ฝึกโดดเดี่ยวในดันเจี้ยนไป 100,000ปีออกมาอีกทีกลายเป็นตัวบัค - ตอนที่ 5: ฉันเข้าถ้ำไปตอนกลางคืนมายังอีกฝั่งหนึ่งกลับกลายเป็นตอนกลางวัน
- Home
- ฝึกโดดเดี่ยวในดันเจี้ยนไป 100,000ปีออกมาอีกทีกลายเป็นตัวบัค
- ตอนที่ 5: ฉันเข้าถ้ำไปตอนกลางคืนมายังอีกฝั่งหนึ่งกลับกลายเป็นตอนกลางวัน
บทที่ 1 ตอนที่ 5: ฉันเข้าถ้ำไปตอนกลางคืนมายังอีกฝั่งหนึ่งกลับกลายเป็นตอนกลางวัน
ตกกลางคืนจู่ๆ ฉันก็รู้สึกอยากจะปัสสาวะ ฉันจึงออกจากเต็นท์และเข้าไปในป่า
ปกติฉันจะทำธุระแถวค่ายนั่นแหละ แต่คงไม่ดีแน่ถ้าพวกพนักงานของโรสเจอฉันเข้า ดังนั้นฉันจึงเข้าไปในป่าให้ลึกกว่าเดิม
ป่าในตอนกลางคืนมืดสนิท ไม่สามารถมองเห็นได้แม้แต่แสงจันทร์ เนื่องจากต้นไม้ใหญ่ขึ้นหนาทึบ มันให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังตกอยู่ในหนองน้ำที่ไร้ก้นบึ้ง ขณะที่ฉันกำลังเดินอยู่นั้น ฉันก็ตกใจกับเสียงร้องของนกป่าเป็นครั้งคราว ในความมืดมิดชายผมแดงรูปงามในชุดคลุมสีดำก็ปรากฏตัวขึ้นจากส่วนลึกของป่า
ฉันตกใจจริงๆ! การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของชายคนนั้นแทบจะทำให้ฉันฉี่รดกางเกง คนนี้ไม่ได้เป็นหนึ่งในคณะเดินทาง แม้ฉันพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้คนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วงนี้ แต่ฉันก็ยังจำใบหน้าได้แม้ว่าฉันจะไม่ชอบพวกเขาก็ตาม ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ในคณะเดินทาง เขาอาศัยอยู่แถวนี้งั้นเหรอ?
“โทษทีนะครับ คุณเป็นคนที่อาศัยอยู่แถวนี้งั้นเหรอครับ?”
แม่ของฉันซึ่งเป็นฮันเตอร์เคยบอกฉันว่ามีคนที่อาศัยอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อศึกษาเวทมนตร์ บางทีเขาอาจเป็นหนึ่งในนั้น
“สถานการณ์ไม่คาดฝันงั้นเหรอ…”
โดยไม่ตอบคำถามของฉัน ชายผมแดงแตะเคราของเขาและครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง
“คงไม่เป็นไรหรอกถ้าฉันจะเล่นกับนายซักหน่อย ยังมีเวลาอีกมากกว่าแผนการจะเริ่ม”
รอยยิ้มที่บิดเบี้ยวปรากฎขึ้นบนใบหน้าของชายคนนั้น แค่ได้เห็นใบหน้าแห่งความสุขที่บิดเบี้ยวนั้น ฉันรู้สึกขนลุกราวกับว่าเส้นประสาทของฉันถูกบีบรัด และฉันก็ถอยออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
“อา ไม่เป็นไรหรอกถ้านายจะวิ่งหนี รีบหนีไปเร็วๆ เลย ไม่งั้นมันคงจะน่าเบื่อแย่”
เมื่อชายคนนั้นดีดนิ้ว ดวงตาของสัตว์ร้ายหลายตัวและเสียงคำรามก็ปรากฎออกมาจากด้านหลังเขา
“!?”
ความเย็นแล่นผ่านร่างกายของฉัน และเสียงกรีดร้องเล็ก ๆ ก็เล็ดลอดออกมาจากปากของฉัน
สัตว์ร้ายรูปร่างคล้ายสุนัขสีดำค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากส่วนลึกของป่า
ไม่ต้องสงสัยเลย ชายคนนี้ควบคุมสัตว์ร้ายเหล่านี้ และตัดสินจากเนื้อหาของการสนทนาของชายคนนี้ มันไม่ใช่การเล่นสำนวนหรือเรื่องตลก เขากำลังพยายามจะให้ฉันเป็นเหยื่อสุนัขตัวนั้นจริงๆ
ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเป็นฉันตลอดเลย
ฉันกลั้นความอยากร้องไห้ไว้ไม่อยู่และเริ่มวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อหนีจากสัตว์ร้ายที่อยู่ข้างหลังฉัน
ฉันหายใจไม่ทัน หัวใจของฉันเจ็บ ขาของฉันกรีดร้องให้ฉันหยุดชั่วขณะหนึ่งแล้ว ถึงกระนั้นเพื่อที่จะหลีกหนีจากสัตว์ร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้ามาทางด้านหลัง ฉันก็ขยับขาวิ่งต่ออย่างสิ้นหวัง
เนื่องจากพรของฉัน ฉันจึงช้าเกินไป พวกมันจะตามมาทันแล้ว แต่สัตว์ร้ายสีดำนั้นน่าจะมาถึงฉันได้ง่ายๆ ฉันคิดว่าเหตุผลที่ฉันยังคงปลอดภัยก็คือชายผมแดงที่ควบคุมสัตว์ร้ายสนุกกับการล่าฉัน
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันกำลังวิ่งไปที่ไหนแล้ว ฉันแค่วิ่งหนีจากการถูกพวกมันไล่ตาม ตอนนี้หมอกหนาเริ่มปกคลุมรอบตัวพวกเรา
และในที่สุดก็ไปโผล่ยังที่ที่คล้ายกับแอ่งน้ำตกเล็กๆ
บ้าเอ้ย! มันเป็นทางตัน ทางเลือกเดียวคือกระโดดลงไปในน้ำตก มันน่าจะยังดีกว่าการเป็นอาหารของสัตว์ร้ายแบบนี้นิดหน่อย
เมื่อฉันกำลังจะยอมแพ้ฉันเห็นอะไรบางอย่างที่เหมือนถ้ำในส่วนลึกด้านหลังของน้ำไหลลงไปที่แอ่งน้ำของน้ำตก
ถ้าฉันเข้าไปได้ บางฉันอาจจะรอด!?
ในความมืดมิดของค่ำคืน ฉันจึงวิ่งไปที่ส่วนลึกของแอ่งน้ำตก และมันก็กลายเป็นถ้ำอย่างน่าอัศจรรย์
ฉันไปในถ้าลึกอีกอีก เพราะฉันคิดว่ามันยังปลอดภัยไม่พอ
ไม่รู้ว่าวิ่งมาไกลแค่ไหน ฉันสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ผนังและเพดานถ้ำ แทนที่จะเป็นการก่อตัวของหินตามธรรมชาติ พวกมันกลับทำจากหินเทียมที่สร้างจากดินสีน้ำตาลแดง
หลายสิบนาทีต่อมา ไม่สิ อาจจะยังไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำตั้งแต่ฉันเริ่มวิ่ง ฉันรู้สึกว่าแขนขา ปอด และหัวใจของฉันมาถึงขีดจำกัดแล้ว ทันใดนั้นฉันก็เห็นแสงสว่างที่ปลายถ้ำ อีกด้านของถ้ำเชื่อมต่อกับภายนอกจริงๆ แต่นี่มันควรจะเป็นเวลากลางคืนสิ?
“เอ๊ะ?”
เมื่อฉันออกจากถ้ำ มันเป็นที่รกร้างไร้พืชพรรณ ยิ่งกว่านั้น มันมีดวงอาทิตย์ฉายแสงอยู่ข้างบนท้องฟ้า
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ฉันเข้าถ้ำไปตอนกลางคืนนี่นา แต่พอมายังอีกฝั่งหนึ่งมันกลับกลายเป็นตอนกลางวัน
เอาล่ะใจเย็นก่อน! ฉันวิ่งไม่ไหวแล้ว ดังนั้นฉันควรหาที่ซ่อนชั่วคราว
ที่ซ่อน? มองไปรอบๆ ในรัศมีประมาณ 500 เมตรนี้ ที่นี่ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูง มีต้นไม้ที่ตายแล้วรอบๆ หน้าผา และยังมีสิ่งที่เหมือนน้ำพุอีกด้วย และในใจกลางของพื้นที่นั้นมีบางสิ่งที่เหมือนวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางแดนรกร้างนี้
ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อซ่อนวิหารนั้น สัตว์ร้ายเหล่านั้นอาจบุกเข้ามาที่นี่ได้ทุกเมื่อ คงจะดีไม่น้อยหากพวกมันสับสนรอบแอ่งน้ำตก แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นสัตว์ร้ายและจมูกดูเหมือนจะใช้งานได้ดีด้วย ฉันจึงต้องเตรียมพร้อมก่อน
เพื่อสังเกตการบุกรุกของพวกมัน ฉันจึงเลื่อนสายตาไปที่ทางเข้าถ้ำที่เชื่อมต่อกับสถานที่นี้
“นี่ล้อฉันเล่นใช่มั้ยเนี่ย……”
คำพูดแสดงความประหลาดใจหลุดออกมาจากปากของฉันโดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้ำที่เราควรจะเป็นทางเข้ามาถูกปิดกั้น พูดให้ชัดคือ มันหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ฉันรีบวิ่งไปตรวจสอบดู แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม ฉันไม่เห็นอะไรที่ดูเหมือนทางออกถ้ำเลยแม้แต่นิดเดียว
แม่เคยบอกฉันเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้ว ซากปรักหักพังบางแห่งมีกับดักที่ขวางทางเข้า นี่อาจเป็นหนึ่งในกับดักดังกล่าว
ฉันติดอยู่ที่นี่ แต่ในขณะเดียวกันก็รอดจากสัตว์ร้ายเหล่านั้น ชายผมแดงคนนั้นอาจเลิกตามหาฉัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว สำหรับเขา ฉันก็เป็นแค่เกมฆ่าเวลา เขาอาจเลิกสนใจฉันถ้าไม่พบฉันสักสองสามวัน
จากนั้นก็หาทางออกจากที่นี่ พักก่อนซักสองสามวันแล้วหนีจากที่นี่ นั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุดของฉันแล้ว
จะหนีออกจากที่นี่ได้ยังไง? วิหารนั่นมันอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการหนีจากสถานที่นี้ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจจะสำรวจสถานที่นั้นก่อน