“อะตอม แกดูนี่สิ มีคนเอารูปของพราวไปลง”ปริมยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนชายดู ข่าวของพราวฟ้าที่คิดว่าวันต่อมาอาจเงียบไปเองกลับไม่ใช่ วันนี้มีคนเขารูปหน้าตรง ๆ ของพราวฟ้าลงเพจ ว่าผู้หญิงที่อยู่ในรูปเมื่อวานคือคน ๆ นี้ ซึ่งเป็นตัวชี้ว่าผู้หญิงคนนี้คือคน ๆ เดียวกับเมื่อวาน
“ใครทำเรื่องแบบนี้วะ”อะตอมพูดอย่างหัวเสีย
“แกว่าจะไปไอ้พี่ไคล์นั้นไหม”ปริมพูดอย่างใส่อารมณ์
“ไม่รู้สิ”อะตอมไม่แน่ใจว่าไคล์เป็นคนทำรึเปล่า ถ้าผู้ชายคนนั้นอยากให้พราวฟ้าออกไปจากชีวิตเขาเหมือนที่แม่เขาพูด ไม่แน่เขาอาจเป็นคนทำ
“ฉันจะไปหาเขา ไปคุยให้รู้เรื่อง ทำแบบนี้กับพราวได้ยังไง”ปริมรู้สึกเจ็บแทนเพื่อนจริงๆ เพื่อนของเธอเป็นคนดี ดูก็รู้ว่าพราวฟ้าต้องรักผู้ชายคนนั้นแน่นอนไม่เช่นนั้นคงไม่ยอมทำแบบนั้นแน่
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นอะไรที่ซับซ้อนมาก มากกว่าที่คนนอกอย่างเราจะเข้าใจ แต่เธอก็อยากปกป้องเพื่อนของเธอ ในขณะที่เพื่อนของเธอนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เขาทำอะไรอยู่ นั่งสะใจอยู่งั้นเหรอ
อะตอมไม่ได้ห้ามที่เพื่อนจะไปหาผู้ชายคนนั้น ซึ่งเขาเองก็อยากรู้ แต่การที่จะหาตัวของผู้ชายคนนั้นในมหาลัยเป็นเรื่องที่ยากมาก ทั้งสองคนจึงมาหาที่ผับแทนในค่ำวันนั้น
“ไคล์มารึยัง”พอก้าวเข้ามาในผับปริมก็ไม่รอช้าที่จะถามหาเขาจากการ์ดในร้าน
เมื่อตกลงกันกับอะตอมได้ว่าทั้งสองคนจะต้องมาถามไคล์รู้เรื่องว่าเขาเป็นคนปล่อยรูปของพราวฟ้ารึเปล่า ตอนนี้ทั้งสองก็มาอยู่ที่ผับเรียบร้อยแล้ว
“มาแล้วครับ มีอะไรรึเปล่าครับ”
“ฉันอยากพบเขาไปบอกให้หน่อยได้ไหม”
การ์ดมองปริมตั้งแต่หัวจรดเท้าและคิดว่าน่าจะเป็นผู้หญิงของนาย
“ชื่ออะไรครับผมจะไปบอกคุณไคล์ก่อน”
“ปริมเพื่อนพราวฟ้า
“อะไรนะครับ
“บอกตามนี่แหละ”
“งั้น รอสักครู่ครับ”
“เชิญครับ”หายไปได้ไม่นานการ์ดคนนั้นก็กลับมา เชิญทั้งสองขึ้นไปข้างบน
ปริมและอะตอมเดินเข้ามาในห้องที่เหมือนจะเป็นห้องส่วนตัวและเป็นห้องกระจก ที่สามารถมองเห็นข้างล่างได้
ไคล์นั่งอยู่กลางห้องพร้อมกับเพื่อนๆของเขาทุกคน
“มีอะไร”ไคล์เงยหน้าขึ้นพูดกับคนที่เดินเข้ามาใหม่ เขาจำได้ว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกับยัยหุ่นยนต์นั้น
ปริมไม่รอช้าเปิดรูปที่มีคนเอาลงให้เขาด
“พวกเรารู้เรื่องหมดแล้วว่าคุณทำอะไรกับยัยพราวบ้าง จิตใจคุณทำด้วยอะไร อยากให้ยัยพราวออกไปจากชีวิต ถึงขนาดใช้วิธีแบบนี้เลยเหรอ คุณไม่คิดบ้างรึไงว่ายัยพราวจะเป็นยังไง จะรู้สึกยังไง ถ้าตื่นมารับรู้เรื่องแบบนี้”ปริมร่ายยาวเหยียด สูดลมหายใจเข้าลึกๆเมื่อพูดจบ เธอยอมรับว่ากลัวสายตาผู้ชายพวกนี้เวลามองมาที่ตน มันไม่เหมือนวันนั้น วันเกิดยัยเอมม่าสักนิดที่มีแววขี้เล่นอยู่ในนั้น
“แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน”ไคล์พูดเสียงเรียบ แกว่งแก้วเหล้าในมือไปมา ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม
รู้เรื่องที่เขาทำกับยัยนั่นหมดแล้วงั้นเหรอ หึ คงถึงเวลาจริงๆแล้วสินะ
“เกี่ยวอะไรงั้นเหรอ ก็คุณไม่ใช่รึไงที่ปล่อยรูปพวกนี้ เลว”ปริมเหลืออดตะโกนด่าไคล์เสียงดังลั่น ถ้าเป็นผู้ชายเธอคงเข้าไปชกเขาแล้ว
ทุกอย่างในห้องเงียบกริบ จนกระทั่งไคล์พูดขึ้น
“ฉันไม่ได้เป็นคนปล่อย”เป็นครั้งแรกที่ไคล์พูดแก้ตัวให้ตัวเอง ทั้งเจฟและโจชัวรู้เรื่องนี้แล้ว แต่ปกป้องยังไม่รู้และเขาก็ยังไม่ได้บอกความจริงกับเพื่อน วันนี้เขาเลยพูดทีเดียวซะเลย
“ถ้าคุณไม่ทำใครจะทำ”
ไคล์ถอนหายใจแรงๆ บ่งบอกว่าเขารำคาญเรื่องนี้เต็มที
“เพื่อนเธอไง”
ปริมขมวดคิ้วไม่เข้าใจ หันไปมองหน้าอะตอม ซึ่งกำมือแน่นก่อนจะพูดขึ้น
“เอมม่างั้นเหรอ
“ใช่ ทีนี้ก็รู้แล้วใช่ไหม กลับไปได้แล้วไปรำคาญ”โจชัวออกปากไล่
“แต่ถึงยังไง คุณก็ผิด ฉันอยากบอกคุณว่าอย่ามายุ่งกับยัยพราวอีก”ปริมไม่สนใจแต่หันไปพูดกับคนต้นเรื่อง
ไคล์หัวเราะในลำคอเบาๆ
“หึ บอกเพื่อนเธอสิ ยัยนั่นน่ะ เป็นคนเข้าหาฉันเอง”ไคล์จ้องฝ่ายตรงข้ามอย่างเหนือกว่า อะตอมกำมือแน่น
“หลังจากนี้ไม่มีทางที่พราวจะทำแบบนั้น กลับเถอะ”อะตอมพูดกับไคล์เสียงเรียบแล้วหันไปชวนปริมกลับ
“ถึงคุณจะบอกว่าพราวเข้าหาคุณก่อน แต่หลังจากนี้ อย่ามายุ่งกับพราวอีก เราไม่มีทางปล่อยให้เพื่อนเราอยู่ในสภาพนั้นอีกแน่”พูดจบทั้งสองคนก็เดินออกจากห้อง
ทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงีย
“ไม่เห็นจะสนใจสักนิด”ไคล์พูดเสียงเรียบ กรอกเหล้าเข้าปาก ทั้งที่ใจเขาเหมือนจะร้อนรุ่มไปหมด ไม่ยุ่งงั้นเหรอ เขาก็ไม่อยากจะยุ่งสักนิด
ยัยนั่นผิดสัญญาให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ ออกไปจากชีวิตเขาได้ก็ดี
หลังจากที่พราวฟ้าตื่นขึ้นมาเธอยังอยู่ในอาการมึนงง แต่ก็พอรู้สาเหตุว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ใครเป็นคนพาเธอมา
“พราวมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้ยังไงคะคุณแม่”พราวฟ้าเอ่ยถามคนเป็นแม่เสียงแผ่ว
“เพื่อนของหนูพามาจ๊ะ”
“เพื่อนเหรอคะ”คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน
“ใช่จ้ะ มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นตอนที่หนูหลับ หนูอยากฟังไหม”คุณทิพย์อาภาคิดว่าไม่มีอะไรต้องปิดบัง เพราะถ้าเธออยากให้พราวฟ้าตัดใจต้องเล่าเรื่องทุกอย่างให้พราวฟ้าฟัง ครั้งนี้เธอไม่เข้าข้างลูกชายของตัวเองสักนิด เธอจะไม่ยอมทำร้ายชีวิตใครอีกแล้ว
“ค่ะ”พราวฟ้าตอบรับ
เรื่องราวทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของผู้ที่ขึ้นชื่อว่ามีพระคุณ พราวฟ้าตัวแข็งทื่อหลังจากได้ฟังจนจบ
“เรื่องจริงเหรอคะ”เธอถามย้ำเสียงแผ่ว
“จ๊ะ แม่ต้องขอโทษแทนไคล์ด้วย ทุกอย่างมันเป็นความผิดของแม่ แม่ผิดทุกอย่าง”คุณทิพย์อาภาน้ำตาคลอ พราวฟ้าเองก็ไม่ต่างกัน
เธอไม่คิดว่าไคล์จะทำถึงขนาดนี้ นี่เขาอยากให้เธอออกไปจากชีวิตเขาขนาดนี้เลยเหรอ ถึงขนาดทำให้เธออยู่ในสังคมนี้ไม่ได้
“หนูพร้อมจะไปรึยัง แม่จะจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุด”คำถามของท่านทำให้หญิงสาวนิ่งงัน ภาพจำทุกอย่างแล่นเข้ามาในหัว ตั้งแต่วันแรกที่เธอจำความได้ เข้ามาอาศัยอยู่กับท่าน จนกระทั่งเธอไปอยู่กับไคล์ ทุกอย่างมันเป็นความเต็มใจของเธอเอง
“ค่ะ พราวจะไป”พราวฟ้าพยักหน้ารับทั้งน้ำตา เธอควรตัดใจแล้วจริงๆ เธอเคยพูดกับคุณทิพย์อาภาแล้วว่าถ้าเธอเข้าโรงพยาบาลอีกเธอจะเป็นคนออกไปจากชีวิตไคล์เอง
ในเมื่อเขาทำทุกอย่างให้เธอออกไปจากชีวิตเขาขนาดนี้ เธอก็ควรเห็นค่าของตัวเองสักที ออกไปจากชีวิตเขาอย่างที่เขาต้องการ
ให้เขาได้มีความสุขสักที
การที่ไม่มีเธออยู่ในชีวิตของเขามันคงดีกว่านี้
มือใหญ่บีบมือเล็กเบาๆ ความผิดพลาดทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นเพราะท่านคนเดียว และท่านต้องแก้ไขมัน
วันต่อมาอะตอมและปริมมารอเอมม่าที่มหาลัยแต่เช้า ปริมยังไม่อยากจะเชื่อว่าเอมม่าเป็นคนทำ แต่ความเป็นไปได้มันก็สูงเพราะถ้าเอมม่ารู้ว่าผู้หญิงที่อยู่กับไคล์เป็นใคร ยังไงเธอก็ต้องทำเรื่องแบบนี้ได้แน่
เพราะเอมม่าคลั่งไคล์มา
“เคลียร์ตรงนี้เสร็จฉันว่าจะไปเยี่ยมพราวนายไปด้วยไหม”
“อืม ไปสิ”
“เราควรบอกเรื่องพวกนี้ให้พราวรู้ไหม ฉันกลัวว่าพราวจะรับไม่ไหว”
“ยังไงก็ต้องรู้ จะง่ายในการตัดใจ”
“อืม”
ทั้งสองคนไม่รู้ว่าพราวฟ้าให้ความสำคัญกับผู้ชายคนนั้นแค่ไหน แต่ก็คงมากพอดูถึงได้ยอมขนาดนี้
“นั่นไงมาแล้ว”ปริมบุ้ยปากไปทางเอมม่าที่เดินตรงมาทางนี้
“มีอะไร มองหน้าฉันแบบนั้นหมายความว่ายังไง”เอมม่าถามหน้าซื่อ
ซึ่งปริมก็ไม่รออะไร เพราะปกติเธอก็เป็นคนใจร้อนและพูดตรงๆอยู่แล้ว ปริมชูโทรศัพท์ที่มีรูปของพราวฟ้าให้เอมม่าดู
“เธอเป็นคนปล่อยใช่ไหม”ถามออกไปตรงๆ
เอมม่ามองทั้งสองคนนิ่ง
“ทำไมถึงคิดว่าฉันทำ”
“เพราะฉันไปหาผู้ชายของเธอมาน่ะสิ”ปริมพูดเสียงห้วน
เอมม่าเม้มปากแน่น
“รู้แล้วจะถามทำไม”เอมม่ากอดอกเชิดหน้าไปทางอื่น
ในขณะที่ปริมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง พราวเป็นเพื่อนเธอนะ
“หึ เพื่อนงั้นเหรอ ยัยนั่นเคยเห็นฉันเป็นเพื่อนรึไง พวกเธอเองก็เหมือนกัน เคยเห็นฉันเป็นเพื่อนรึเปล่า”เอมม่าตะโกนกลับ
ปริมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“ถ้าฉันไม่เห็นเธอเป็นเพื่อนฉันจะไม่คุยกับเธอ ไม่ชวนเธอไปนั่นไปนี่หรอกนะ”ปริมพยายามที่จะไม่ให้เอมม่าคิดว่าพวกเราไม่ต้อนรับเธอ
“ก็คงจะมีแค่เธอที่คิดแบบนั้น”
“แต่ถึงยังไงเธอก็ไม่ควรทำเรื่องแบบนี้”
“ยัยนั่นยุ่งกับไคล์เอง”เอมม่าพูดแบบไม่ได้สนใจสักนิด
ปริมถอนหายใจ
“เอาละ ฉันอยากให้เธอหยุด เพราะต่อไปพราวจะไม่ยุ่งกับผู้ชายของเธออีก และเราก็ไม่ต้องมายุ่งกันอีกเหมือนกัน”ถึงแม้จะไม่มั่นใจว่าพราวฟ้าและไคล์จะตัดกันขาดแต่เธอก็ยังอยากพูดแบบนั้น
“เหรอ แน่ใจว่ายัยพราวจะไม่ยุ่งกับไคล์อีก”เอมม่าไม่ได้สนสักนิดว่าเธอจะเสียเพื่อนไป เพราะในความคิดของเธอตอนนี้สนใจแต่ผู้ชาย มันทำให้ปริมเหนื่อยหน่ายใจ
“แน่ ไปเถอะอะตอม”ปริมลากอะตอมออกมาจากตรงนั้น โดยไม่สนใจคนที่ยืนกำมือแน่นอยู่ข้างหลัง
เธอมองอะตอมที่จ้องเอมม่าเขม็ง รู้ว่าถ้าเอมม่าเป็นผู้ชายอะตอมคงชกไปแล้ว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้หญิงอะตอมเลยให้เธอจัดการ
และเรื่องนี้เขาก็อยากให้พราวฟ้าเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเอาเรื่องเอมม่าไหม
ทั้งสองคนมาที่โรงพยาบาล ก็เห็นว่าพราวฟ้านั่งคุยอยู่กับคุณทิพย์อาภา
“พราว รู้สึกตัวตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
พราวฟ้ายิ้มให้เพื่อน
“เมื่อเช้านี่เองจ๊ะ”คุณทิพย์อาภาเป็นคนตอบแทน
“ไม่เรียนรึไงถึงมาได้”พราวฟ้าถามเพื่อน
“ขี้เกียจไม่มีอารมณ์โดดสักวันก็ไม่เป็นไรหรอก”ปริมพูดอย่างเซ็งๆ พราวฟ้าส่ายหน้าให้เพื่อน
“อะตอมก็เป็นกับเขาด้วย”
“เราก็เหมือนกัน”อะตอมมองพราวฟ้าอย่างไม่ละสายตา เพื่อนของเขา คนที่ดูอ่อนหวานที่สุดในสายตาเขา ทำไมต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ
“เราไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ไม่เห็นต้องโดดเรียนเลย”
“เถอะน่า แล้วนี่หมอบอกรึยังคะว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลวันไหน”ปริมหันไปถามผู้ใหญ่คนเดียวที่อยู่ในนี้
“อีกสามวันจ๊ะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะ เรื่องสภาพจิตใจก็ปกติดี”คุณทิพย์อาภาบอก ก่อนจะหันไปสบตาพราวฟ้า
พราวฟ้าไม่ได้ซึมเศร้ามากนักอย่างที่หมอกลัว ยังสามารถพูดคุยได้ตามปกติหมอเลยให้ออกจากโรงพยาบาลได้ไวกว่ากำหนด
“แก ไหวแน่ใช่ไหม”ปริมถามเพื่อนเสียงเศร้า
“อืม เราไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง”พราวฟ้าพูดให้เพื่อนสบายใจ
“ไม่ห่วงได้ยังไง”
“ไม่เป็นไรจริงๆ”
“อืมๆ เราดีใจที่พราวเข้มแข็งได้ขนาดนี้”ปริมบีบมือเพื่อนเบา ๆ มีเรื่องมากมายที่เธออยากจะถามแต่ก็ไม่กล้า กลัวว่ามันจะกระทบกระเทือนจิตใจเพื่อน
“เราไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง”ถึงใบหน้าจะมีรอยยิ้มแต่ก็ยังเห็นความเศร้าในแววตานั้น
“แม่จะให้พราวไปทันทีหลังจากที่พราวออกจากโรงพยาบาลนะ”คุณทิพย์อาภาพูดขึ้น ทำให้ทุกคนมีสีหน้าเศร้าลง
“เราต้องคิดถึงพราวมากแน่ๆ”พราวฟ้าคิดว่าเพื่อน ๆ คงรู้เรื่องของเธอหมดแล้ว และคงรู้ว่าเธอต้องไปจากที่นี่หลังจากนี้
“เราก็คงคิดถึงพวกเธอ”ใจจริงพราวฟ้าไม่ได้อยากไปจากใครทั้งนั้น แต่เพื่อความสบายใจของไคล์ เธอก็ต้องยอมไป
“เรามีเรื่องจะบอก”ปริมเม้มปากแน่น ไม่แน่ใจว่าจะพูดดีรึเปล่า
“พราวเห็นรูปพวกนี้รึยัง”ปริมเอารูปให้เพื่อนสาวดู พราวฟ้ามองภาพนั้นด้วยสายตาเฉยเมย
“อืม เห็นแล้วล่ะ”
“เห็นแล้ว”ปริมร้องถามหันไปมองคุณทิพย์อาภา
“ป้าเป็นคนบอกพราวเองจ๊ะ ป้าไม่อยากให้พราวมีอะไรติดค้างอีก”ปริมพยักหน้า
“นี่แหละที่เราจะบอก ไคล์ไม่ได้เป็นคนปล่อยภาพพวกนี้หรอกนะ แต่เป็นยัยเอมม่าที่ปล่อย”พราวฟ้าชะงักไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เธอหันไปสบตาคุณทิพย์อาภาอย่างช่วยไม่ได้
“เรากับอะตอมไปหาความจริงมา และตอนนี้เราก็ตัดขาดจากยัยเอมม่าแล้ว พราวจะเอาเรื่องไหม เราสามารถแจ้งความได้นะ”เธอเองก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ก็อยากให้พราวฟ้าเป็นคนตัดสินใจ
พราวฟ้าส่ายหน้า
“ไม่หรอก สักพักเรื่องคงเงียบ อีกอย่างเราก็จะไปจากที่นี่แล้ว”
“แต่ ยัยนั่นจะลอยนวลนะ”
“ช่างเถอะ เราเหนื่อย”แค่ได้ยินคำว่าเหนื่อยจากปากก็พราวฟ้าทุกคนก็เงียบ
“ให้พราวพักเถอะ เรากลับไปเรียนกัน”อะตอมเป็นคนพูดขึ้น
“เอางั้นเหรอ”
“กลับไปเรียนเถอะ ไม่ต้องห่วงเราหรอก”
“ก็ได้ๆ พรุ่งนี้เราจะมาใหม่ ลานะคะคุณป้า ”
“สวัสดีครับ”
“คุณแม่ก็กลับไปพักเถอะค่ะ พราวอยู่ได้”
“แม่..”ยังไม่ทันที่คุณทิพย์อาภาจะพูดจบก็โดนขัดขึ้นซะก่อน
“หนูไม่อยากทำให้คุณแม่เสียงานนะคะ”
“งั้นตอนเย็นมาจะมาใหม่ เดี๋ยวแม่จะบอกให้ป้าน้อยมาอยู่เป็นเพื่อนหนูนะ แม่ไปก่อนน
“ค่ะ”
พราวฟ้าล้มตัวลงนอน หลังจากทุกคนออกไปจากห้อง
เธออยากให้เรื่องทุกอย่างจบลงจริงๆ จบลงพร้อมกับที่เธอจากไป
MANGA DISCUSSION