไปให้อารี, ส่วนรถคันนั้นก็เก็บไว้เถอะ” ศศินัดดาพูด เธอรู้สึกว่านี่เป็นกระตัดสินใจที่ดีที่สุด
“แม่ แม่คิดว่านี่เป็นเงินของย่าจริงๆ หรอ? อย่ามาสร้างเรื่องอีกเลย”
อารียาจับมือของรพีพงษ์แน่นๆ กลับเข้าไปในห้องเธอไม่อยากจะฟังศศินัดดาพูดต่อ
“ช่วงนี้ลำบากคุณแล้วนะ” อารียา พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เอง” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูด
บนใบหน้าของอารียามีความกังวล “หลังจากเรื่องครั้งนี้ปู่จะต้องหาวิธีไล่ฉันออกจากโปรเจคเป็นแน่ อาจจะถึงขั้นไล่ฉันออกจากบริษัท ฉันคงจะต้องไปหางานอื่นแล้ว”
รพีพงษ์หรี่ตา จากนั้นก็พูดว่า “เรื่องนี้เธอไม่ต้องเป็นห่วง โปรเจคนั้น นอกจากเธอก็จะไม่มีใครยุ่งได้”
อารียาอึ้งไปปสักแป๊บ รู้สึกว่ารพีพงษ์ พูดแบบนี้เหมือนเขาเป็นเจ้าของบริษัทเลย
เห็นอารียา มีสายตาที่สงสัย รพีพงษ์รีบอธิบายไปว่า “เธอลืมไปแล้วว่าฉันมีเพื่อนที่บริษัท”