สายตาคมที่สาดเข้าใส่ทำให้พราวฟ้าหายใจติดขัด เธอหลบสายตานั้นหันไปมองทางอื่นทันที หัวใจเต้นระทึก แทบทะลุออกมาข้างนอก เธอไม่เคยเผชิญหน้ากับไคล์ตอนที่มีเพื่อนๆ เขาอยู่ด้วยมากมายขนาดนี้สักครั้ง มันทำให้เธอประหม่า
“ว้าว เอมม่ามีเพื่อนสวยขนาดนี้ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย” โจชัวพูดพร้อมกับสายตาแพรวพราว
“แหม ก็พามาแนะนำให้รู้จักแล้วไงคะ” เอมม่าเดินเข้าไปนั่งข้างไคล์
ส่วนพราวฟ้าปริมและอะตอมนั่งโซฟาอีกตัว พราวฟ้าไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับคนอื่น เธอตัวเกร็งไปหมด กลัวสายตาของไคล์ด้วย
“พราวเป็นอะไรไหม” อะตอมกระซิบถามเมื่อเห็นเพื่อนตัวเกร็งๆ
“เปล่า” พราวฟ้าส่ายหน้าปฏิเสธ หายใจเข้าลึกๆ แล้วเป่าออกมาเบาๆ เธอไม่อยากเป็นภาระให้เพื่อน
“สวัสดีครับพี่ชื่อโจชัวนะครับ น้องพราวฟ้า” โจชัวย้ายตัวเองมานั่งใกล้ๆ หญิงสาวที่หมายตา โน้มหน้าลงไปพูดด้วย พราวฟ้าเอนตัวไปด้านหลังทันที
“ค่ะ” ตอบรับสั้นๆ หลบสายตา
“ขี้อายเหรอครับ”
“ยัยพราวเป็นคนขี้อายค่ะ ปกติไม่แต่งตัวแบบนี้หรอกค่ะแต่งเรียบๆ พูดก็น้อยอย่าถือสาเพื่อนเอมม่าเลยนะคะ” เอมม่าจีบปากจีบคอพูด
“อ่อ เหรอครับ พี่ชอบคนขี้อายด้วยสิครับ น่ารักดี” โจชัวพูดพร้อมกับส่งสายตาวิบวับให้
ไคล์เอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มมองเพื่อนของเอมม่าและแม่นางบำเรอของตัวเองนิ่งๆ หัวเราะในลำคอเบาๆ
ผู้หญิงร่านยังไงมันก็ร่านสินะ ปิดไม่อยู่จริงๆ อยากให้คุณทิพย์อาภามาเห็นจริงๆ ว่าลูกรักของท่านทำตัวยังไง นี่เหรอคนที่แม่เขาอยากได้เป็นลูกสะใภ้
ตอนแรกที่เห็นยอมรับว่าตะลึงเธอสวยจริง แต่ตอนนี้เขารู้สึกหงุดหงิด หงุดหงิดขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ไคล์ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรมาก และเขาพึ่งรู้ว่าพราวฟ้ามีเพื่อนแบบเอมม่าด้วย
คงไม่ต่างกันสินะ
“พราวไม่ชอบคนกะล่อนหรอกพี่” ปริมที่เงียบอยู่นานพูดบ้าง
“แล้วชอบคนแบบไหนครับ สายเปย์ไหม” โจชัวไม่โกรธแต่ถามกลับยิ้มๆ แทน
ปริมเบ้ปาก
“ไม่ชอบทั้งนั้น พราวมานั่งตรงกลางดีกว่าเรารู้ว่าพราวอึดอัด” ปริมเปลี่ยนที่นั่งกับเพื่อน
“เพื่อนเธอยังไม่ได้พูดสักคำ” จากทีแรกไม่ว่าอะไรตอนนี้เริ่มหัวเสียนิดหน่อยที่โดนขัด
“ไม่พูดฉันก็รู้” โจชัว จิ ปากเมื่อโดนขัดใจ มองสำรวจตัวขัดขวางแล้วยิ้มพอใจ ก็ไม่เลว
“แสดงว่าน้องอยากให้พี่จีบน้องแทน” ปริมถลึงตาใส่
“ใครบอก”
“เอาล่ะ พวกเธอจะดื่มอะไร” เอมม่าเห็นท่าไม่ดีเลยขัดขึ้น เธอก็ไม่ได้สนิทกับพวกเพื่อนๆ ของไคล์มาก เลยไม่อยากให้เพื่อนทำเสียงาน เธอพึ่งจะได้เริ่มความสัมพันธ์กับไคล์ เดี๋ยวจะพังซะก่อน
“ฉันขอเบียร์ อะตอมเอาเหล้า ส่วนพราวเอาแค่โค้กพอ” ปริมเป็นคนบอก
“ได้ไงมาทั้งทีต้องดื่มสิ พราวอย่าบอกนะว่าดื่มไม่เป็น” เอมม่าถามคนที่ก้มหน้างุด ทั้งๆ ที่รู้ว่าเพื่อนเธอคนนี้ไม่ดื่มเหล้า
การที่ย้ายมานั่งตรงกลางทำให้พราวฟ้านั่งตรงข้ามกับไคล์ พราวฟ้ารู้สึกมีสายตาแหลมคมคอยจับจ้องเธอตลอดเวลา เธออึดอัด
ไคล์ไม่ได้กลับไปที่ห้องเลยตั้งแต่วันที่เธอเป็นลม เขาเป็นผู้ชายใจร้ายยังไงก็ยังเป็นแบบนั้น
ปากบางเม้มเข้าหันกัน เหลือบมองคนใจร้ายก็เจอกับสายตาคมที่จ้องอยู่ก่อนแล้ว พราวฟ้าหลบสายตาของเขาทันที หันไปตอบเจ้าของวันเกิด
“เราเอาแบบปริมก็ได้” ถ้าจะดื่มคงไม่เป็นไรเพราะมีเพื่อนอยู่ด้วย เธอไม่อยากนั่งอยู่แบบนี้
“เยี่ยม น้องจัดมาให้ด้วยนะ” เอมม่ายิ้มพอใจหันไปสั่งบริกร
“กินได้เหรอพราว” ปริมถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง
“ลองดู” พราวฟ้าพูดเสียงเบา
“ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องฟืน” อะตอมบอกอีกคน พราวฟ้าพยักหน้า เธอโชคดีมากที่มีเพื่อนดีๆ แบบสองคนนี้
หลังจากนั้นไม่นานเหล้าและเบียร์ก็มาเสิร์ฟ
“ชนแก้วหน่อยครับน้องพราว” โจชัวยังไม่ล่ะความพยายาม ถึงจะมีคนคั่นกลางเขาก็เอื้อมมือไปชนแก้วกับหญิงสาวได้ พราวฟ้ามองแก้วเหล้าที่ยื่นมาตรงหน้า เธอต้องทำตามมารยาทยกแก้วตัวเองชนกับแก้วเขา
ปริมถลึงตาใส่คนกะล่อน ถึงรุ่นพี่กลุ่มนี้จะหล่อเธอก็ไม่สน คนหล่อมักเจ้าชู้
“ชนแล้วก็ดื่มสิจ๊ะพราว ไม่ดื่มเสียมารยาทแย่นะ” เอมม่าพูดกระตุ้นเมื่อพราวฟ้าจะวางแก้วลงที่เดิม พราวฟ้าเงยหน้าขึ้นมองคนพูด ก็ต้องสบสายตากับไคล์ เขาเลิกคิ้วขึ้นหน่อยๆ ยกยิ้มมุมปากเหมือนเย้ยหยัน มือเรียวกำแก้วในมือแน่น ยกขึ้นจิบอย่างเสียไม่ได้
ความขมของแอลกอฮอล์ทำให้เธอหลับตาปี๋ค่อยๆ กลืนมันลงไป
“กินได้ไหม” ปริมถามอีกครั้ง
“ได้แต่มันขม” ปริมหัวเราะเบาๆ กับความซื่อของเพื่อน
“เหล้าเบียร์ขมหมดแหละ”
“หัดไว้ดีแล้วพราวจะได้ไม่โดนใครมอมง่ายๆ” เอมม่าพูด
หลังจากนั้นทุกคนก็ดื่มกันไป จากเบียร์หนึ่งแก้วกลายเป็นสองแก้วสามแก้ว ทำให้ใบหน้าสวยหวานที่ถูกแต่งแต้มมาจนกลายเป็นสาวเปรี้ยวแดงระรื่นขึ้นอีกเท่าตัว แถมยังรู้สึกเวียนหัว
เกือบเที่ยงคืน ก็มีคนถือเค้กออกมาทุกคนร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้เอมม่า พร้อมกับเสียงดนตรีที่บรรเลงเพลง
หลังจากร้องเพลงจบ ทุกคนให้ความสนใจกับเจ้าภาพ พราวฟ้าที่นั่งอดกลั้นมานานกระซิบบอกเพื่อน
“ปริมเราอยากเข้าห้องน้ำ”
“เดี๋ยวเราพาไป” ปริมอาสาเพราะเห็นอาการของเพื่อนเริ่มจะไม่ไหว
พราวฟ้าไม่ปฏิเสธเพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นยังไง
“ให้ไปด้วยไหม”
“พวกเราไปได้ ถ้านานนายค่อยไปตาม” ปริมบอกเพื่อน เผื่อเกิดอะไรฉุกเฉิน เธอเองก็ไม่ได้เป็นสาวเจนจัดเรื่องพวกนี้ แต่ก็พอเอาตัวรอดได้เพราะได้มาเที่ยวกับเพื่อนสมัยมอปลายที่ยังติดต่อกันอยู่บ่อยๆ แต่ก็กันไว้ก่อน
สองสาวเดินออกไป
“ไหวไหมพราว” ร่างบางเซเบาๆ หลังจากที่เดินมาสักระยะ มือเรียวยกขึ้นจับศีรษะนวดคลึง เธอรู้สึกมึนหัวเอามากๆ แต่ก็พยายามยืนให้ตรง
“ไหวๆ”
สองสาวพากันเบียดเสียดผู้คนจนมาถึงห้องน้ำ โทรศัพท์ในมือปริมสว่างวาบบ่งบอกว่ามีคนโทรเข้ามา
“พราวเข้าไปก่อนนะ ปริมขอไปรับโทรศัพท์ก่อน แป๊บหนึ่ง”
“อืม” ปริมปล่อยเพื่อนให้เดินเข้าไปในห้องน้ำ
ร่างบางค่อย ๆ เดิน พอเข้ามาได้เธอก็ค้ำยันมือบนขอบอ่างล้างหน้า เปิดน้ำ สาดน้ำใส่ใบหน้าโดยไม่สนใจว่าเครื่องสำอางจะเลอะรึเปล่า แต่มันก็ไม่เลอะเพราะเป็นแบบกันน้ำ
อาการมึนๆ ทำให้พราวฟ้ายืนแทบไม่อยู่ ร่างบางเดินโซเซเข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่ง ปิดประตูและนั่งเพื่อรวบรวมสติของตัวเอง เธอรู้ตัว่าตัวเองเมาแล้ว อาการคนเมาเป็นอย่างนี้นี่เอง
ด้านคนที่โต๊ะ อะตอมชะเง้อคอมองสองสาวที่เดินไปเข้าห้องน้ำ ทุกวินาที
“อะตอมนายก็ห่วงยัยพวกนั้นเกินไป ไปยังไม่ถึงนาทีเลย” เอมม่าพูดแซว
“เรื่องของฉัน” อะตอมตอบกลับเสียงเย็น เอมม่าย่นจมูกใส่เพื่อน หรือไม่ใช่เพื่อนก็ไม่รู้ ผู้ชายคนนี้ไม่เคยเห็นเธอเป็นเพื่อนเลย เธอรู้ดี มีแค่ปริมเท่านั้นที่คุยกับเธอบ่อยสุด
ร่างสูงลุกขึ้นทำให้ทุกคนมองตาม
“ไปไหนคะไคล์” เอมม่าถามทันที ไคล์มองเธอนิดหน่อย แล้วเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร โดยนิสัยของไคล์เขาไม่เคยให้ความพิเศษกับผู้หญิงคนไหน ในกรณีของเอมม่าถ้าเธอคิดว่าตัวเองพิเศษนั้น มันก็ความคิดของเธอ การที่เธอจัดงานวันเกิดที่ผับเขาไม่ใช่ว่าเธอจะพิเศษกว่าคนอื่น เธอก็เหมือนลูกค้าคนอื่นๆ เงินใครจะไม่เอา เขาเปิดผับเพราะหารายได้ให้ตัวเอง
เขาไม่ได้ออกให้เธอสักแดงเดียว
ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องน้ำหญิง เขาเดินเข้าไปข้างในโดยไม่เกรงกลัวใคร พวกผู้หญิงต่างอ้าปากเหวอ ไคล์เอานิ้วยกจุๆ ที่ปาก สาวๆ ต่างพากับงับปากฉับ
“เรียกพราวหน่อยสิ” เขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นแทบกลั้นหายใจในความหล่อแบดบอยของเจ้าของผับ
“อะไร…นะ…คะ” เธอถามเขากับเสียงติดขัด
ไคล์กลอกตาไปมา
“เรียกชื่อพราว” ถึงจะไม่เข้าใจแต่ปากก็ขยับ
“พราว”
“เรียกอีก”
“พราว พราว”
“ปริมเหรอ” เสียงดังออกมาจากห้องน้ำห้องหนึ่ง ถึงเสียงจะไม่ดังก็พอรับรู้ได้ ไคล์ยิ้มมุมปาก โบกมือไล่ทุกคนออกไป พอทุกคนออกไปเขาก็เดินไปล็อกประตู เคาะประตูห้องน้ำสองสามที
MANGA DISCUSSION