พราวฟ้าต้องเรียนภาษาฝรั่งเศสเพิ่ม คนที่นี่ใช้หลากหลายภาษาในการสื่อสาร ภาษาที่เธอเริ่มศึกษาคือภาษาฝรั่งเศส ถึงเธอจะมีพื้นฐานมาบ้างแล้วแต่ก็ต้องศึกษาเพิ่ม ซึ่งมันเป็นปัจจัยหลักในการศึกษาต่อที่นี่ของเธอเลยก็ว่าได้
“เป็นไงบ้างพอได้ไหม” ลิซ่าถามพราวฟ้าหลังจากเดินออกมาจากห้องเรียน
“ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่”
“มีอะไรให้ช่วยบอกฉันได้”
“อืม ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไรเพื่อนกันหนิ”
“ว่าแต่เธอจะไปไหนต่อ”
“ฉันว่าจะเดินเล่นสักหน่อย”
“แย่จริง ฉันอยากไปด้วยแต่ต้องกลับบ้าน” ลิซ่าทำหน้าเศร้า
“ไม่เป็นไรฉันไปคนเดียวได้”
“แน่นะ”
“อืม ไม่ต้องห่วงสบายมาก”
“โอเค งั้นฉันกลับล่ะนะ ถ้าหลงทางโทรมาหาฉันได้ตลอด”
“เค”
ลิซ่าแยกไปอีกทาง พราวฟ้ากำสายกระเป๋าในมือแน่น วันนี้เธอมีแพลนไว้ในใจแล้ว เธออยากไปนั่งรถไฟเล่นชิวๆ ดูวิวรอบๆ เมือง ซึ่งเธอคิดว่าจะไปหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีโอกาส วันนี้เลยถือโอกาสจะไป
พราวฟ้าคิดว่าเธอควรทานอะไรให้เรียบร้อยก่อนค่อยออกเดินทาง เพราะไม่อยากยุ่งยากเรื่องของความหิว ทำให้เธอต้องมาที่โรงอาหารของคณะก่อน
พอมีอาหารลงท้องเธอก็เริ่มต้นการเดินทางของตัวเองทันที การมาอยู่ที่นี่ทำให้เธออยากทำอะไรที่ไม่เคยทำ อยากทำสิ่งที่คิดว่าตัวเองจะทำไม่ได้ ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากเลยหากเราจะทำมัน
แต่ก่อนที่เธอจะออกเดินทางไปท่องโลก เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังเข้ามาซะก่อน
(พราวฉันเป็นห่วงเธอนะ ฉันกลัวว่าเธอจะหลงทางฉันเลยส่งผู้พิทักษ์ไปให้ โปรดรับไว้ด้วยนะ พลีสสสส ถือว่าเพื่อนขอ กว่าฉันจะอ้อนวอนได้แทบกราบ ฉันให้เบอร์เธอกับพี่ลูซไปแล้ว แค่นี้แหละเพื่อน)
พราวฟ้าได้แต่ชะงักอยู่กับที่หลังจากอ่านข้อความยาวเหยียดของลิซ่าจบ พราวฟ้าอยากจะส่งข้อความปฏิเสธกลับไปให้กับความจุ้นจ้านของลิซ่า แต่มันก็ไม่ใช่นิสัยของเธอ
แล้วคนอย่างพี่ชายเธอน่ะเหรอจะมาพาเธอเที่ยว
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะคิดอะไรมากไปกว่านี้เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น และมันเป็นเบอร์แปลกที่โชว์อยู่บนหน้าจอ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่ชายของเพื่อนใหม่ตัวแสบของเธอ เพราะไม่มีใครรู้จักเบอร์นี้นอกจาก คุณทิพย์อาภา เพื่อนของเธอที่อยู่เมืองไทย และคิงกับคุณคริส คุณทิพย์อาภากับเพื่อนเธอตัดไปได้เลยเพราะไม่มีทางโทรหาเธอแน่
ส่วนอีกสองคนเธอก็เมมเบอร์ไว้
พราวฟ้าได้แต่ถอนหายใจ ก่อนที่จะกดรับ
“สวัสดีค่ะ” เธอทักทายเขา
“อยู่ไหน” น้ำเสียงราบเรียบไม่มีคำทักทายหรือไม่มีการแนะนำตัวก่อนสักนิดทำให้พราวฟ้าอดที่จะย่นจมูกใส่เขาไม่ได้
ปฏิกิริยาที่ไม่มีใครเคยเห็นและเธอไม่เคยทำกับใคร แต่พราวฟ้ากลับแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว
“คือ…นี่ใครคะ” ถึงเธอจะรู้ว่าเขาเป็นใครแต่ก็อยากถามให้มั่นใจ
“พี่ชายของลิซ” ลูซแนะนำตัวเสียงเรียบ ปากบางเม้มเข้าหากันทันที ทำไมไม่บอกว่าตัวชื่อลูซ
“ค่ะ คุณลูซ เอ่อ…มีอะไรรึเปล่าคะ” ถึงเธอกับเขาอายุห่างกันแค่ปีเดียวเธอก็ไม่รู้ว่าจะเรียกเขาว่ายังไง ถึงจะเป็นพี่ชายของเพื่อนด้วยก็เถอะ เธอก็ไม่กล้าเรียกเขาว่าพี่อยู่ดี
เลยเรียกคุณน่าจะเป็นทางการกว่า
“อยู่ไหน” เขาไม่ตอบคำถามเธอแต่กลับถามกลับแทน
ทำไมถึงเอาแต่ใจทั้งพี่ทั้งน้องนะ
“อยู่หน้ามหาลัยค่ะ” เธอไม่น่าหาอะไรทานก่อนเลย น่าจะออกไปเลยตั้งแต่ที่แยกกับอลิซ ไม่งั้นคงไม่ต้องมาลำบากใจแบบนี้
“รออยู่ตรงนั้นห้ามไปไหน”
“ไม่เป็น..” เธอยังพูดไม่จบประโยคด้วยซ้ำสายก็ตัดไปซะก่อน พราวฟ้าได้แต่ถอนหายใจ
ชีวิตเธอคงไม่สงบสุขอีกต่อไปแล้วสินะ
จะเป็นไรไหมนะถ้าเธอไม่รอเขา จะเป็นไรไหมถ้าเธอจะไปก่อน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาออกไป สัมผัสที่เกิดขึ้นจากด้านหลังก็ทำให้เธอหันไปมองและตาโตขึ้นทันที
ทำไมเขามาไวขนาดนี้
ลูซมองหน้าเธอนิ่งๆ
“คือ…” พราวฟ้าไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
“จะไปไหน” แต่เขากลับถามเธอซะก่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปเองได้ ไม่รบกวนคุณดีกว่า” ในที่สุดเธอก็หาเสียงตัวเองเจอ เธอไม่อยากรบกวนเขาจริงๆ นะ
ผู้หญิงหลายคนหันมามองยังลูซทำให้พราวฟ้ารู้สึกเกร็งหน่อยๆ เขาคงฮอตน่าดู
“บอกรึยังว่ารบกวน” คำพูดของเขาทำให้เธอเริ่มทำตัวไม่ถูก ถ้าจะให้เธอไปกับเขาเธอก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง
“แต่..ฉันเกรงใจค่ะ”
“อึดอัด” พราวฟ้าไม่คิดว่าเขาจะถามออกมาตรงๆ และมันก็คือความในใจของเธอจริงๆ เธออึดอัดจริงๆ เวลาอยู่กับเขา มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่รู้ เธอไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือไม่อยากพูดคุยกับเขานะ แต่การวางตัวท่าทางของเขามันทำให้เธอไม่รู้จะพูดคุยกับเขายังไงยิ่งทั้งเขาและเธอเป็นคนพูดน้อยด้วยแล้ว ยิ่งยากที่จะเข้าใจกัน
เธอไม่เก่งเรื่องสานสัมพันธ์กับใคร นอกจากคนนั้นจะเริ่มก่อนเหมือนอย่างลิซ่า
“เรียกพี่สิ”
“อะ…อะไรนะคะ” พราวฟ้าไม่แน่ใจว่าเขาบอกเธอว่าอะไร เธอไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม เขาบอกให้เธอเรียกเขาว่าพี่
“ยังไงเธอก็เป็นเพื่อนกับอลิซ เรียกฉันพี่ก็ได้”
“คือ…”
“ทำไมทุกครั้งที่คุยกันเธอต้องหลบหน้าหรือพูดติดอ่างทุกครั้ง”
หลายครั้งที่เขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้ เขารู้เธอไม่เหมือนคนอื่น แต่ทำไมต้องทำเหมือนกลัวเขาขนาดนั้น เขามันน่ากลัวขนาดนั้นเลยรึไง ทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไรเธอสักนิด
“เปล่านะคะ คือฉันเป็นคนที่เข้าหาคนอื่นไม่ค่อยเป็น เรียกได้ว่าไม่ได้เรื่องเลยก็ว่าได้ ฉันเลยไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับคุณยังไง” พราวฟ้าตัดสินใจพูดออกไปยาวเหยียด เมื่อเห็นว่าลูซเริ่มหงุดหงิด
“อืม” ลูซตอบรับสั้นๆ พร้อมกับพยักหน้า พราวฟ้าเองก็เงียบ
“แค่เป็นตัวของตัวเอง ฉันน่ากลัวสำหรับเธอรึไง” ปากบางเม้มเข้าหากันมองหน้าคนที่พูดกับเธออย่างไม่ละสายตา
“เปล่าค่ะ” เธอตอบกลับเสียงแผ่วแล้วก้มหน้าลงเมื่อทนสบตากับเขาไม่ไหว
“โกหกไม่เนียน”
“จริงๆ นะคะ ฉันไม่ได้กลัวคุณ แต่แค่ไม่รู้จริงๆ ว่าจะพูดอะไรหรือทำความรู้จักยังไง ฉันไม่คิดว่าคุณจะอยากทำความรู้กับฉัน” ในชีวิตเธอไม่สนใจผู้ชายคนไหนนอกจากไคล์ เรียกได้ว่ามีใครมาจีบหรือมาทำความรู้จัก เธอก็ปฏิเสธหมดไม่ได้มีการพูดคุยกัน
“อยากทำความรู้จักงั้นเหรอ” ลูซทวนคำพูดของเธอซ้ำ ซึ่งทำให้พราวฟ้าตาโต
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคะ ฉัน..”
“ไม่เลว เธอเข้าใจถูก ฉันอยากทำความรู้จักกับเธอ” เมื่อเห็นหญิงสาวตาโตเขาจึงพูดต่อ
“อยากรู้ว่าคนแบบไหนที่ลิซยอมเปิดใจรับเป็นเพื่อน” ประโยคแรกของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นโครมครามแต่ประโยคหลังของเขาก็ทำให้เธอผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ
ที่แท้ก็เพราะลิซ่า เธอคิดไปไกลแค่ไหนแล้วพราว
“ค่ะ”
ลูซยกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินคำตอบรับสั้นๆ ของเธอ
“ไปเถอะ มีแพลนจะไปไหนบ้าง”
ลูซเป็นฝ่ายถามก่อน กลายเป็นคนพูดมากขึ้นมาทันที ก็เธอบอกว่าทั้งเธอและเขาเป็นคนพูดน้อยไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง คงต้องเป็นเขาสินะที่ต้องเป็นฝ่ายพูดมากก่อน
MANGA DISCUSSION