ทางด้านชินอ๋องที่รีบร้อนออกมาก็เจอกับสาวใช้ของสตรีอันเป็นที่รักยืนรออยู่อย่างกระวนกระวายจึงทรงถามขึ้นอย่างร้อนพระทัย
“อิงเออร์เป็นเช่นไรบ้างเหตุใดปล่อยให้นางโดดน้ำได้”
สุรเสียงเอ่ยออกมาอย่างมิพอพระทัย
“คุณหนูเสียใจเรื่องที่พระองค์ทรงอภิเษก จึงทำให้คิดสั้นเพคะ”
สาวใช้เอ่ยรายงานพร้อมเช็ดน้ำตาไปด้วย
“พระองค์ทรงรีบเสด็จไปดูคุณหนูของบ่าวเถิดเพคะตอนนี้คุณหนูยังมิฟื้นเลยเพคะ”
“หรงไจ้ ไปเตรียมม้ามาให้เปิ่นหวางเดี๋ยวนี้”
“ท่านอ๋อง แต่ตอนนี้ พิธี…”
“ช่างพิธีมันเถิด เปิ่นหวางมิได้สนใจรีบไปเอาม้ามา”
“พะยะค่ะ”
หรงไจ้รับคำสั่งอย่างจำใจเขารู้สึกสงสารชินหวางเฟยยิ่งนักทั้งๆ ที่เป็นวันแต่งงานแท้ๆ แต่พระสวามีกลับรีบร้อนไปหาสตรีอื่นปล่อยให้นางนอนเฝ้าเรือนหอเพียงลำพัง
จวนตระกูลหลาน
ตระกูลหลานเป็นตระกูลที่รับใช้ราชสำนักมานานหลายรุ่นผู้นำตระกูลคนปัจจุบันคือ หลานซือเค่อ ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลังนับเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ในแคว้นฉินด้วยบุตรสาวคนโตแต่งเข้าวังเป็นสนมของฮ่องเต้ดำรงตำแหน่งเสียนเฟย บุตรสาวคนรองก็กำลังผูกวาสนาอยู่กับชินอ๋อง นับว่าบุตรีตระกูลหลานนั้นมีวาสนาเรื่องความรักและรูปโฉมยิ่งเพราะคุณหนูรอง หลานกุ้ยอิงนั้นได้รับตำแหน่งสาวงามอันดับหนึ่ง พร้อมกับตำแหน่งสตรีที่มีความสามารถในด้านการบรรเลงเพลงพิณเป็นอันอับหนึ่งอีกด้วย ด้วยรูปโฉมและศักดิ์ฐานะเหมาะสม อีกทั้งชินอ๋องก็มีพระทัยให้ คนทั้งเมืองหลวงต่างรับรู้และมั่นใจว่าคุณหนูหลานผู้นี้คือว่าที่ชินหวางเฟยแน่แท้
แต่เมื่อสามวันก่อนราวกับมีฟ้าผ่าลงมากลางตระกูลหลาน เมื่อได้ข่าวว่ามีราชโองการจากไทเฮาเป็นพระราชโองการประทานสมรสให้แก่ ชินอ๋องฉินเฟยหมิงกับบุตรีคนเล็กแห่งจวนจงเฉิงโหวโดยพิธีจะมีขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า คนตระกูลหลานรวมทั้งชาวเมืองต่าง งงงวยกันถ้วนหน้า คุณหนูเล็กจวนโหวผู้นั้นจะเป็นผู้ใดได้นอกจากคุณหนู เฉินรุ่ยฟาง ที่มีข่าวลือว่านางนั้นทั้งอ่อนแอและรูปโฉมธรรมดาสามัญต่างจากพี่ชายทั้งสองลิบลับ ทั้งยังมีข่าวลืออีกว่านางนั้นสวมแต่ชุดขาวตลอดเวลาราวคนไว้ทุกข์อีกทั้งอาการป่วยยังทำให้นางผอมแห้งผิวพรรณขาวซีดหมดความสดใสของวัยสาวอีกด้วย แต่อย่างไรราชโองการก็ออกมาแล้วอีกทั้งศักดิ์ฐานะของตระกูลเฉินก็มิได้ด้อยไปกว่าตระกูลหลานออกจะมีมากกว่าด้วยซ้ำ อย่างไรหากมองข้ามความอัปลักษ์ของนางไปก็ถือว่าไม่มีสิ่งใดที่ไม่เหมาะสม คงได้แต่เห็นใจคุณหนูหลานเสียแล้วที่พลาดโอกาสแต่งเข้าวังเสิ่นหยางกงเป็นชินหวางเฟย
ร่างสูงใหญ่ของบุรุษผู้มีใบหน้าหล่อเหลาสวมอาภรณ์สีดำเนื้อดีปักลายกิเลนด้วยด้ายสีทอง เดินเร็วมายังเรือนของคุณหนูรองตระกูลหลานอย่างเร่งรีบเหล่าบ่าวรับใช้ต่างหยุดงานที่ทำอยู่ถวายความเคารพทันทีใบหน้าก้มต่ำเห็นเพียงชายฉลองพระองค์สีดำพริ้วผ่านไปอย่างมิได้สนใจผู้ใด เข้าไปในห้องที่มีร่างบอบบางของสตรีที่มีใบหน้างดงามแต่ทว่าซีดเซียวด้วยอาการป่วยนอนอยู่บนเตียงมีสาวใช้คอยดูแลไม่ห่างเมื่อเห็นวรกายสูงเข้ามาก็รีบถวายพระพรก่อนออกไปรอรับคำสั่งอยู่หน้าห้องทันที
ร่างสูงประทับลงบนเตียงพระหัตถ์หนาจับมือบางนุ่มนิ่มมาจับไว้ยกขึ้นมาจุมพิศแผ่วเบาสายพระเนตรอ่อนโยนทอดมองใบหน้างามอย่างเป็นห่วงและรู้สึกผิด
ราวกับรับรู้ถึงสัมผัสของร่างสูง เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้นก่อนกระพริบตาเพื่อปรับการมองเห็น เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดที่อยู่ตรงหน้าก็ตกใจจะชักมือกลับทันที ดวงตาหวานหลุบต่ำลงใบหน้าหมองเศร้าระคนตัดพ้อ
“อิงเออร์ อย่าหลบตาพี่แบบนี้เลยพี่เห็นแล้วปวดใจนัก”
สุรเสียงอ่อนโยนออดอ้อนก่อนจับมือบางขึ้นมาจุมพิศอีกครั้ง
“ทรงปล่อยมือหม่อมฉันเถิดเพคะท่านอ๋อง หากมีคนมาเห็นจะมิงาม”
น้ำเสียงสั่นๆ กับคำเรียกขานที่ห่างเหินทำให้คนตัวโตยิ่งกระวนกระวายพระทัย
“อิงเออร์ เจ้าอย่าใจร้ายกับพี่เช่นนี้เลย”
“เป็นพระองค์ต่างหากที่พระทัยร้าย”
พูดจบน้ำตาเม็ดโตก็ร่วงลงมาตามแก้มเนียนราวไข่มุกอิงเออร์ของพระองค์แม้ยามร้องไห้นางยังงดงามเพียงนี้ร่างกายบอบบางกลับต้องมาเจอเรื่องราวเช่นนี้มีหรือจะรับไหวพระหัตถ์หนายกขึ้นมาใช้นิ้วเรียวยาวเกลี่ยหยาดน้ำตาจากแก้มนางก่อนดึงร่างเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
“พี่แต่งกับนางเพราะเสด็จแม่บังคับเท่านั้น นางมิได้มีความสำคัญใดๆ กับพี่ในใจของพี่มีเพียงเจ้าเท่านั้น”
ริมฝีปากหยักกดจุมพิศเบาๆ บนหน้าผากเนียน
“อย่างไรนางก็แต่งเข้าอย่างถูกต้องตามประเพณีแต่งเป็นชินหวางเฟย”
พูดจบร่างบางก็สะอื้นไห้อีกครา
“พี่จะแต่งเจ้าเข้าวังเสิ่นหยางให้เร็วที่สุด”
“จะให้หม่อมฉันแต่งเข้าไปในฐานะใดเพคะ ชายารองหรืออนุงั้นหรือเพคะ”
“พี่ขอโทษอิงเออร์ เจ้าจะให้พี่ทำเช่นใดพี่อยากแต่งกับเจ้าอยากให้เจ้าเป็นหวางเฟยเพียงคนเดียวพี่จะไม่แตะต้องนางจะรอจนเจ้ายอมแต่งให้พี่”
“พระองค์กลับไปเถิดเพคะหม่อมฉันอยากอยู่คนเดียว”
แม้พระทัยจะอยากอยู่กับนางต่อแต่ด้วยความรู้สึกผิดจึงทำได้เพียงทำตามคำขอของนาง
MANGA DISCUSSION