หลังจากงานเลี้ยงเลิก พราวฟ้าและลูซก็กลับมาที่คอนโดของหญิงสาว พราวฟ้ารู้สึกมึนๆ หัวพอสมควร เพราะก่อนจะออกมาเธอโดนเพื่อนของชายหนุ่มแกล้งให้ดื่มไปหลายแก้ว
ส่วนลูซเองก็ไม่ได้ห้าม พราวฟ้าเลยได้ดื่มสมใจเพื่อนของเขา พอมาถึงคอนโดเลยต้องเป็นเขาที่ต้องอุ้มเธอขึ้นมาบนห้อง
“พราวไม่ได้เมามากขนาดนั้นสักหน่อยไม่เห็นต้องอุ้มกันเลย” พราวฟ้าบอกเสียงแผ่วใบหน้าแนบอยู่กับอกแกร่ง ลูซก้มมองคนที่บอกไม่เมาแต่ตาแทบไม่ลืม
ที่เขาไม่ห้ามเพราะอยากให้เธอผ่อนคลายบ้าง การดื่มเหล้าไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ถ้าเธอไปดื่มกับคนอื่นเขาคงห้ามเธอนี่มีเขาอยู่ด้วย เขาก็อยากให้เธอสนุกไปกับงานเลี้ยง
ตอนแรกเพื่อนๆ หลายคนของเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะมาตกม้าตายเพราะสาวเอเชียคนนี้ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อเขาแสดงให้เห็นว่าเขาหวงร่างบางนี้แค่ไหน
แต่บางคนก็ไม่เชื่อจริงๆ มีบ้างที่เขาไปเที่ยวกับเพื่อนโดยที่ไม่มีพราวฟ้าไปด้วย เพื่อนจะเอาผู้หญิงมาทดสอบเขา แต่เขาก็ไม่เล่นด้วย ไม่ใช่ว่าไม่อยาก ไม่ใช่ว่าไม่มีความต้องการ คนเคยมีเรื่องแบบนี้ และเขาก็เป็นคนที่มีความต้องการสูงเลยทีเดียวถ้าได้ทำแล้วไม่จบแค่รอบเดียวแน่ แต่ใบหน้าของพราวฟ้ามักจะเข้ามาหลอกหลอนเขาทุกครั้งที่มีผู้หญิงคนอื่นมาคลอเคลีย เขาไม่คิดว่าตัวเองจะอาการหนักขนาดนี้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว
นี่ขนาดว่าเธอไม่ให้เขาทำมากกว่ากอดจูบเขายังเป็นขนาดนี้ ถ้าเขาได้ทำอะไรๆ กับเธอเหมือนครั้งแรกของเราเขาคงจัดเธอหนักแน่ๆ ข้อหาทำให้เขาปวดข้อมือมาหลายเดือน
แค่คิดภาพคืนนั้นมันก็ทำให้เขาร้อนรุ่มไปทั้งตัว ลูซจัดการวางหญิงสาวลงบนเตียง
พราวฟ้าไม่ได้เมามากอย่างที่บอกจริงๆ เธอยังรู้สึกตัวเพราะง่วงมากเท่านั้น เลยหลับตาหลังจากที่เขาอุ้ม
“อาบน้ำไหม” ลูซถามก่อนจะถอดเสื้อแขนยาวทั้งของเธอและของเขาออกไปแขวน พราวฟ้าส่ายหน้า
“ง่วงมากเลยค่ะ ขอนอนเลยนะ” พราวฟ้าพลิกตัว หามุมที่นอนสบาย
ลูซเห็นแบบนั้นก็ห่มผ้าให้เธอ กดจูบลงหน้าผากมนเบาๆ เขามีเรื่องที่ต้องคุยกับเธอ แต่เอาไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
ร่างสูงเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำไม่ถึงสิบห้านาทีก็ออกมา สอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันกับหญิงสาว ดึงร่างบางเข้ามากอดแนบอก นับวันเขายิ่งรู้สึกหวงแหนเธอมากขึ้นทุกวัน เขาอยากเห็นพราวฟ้ายิ้มและหัวเราะในทุกๆ วัน เขาไม่อยากเห็นเธอเป็นเหมือนตอนแรกๆ ที่มา
“ฉันไม่มีทางให้ใครก็ตามทำให้เธอกลับเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ใบหน้าของเธอเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่า” ลูซพูดเสียงเบากอดกระชับร่างบางแน่นขึ้นแล้วหลับตามเธอไป
พราวฟ้าตื่นขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน เธอขยับตัวได้นิดหน่อยเพราะคนที่นอนอยู่ข้างๆ กอดเธอแน่นมาก เหมือนกลัวว่าเธอจะหายไป
“ลูซคะ” เธอเรียกเขาเพื่อปลุกให้ตื่น นี่ก็น่าจะสายมากแล้วเพราะตื่นขึ้นมาปุบเธอก็รู้สึกหิวทันที
“อือ” ลูซครางตอบรับแต่ยังไม่ยอมลืมตา แล้วยังกอดเธอแน่นกว่าเดิม
“กระดูกพราวจะหักอยู่แล้วค่ะ” พราวฟ้าขืนตัว วันนี้เขาไม่ใส่เสื้อนอนด้วย ผิวเรียบลื่นของเขามันทำให้เธอประหม่า
“มอนิ่งคริสหน่อยครับ” ลูซคลายอ้อมกอดออกแต่ยังไม่ยอมปล่อย เรียกร้องจูบรับเช้าวันใหม่จากหญิงสาวทั้งที่ยังไม่ลืมตา พราวฟ้าส่งค้อนให้เขาอย่างหมั่นไส้
แต่ก็ยอมยื่นหน้าเข้าไปจูบปากเขาเบาๆ แล้วผละออก
“หิวแล้วค่ะ ปล่อยพราวนะ”
“หิวมากไหม” ลูซลืมตาขึ้นมาจ้องหญิงสาวด้วยสายตาแพรวพราว
เมื่อเขาถามแบบนั้นพราวฟ้าก็พยักหน้าแก้มป่องๆ มุมปากของลูซกระตุกขึ้น
“กินสามีเป็นอาหารเช้าก่อนไหมครับที่รัก”
พราวฟ้าตาโตแบบไม่ทันตั้งตัว อยู่ๆ ร่างใหญ่ก็พลิกตัวขึ้นมาอยู่เหนือร่างของเธอ พร้อมกับคำเชิญชวนที่แสนจะวาบหวิวและใจสั่น
“สามีอะไรเล่า” เธอต่อว่าเขาเสียงแผ่ว น้อยครั้งที่เขาจะพูดแบบนี้
เสียงหัวเราะในลำคอดังกลับมาเบาๆ
“หรือไม่ใช่ สามีคืนเดียวลูซก็นับนะครับ”
เขากินอะไรผิดมารึเปล่านะ ทำไมเช้าวันนี้ถึงออดอ้อนเธอนัก ปากบางเม้มเข้าหากันอย่างเขินอายเธอกลัวว่าตัวเองจะเผลอยิ้มกับคำออดอ้อนของเขา
แล้วยิ่งหน้าอกหน้าใจของเขามันยั่วตายั่วใจเธอขนาดนี้ และไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็น เธอเห็นเขาอยู่ในสภาพนี้บ่อยแต่ไม่เคยชินสักที หน้าร้อนผ่าวทุกครั้งที่เห็น และเธอก็ชอบมองมันทุกครั้งที่เห็นเหมือนกัน
ก็เขาหุ่นดีมากขนาดนี้จะไม่ให้มองได้ยังไง
“บ้า..ปล่อยพราวได้แล้วค่ะ พราวจะไปอาบน้ำแล้วจะไปทำอะไรให้ทาน วันนี้พราวต้องเข้าไปหาคุณแม่และคิดว่าจะอยู่กับท่านทั้งวัน” พราวฟ้าบอกแพลนวันนี้ให้เขาฟัง เธอรับปากคุณทิพย์อาภาไว้แล้วว่าวันนี้จะอยู่กับท่านทั้งวัน
ลูซพยักหน้าเข้าใจ แต่คิ้วเข้มยังขมวดอยู่ จนพราวฟ้าอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปนวดคลึงมัน
“คิ้วขมวดเชียวคิดอะไรอยู่คะ”
“ไปด้วยได้ไหม” แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมานั้นไม่ตรงกับคำถาม มันเป็นคำถามกลับมากกว่า
“ไป….ไปกับพราวเหรอคะ” ตอนแรกพราวฟ้าไม่เข้าใจ แต่ลองทวนอีกรอบ เขาขอไปกับเธอ
“อืม ได้รึเปล่า” เมื่อได้รับคำยืนยัน พราวฟ้าก็เงียบไป จนทำให้คนขอเองเริ่มไม่มั่นใจ ลูซลุกขึ้นขยับตัวไปนั่งปลายเตียง
พราวฟ้าเห็นอาการของเขาก็รีบลุกตาม กระซิบข้างหูเขายิ้มๆ เขาเป็นคนขี้น้อยใจตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
“ถ้าจะไปด้วยก็ไปอาบน้ำสิคะ”
ลูซหันไปมองหน้าหญิงสาว
“แน่ใจ” เขาถามย้ำ
พราวฟ้าพยักหน้า เธอแน่ใจสิ เธอคิดไว้อยู่แล้วว่าจะพาลูซไปให้คุณแม่รู้จัก
“แน่ใจสิคะ คุณแม่ท่านรู้แล้วค่ะว่าพราวมีแฟน” สีหน้าของลูซดีขึ้นมาหน่อย เรื่องของเธอกับเขาคนที่เมืองไทยยังไม่มีใครรู้เพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะบอก ซึ่งเรื่องนี้พราวฟ้าเป็นคนขอเขาเองซึ่งเขาก็ตามใจเธอ
“แล้ว…” ปากหนาเม้มเข้าหากัน เขาไม่เคยถามหรือยกเรื่องในอดีตของเธอมาพูด เพราะเขาคิดว่ามันไม่จำเป็นและเขาไม่สนใจ คุยกันครั้งนั้นครั้งเดียวคือจบ อดีตก็คืออดีตให้มันหายไปกับกาลเวลา
แต่เมื่อวาน เขาเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นหน้าห้องน้ำ มันทำให้เขากลัว เขาไม่เคยกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อน เขาไม่รู้ว่าพราวฟ้าคิดยังไง เรายังไม่เคยแม้แต่บอกรักกัน เธอไม่เคยพูดว่ารักเขา แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขามองที่การกระทำ และให้เวลาเธอ เขาไม่รู้ว่าพราวฟ้าตัดผู้ชายคนนั้นออกจากใจได้รึยัง
“ลูซต้องการจะพูดหรือถามอะไรพราวรึเปล่าคะ ถามมาได้เลยนะ” พราวฟ้าไม่มั่นใจ เธอคิดว่าเมื่อคืนลูซอาจจะเห็นหรือไม่เห็น เพราะท่าทางของเขามันแปลกๆ
“เขามาตามเธอใช่รึเปล่า” ลูซถามออกไปในที่สุด พราวฟ้าชะงักไป ปากบางเม้มเข้าหากัน โน้มตัวขึ้นไปกอดเข้าจากด้านหลัง เกยคางไว้ที่ไหล่หนา
“เขามากับคุณแม่ค่ะ คุณเห็นใช่ไหมคะ” ลูซพยักหน้าให้คำตอบเธอ
ทั้งสองคนตกลงกันแล้วว่ามีอะไรให้พูดหรือคุยกันตรงๆ พยายามคุยกันด้วยเหตุผลห้ามใช่อารมณ์ และมันก็เป็นอย่างนั้นมาตลอด ร่วมถึงเรื่องนี้ด้วย
พราวฟ้ายอมรับและถามเขาตรงๆ ลูซเป็นคนมีเหตุผล เขามีความเป็นผู้ใหญ่สูง
“คุณเชื่อใจพราวไหมคะ” ลูซหันไปหาหญิงสาวและยกร่างบางขึ้นมานั่งบนตักแกร่งหันหน้าเข้าหากัน
“บอกรักก่อนสิครับ” เขาต่อรองบ้าง อยากได้ยินคำว่ารักจากปากเธอสักครั้ง
พราวฟ้าพอได้ยินแบบนั้นก็ตาโต คนเจ้าเล่ห์ใช้สถานการณ์แบบนี้บังคับให้เธอบอกรักงั้นเหรอ
MANGA DISCUSSION