หลังจากวันนั้นเธอกับไคล์ก็ไม่เคยพูดดีกันอีกเลย แต่มันก็มีช่วงหนึ่งที่เราโตขึ้น
“ตามฉันมาทำไม” ตอนนั้นเธอเรียนอยู่ชั้นมอสอง ไคล์อยู่มอสี่เป็นวันที่คนขับรถของเธอป่วย
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ไคล์ทำให้มันยุ่งยาก ไคล์ไม่ยอมไปเรียนพร้อมพราวฟ้า เขายื่นคำขาดกับแม่เขาว่าถ้าจะไปส่งเขา ก็ต้องไปคนล่ะคัน ไม่มีทางที่เขาจะยอมนั่งรถไปกับยัยเด็กนี่เด็ดขาด
ตอนนั้นพราวฟ้าเสียใจมากที่พี่ชายรังเกียจเธอ แต่เธอก็พูดอะไรไม่ได้
มีอยู่วันหนึ่งคนขับรถที่จะมารับเธอเกิดอุบัติเหตุคุณแม่เลยโทรมาบอกให้เธอกลับกับไคล์ หลังจากเลิกเรียนเธอก็นั่งรอเขาอยู่ใต้ร่มไม้ เธอรู้ว่าวันนี้ไคล์เลิกเรียนช้ากว่าปกติ เพราะเรียนวิชาเคมี
รอจนกระทั่งเกือบหกโมงท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มเหมือนฝนจะตก พอเห็นไคล์เดินออกมาหญิงสาวก็ดีดตัวขึ้น เดินตามเขาไป ไคล์ไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมามองจนกระทั่งเขาเริ่มรู้สึกว่ามีคนตามมาเลยหันกลับไปดู
ก็เห็นคนที่ตามมา เขาทำสีหน้าหงุดหงิด ถามเธอเสียงห้วน
“เธอตามฉันมาทำไม” พราวฟ้าก้มหน้างุด รู้สึกกลัวเขาตั้งแต่วันที่เขาตะโกนใส่หน้าว่าเกลียด หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้คุยกับเขาอีกเลย เจอกันก็ไม่ได้พูด
ไคล์กลายเป็นคนพูดน้อย แทบนับคำได้ เขาอยู่ในโลกของตัวเอง แต่การเรียนก็ไม่เคยตก
“คุณแม่ให้พราวกลับกับพี่ไคล์ค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยพูดเสียงอ้อมแอ้ม
“ฉันไม่ใช่พี่เธอ อย่ามาเรียกฉันแบบนี้อีก” ไคล์ตะคอกกลับจนพราวฟ้าสะดุ้ง
“ค่ะ” เธอตอบรับเสียงเบาหวิว ก้มหน้างุด
ไคล์รู้สึกหงุดหงิด ยิ่งเห็นยัยนี่เขายิ่งหงุดหงิด เขาหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น
พราวฟ้าเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังคนที่เดินออกไป เธอเม้มปากเป็นเส้นตรง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ลมเริ่มแรงขึ้น
ไคล์ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ให้เธอกลับด้วย เธอจึงตัดสินวิ่งตามเขาไป จุดหมายคือรถที่จอดรออยู่ข้างถนน แต่ก่อนที่จะถึงรถฝนก็กระหน่ำตกลงมาซะก่อน
“โอ๊ย” พราวฟ้าที่วิ่งตามกลัวว่าจะไม่ทัน เกิดสะดุดลมเพราะความเร่งรีบของตัวเอง สายฝนที่กระหน่ำลงมาทำให้เธอเปียกชุ่มไปทั้งตัว นั่งแหมะลงกับพื้น
ก้มมองหัวเข่าของตัวเองก็มีเลือดซึมออกมา รู้สึกแสบนิดๆ เธอคิดว่าวันนี้เธอคงไม่ได้กลับกับไคล์เป็นแน่ เพราะเขาคงออกรถไปแล้ว เขาไม่มีทางรอเธอแน่
เหตุผลที่รีบวิ่งเพราะเธอรู้ว่ายังไงไคล์ก็ไม่มีทางรอเธอถ้าเธอไปถึงช้า และมันคงจะจริง
พราวฟ้าก้มหน้างุด น้ำตาที่กักเก็บไว้ไหลออกมาเป็นสาย เธอร้องไห้ออกมากลางสายฝน หวังให้สายฝนบดบังความเจ็บซ้ำของเธอลงไปได้บ้าง ทำไมไคล์ถึงใจร้ายกับเธอนัก ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจอะไรเลย
ชีวิตของเธอเหมือนจะโชคดีแต่ก็ไม่โชคดีไปซะทุกอย่าง เธอเป็นเพียงเด็กกำพร้า เดิมทีเธออยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็ก ชีวิตของเธอพลิกผันเมื่อมีผู้หญิงใจดี คือคุณทิพย์อาภาที่นึกเอ็นดูเธอและอยากรับเธอไปเลี้ยงเป็นลูกเพราะท่านบอกว่าอยากมีลูกสาว ตอนนั้นเธอยังจำอะไรไม่ได้นัก เพราะยังเด็ก
พอเริ่มรู้ความเธอก็รู้สึกดีใจที่เธอโชคดีขนาดนี้ มีแม่ใหม่ที่ใจดี รักและเอ็นดูเธอมาก แต่มันก็แค่ส่วนหนึ่งเพราะท่านมีลูกชาย ลูกชายท่านที่ตั้งท่าเกลียดเธอตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ พอรู้ตัวเธอก็โดนเกลียดไปซะแล้ว
เขาประกาศกร้าวว่าเธอแย่งความรักของแม่ไปจากเขา หลังจากนั้นเธอก็อยู่อย่างเจียมตัว แต่เขาก็ไม่ลดความเกลียดลงสักนิด ทั้งที่เธอไม่เคยเกลียดเขา เธออยากมีพี่ชายที่แสนดี อยากเป็นน้องที่น่ารักของเขา แต่มันก็เป็นไปไม่ได้
สายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาเหมือนจะหยุดลง พราวฟ้าค่อยๆ ลืมตาขึ้นเธอเห็นปลายเท้าคู่หนึ่งอยู่ข้างหน้าเป็นรองเท้าของนักเรียนชาย
มือเล็กลูบน้ำฝนออกจากใบหน้าค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง
“พี่ไคล์” ปากเล็กที่ซีดลงเรื่อยๆ เอ่ยเรียกชื่อคนที่ยืนกางลมอยู่บนหัวเธอ เธอนึกว่าเขากลับบ้านไปแล้วซะอีก
“นั่งบื้ออยู่ทำไม คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกเอ็มวีรึไง” ไคล์พูดอย่างหัวเสีย ในขณะที่เขานั่งรอยัยนี่อยู่ในรถ แต่เธอกลับมานั่งเป็นนางเอกเอ็มวีอยู่ได้
ความจริงเขาอยากกลับก่อนด้วยซ้ำแต่คนขับรถผู้ซื่อสัตย์ต่อแม่ของเขาก็ยืนยันว่ายัยเด็กนี่ต้องกลับกับเขาด้วยถึงจะออกรถ มันทำให้เขาหัวเสีย
“ลุกขึ้นสิ” ไคล์พูดเสียงห้วนอีกครั้งเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กยังนั่งทำหน้าโง่ๆ อยู่
พราวฟ้ากะพริบตาปริบๆ ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นเมื่อปะติดปะต่อเรื่องได้
แต่ความเจ็บแปลบที่เข่าบวกกับนั่งทับขาตัวเองนานเกินไปเลยรู้สึกชา ทำให้เธอเซเล็กน้อย ร่างบางถลาไปข้างหน้าหาที่เกาะ ซึ่งได้ที่เกาะจริงๆ นั้นก็คือแขนของไคล์
ไคล์สบถออกมาอย่างหัวเสีย
“ทำบ้าอะไร” ไคล์มองเสื้อนักเรียนของตัวเองที่เปียกเป็นดวงเพราะฝีมือของเด็กซื่อบื้อ
“ขอโทษค่ะ” พราวฟ้ารีบดึงตัวเองขึ้นมายืนให้ตรง
“จะกลับไหมบ้าน”
“กลับค่ะ กลับ” พราวฟ้าพูดอย่างร้อนรน กระชับสายกระเป๋าแล้วออกเดิน แต่เพราะมีอาการเจ็บที่เข่าทำให้เธอเดินช้า ไคล์ที่ถือร่มอยู่ข้างๆ หันไปมองอย่างหัวเสีย
“เมื่อไหร่จะถึงรถวะ” พราวฟ้าก้มหน้างุด กัดริมฝีปากจนเจ็บ ฝืนตัวเองให้เดินดีๆ
“อ๊ะ”
“ฉันอยากกลับบ้าน เร็ว” เด็กหญิงตกใจกับการกระทำของเขา เมื่อไคล์สอดมือเข้ามาใต้วงแขนเธอ เพื่อช่วยพยุง
ปากบางยิ่งเม้มเข้าหากันแน่นกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรกลัวว่าเขาจะรำคาญมากกว่านี้ จนกระทั่งมาถึงรถ ไคล์ให้พราวฟ้าเข้าไปนั่งก่อน เขาถึงตามขึ้นไป
พอขึ้นมาในรถพราวฟ้าก็เกิดอาการหนาวสั่น
“ลุงเบาแอร์หน่อย” คนขับรถก็ทำหน้าที่เบาแอร์
พราวฟ้าเหลือบตามองไคล์ ไคล์เองก็มองเธอเช่นกันทั้งสองสบตากันชั่วขณะ จนกระทั่งเสื้อแขนยาวลอยหวือคลุมเข้าที่หัวเธอ เธอถึงได้สติ
“สั่นเป็นลูกหมา” พูดแค่นั้นไคล์ก็หันหน้าหนีออกไปมองนอกรถ กอดอกนิ่ง
พราวฟ้ามองเสื้อแขนยาวของเขานิ่ง เธอไม่คิดว่าไคล์จะมีมุมนี้ ไม่คิดว่าเขาจะใจดีกับเธอขนาดนี้ ริมฝีปากซีดจางแย้มออกบางๆ กระชับเสื้อตัวใหญ่แน่น
ความรู้สึกอบอุ่นแทรกซึมเข้ามาในหัวใจ ถ้าไคล์ดีกับเธอทุกวันแบบนี้คงจะดี
“โอ๊ะ ขอโทษครับ”
MANGA DISCUSSION