พราวฟ้าพยายามดิ้นลงจากตักแกร่ง แต่มีหรือที่เธอจะสู้แรงเขาได้
“รู้สึกยังไงบ้างที่ไม่ได้เจอกัน” ลูซไม่ปล่อยแต่เลือกที่จะถามในสิ่งที่เขาอยากรู้ เขาปล่อยเวลาให้หญิงสาวได้อยู่กับตัวเอง
คำว่าวินๆ ของเธอ เขาเข้าใจแต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องทำตาม เขารู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมีวันไนต์สแตนด์กับใครก็ได้ ถึงเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ ถึงเธอจะร้อนแรงแค่ไหนเวลาอยู่บนเตียง แต่เขาก็มองออกว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น
และเขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักนิดเดียว เพราะเธอไม่ได้รังเกียจสัมผัสของเขา
“รู้สึกอะไรคะ ฉันต้องรู้สึกอะไร” พราวฟ้าหยุดดิ้น เอ่ยถามเขาเสียงแผ่ว เม้มปากเข้าหากัน
“รู้สึก….” ลูซเว้นจังหวะการพูดปัดผมที่ปกปิดใบหน้าหวานขึ้นไปทัดใบหูเล็ก ก่อนจะก้มลงกระซิบเสียงเบา
“คิดถึง” คำว่าคิดถึงซาบซ่านไปทั่วทุกอณูของความรู้สึก น้ำเสียงทุ้มแหบที่กระซิบข้างหูยิ่งทำให้เธอขนลุกเกรียว
“ฉัน….” ปากบางเม้มเข้าหากันแน่น มือทั้งสองข้ากำเข้าหากันด้วยอารมณ์สั่นไหว
“ฉันอยากให้เธอเป็นตัวของตัวเอง ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง อยู่กับฉันไม่มีอะไรต้องกลัว” ลูซรับรู้ได้ว่าในใจของเธอมีบางอย่างที่เธอกลัว อาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นหรืออะไรก็ตาม เขาจะทำให้เธอหายกลัวและยอมรับความจริง
“ฉัน…ไม่ อือ” ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยอะไรออกมาหรือปฏิเสธมือใหญ่จับใบหน้าหวานให้หันมารับจูบจากเขา จูบที่ไม่ได้มีความเร่าร้อนหรือรุกล้ำ เพียงแค่ปากแตะปากบางเบา แต่มันสื่อไปถึงหัวใจที่ได้รับ
สองสายตาสบกันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน
“ไม่ว่าความทรงจำในอดีตของเธอจะเป็นยังไง ฉันจะเป็นความทรงจำใหม่ให้เธอเอง” พราวฟ้าเข้าใจความหมายของเขาดี เธอไม่ใช่คนซื่อหรือคนโง่อย่างที่คนอื่นเคยกล่าวแต่… แต่บางครั้งความเงียบก็ช่วยได้
เธอรับรู้ทุกอย่าง เข้าใจทุกความรู้สึก
“คุณ…ชอบฉัน” ปากบางเอ่ยถามเสียงเบา เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้สนใจเธอ แต่เธอไม่แน่ใจว่าเขาสนใจเธอแบบไหน ของเล่นชั่วคราวหรือจริงจัง
และเธอก็ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองว่าจะมีใครมาจริงจังด้วย ถ้าเขาคนนั้นรับรู้อดีตของเธอ ลูซก็เหมือนกัน ถ้าเขารู้ว่าเธอเคยยอมอยู่กับผู้ชายใช้ร่างกายเข้าแลก เพราะคิดว่าเขาจะมองมาและเห็นค่าบ้าง มันจะเป็นยังไง เขายังจะต้องการเธออยู่ไหม
“ว่าอย่างงั้นก็ได้ ฉันสนใจเธอจนเป็นความชอบ” ลูซพูดอย่างตรงไปตรงมา
คำว่าชอบของเขาไม่ใช่ว่าพราวฟ้าไม่ตื่นเต้น ตอนนี้หัวใจเธอแทบเต้นออกมาข้างนอก เธอไม่เคยได้รับคำนี้จากใคร แต่กลับผู้ชายตรงหน้าเขาสามารถพูดออกมาได้เต็มปากว่าชอบเธอ
“แต่คุณก็รู้ว่าฉันไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิด ฉันมีอดีต” พราวฟ้าก้มหน้างุด ลูซเฉยครางมนขึ้นให้เธอสบตากับเขา
“ใครไม่มีอดีตบ้าง และฉันก็ไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าเธอคิดว่าตัวเองไม่บริสุทธิ์ฉันเองก็ไม่ ฉันรู้ว่าสังคมไทยเขาคิดมากเรื่องแบบนี้ แต่ที่นี่ไม่ใช่ ฉันไม่สนเรื่องนั้น ฉันสนแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า และเรื่องของเรา” นี่คงเป็นครั้งแรกที่พราวฟ้าเห็นเขาพูดยาวที่สุด
“แต่..ฉันยังไม่พร้อมจะมีใคร” การปฏิเสธใครสักคนที่เรารู้สึกดีด้วย มันเป็นเรื่องยากมากจริงๆ แต่พราวฟ้าก็ต้องทำ เธอสับสนไปหมด เธอยังไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกตัวเองยังไง
จะบอกว่าเธอลืมไคล์ได้จริงๆ แล้วเหรอ ก็ไม่ใช่ เธอยังลืมไคล์ไม่ได้ แต่ผู้ชายตรงหน้าก็มีอิทธิพลกับเธอเหมือนกัน เขาทำให้เธอปั่นป่วน เขาให้ในสิ่งที่เธอไม่เคยได้รับ
แต่…ในหัวของเธอมีคำว่าแต่เต็มไปหมด
“ตอนนี้ไม่ อนาคตไม่แน่ ฉันจะไม่บังคับ แต่ขอให้เธอให้โอกาส” ลูซไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องมานั่งขอโอกาสกับผู้หญิงคนไหน แต่สำหรับคนนี้ เขาคิดว่ามันคุ้มค่าที่เขาจะขอ
“แต่…”
“ชีวิตที่มีคำว่าแต่มากเกินไปอาจจะวุ่นวาย ปล่อยวางแล้วมองไปข้างหน้า หาความสุขให้ตัวเอง อย่าจมปลักอยู่กับอดีต” คำพูดของเขาทำให้พราวฟ้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมเข้มนั้น เธอจ้องหน้าเขาอยู่นานเพื่อหาคำตอบให้กับตัวเอง เขาพูดถูกทุกอย่าง เธอจมอยู่กับอดีต
อดีตที่ไม่มีวันแก้ไขได้ และอดีตที่ไม่มีวันทำให้เธอสมหวัง
เธอจ้องเขาเพื่อหาคำตอบให้กับตัวเอง ซึ่งเขาเองก็ไม่หลบสายตาเธอสักนิด สายตาที่มีแต่ความจริงใจ จนเธอต้องพ่ายแพ้
พราวฟ้ายิ้มออกมานิดๆ
“คุณพูดเหมือนคนแก่เลย” เธอพูดยิ้มๆ
ลูซเลิกคิ้วมองหญิงสาวที่เปลี่ยนอารมณ์กะทันหัน ก่อนจะยิ้มตาม
“เพราะมีเด็กขี้กลัวอย่างนี่ไง ฉันเลยต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่” ลูซเคาะจมูกเธอเบาๆ
“ฉันขอลงไปนั่งดีๆ ได้ไหมคะ” พราวฟ้าเอ่ยขอเขา เพราะอยู่แบบนี้เธอไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ มันไม่ค่อยโอเคกับหัวใจเธอเท่าไหร่
“ถ้าไม่ละ”
“คุณ..” พราวฟ้าหันไปถลึงตาใส่เขา บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนผ่อนคลายลงมาก เพราะยอมเปิดใจคุยกัน
“ลูซ เรียกฉันว่าลูซ หรือไม่ก็เรียกพี่”
พราวฟ้าหยุดนิ่ง เรียกพี่อย่างนั้นเหรอ เธอจำได้ว่าเขาเคยบอกให้เธอเรียกเขาว่าพี่แล้วครั้งหนึ่ง แต่เธอก็ไม่ได้ทำตาม ครั้งนี้เขาบอกอีกครั้ง
“คุณชอบแบบไหนคะ” พราวฟ้าเอ่ยถามเขา
“เรียกลูซ ฉันชอบแบบนั้น เพราะฉันมีน้องสาวจอมป่วนคนเดียวก็เกินพอแล้ว” พราวฟ้าหัวเราะเบาๆ ให้กับพี่ชายที่พาดพิงถึงน้องสาว ลิซ่าจอมป่วนจริงๆ นั่นแหละ
“โอเคค่ะ ลูซ” พราวฟ้าเรียกเขาเสียงหวาน ทำให้หัวใจของลูซเต้นโครมคราม
“ฉันอยากให้เธอเป็นตัวเองของตัวที่สุดเวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ฉันไม่มีวันทำร้ายเธอ ทำได้ไหม” เธอไม่คิดว่าจะมีผู้ชายที่ใจดีกับเธอมากขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะเจอคนนั้นที่เธอเฝ้าถามถึง
ตลอดเวลาที่เธออยู่กับไคล์ เธออยากให้เขาเป็นแบบนี้บ้าง แต่คงไม่มีทางเป็นไปได้
“ค่ะ ลูซ” พราวฟ้ายิ้มตอบ เธอรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของเขา ก็สามารถทำให้เธอหลงกลได้ เธอหลงกลเขาเข้าแล้วจริงๆ
“ฉันชอบให้เธอยิ้มนะ เธอสวยมากเวลายิ้ม”
“ชมผู้หญิงบ่อยเหรอคะ” เธอไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนปากหวาน
“ไม่บ่อย อย่าบอกนะว่าหึง” พราวฟ้าตาโต
“บ้า หึงอะไรกันคะ ยังไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
เธอแค่ให้โอกาสเขาเองนะ ยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกันซะหน่อย แล้วที่บอกว่าเธอหึง เธอไม่ได้หึงจริงๆ นะ แค่รู้สึกคันยิกๆ ที่ใจแค่นั้น
“เสียใจจัง ฉันอยากให้เธอหึงนะ”
“คุณนี่” พราวฟ้าทุบลงที่อกแกร่งเบาๆ เธอรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวไปหมด เธอกำลังเขินเขา เขินสายตาของเขาที่มองมา
“หืม อะไรนะ”
ลูซเลิกคิ้วมองคนตรงหน้ายิ้มๆ เขารู้สึกหัวใจพองโตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ที่ทำให้ผู้หญิงตรงหน้าแสดงท่าทีเขินอายออกมาได้
แสดงว่าเธอกำลังยอมรับเขาเข้าไปชีวิต
“ลูซคะ” พราวฟ้าเรียกเขาเสียงอ่อย เธอเองก็ไม่ชินเหมือนกันที่ต้องเรียกเขาแบบนี้ มันเขินๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่มันก็ทำให้ใจเธอโลดแล่นเหมือนอยู่ในทุ่งดอกไม้นับพัน
เธอชอบความรู้สึกแบบนี้จัง ความรู้สึกที่เธอเฝ้ารอมานาน
“ครับพราว” ลูซตอบรับเธอเสียงทุ้ม แถมยังเรียกชื่อเล่นเธอเป็นครั้งแรกอย่างนุ่มนวล พราวฟ้าพยายามจะไม่แสดงออกว่าเธอเขินมากมายนัก ทำไมเขาถึงทำให้เธอควบคุมตัวเองได้ยากนักนะ
“กลับได้แล้วค่ะ ดึกแล้ว”
พอได้ยินแบบนั้นลูซก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาโดยมีหญิงสาวนั่งอยู่บนตัก เขาหลับตานวดคลึงขมับเบาๆ พราวฟ้ามองท่าทางของเขาอย่างงุนงง
“เป็นอะไรคะ” อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“มึนๆ หัว สงสัยเหล้าพึ่งจะออกฤทธิ์ ขอนอนนี่ได้ไหม” ลูซลืมตาขึ้นมาพูดกับเธอพร้อมกับสายตาแพรวพราวอย่างปิดไม่มิด
พราวฟ้าเม้มปากเข้าหากัน หน้าร้อนผ่าว อดไม่ได้ที่จะทุบลงบนอกเขาแรงๆ อีกหนึ่งที ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนเจ้าเล่ห์แบบนี้
“ไม่ต้องเลย”
“แค่นอน นะ มึนหัวจริงๆ เธอก็เห็นว่าฉันดื่มเข้าไปเยอะแค่ไหน” ริมฝีปากล่างถูกกัดเบาๆ เธอเห็นว่าเขาดื่มเยอะจริงๆ แต่ตอนที่เขาขับรถมาส่งเธอก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่นา ปกติดีทุกอย่าง ตอนนี้มาบอกมึนหัว มันน่าเชื่อถือไหม
“ไว้ใจไม่ได้”
“หึ ฮ่าๆ” ลูซหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อโดนกล่าวหาแบบนั้น และมันการหัวเราะครั้งแรกที่พราวฟ้าได้เห็น ทำให้เธออดที่จะหัวเราะตามเขาไม่ได้
“โอเคคนสวย ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเธอ ถ้าเธอไม่เต็มใจและเรียกร้องมันจากฉันเอง” ประโยคแรกเขาสัญญาด้วยแววตามุ่งมั่น แต่ประโยคต่อมาเขาดึงตัวเองขึ้นมากอดกระชับเอวบางเข้าหาลำตัวพร้อมกับกระซิบเสียงแหบพร่าข้างในหูสวย พร้อมกับจูบเบาๆ ลงแอ่งชีพจรขาวผ่อง
ทำให้คนโดนกระทำโดยไม่ทันได้ตั้งตัวขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
“นี่”
พราวฟ้าถลึงตาใส่เขา แต่มีหรือคนอย่างเขาจะสะทกสะท้านแถมยังได้รับรอยยิ้มกลับมา ดูเหมือนเขาจะยิ้มบ่อยขึ้นนะ
MANGA DISCUSSION